ใครว่าหน้าฝนทะเลไม่น่าเที่ยว? คงต้องขอละทะเลใต้เอาไว้สักที่ เพราะจริง ๆ แล้วภาคใต้ของเราเที่ยวได้แทบทั้งปี ยิ่งช่วงกลางปีแบบนี้ หลาย ๆ ที่พักในภาคใต้ราคาดี ชวนให้เราเก็บกระเป๋าออกไป Staycation ออกไปพักบ้าง เพราะถ้าหันไปถามตัวเองหน้ากระจกว่า โอบกอดตัวเองครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจเป็นแรงใจอยากให้รางวัลกับชีวิตได้ง่ายขึ้น และคงจะดี ถ้าได้รีสอร์ตสักที่ที่ช่วย Retreat เราได้เช่นกัน
ถ้าอย่างนั้น Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas ที่ เขาหลัก จังหวัดพังงา ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ Routeen. กล้าพูดได้ว่า มาที่นี่จะช่วยฮีลใจ (ไปจนถึงร่างกายที่สะบักสะบอมกับการงานและการใช้ชีวิต) ได้ดีที่เดียว เพราะที่นี่เขามีกิจกรรมและคอร์สต่าง ๆ ให้เราได้เข้าร่วมกันแบบแน่น ๆ ทุกวัน จนไม่จำเป็นต้องออกไปไหนเลย ที่สำคัญคือ เขาหลัก ยังน่าเที่ยวเหมือนเดิม ทะเลยังคงสวย หาดทรายกว้าง และเต็มไปด้วยความสงบที่ให้เราได้พักใจจริง ๆ


สิ่งแรกที่ฮีลใจเราได้เลยคือ งานออกแบบและสถาปัตยกรรมของที่นี่ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและเรื่องราวที่แฝงอยู่ในทุกกระเบียดของพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ถนนที่ทอดเข้ามายังรีสอร์ตจากถนนใหญ่ (ใช่แล้ว แม้แต่ถนนที่ตัดเข้ามา ก็ถูกวางเรื่องราวเอาไว้อย่างดี) ที่มีความคดเคี้ยวเลี้ยวลด เหมือนได้ลัดเลาะเข้ามาในป่าทึบ ก่อนที่จะเผยตัวรีสอร์ตให้เห็นเบื้องหน้า ก็เป็นความตั้งใจเหมือนการเดินทางเข้ามาพบกับโอเอซิสที่ซ่อนอยู่ ก็จะผ่านเส้นทางที่น่าฉงนแบบนี้

รวมถึงสมัยก่อน บริเวณนี้ตะกั่วป่านี้ถือเป็นเมืองท่าในช่วงเส้นทางสายไหม ที่เรือสำเภาระหว่างจีน อินเดีย และเปอร์เซีย จะมาจอดกันอยู่ที่นี่ เพื่อข้ามเขาไปยังไชยา เศษซากของประวัติศาสตร์และอารายธรรมในสมัยรุ่งเรืองเหล่านั้น แม้ปัจจุบันจะไม่หลงเหลือให้เห็นอีกแล้ว แต่ทาง Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas ก็อยากจำลองรีสอร์ตออกมาให้เห็นว่า ถ้าหากยังมีอาณาจักรในสมัยนั้นให้เห็นอยู่ ก็น่าจะออกมาหน้าตาประมาณนี้ ซึ่งยึดหลักการออกแบบมาจากโครงอารยธรรมของ เขาหลัก และพังงา หยิบเอาประวัติศาสตร์จากอารยธรรมศรีวิชัยในพุทธศตวรรษที่ 11-13

ทำให้สิ่งของตกแต่งสถานที่แต่ละชิ้นของที่นี่ หลายชิ้นก็เป็นของโบราณที่รวบรวมมาจากหลากหลายแห่ง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั่วทั้งเอเชียและยุโรปด้วย เราจึงจะได้เห็นสิ่งของโบราณต่าง ๆ ทั้งตั้งประดับ ไปจนถึงเป็นส่วนหนึ่งของงานโครงสร้าง เช่น ประตูป้อมไม้โบราณขนาดใหญ่ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณโถงอิฐ ที่ส่งตรงมาจากอินเดีย หรือประตูไม้ที่หน้าห้องอาหาร Takola ห้องอาหารไทยที่ได้รับ BIB Gourmand MICHELIN Guide มาต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ พ.ศ. 2564 – 2567) และประตูไม้ที่ Devasom Spa Wellness ก็ใช่ด้วย โดยที่นี่ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี

