จะมีอะไรที่เป็น Comfort Food ได้เท่าพิซซ่ากันล่ะ! ก็ไม่ว่าจะฝากท้องยามหิว เชียร์บอลตอนดึก หรือปาร์ตี้กับชาวแก๊ง ก็ได้พิซซ่านี่แหละมาเป็นจานโปรด ซึ่งบอกตรงนี้เลยว่าเราเพิ่งเจอร้านพิซซ่าฟีล Neighbour Restaurant อย่าง ร้าน Kenny’s ที่ไม่ได้มีดีแค่พิซซ่าตำรับเนเปิลรอเราเท่านั้น แต่ยังมี Comfort Food ให้เราได้ลองเลือกชิมอีกมากมาย พร้อมเครื่องดื่มแบบชื่นจายยย แถมยังอยู่กับเราไปยาว ๆ ถึงตีสาม! หิวดึกแค่ไหนก็พร้อมแล้วบอกเลยตรงนี้
แต่เอาจริง ๆ Routeen. ก็สงสัยไม่น้อยว่าอะไรดลใจให้บ้านเราต้องมีร้านพิซซ่าเปิดดึกจนถึงตีสามกันนะ งานนี้เลยขอจับเข่าคุยกับ คุณยู – กิติภพ คูหาทัสนะดีกุล เจ้าของ ร้าน Kenny’s กันสักหน่อย จึงทำให้รู้ถึงความตั้งใจว่าคุณยูอยากให้ร้านนี้เป็น Neighbour Restaurant ฟีลเหมือนมาบ้านเพื่อน เป็นกันเอง ที่มีอาหาร Comfort Food คอยรองรับเอาไว้เสมอให้สมกับเป็นบ้านเพื่อนที่ทำกิน (หรือแม้กระทั่งจะสั่งมากิน) ง่าย ๆ มันก็คงหนีไม่พ้นพิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ มีตบอล จำพวกนั้น แต่ทางร้านอยากยกระดับอาหารที่อยู่ในเซฟโซนเหล่านั้นให้อร่อยขึ้น
ถึงอย่างนั้น ที่ทางร้านดึงพิซซ่ามาเป็นตัวชูโรงของทางร้านเพราะคุณยูรู้สึกว่าอาหารชนิดนี้แหละคือหนึ่งใน Comfort Food ของคนทั่วโลก และไหน ๆ จะเป็นฟีลแวะมานั่งเล่นบ้านเพื่อนแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีเจ้าของบ้านสักหน่อย จึงสร้าง Urban Boy ในนาม Kenny นี้ขึ้นมา ที่มีคาแรกเตอร์เป็นเด็กหนุ่มที่ชอบลอง ชอบเอ็กซ์พลอร์อะไรใหม่ ๆ ชอบฟังเพลง (ซึ่งจะถ่ายทอดผ่านเพลงที่เปิดในร้าน ซึ่งจะมาแนว Indie-Pop นิด ๆ) ให้เป็นคนที่คอยชักชวนทุกคนแวะเข้ามาในบ้านของ Kenny มาจอยของอร่อยกันด้วย
“คุณยูอยากให้ร้านนี้เป็น Neighbour Restaurant ฟีลเหมือนมาบ้านเพื่อน เป็นกันเอง ที่มีอาหาร Comfort Food คอยรองรับเอาไว้เสมอให้สมกับเป็นบ้านเพื่อนที่ทำกิน”
จริง ๆ แล้วคุณยูเคยบริหารร้าน 25 Degrees มาก่อนถึง 10 ปี ด้วยการที่อยู่กับเบอร์เกอร์มานานจนเริ่มรู้สึกอิ่มตัว ประกอบกับไลฟ์สไตล์ ความชอบที่แปรผันไปตามช่วงวัย ทำให้ต้องออกมาจากพื้นที่เดิม และหวังว่าการมีเจ้า Kenny’s นี้จะช่วยแก้ Pain Point ที่เริ่มเบื่อเบอร์เกอร์นี้ของตัวเองได้ (ถึงอย่างนั้น ในร้านก็ยังมีเมนูเบอร์เกอร์ให้ได้ลองอยู่นะ)
