All-Day in Ari กินอะไรดีในย่านอารีย์? Routeen. มัดรวม 10 ร้านใหม่ ในย่าน อารีย์ ที่ไปได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น

“อารีย์” เป็นอีกหนึ่งย่านในกรุงเทพฯ ที่ติดอยู่ในหัวของทุกคนไปแล้วเวลาท้องร้อง หรืออยากหาอะไรอร่อย ๆ กิน อีกอย่างคือย่านนี้มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก ๆ ร้านเดิมที่ะคยอยู่ก็เปลี่ยนหน้าตาไป หรือร้านใหม่ ๆ ก็ผุดขึ้นแทบทุกวัน จนมากี่ที ก็ต้องอัปเดตใหม่ทุกทีว่าตอนนี้อารีย์มีอะไรใหม่? แต่อย่างหนึ่งที่อยากจะบอกคือ ย่านนี้อยู่ได้ทั้งวันจริง ๆ เพราะมีร้านรองรับทั้งเช้า กลางวัน เย็น ไปจนถึงดึกดื่นเลยล่ะ แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะแวะไปร้านไหนดีในแต่ละช่วงเวลา Routeen. วางแผนมาให้แล้ว กับ ร้านใหม่ ในย่าน อารีย์ ที่น่าแวะเช้ายันเย็น


** จิบกาแฟยามเช้า **

Progress Cafe & Bar คาเฟ่ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

แวะจิบกาแฟและเครื่องดื่มสักแก้วก่อนเริ่มวันใหม่ที่ Progress Cafe ร้านใหม่ ในย่าน อารีย์ สีเทา ๆ ที่แอบหยอดความสนุกด้วยสีส้มเข้าไป ที่เลือกหยอดสีส้ม ตั้งใจทำให้สื่อถึง Energy ความกระตือรือร้น เหมือนกับชื่อร้าน Progress ที่เป็นอะไรที่ทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะชื่อ Progress Cafe ก็มาจากคำว่า ‘Work in progress’ อยากให้เชื่อมโยงถึงคนที่มานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือวาดรูป มาต่อยอดจากชีวิตประจำวันที่ร้านนี้ แล้วสีส้มก็ทำให้ดูเฟรนด์ลี่ ดูอบอุ่นหน่อย ซึ่งก็ดูเข้ากับสีเทาได้ดีอีกด้วย

Progress Cafe & Bar คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ เมนู Strawberry Latte

สไตล์คาเฟ่ ตอนกลางวันก็ตั้งใจให้เป็นแนวคนมานั่งทำงานเงียบ ๆ ได้ บรรยากาศสบาย ๆ บอกก่อนว่าที่นี่เมนูไม่หวือหวา เน้นเมนูคลาสสิกกับรสชาติที่ไม่ผิดหวัง อย่างเมล็ดกาแฟก็มี House Blend เป็นเอธิโอเปีย กัวเตมาลา และบราซิล เป็นคั่วกลางอ่อนที่ให้ฟีลลิ่ง หอมดอกไม้ปลาย ๆ เบอร์รี่หน่อย ๆ บอดี้คลีน ๆ มีความอโรม่า ส่วนใครที่ไม่ชอบเปรี้ยวมากก็มี Single อีกตัวเป็นบราซิลให้เลือกด้วย

มีเมนู non-coffee 2-3 เมนู เอาใจคนไม่ดื่มกาแฟ และมีเมนู Refreshment ให้เลือกอีก 3 เมนู โดยคอนเซปต์คือเป็นไซรัปทำเอง เลือกหยิบวัตถุดิบมาจากของที่มีอยู่ในบาร์มาเป็นเครื่องดื่มแบบมิกซ์นิด ๆ มีคาแรกเตอร์

อ่านบทความฉบับเต็มของ Progress Cafe ที่ https://routeen.co/progress-cafe-and-bar/ 
เปิดทุกวัน 08:00 – 18:00 น.⁣ (ส.-อา. เปิด 10:00 น.)
ชั้น 3 ของ Ari Story Hostel
BTS อารีย์ | จอดรถได้ที่อาคารสหกรณ์ ค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท

google maps

จิบกาแฟจากโคเปนเฮเก้น คาแรกเตอร์แบบโรงคั่วเดนมาร์กที่ La Cabra สาขาอารีย์

กาแฟที่ใช้ในร้าน La Cabra จะมาจากโรงคั่วที่เดนมาร์กทั้งหมด และจะใช้เป็น Single Origin กาแฟที่นี่จะแบ่งเป็น 2 คาแรกเตอร์หลักให้เราได้เลือกตามชอบ คือ Comfort เน้นเป็นกาแฟที่มีความช็อกโกแลต นัตตี้ ไม่ออกโทนฟรุตตี้จ๋า ๆ มีรสชาติบาลานซ์ดื่มง่าย ที่นี่จะเน้นเป็นเมล็ด Brazil เป็นหลัก (ล่าสุดมีเมล็ดไทยจากดอยสะเก็ดด้วยนะ)

