ใครว่าคาเฟ่ดี ๆ ไวป์เจ๋ง ๆ กับเครื่องดื่มและอาหารอร่อย ๆ จะต้องกระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ที่จริงแล้ว จังหวัดรอบ ๆ กรุงเทพฯ ที่เดินทางไปไม่ยากอย่าง สมุทรปราการ นนทบุรี และนครปฐม ก็มีคาเฟ่น่าแวะเต็มไปหมด จน Routeen. ต้องขอรวบรวมไว้ว่า นี่คือ 8 คาเฟ่ในจังหวัดรอบกรุงเทพฯ ที่มีดีไม่แพ้ใคร
ร้าน Brooks Brunch & Bar ตั้งอยู่ในซอย ถนนเลียบคลองประปา โดยใช้พื้นที่ข้าง ๆ กับโรงแรม Botanic Service Room โรงแรมขนาด 58 ห้อง ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ร่มรื่น มีเจ้าของคือคุณ วิลลี่-สหัสพล วิรุฬหกุล ซึ่ง Brooks Brunch & Bar ก็คือหนึ่งในธุรกิจของคุณวิลลี่นั่นแหละ เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของแขกที่มาพัก รวมถึงผู้คนละแวกนี้ด้วย เพราะร้านบรันช์ หรือค็อกเทลบาร์ลักษณะนี้ ยังไม่ค่อยมีมากนักในย่านนี้
Brooks Brunch & Bar เป็นร้านที่ตั้งใจเลือกวัตถุดิบที่ดีจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ทั้งหาเอง ชิมเอง ก่อนจะออกมาเป็นเมนูอย่างที่เห็น คุณมายด์เล่าว่า เคยได้กินบรันช์ที่อร่อยมาก ๆ แบบไม่ต้องปรุงอะไรมากมายก็อร่อย เพราะรสชาติมันดีมาตั้งตัววัตถุดิบเลย เลยเชื่อว่าถ้าวัตถุดิบดี ปรุงนิดหน่อยเพื่อดึงคาแรกเตอร์ออกมา ก็อร่อยได้แล้ว
แต่ถ้ามีแค่บรันช์อย่างเดียวน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าได้ไม่ทุกกลุ่ม เลยแตก Product มาเรื่อย ๆ ทั้งไลน์อาหารที่มีจานหลักเข้ามามากขึ้น ลองหยิบค็อกเทลบาร์มาเสริม เพราะก็เป็นสายดื่มกันทั้งคู่ เลยเกิดเป็น Brunch & Bar ขึ้นมา
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/brooks-brunch-and-bar
เปิดทุกวัน เริ่ม 08:30 – 00:00 น. (บาร์ เริ่ม 17:00)
เลียบคลองประปาแจ้งวัฒนะฝั่งเมืองทอง
BTS วัดพระศรีมหาธาตุ แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
ที่จริงแล้ว จุดซ่อนเร้น คาเฟ่ เขามีสาขาแรกในย่านพุทธมณฑลสาย 3 มาก่อน แต่สาขาสองที่ซอยไร่ขิง 36 นี้ มาในคอนเซปต์ Local Coffee เป็นคาเฟ่ที่แฝงตัวอยู่ในพื้นที่โลคอลนี้อย่างลงตัว จึงดีไซน์หน้าตาของคาเฟ่ออกมาให้คล้ายบ้านเก่าย้อนยุคตามต่างจังหวัดในต่างประเทศ โดยลงรายละเอียดมากกว่าสาขาแรกตั้งแต่งานตกแต่ง ตัวร้าน แม้กระทั่งทิศทางของแสงที่จะส่องเข้ามายังตัวร้านก็ศึกษามาพร้อมเพื่อให้แสงในร้านสวยที่สุดด้วย
ตัวเครื่องดื่มที่ JUTSONRAYN CAFE จุดซ่อนเร้น คาเฟ่ สาขาไร่ขิง 36 นี้ โดดเด่นที่การคัดสรรวัตถุดิบมาใช้ ตั้งใจเลือกให้เครื่องดื่มแต่ละแก้วต้องชัดในเมนูนั้น ๆ มากที่สุด ส่วนกาแฟก็ได้ โรงคั่วพระนคร มารังสรรค์ House Blend ให้ โดยใช้เมล็ดไทยจากจังหวัดน่าน และดอยช้าง ที่ให้กลิ่นฟลอรัลหน่อย ๆ ซึ่งเข้ากับการตกแต่งแก้วของร้านที่ใส่ดอกไม้ทานได้ที่ทางร้านปลูกเองลงไปด้วยพอดิบพอดี โดยมีทั้งคั่วกลาง และคั่วเข้ม