“ที่นี่เขามีกิจกรรมและคอร์สต่าง ๆ ให้เราได้เข้าร่วมกันแบบแน่น ๆ ทุกวัน จนไม่จำเป็นต้องออกไปไหนเลย ที่สำคัญคือ เขาหลัก ยังน่าเที่ยวเหมือนเดิม ทะเลยังคงสวย หาดทรายกว้าง และเต็มไปด้วยความสงบที่ให้เราได้พักใจจริง ๆ”
ไม่ใช่เพียงงานออกแบบที่ดูสวยงามและโดดเด่น แต่หลายส่วนยังคำนึงถึงฟังก์ชันและการใช้งาน (ถ้าเทียบกับคนก็คงพูดได้ว่า สวยและสมาร์ต) ทั้งงานออกแบบทางเดินให้มี 2 ชั้น หากเดินที่ชั้นล่าง ก็คล้ายจะเป็นเพียงหลังคากันแดดลมฝนเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วด้านบนที่คอยให้ร่มเงาของทางเดินนี้ ก็ยังเป็นทางเดินลอยฟ้า

ที่ให้เราเปลี่ยนมู้ดเดินในวันอากาศดี ท้องฟ้าสดใส และยังทำหน้าที่ส่งเราไปยังห้องพักต่าง ๆ ได้อีก หรือบริเวณโถงอุโมงค์ที่เชื่อมมายังทางเดินนี้ ก็ใช้อิฐแดงวางเหลื่อมให้เกิดช่องแสงส่องผ่าน คล้ายเป็นงานศิลปะจากแสงธรรมชาติที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาด้วย

ถึงอย่างนั้น บริเวณจุดไฮไลต์อย่างซุ้มลอดที่เชื่อมไปยังโซนวิลลา และสระว่ายน้ำใหญ่วิวทะเล ก็ยังเป็นมุมมหาชนที่ไม่ว่าใครแวะมาที่นี่ ก็ต้องเก็บภาพกลับไปทุกครั้ง เพราะนอกจากดีไซน์ที่สวยงามและอลังการแล้ว ต้องบอกว่าท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีสันไปตลอดวัน ก็หลอกล่อให้เราแวะมาเก็บภาพมุมนี้ได้บ่อยไม่มีเบื่อเลยล่ะ

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas คือชัยภูมิที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ เพราะไม่เพียงแต่ด้านหน้าจะติดทุ่งไม้เขียวชอุ่มสุดสมบูรณ์ ด้านหลังติดทะเล เขาหลัก กว้างสุดลูกหูลูกตา แต่ข้าง ๆ ยังมีลากูน ที่บรรจบกันระหว่างคลองน้ำจืด (คลองคึกคัก) และทะเลอันดามัน ทำให้มีกิจกรรมทางธรรมชาติได้หลากหลายมากกว่าที่ไหน
เรียนรู้เรื่องชากับ Tea Appreciation Workshop

ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วที่ Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas มีเวิร์กชอปให้เราเข้าร่วมมากมายไม่ซ้ำในแต่ละวัน ซึ่งสามารถเช็กตารางได้ว่าเวิร์กชอปในวันที่เราเข้าพักนั้นเกี่ยวกับอะไร และจองเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กชอปนั้นได้ อย่าง Routeen. หลังจากที่ลิ้มลองเซ็ต Afternoon Tea ที่จัดมาทั้งของคาวและของหวาน โดดเด่นที่ของหวานหลายอย่างที่หาทานยาก หรืออาจไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอง่าย ๆ ในเมืองหลวง เช่น ขนมโค ม้าฮ่อ ก็มีให้เราได้อร่อยกันด้วย