อีกตัวเป็น Adventurous กาแฟล็อตพิเศษ เน้นเมล็ดที่มีรสชาติชัด ออกโทนฟรุตตี้มากกว่า มีความ Complex ให้ความรู้สึกเหมือนได้ผจญภัยไปกับรสชาติของกาแฟ ซึ่งกาแฟชุดนี้จะมีหลายเมล็ดให้เลือก และจะหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนล็อตกาแฟไปเรื่อย ๆ

ร้านใหม่ ในย่าน อารีย์ นี้ การตกแต่งดูจะแตกต่างกับสาขาตลาดน้อยมากพอสมควร ซึ่งที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรงน้ำชาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีเพดานไฟเต็มแผ่น ได้แรงบันดาลใจมาจากฉากกั้นห้องแบบญี่ปุ่น และพื้นมีความคล้ายเสื่อแบบญี่ปุ่นด้วย โดยรวมของร้านจะเน้นโทนไม้อ่อน ๆ มีเส้นสายที่สะอาดตา และเพิ่มมู้ดอบอุ่นได้ดีมาก ๆ ส่วนตัวบาร์ใช้หินอ่อนยาว หน้าบาร์หันมาทางโต๊ะและด้านหลังมีกระจกสะท้อน ให้ความรู้สึกเหมือนค็อกเทลบาร์นิด ๆ ซึ่งที่นี่ มีทั้ง Speed Bar และ Slow Bar เลย

อ่านบทความฉบับเต็มของ La Cabra Ari ได้ที่ https://routeen.co/la-cabra-ari/ 
ชั้น 1 วานิช วิลเลจ อารีย์
เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08:00 – 17:00 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09:00 – 18:00 น.
BTS อารีย์ | จอดรถได้ที่วานิชเพลซ อารีย์ (ตอนนี้ยังจอดฟรีนะ)

google maps


** ฝากท้องมื้อกลางวัน **

Tonchin Ramen

กลางวันนี้ให้เป็นราเมนดีไหม? ทงชิน ราเมน เป็นร้านราเมนที่มาจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีประมาณ 3 สาขา ซึ่งก็เป็นร้านราเมนคุณภาพที่ได้รับความนิยม แต่ราเมนแบรนด์นี้มาเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อลูกชายของเจ้าของร้านไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงนำร้านราเมนนี้ไปเปิดที่นั่น และเปลี่ยนคอนเซปต์จากร้านสไตล์ Traditional ให้โมเดิร์นขึ้น รวมถึงปรับเมนูให้ร่วมสมัย มีการวัตถุดิบใหม่ ๆ เข้ามาผสมผสานมากขึ้น และร้านที่สาขานิวยอร์กนี่แหละที่ทำให้ Tonchin Ramen ได้รับ Michelin BIB Gourmand มา

Routeen. Tonchin Ramen

เราอยากแนะนำ Tokyo Truffle Shoyu Ramen (290 บาท) อีกหนึ่งเมนูที่มีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ราเมนเส้นเล็กที่ลวกมาแบบอัล เดนเต ใส่ลงในโชยุซุปที่เลือกใช้โชยุพรีเมียมระดับที่ร้านซูชิที่ได้มิชลินสตาร์เลือกใช้ เพิ่มด้วย Truffle Paste และน้ำมันทรัฟเฟิล กับท็อปปิ้งทั้งหมูชาชูทั้ง 2 แบบ และอกไก่ Sous Vide พร้อมกับไข่ต้มโชยุ เป็นอีกชามที่กลิ่นทรัฟเฟิลเตะจมูกมาแต่ไกล และถูกใจคนรักทรัฟเฟิลสุด ๆ