ก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเป็นร้านดอกไม้เก่ามาก่อน เมื่อคุณยูได้มาเจอก็รู้สึกว่าตรงนี้เป็นโลเคชั่นที่ดี มีทราฟฟิกเยอะ และเป็นย่านอยู่อาศัยที่ใกล้อารีย์แค่ไม่กี่นาที คุณยูเปลี่ยนรูปแบบของร้านใหม่ ใช้พื้นที่ว่างระหว่างตัวอาคารที่แต่เดิมค่อนข้างทรุดโทรม ปรับเปลี่ยนใหม่ให้กลายมาเป็นทางเดินเข้าร้าน ย้ายประตูทางเข้าร้านมาไว้ข้าง ๆ แทนที่จะอยู่หน้าร้าน เพื่อให้หน้าร้านเป็นกระจกบานใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เต็ม ๆ ผนังด้านข้างก็ทุบออกแล้วเปลี่ยนเป็นกระจกเช่นกัน ทำให้เห็นผนังอิฐมอญของอาคารข้าง ๆ ภายในร้านจึงหยิบเอาอิฐสีส้มมาตกแต่งกับผนังของร้านล้อกันไปด้วย พร้อมกับหยิบสีส้มมาเล่นกับร้านเพื่อสร้างความโดดเด่น
ส่วนที่ร้านเปิดยาวไปจนถึงตีสามนี้ก็เป็นความตั้งใจของคุณยูที่ต้องการจะแก้ Pain Point ของคนกรุง ที่กว่าจะมีเวลาเป็นของตัวเองได้ก็ปาไปค่ำมืด กว่าจะเลิกงาน กว่าจะฝ่ารถติดบนถนนไปได้ ตัวเลือกของร้านที่เปิดจนถึงดึกก็น้อยลงทุกที โดยเฉพาะในย่านอารีย์ที่มีผู้คนอาศัยเยอะ แต่ร้านส่วนใหญ่ในย่านนี้ปิด 4 ทุ่มกัน จึงอยากให้ Kenny’s เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเหล่าคนกรุงที่มองหามื้อสุดท้ายของวัน ที่ไม่ได้ต้องไปแค่ร้านส้มตำ หรือข้าวต้มโต้รุ่ง
พิซซ่าของที่นี่จะเป็นสไตล์เนเปิล ที่พิเศษด้วยการหมักแป้งอย่างต่ำ 36 ชั่วโมง ทำให้กินแล้วไม่หนักท้อง (เนื่องจากโปรตีนในแป้งถูกย่อยออกไปเยอะจากการหมัก) และปรับเนื้อสัมผัส และความชื้นในแป้งที่ลดลง เพื่อให้แป้งมีความกรอบมากขึ้น และลดความเหนียวของแป้งลง
แม้จะบอกว่าที่นี่เสิร์ฟอาหารแนว Comfort แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมากี่ครั้งก็เจอแต่ของเดิม ๆ เสมอ เพราะทางร้านเขาสนุกมากกับการชักชวนเชฟจากร้านต่าง ๆ มาแจม เพื่อสร้างเมนูเฉพาะกิจขึ้นมาเสมอ อย่างในเดือนมิถุนายนนี้บนโต๊ะอาหารจะลำแต๊ ๆ กว่าเดิม เพราะทางร้านเขากำลังมีโปรเจ็กต์สนุก ๆ โดยจับมือกับ Happy Belly ของเชฟเบลล์ – พิมพ์ทิพย์ เป้าศิลา จาก Masterchef Thailand Season 5 มารังสรรค์เมนูพิเศษถึง 5 จานครบทั้งคาว-หวาน ที่เราอยากแนะนำจริง ๆ
ด้วยความชอบหยิบจับเอา Local Ingredient มาพัฒนาในรูปแบบที่ไปได้ไกลกว่าของคุณเบลล์ รอบนี้คุณเบลล์จึงเลือกหยิบเอาองค์ประกอบต่าง ๆ ของอาหารเหนือ (หลังจากที่แอบไปเที่ยวเชียงใหม่ และได้เจออะไรเจ๋ง ๆ มากมายก่อนนี้) มาทำเป็นพิซซ่าหน้าเด็ดอย่าง Belly In Chiang Mai (390 บาท) พิซซ่าที่ได้ไอเดียมาจาก Emily In Paris แต่ถ้าอยู่เชียงใหม่จะต้องเจออะไรบ้่างล่ะ? เราจึงได้เจอพิซซ่าแป้งนาโปลี ทางด้วยซอสข้าวซอยหอมหวาน ท็อปหน้าไส้อั่วโฮมเมด เพิ่มมิติด้วยมะละกอดองของ Kenny’s และผักชีลาว จานนี้เหมือนเป็นสาวแซ่บรสเข้ม จัดจ้านกำลังดี