โชคดีที่วันที่เราไป มีเวิร์กชอปชาที่เข้ากับ Afternoon Tea Set ที่เพิ่งจบไปพอดี เลยถือโอกาสลองสักหน่อย เจ้าหน้าที่จะนำชาหลากหลายตัว ที่เบลนด์มาแตกต่างกัน มีสรรพคุณและฤทธิ์ทางยาที่โดดเด่นคนละทาง และเปิดโอกาสใหเ้ราได้เลือกชาที่สนใจ ช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ของร่างกายได้ โดยเจ้าหน้าที่จะให้เราลองว่าเราพบรสชาติอะไรที่ซ่อนอยู่ในชานั้น ๆ บ้าง
ยังมีคลาสและเวิร์กชอปต่าง ๆ สลับหมุนเวียน เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อาทิ คลาสสอนทำขนมครก คลาสสอนทำอาหารไทย ไปจนถึงคลาสสอนการทำงานฝีมือไทยอย่างการทำพานพุ่ม ก็สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ผ่อนคลายขั้นสุดที่ Devasom Spa Wellness

แบ่งเวลาสัก 60 – 90 นาที ให้ร่างกายได้พักผ่อนขั้นสุดกับห้องสปาที่มีให้บริการ มาพร้อมกับคอนเซปต์ “ดอกบัว” ที่เสิร์ฟ Welcome Drink เป็นน้ำรากบัว เปรียบดั่งเรายังเป็นบัวใต้น้ำที่รอวันเฉิดฉาย (จากการทำสปา) และเมื่อจบสปา จะเสิร์ฟเป็นชาเกสรดอกบัว เปรียบดั่งบัวพ้นน้ำและพร้อมเฉิดฉายแล้ว มี Alchemy Bar ที่เอาไว้เก็บสมุนไพร และตัวยาต่าง ๆ และไว้ประกอบลูกประคบที่ห้องนี้ด้วย
ที่ Devasom Spa Wellness มีคอร์สให้เลือกมากมาย ทั้งนวดทรีตเมนต์ นวดไทย นวดเท้า นวดคอ บ่า ไหล่ ไปจนถึง Facial Treatment และบริการทำเล็บอีกด้วย
รู้จักพันธุ์ไม้ระหว่างพายคายัคกับ Kayak Adventure & Forest Bathing

ในแต่ละวัน ยังมีกิจกรรมแนว Adventure ให้เราได้ออกไปสนุกกันด้วย และไหน ๆ ข้าง ๆ รีสอร์ตก็มีลากูนที่เชื่อมทั้งคลองธรรมชาติและทะเล เราจึงเลือกไปลุยกับ Kayak Adventure & Forest Bathing กันดู (แน่นอนว่ากิจกรรมเหล่านี้ก็เข้าร่วมฟรีนะ)

เรารวมตัวเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า เจ้าหน้าที่จะให้เราใส่เสื้อชูชีพ และเลือกได้ว่าจะพายเดี่ยว หรือพายเป็นคู่ เส้นทางการพายคายัค จะมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ตนำทางไปตลอด ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่จะพาเราไปรู้จักพืชพันธุ์และระบบนิเวศน์บริเวณสองข้างทางของคลองคึกคัก ไปจนถึงสัตว์ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้
เรียกว่าเป็นการเรียนรู้และท่องเที่ยวแบบผสมผสาน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการปล่อยให้เราเอาเท้าแช่น้ำ หลับตา แล้วปล่อยให้คายัคลอยไปตามน้ำ พร้อมบำบัดด้วยเสียงธรรมชาติรอบตัว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราชอบมากเลยล่ะ
ให้ธรรมชาติส่งเสียงปลอบประโลมด้วย Plant Sound Meditation

อีกหนึ่งกิจกรรมบำบัดที่อยากให้ทุกคนลอง นั่นคือคอร์ส Plant Sound Meditation หรือการเปลี่ยนข้อมูลชีวะให้กลายเป็นเสียงดนตรี โดยการใช้เซนเซอร์ติดไปที่ใบไม้เพื่อวัดค่านำไฟฟ้า คลอโรพาสต์ที่เคลื่อนไหวภายในพืชที่กำลังสังเคราะห์แสงจะถูกแปลงออกมาเป็นคลื่นเสียงให้เราได้ยิน ไปจนถึงการตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น การจับใบไม้ การจุมพิตลงบนใบไม้ แม้กระทั่งการเด็ดใบไม้ เสียงที่ได้ก็แตกต่างกัน