อ่านบทความฉบับเต็มของ Tonchin Ramen ได้ที่ https://routeen.co/tonchin-ramen-thailand-ari/ 
เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 21:00 น.
ชั้น 3 ศูนย์การค้า La Villa
BTS อารีย์ | มีที่จอดรถ

google maps

Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน

Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน เขาฮิตและมีแฟน ๆ อยู่ในเดลิเวอรีมาพอตัวเลยล่ะ จนเรียกว่าช่วงหนึ่งเป็นกระแสอยู่ไม่น้อยสำหรับร้านข้าวผัดอเมริกันนี้ หลังจากที่เริ่มขายข้าวผัดอเมริกันในเดลิเวอรีมาตั้งแต่ช่วงสิงหาคม 2565 มาถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่จะมีหน้าร้านจริงจัง ให้เราได้เข้าไปนั่งชิมกันได้ถึงที่ ในย่านอารีย์อย่างอารีย์ซอย 3 ซึ่งเพิ่งเปิดได้สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2566 นี่เอง

Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน

สิ่งหนึ่งที่ทางร้านใส่ใจคือ การทำให้ทุกคำที่ตักเข้าปากต้องอร่อยเหมือนเดิม เพราะจุดอ่อนของ AFR คืออร่อยคำแรก ๆ แต่คำต่อไปเลี่ยน ทางร้านจึงต้องจัดบาลานซ์ของรสชาติในจาน ด้วยการทำให้ตัวข้าวผัดมีรสอ่อน เพื่อให้เข้ากับท็อปปิงที่เข้มข้น ตัวซอสมะเขือเทศที่ไว้ผัดกับข้าว จึงเป็นสูตรพิเศษที่ทำขึ้นมาเอง เพิ่มเติมด้วยเครื่องเทศที่ใส่เข้าไป เพื่อเพิ่มกลิ่นเฉพาะตัว ส่วนข้าวทางร้านเลือกใช้ข้าวหอมมะลิแท้

ส่วนประกอบอื่น ๆ ของจาน โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องจัดหามา คุณเบสท์และคุณนิวก็ตั้งใจเลือกให้เข้ากับจาน AFR มากที่สุด อย่างไส้กรอกก็เลือกใช้ของ Belucky (บีลัคกี้) สำหรับจานคลาสสิค ส่วนแฮมก็ใช้ของ Butcher รวมถึงไส้กรอกแฟรงเฟิร์ตสำหรับจาน AFR อื่น ๆ ก็ใช้ของ Butcher เช่นกัน

อ่านบทความฉบับเต็มของ Lucky’s Hungry AFR ได้ที่ https://routeen.co/luckys-hungry-american-fried-rice/ 
เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 14:00 น.
อารีย์ซอย 3 พญาไท
BTS อารีย์ | ไม่มีที่จอดรถนะ แนะนำมารถสาธารณะดีกว่าจ้า

google maps

รีวิว ร้าน ประกายไฟ ร้านสุกี้แห้ง คั่วไก่

ประกายไฟเป็นร้านใหม่ ในย่าน อารีย์ แบบ Stand alone เล็ก ๆ ตั้งอยู่ใน ซอยพหลโยธิน 8 หรือที่เรียกติดปากว่าซอยสายลม ใครนึกไม่ออก ตรงนี้เคยเป็นร้านเผ็ดเผ็ด ร้านอาหารอีสานโฮมเมดนั่นเอง พอเปลี่ยนมือมาเป็น ประกายไฟ ทางร้านก็จัดการรีโนเวทใหม่ เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับผนังลายไฟลุก ที่เห็นแล้วนึกถึงเปลวไฟจากกระทะที่ลุกโชน

รีวิว ร้าน ประกายไฟ ร้านสุกี้แห้ง คั่วไก่ พหลโยธิน 8 ย่านอารีย์ - สะพานควาย | ราคา เมนู

จุดเด่นของร้านประกายไฟ คือการคัดสรรวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ดีที่สุด อย่างเช่นเนื้อ ก็จะคัดเฉพาะส่วนที่เหมาะกับการผัด เป็นเนื้อสันในพรีเมียม ผัดออกมาแล้วยังอร่อยได้รสชาติ วุ้นเส้นก็สั่งทำเป็นสูตรพิเศษของทางร้าน เส้นเล็กกว่าปกติ มีความเหนียวนุ่มเป็นเอกลักษณ์แล้วตัวน้ำจิ้มสุกี้ ทางร้านก็คิดสูตรเฉพาะขึ้นมา