ถัดมากับ Rockets To The Forest (390 บาท) ที่มาแบบเขียว ๆ เหมือนกำลังกวักมือชวนคนเมืองอย่างเราเดินเข้าป่าทางเหนือผ่านรสชาติของพิซ่าถาดนี้ ด้วยเพสโตซอสของทางร้าน เพิ่มรสชาติด้วยปลาอินทรัีย์แดดเดียว ที่นำไป Confit จนได้รสกลมกล่อม เค็มน้อย ท็อปด้วยผักร็อกเก็ต ผิวมะนาว และเม็ดมะตูมแขกจากเชียงราย เบอร์รี่รสหวานนำ ปลายคล้ายพริกไทย และมีกลิ่นทรัฟเฟิลกลาย ๆ เป็นอีกถาดที่น่าสนใจสุด ๆ
แวะมากินเล่นกับ Ua Nhum Tod (190 บาท) นำเนื้อไส้อั่วโฮมเมดไปยัดในพริกหนุ่ม แล้วไป Slow Roasted ในเตาพิซซ่า ก่อนจะนำไปชุบเกล็ดขนมปังแล้วทอดกรอบ ให้ฟีลเหมือนกินน้ำพริกหนุ่ม – ไส้อั่ว – แคปหมู ในความรู้สึกใหม่ จิ้มกับฮันนี่มัสตาร์ดใส่น้ำมันกระเทียมเพิ่มรสชาติมากขึ้น
อีกจานกับ The Passion (190 บาท) Ceviche ที่จะเข้ามาช่วยเสริมในเซ็ตนี้จัดจ้านขึ้น ทั้งข้าวโพดทอดเบิร์นไฟ เติมรสเปรี้ยวด้วยเสาวรสสดที่ปลูกกันเยอะในภาคเหนือ และเผ็ดร้อนด้วยพริกกะเหรี่ยง ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Happy Belly’s Tiramisu (200 บาท) เมนูฮิตของร้าน Happy Belly’s ที่เชฟเบลล์มองว่าเข้ากันดีกับพิซซ่า เพราะก็มาจากอิตาลีเหมือนกัน แต่ความน่าสนใจอยู่ที่การเปลี่ยนเหล้าอิตาลีมาเป็นบรั่นดีไทยแทน ทำให้ทิรามิสุถ้วยนี้รสเข้มขึ้นเลยล่ะ
นอกเหนือจากเมนู KENNY’S x Happy Belly แล้ว เมนูประจำของทางร้านก็ยังยั่วน้ำลายจนชวนสั่ง ซึ่งล้วนเป็นเมนูที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพียงแต่ถูกปรับใหม่ เพราะอยากให้เมนูง่าย ๆ เหล่านี้อร่อยขึ้น เช่น Baked Meat Ball And Cheese (หมู 190 บาท เนื้อ 220 บาท) บีทบอลลูกโต ใส่ชีสมาเน้น ๆ กับ Spicy Marinara สุดเข้มข้น หรือจะเป็น Signature Pizza อย่าง Smoked It Every Day (390 บาท) เบคอนเปบเปอร์รมควันหั่นชิ้นหนา ๆ หอมแดง ท็อปด้วยไข่ที่ยังเยิ้ม ๆ ถูกใจเด็กอ้วนแบบเราแป๊บเดียวหมด
อีกจานเป็น Crispy Baby Kale Caesar Salad With Grilled Chicken (320 บาท) ผักเคลที่นำไปทอดกรอบทั้งจาน ท็อปด้วยอกไก่ย่าง ราดด้วยซีซาร์ เป็นจานผักที่คนไม่กินผักอย่างเรายังตักจนหมดเลยล่ะ
สำหรับใครที่อยากแวะเวียนมาที่ร้านในยามค่ำคืน ก็ต้องบอกว่าทางร้านมีเครื่องดื่มมากมายไว้ให้บริการ ให้เราได้นั่งกันไปยาว ๆ ปล่อยจอยได้ด้วย และถ้าคืนไหนมีแมตซ์สำคัญ ทางร้านก็มีฉายโปรเจกเตอร์ให้ชมให้เชียร์ไปด้วยกันด้วยนะ เรียกว่าไม่ว่าจะมาเวลาไหน Kenny’s ก็พร้อมเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ที่เปิดประตูต้อนรับเราเสมอเลยล่ะ
KENNY’S
เปิดทุกวัน 10:00 – 03:00 น.
เฉพาะเมนู Kenny’s x Happy Belly มีเฉพาะวันที่ 1-30 มิถุนายน 2566 เท่านั้น
พหลโยธิน ซอย 5 (ราชครู) อารีย์
BTS อารีย์ แล้วเดินชิลล์ ๆ อีกหน่อยนะ | มีที่จอดรถ (เสียค่าบริการ)