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/jutsonrayn-cafe-raikhing-nakornpathom
เปิดทุกวัน เวลา 7:30 – 17:30 น. (Last Order 17:00 น.)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3316 ไร่ขิง สามพราน | มีที่จอดรถ
Hint ตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ได้ปีละหนึ่งสาขา ซึ่งทุกที่ที่ไปจะเลือกใช้ที่ของตัวเองที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาเป็นร้านขึ้นมา ข้อดีคือไม่มีค่าเช่า มีระยะคืนทุนที่รอนานได้หน่อย ไม่ต้องรีบมาก ซึ่งที่ตรงรัตนาธิเบศร์นี้ เดิมทีเคยเป็นโกดังสต๊อกกระจายสินค้า พอที่ตรงนี้ว่างบวกกับจังหวะที่พร้อม มองว่าถึงเวลาที่ต้องขยายแล้ว เลยจัดมารีโนเวททำเป็นสาขาที่ 3
แน่นอนว่าเป็นถึงโรงคั่ว เมล็ดกาแฟเลยมีให้เลือกแบบละลานตามาก ๆ แต่เบสหลักในโถเป็นกาแฟ House Blend ที่มี 2 ตัว เป็นลาว-บราซิล ทั้งคู่ แตกต่างตรงที่ใช้สัดส่วนที่ต่างกัน ตัวแรกเป็น House Blend Black สำหรับอเมริกาโน่ หรือกาแฟผลไม้ มีความเปรี้ยวนิด ๆ เจอน้ำผลไม้แล้วบาลานซ์ดี ไม่เข้มจนกลบรสผลไม้ ส่วนอีกตัวเป็น อีกตัวเป็น House Blend White สำหรับใช้กับนม มี After taste ดี เจอนมแล้วไม่หาย ยังมีรสกาแฟเต็ม ๆ ส่วนเมล็ดกาแฟอื่น ๆ ในร้าน มาจากโรงคั่วตัวเองทั้งหมด มีให้เลือกไม่ต่ำกว่า 30 ตัว ราคาก็จะแตกต่างกันไป เริ่มต้นเมล็ดไทย +20 บาท ส่วนเมล็ดนอกเริ่มที่ +40 ถึง 100 บาท อยากได้โทนไหนคุยกับบาริสต้าได้เลย
ถ้าใครเคยไป MOO YOO จะเห็นว่าอยู่ริมถนนเลย แต่ถ้าตรงเข้าซอยไปหน่อย ลึกเข้าไปจะเป็นธุรกิจของครอบครัวชื่อ โครงการ EVERLAND 18 ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ย่อย ๆ สำหรับขายอาคารโรงงานสำเร็จรูป และมีพื้นหนึ่งที่ติดกับบึงทะเลสาบ ตรงนี้เองที่ MOO YOO เลือกที่สร้างคาเฟ่แห่งใหม่ขึ้นมา ส่วนหนึ่งตั้งใจทำเพื่อ อยากพัฒนาตรงนี้ให้เป็นที่กิน-ดื่ม Support ลูกค้าในโครงการด้วย
MOO YOO Rose House จะมีสองอาคารขนาดใหญ่คู่กัน ฝั่งหนึ่งเป็นคาเฟ่ อีกฝั่งหนึ่งเป็นร้านอาหาร ที่สร้างให้มีความใหญ่โตขนาดนี้มาจากความตั้งใจ คืออยากให้เป็นแลนด์มาร์คของละแวกนี้ เป็นเหมือนจุดเช็คอินที่ถ้าผ่านมาต้องเข้ามา ซึ่งไอเดียมาจากเจ้าของ ซึ่งเป็น 2 พี่น้อง เชฟมีนา ที่เป็นทั้งเชฟทำขนมหวานและของคาว และอีกท่านคือคุณภูมิ ดูแลฝั่งงานโครงสร้าง งานออกแบบ และแบรนด์ดิ้งต่าง ๆ
และถ้าลองเดินไปบนสะพานแล้วหันกลับมาดู จะเห็นว่าฝังคาเฟ่จะเป็นกระจกใสรอบร้าน ส่วนร้านอาหาร จะมีกระจกใหญ่รูปทรงแปลก 3 บาน มองดี ๆ นั่นคือตากับปาก เพราะชื่อร้าน Moo Yoo ถ้าเขียนภาษาไทยคือ มู่ยู่ มาจากคุณยายชอบเรียกเชฟมีนตอนเด็ก ๆ เพราะชอบทำหน้าบึ้ง เลยเอาฉายาที่คุณยายเรียกมาตั้งเป็นชื่อร้าน แล้วเอาาทำเป็นกระจกที่มีกิมมิกซ่อนอยู่ น่ารักมาก ๆ
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/moo-yoo-rosehouse
เปิดทุกวัน 10:00 – 18:00 น.