เนื้อสัตว์ นอกจากหมูและเนื้อ ก็มีไก่กรอบเพิ่มเข้ามา เกิดจากชิมไปชิมมาแล้วรู้สึกว่าอยากได้เทกเจอร์ที่มันตัดกับความนุ่มของวุ้นเส้น เลยลองหาอะไรกรอบ ๆ มาลองทํา เลยมาจบที่ไก่กรอบ เพราะมีความเข้ากันพอดี เพราะมันไม่ได้มี เทกเจอร์ที่นุ่มไปทั้งหมด แต่มันยังมีความกรอบของแป้ง ความฉ่ำของตัวสะโพกไก่เข้ามาตัดอีก

อ่านบทความฉบับเต็มของ ประกายไฟ Suki & Craft ได้ที่ https://routeen.co/prakai-fire-suki-and-craft/ 
เปิดทุกวัน 10:30 – 20:00 น.
ซอยพหลโยธิน 8
BTS อารีย์ | จอดรถได้ที่ พหลโยธินเพลส (มีค่าจอดนะ)

google maps

zojirushi hope SX-HA72/SM-HA83 Routeen. Tumbler

แต่ไม่ว่าจะฮอปปิงไปที่ไหน เราก็ไม่ลืมที่จะพกแก้วเก็บความร้อน-เย็น ของ Zojirushi ติดตัวไปด้วยเสมอนะ เอาไว้ดื่มเติมความสดชื่นระหว่างวัน หรือจะเอาไว้ใส่เครื่องดื่มที่สั่งมาใหม่ ช่วยลดการใช้แก้วของร้านให้น้อยลง ก็เป็นตัวเลือกที่เรามักทำเป็นประจำอยู่แล้วด้วย

อย่างคอลเลคชันล่าสุด “Hope” ของ Zojirushi แก้วทัมเบลอร์พร้อมหลอดใบใหญ่ ทรงสวย ที่สำคัญคือสีสันถูกใจสายพาสเทลแบบเรามากกกก พกพาไปไหนก็สะดวกเพราะเห็นใหญ่แบบนี้แต่น้ำหนักเบาไม่ไหว แต่ยังคงความแข็งแรงตามมาตรฐานญี่ปุ่น ทำจากสแตนเลสสตีลเกรด 304 เนื้อดี ปากแก้วกว้าง ใส่เครื่องดื่มหรือน้ำแข็งได้สะดวก และเก็บความร้อนความเย็นได้ดีสุด ๆ เติมน้ำเย็นไปตอนเที่ยง หกโมงแล้วยังเย็นอยู่เลย กลายเป็นแก้วในดวงใจของปีนี้สำหรับเราได้ง่าย ๆ เลยล่ะ


** กินเล่นระหว่างวัน **

รีวิว ภูมิใจเครป สาขา พลโยธิน 2 ร้านเครป คาเฟ่ พหลโยธิน

เรารู้จักร้าน ภูมิใจเครป กันเป็นอย่างดี แต่วันนี้ขอพามายังสาขาใหม่ล่าสุดของเขาที่มีที่นั่งแล้ว! จุดเด่นของภูมิใจเครป ก็คือมีแป้งสูตรเฉพาะของทางร้าน เลือกระดับความกรอบได้ตามต้องการ แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือความพิถีพิถันในการทำ อย่างเตาก็ใช้ก็เลือกเป็นเตาไฟฟ้าแทนเตาแก๊ส เพื่อคุมอุณหภูมิความร้อนให้ทั่วถึง สม่ำเสมอ มีการใช้ที่วัดอุณหภูมิวัดหน้าเตาเพื่อให้ได้ความร้อนที่เหมาะสม

ภูมิใจเครป เมนู Muzcali (ราคา 90 บาท) เครปหน้าเนทูล่ากล้วยอัลมอนด์

วัตถุดิบต่าง ๆ เสาะหามาจากหลายแหล่ง เพื่อได้วัตถุดิบที่เหมาะสม อย่างชีสก็เลือกที่มันยืดได้มาก ๆ อัลมอนด์ซื้อแบบดิบมาคั่วเอง หมูหยองก็สั่งจากโรงงานสูตรเฉพาะเพื่อให้มีความแห้ง ไม่หวานมาก เข้ากับความเป็นเครปได้ดี และซอสต่าง ๆ ก็มีบางส่วนที่ทำขึ้นมาเอง ลงรายละเอียดในทุก ๆ ส่วน