ชิลล์กับแก๊งเพื่อนกับ Beach Picnic

แดดร่มลมตก หากมากับครอบครัว หรือมาเป็นคู่ แล้วอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศการพูดคุยหรือสังสรรค์ ให้ได้ไวบ์ดี ๆ และโรแมนติกมากขึ้น ก็สามารถแจ้งทางรีสอร์ตให้จัด Beach Picnic ได้ (ราคา 2,800 บาทสำหรับ 2 ท่าน) โดยจะได้รับตั้งแต่ Welcome Drink ที่มีให้เลือกทั้งค็อกเทลและม็อกเทล, เครื่องดื่มพิเศษอีกคนละแก้ว, Sparkling Water อีก 1 ขวด, ขนมขบเคีั้ยวและ Canape พร้อมผลไม้ และของหวานอีกด้วย

แต่ถ้าหากรักบรรยากาศและเสียงคลื่นยามตะวันตกดิน ก็มีบริการ Devasom Beach Camp (ราคา 4,000 บาทต่อท่าน จำกัดสูงสุด 12 คน Minimum Spending ที่ 20,000 บาทต่อครั้ง) ที่จะจัดแคมป์ริมทะเลสุดแกลมไว้ให้ มาพร้อมกับอาหาร Fine Dining จำนวน 7 คอร์สโดยห้องอาหาร Devasom Beach Grill ด้วย
ฝึกใจให้สงบกลางสายน้ำด้วย Aqua Sound Bath

หรือจะลองไปทำ Sound Bath ที่ไม่ใช่แค่นอนฟังเสียงคลื่นความถี่จาก Himalayan Singing Bowls และฆ้องนิ่ง ๆ เท่านั้น แต่ยังให้เรานอนบนแพลอยน้ำในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ปล่อยให้ตัวเราไหลไปตามกระแสน้ำ ที่มีสายลมนำทางเรา และแสงแดดอ่อน ๆ อาบร่างให้เปิดรับธรรมชาติรอบตัว ปล่อยให้คลื่นเสียงได้ทำงานในระดับเซลล์ ให้เราบำบัดลงไปถึงส่วนลึกด้วยเสียงหลากหลายความถี่นี้เอง
ฝากท้องกับอิเวนต์พิเศษ Baan Tepa x Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas และ Listening Lounge

นอกจากนี้ ทาง Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas ยังมีอิเวนต์พิเศษ ๆ กับห้องอาหาร Takola อย่างสม่ำเสมอ อย่างช่วงที่เราเดินทางไปนั้นก็มีอิเวนต์ที่ได้ เชฟตาม – ชุดารี เทพาคำ หญิงไทยคนแรกผู้คว้ารางวัลดาวมิชลินสำเร็จถึง 2 ดวง ผู้ชนะรางวัล MICHELIN Young Chef Award และหัวเรือใหญ่แห่งร้าน Baan Tepa ที่จัดคอร์สอาหารที่เชฟออกเดินทางไปทั่วพื้นที่พังงา แวะเยี่ยมชาวบ้าน และหยิบเอาวัตถุดิบท้องถิ่นขึ้นมารังสรรค์อาหารไทยให้เราได้ลองชิมกันถึง 7 คอร์ส

นอกจากนี้ยังมี Artisan Shop ร้านจำหน่ายสินค้าฝีมือที่ระลึก ที่ทาง Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas ทำคอลเลคชันร่วมกับไทยดีไซน์เนอร์หลากหลายแบรนด์ รวมถึงสินค้าจากคนพื้นที่ก็ถูกเลือกมาวางจำหน่ายที่นี่ เพื่อเป็นการสนับสนุนธุรกิจชุมชนอีกด้วย
ห้องพักกว้าง มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวในห้อง
ในส่วนของห้องพักก็คือปังอยู่แล้ว เพราะที่นี่ขึ่นชื่อลือชาในเรื่องของห้องพักที่ไม่ว่าไทป์ไหน ก็กว้างขวางและสะดวกสบาย สมกับชื่อ เทวาศรม ที่มาจาก Deva (เทวา) และ Arshrm (อาศรม) กลายเป็นความหมายว่า ที่พักของเหล่าเทวดา นางฟ้า นั่นเอง