เมนูแบ่งเป็นหน้าหวานและหน้าคาว มีทั้งหน้าคลาสสิคไปจนถึงฟิวชั่นที่ไม่คิดว่าน่าจะมาอยู่บนเครปได้ อย่างทาโก้ แมกแอนด์ชีส หรือสลัดไก่ นอกจากเมนูที่มีในป้าย ลูกค้าเองก็สามารถเลือก Custom แบบที่ชอบได้ ครีเอตเป็นเมนูของตัวเองได้เลย ความน่ารักคือเมนูไหนที่ลูกค้าสั่งบ่อย ๆ ก็ทำเป็นเมนูประจำใส่ในเมนูซะเลย ปัจจุบันเลยมีเมนูวาไรตี้มาก ๆ

อ่านบทความฉบับเต็มของ Phumjai Crepe พหลโยธิน 2 ได้ที่ https://routeen.co/phumjai-crepe-paholyothin-branch/ 
เปิดทุกวัน 09:00 – 18:00 น.
ซอยพหลโยธิน 2
BTS สนามเป้า แล้วเดินต่อนิดหน่อย | จอดรถได้ที่หน้าร้าน

google maps


** พุงกางมื้อเย็น **

Sushi Koge โอมากาเสะ อารีย์ สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น กับรสชาติที่ดีที่สุดของฤดูกาล

Sushi Koge เป็นร้านโอมากาเสะโดยเฉพาะ ที่เพิ่งเปิด Soft Opening เมื่อ1 พฤษภาคมที่ผ่านมา คอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจของที่นี่ คือ ‘Touch the nature through the taste of seasons’ ที่เน้นนำเสนอวัตถุดิบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ธรรมชาติมอบให้จะสามารถนำมารังสรรค์เป็นเมนูที่มีรสชาติที่ดีที่สุดของฤดูกาลได้ ในการมาแต่ละช่วงเลยจะมีเมนูหมุนเวียนไปบ้าง

คอร์สที่เราจะได้ลิ้มลอง ดูแลโดยเชฟที่มีประสบการณ์กว่า 12 ปี ซึ่งได้ผ่านการฝึกฝนโดยอาจารย์ชาวญี่ปุ่นมาแล้ว มีทักษะที่พิถีพิถัน และมีความชำนาญในเรื่องการทำอาหารสไตล์ Edomae (เป็นเมนูแบบซูชิที่เน้นความอร่อยของข้าวหมักน้ำส้มสายชู ทานคู่กับเนื้อปลาหมักหรือทาด้วยโชยุ รสชาติออกเปรี้ยวเค็ม ชูวัตถุดิบได้ดี)

และเสน่ห์ของ Sushi Koge โอมากาเสะ คือเชฟจะคอยบอกเล่าที่มาของวัตถุดิบ ทำให้เมนูที่มาเสิร์ฟมีความพิเศษขึ้นมามาก ๆ ซึ่งวัตถุดิบแทบทั้งหมดนำเข้ามาจากญี่ปุ่นโดยตรงเลย ซึ่งเชฟที่เราเจอนอกจากจะมีฝีมือด้านอาหารแล้ว ยังมีความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ในระดับที่พอดี ช่วยให้มื้อนี้มีความผ่อนคลาย บรรยากาศค่อนข้างสบาย ๆ

อ่านบทความฉบับเต็มของ Sushi Koge ได้ที่ https://routeen.co/sushi-koge/ 
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) มี 4 รอบ 12:00 / 13:45 / 17:00 / 19:45 น.
ชั้น B วานิช วิลเลจ อารีย์
BTS อารีย์ | มีที่จอดรถ

google maps

Fishmonger สาขาอารีย์ เปิดบ้านหลังที่ 2 ของร้าน Fish & Chips ในดวงใจ ที่เลือกใช้ปลาไทยเป็นพระเอก

Fishmonger สาขาอารีย์ มี 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นพื้นที่เคาน์เตอร์สั่งอาหาร และครัว (ในที่สุดครัวก็ใหญ่แล้ว) และมีโซนบาร์เพิ่มขึ้นมา ตั้งใจอยากให้ตอนกลางคืนบรรยากาศชิลล์ ๆ นั่งดื่มได้ ปรับคอนเซปต์จากสาขาแรกที่เป็น House of Fish & Chips โดยเฉพาะ เสิร์ฟเมนูแนว Comfort Food อาหารกินไว ๆ แต่สาขานี้จะมีความเป็น Local & Seafood Bar มีอาหารที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มีแค่ปลาแล้วแต่จะมีซีฟู้ดอื่น ๆ ด้วย เป็นร้านอาหารที่สามารถมาใช้เวลาได้เลย

ส่วนชั้น 2 จะเป็นโซนที่นั่ง มีจำนวนโต๊ะค่อนข้างเยอะเลย บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านชาวประมงจริง ๆ และไฮไลต์ของสาขาอารีย์ คือเมนูที่เพิ่มขึ้นมา ทั้ง Tapas , Pasta และ Sides & Dips ตั้งใจทำจานกลางที่สามารถ Sharing กันได้ พร้อมวัตถุดิบใหม่ ๆ อย่าง กุ้ง และหมึก (ยังใช้เรือเล็กและการประมงแบบยั่งยืนเหมือนเดิมนะ)

อ่านบทความฉบับเต็มของ Fishmonger Ari ได้ที่ https://routeen.co/fishmonger-ari/ 
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) อาทิตย์-พฤหัส 12:00 – 22:00 น. และ ศุกร์-เสาร์ 12:00 – 23:00 น. (จะมีช่วงพักครัว15:00-17:00 น.)
อารีย์ซอย 4
BTS อารีย์ | มีที่จอดรถ

google maps

Oh! Vacoda & The Fruit Bar Club

จะให้พูดว่านี่คือ ร้านใหม่ ในย่าน อารีย์ ก็คงไม่ถูก เพราะ Oh! Vacoda เป็นอีกหนึ่งร้านที่เรารักอละอยู่ในดวงใจมานาน แต่ตอนนี้เขารีโนเวทใหม่หมดจด ตั้งแต่ตัวร้านไปจนถึงเมนูเลยด้วย ตัวร้านทั้งในเวอร์ชันก่อนและเวอร์ชันใหม่ล่านี้ยังคงอยู่ในยุค 80’s เหมือนเดิม เพียงแค่ย้ายฝั่งจากฟีลแคลิฟอร์เนีย มาอยู่ฝั่งฮาวายแทน เปลี่ยนจากโทนสีส้มสดใส ให้เป็นสีเขียวแทน เพราะช่วงแรกหลายคนก็ทักว่าทำไมร้านอโวคาโดถึงไม่ใช่สีเขียวนะ รอบนี้จึงมาเขียวกันไปเลย! และการใช้สีนี้ก็ช่วยเน้นย้ำตัวตนว่าเราคือ Avocado Specialty ได้ด้วย

Routeen. รวมอาหาร

งานนี้ไม่ได้เปลี่ยนแค่ตัวร้านเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนไปถึงแบรนด์ดิ้งของร้าน ทั้งชื่อร้านที่พ่วงท้ายยาวขึ้นเป็น Oh! Vacoda & the Fruit Bar Club ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะชื่อ The Fruit Bar Club นั้นเป็นชื่อบาร์ในพาร์ตกลางคืนของคาเฟ่อยู่แล้ว แต่รอบนี้หยิบมาใช้ร่วมกันเลยเพราะ

ในฐานะที่ขึ้นชื่อลือชาในความเป็นคาเฟ่อโวคาโดอยู่แล้ว กาารกลับมาครั้งนี้ เมนูทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของอโวคาโดยังมีอยู่แน่ ๆ แต่ก็มีไลน์ทั้งเมนู เบเกอรี่ และเครื่องดื่มใหม่ ๆ มาอีก โดยมาในคอนเซปต์ American – Japanese Brunch ที่สอดคล้องกับ Vibe แบบ City Pop ยุคที่คนญี่ปุ่นฮิตในการเที่ยวฮาวายเอามาก ๆ นั่นเอง

อ่านบทความฉบับเต็มของ Oh! Vacoda & The Fruit Bar Club ได้ที่ https://routeen.co/oh-vacoda-and-the-fruit-bar-club/ 
เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) เวลา 11:00 – 01:00 น.
ซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 สามเสนใน พญาไท
BTS อารีย์ แล้วต่อพี่วิน | ไม่มีที่จอดรถ

google maps

Progress Cafe & Bar ค็อกเทลบาร์ อารีย์ เมนู ราคา บรรยากาศ

ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป คาเฟ่ก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นบาร์ ปรับแสงให้อุ่นขึ้นและดิมไฟลง รวมถึงเพลงในร้านก็ยังคงเป็นแจ๊ส แต่จะถูก Up beat ขึ้นมาอีกเล็กน้อย พาร์ตบาร์ยังคงจับคอนเซปต์ของร้านอย่าง ‘Work in Progress’ มาเป็นกิมมิกในการนำเสนอเครื่องดื่ม โดยหยิบเอาการทำงานของเรา (โดยเฉพาะสายครีเอทีฟและเอเจนซีน่าจะอินคูณสอง) เป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทลทั้ง 5 แก้ว ที่ไต่ระดับเรื่องราว และรสชาติไล่เรียงกันไป