ที่นี่มีห้องพักรอต้อนรับทั้งหมด 6 ไทป์ เริ่มต้นที่ Seaside Grand Deluxe จำนวน 24 ห้อง ห้องพักขนาด 54 ตารางเมตรที่มาพร้อมระเบียงกว้างส่วนตัววิวทะเล และยังมีเดย์เบดอยู่ที่ระเบียงให้เราได้นอนดูวิวตามใจ กับเตียงไซซ์ใหญ่พิเศษถึง 7 ฟุต และอ่างอาบน้ำที่สามารถเปิดโล่งให้มองทะลุไปยังวิวทะเลนอกระเบียงได้ด้วย

ขยับขึ้นมากับห้อง Seaside Junior Suite With Jacuzzi จำนวน 21 ห้อง ขนาดพื้นที่ 62 ตารางเมตร ที่เอาใจคนชอบแช่จากุชชี่ ที่เอาอ่างมาตั้งไว้ที่ระเบียงกว้างด้านนอก ให้เราเทควิวสุดพิเศษที่มองเห็นทั้งทะเล และลากูนไปพร้อม ๆ กัน แน่นอนว่าห้องนี้ก็มีอ่างอาบน้ำ และโซฟาขนาดใหญ่ในห้องให้ได้พักผ่อนกันด้วย

Seaside Pool Paradise Suite ยกระดับในเหนือยิ่งขึ้น กับห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว จำนวน 12 ห้อง ขนาดพื้นที่ 105 ตารางเมตร โดยสระว่ายน้ำจะตั้งอยู่ที่บริเวณระเบียงแบบเต็มพื้นที่ขนาด 5 x 2.4 เมตร พร้อม Outdoor Daybed ริมสระที่สามารถนั่งพักผ่อนได้ถึง 2 คน มาพร้อมกับเลย์เอาต์ห้องที่แบ่งห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกัน ให้ความเป็นสัดส่วนคล้ายกับอยู่บ้านมากขึ้น ที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำสุดเซ็กซี่ตั้งอยู่กลางห้องด้วยนะ

หรือถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว และเหมือนได้อยู่บ้านจริง ๆ ต้องเข้าพักไทป์ Pool Villa ทั้ง Beach Pool Villa ขนาด 150-160 ตารางเมตร จำนวน 4 วิลลา, Beachfront Pool Villa ขนาด 150-160 ตารางเมตร จำนวนอีก 4 วิลลา และ Two Bedroom Beachfront Pool Villa ขนาด 190-200 ตารางเมตร จำนวน 2 วิลลา

วิลลาติดทะเลแบบเดินลงไปถึง มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ ที่มี Spa Jets ตั้งอยู่ในสระ พร้อมกับแบ่งฟังก์ชันอย่างเป็นสัดส่วน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องอายน้ำ และห้องนอน เราชอบมาก ๆ ที่ห้องอาบน้ำมาพร้อมฟักบัวแบบ Rain Shower แบบ His & Her ที่ให้เราได้อาบน้ำร่วมกันได้ด้วย อรั๊งงงง

สุดท้ายกับ ‘Devasom Sky Villa’ Two Bedroom Pool Penthouse เพนต์เฮาส์สุดอลังการทั้งหมด 2 หลัง ขนาดพื้นที่ใหญ่ถึง 430 ตารางเมตร กับวิวที่สวยที่สุดบนชั้นสูงสุดของโรงแรม กับวิพาโนรามาที่มองทะเลแบบไกลสุดลูกหูลูกตา มาพร้อม 2 ห้องนอนขนาดมาสเตอร์เบดรูมทั้งคู่ ห้องทานอาหาร ที่มีบาร์พร้อมให้ใช้งาน กับ Lap Pool ขนาดยาว 17 เมตรและสปาเจ็ต ช่วงเช้าหรือแดดร่มลมตก ก้สามารถมานั่งเล่นกันได้ที่ Private Courtyard ให้นั่งชมอาทิตย์ดลางอันดามันได้ชื่นใจ
Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas
ราคาห้องพักเริ่มต้นที่คืนละ 4,500 บาท (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)
จองห้องพักที่ https://www.devasom.com/khaolak
คลองคึกคัก ตะกั่วป่า พังงา