Progress Cafe & Bar คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ เมนู Iced Espresso Tonic

นอกจากความสนุกของเครื่องดื่ม (ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกลับมาทำงานผ่านแก้วในมือ) และบรรยากาศชิลล์ ๆ และเป็นกันเองของทางร้านแล้ว ในอนาคตทางบาร์จะยังมีเครื่องดื่มตามโอกาสต่าง ๆ มาให้ได้ลองเพิ่มเติม เช่น Signature Of The Month ไปจนถึงเมนูอาหารที่จะเริ่มมีมากขึ้นอีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวนั่งได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และเป็นพิกัดที่น่าสนใจอีกแห่งในย่านอารีย์เลยล่ะ

อ่านบทความฉบับเต็มของ Progress Cafe ที่ https://routeen.co/progress-cafe-and-bar/ 
โซนบาร์เปิดวันพุธ – อาทิตย์ เวลา 17:00 – 23:00 น.⁣ (นั่งได้ถึง 24:00 น.)
ชั้น 3 ของ Ari Story Hostel
BTS อารีย์ | จอดรถได้ที่อาคารสหกรณ์ ค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท

google maps

ร้าน Kenny’s

จะมีอะไรที่เป็น Comfort Food ได้เท่าพิซซ่ากันล่ะ! ก็ไม่ว่าจะฝากท้องยามหิว เชียร์บอลตอนดึก หรือปาร์ตี้กับชาวแก๊ง ก็ได้พิซซ่านี่แหละมาเป็นจานโปรด ซึ่งบอกตรงนี้เลยว่าเราเพิ่งเจอร้านพิซซ่าฟีล Neighbour Restaurant อย่าง ร้าน Kenny’s ที่ไม่ได้มีดีแค่พิซซ่าตำรับเนเปิลรอเราเท่านั้น แต่ยังมี Comfort Food ให้เราได้ลองเลือกชิมอีกมากมาย พร้อมเครื่องดื่มแบบชื่นจายยย แถมยังอยู่กับเราไปยาว ๆ ถึงตีสาม! หิวดึกแค่ไหนก็พร้อมแล้วบอกเลยตรงนี้

Smoked It Every Day

พิซซ่าของที่นี่จะเป็นสไตล์เนเปิล ที่พิเศษด้วยการหมักแป้งอย่างต่ำ 36 ชั่วโมง ทำให้กินแล้วไม่หนักท้อง (เนื่องจากโปรตีนในแป้งถูกย่อยออกไปเยอะจากการหมัก) และปรับเนื้อสัมผัส และความชื้นในแป้งที่ลดลง เพื่อให้แป้งมีความกรอบมากขึ้น และลดความเหนียวของแป้งลง

สำหรับใครที่อยากแวะเวียนมาที่ร้านในยามค่ำคืน ก็ต้องบอกว่าทางร้านมีเครื่องดื่มมากมายไว้ให้บริการ ให้เราได้นั่งกันไปยาว ๆ ปล่อยจอยได้ด้วย และถ้าคืนไหนมีแมตซ์สำคัญ ทางร้านก็มีฉายโปรเจกเตอร์ให้ชมให้เชียร์ไปด้วยกันด้วยนะ เรียกว่าไม่ว่าจะมาเวลาไหน Kenny’s ก็พร้อมเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ที่เปิดประตูต้อนรับเราเสมอเลยล่ะ

อ่านบทความฉบับเต็มของ Kenny’s ได้ที่  https://routeen.co/kennys-ari-bkk/
เปิดทุกวัน 10:00 – 03:00 น.
พหลโยธิน ซอย 5 (ราชครู) อารีย์
BTS อารีย์ แล้วเดินชิลล์ ๆ อีกหน่อยนะ | มีที่จอดรถ (เสียค่าบริการ)

google maps

Articles You Might Like

Share This Article