บางเลน นครปฐม
มีที่จอดรถ
PLOY’s Coffee and bakery เลยถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2020 ที่ซอยราษฎร์บูรณะ 5 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ย่านบางพลี เป็นคาเฟ่สีขาวมินิมอล สไตล์นอร์ดิก เส้นสายดูสะอาดตา ในคอนเซปต์สบาย ๆ ให้เหมือนมาบ้านเพื่อน เปิดต้อนรับลูกค้ามานานถึง 5 ปีแล้ว จุดสำคัญที่ทำให้ PLOY’s Coffee and Bakery เลือกที่จะย้ายบ้านหลังใหม่ มาจากครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น มีสมาชิกเพิ่มขึ้นคือลูกสาวตัวน้อย ๆ
ทางร้านย้ำกับเราหลายทีว่า ร้านไม่ใหญ่นะ เป็นโฮมคาเฟ่ที่อาจจะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนคาเฟ่อื่น ๆ วางโจทย์ไว้ให้เป็นเหมือนมาบ้านเพื่อน ‘Small but Cozy’ ไม่อยากให้คาดหวังว่ามาแล้วต้องสวยเตะตา มีพื้นที่เยอะ ๆ หรือมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เพราะไม่ได้อยากให้ไปในเชิงธุรกิจจ๋า เป็นบ้านที่อยากต้อนรับลูกค้า อยากเจอเพื่อนใหม่ ๆ มากกว่า
เมนูเครื่องดื่มก็ยังมีเยอะเหมือนเดิมนะ แม้จะไม่ใช่ Specialty ด้านกาแฟ แต่คุณเจ๋งก็ใช้ประสบการณ์ที่ไปชิมมานักต่อนักคัดเมล็ดโทนที่ชอบได้ค่อนข้างดีเลย เมล็ดที่ใช้ในร้านจะเป็น ลาว-บราซิล คั่วกลาง ไม่ได้ขมหรือเปรี้ยวเกินไป ทำอร่อยทั้งกาแฟนมและอเมริกาโน่
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/ploys-coffee-and-bakery
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 08:30 – 18:00 น.
ซอยรัตนโชค 6 อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
มีที่จอดรถ
แวะไปแถวงามวงศ์วาน ย่านชินเขตแล้วสะดุดตาคาเฟ่แห่งหนึ่ง ที่มีกำแพงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ปิดหน้าร้านจนมิด เกือบดูไม่ออกว่าข้างในมีร้านกาแฟอยู่ด้านใน เมื่อเข้าไปดูเลยพบว่านี่คือคาเฟ่ที่มีกาแฟดี ๆ ที่ทำให้เราได้รับพลังงานดี ๆ กลับไป คาเฟ่ที่ว่านี้คือ runthru bkk
ที่ร้านจะมีโซนเอาท์ดอร์ พร้อมที่นั่งฟีลแคมป์ ที่ตั้งใจทำเพื่อให้คนที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติได้มาเอนจอยกัน เพราะที่นี่มีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ คอยให้ร่มเงาถึง 3 ต้น ( ต้นประดู่ ต้นโพธิ์ และต้นหว้า) นั่งกันสบาย ๆ เหมือนได้ไปตั้งแคมป์
นอกจากร้านสวย บรรยากาศสบาย ๆ แล้ว เมนูกาแฟยังดีมาก ๆ ด้วย เพราะเค้าให้ความสำคัญกับกาแฟสุด ๆ ทั้งเรื่องของเมล็ด บาริสต้า และเครื่องชง ที่ร้านเลือกใช้เครื่อง BFC Aviator สามารถควบคุมความดันต่าง ๆ ได้ ทำให้บาริสต้าสามารถปรับช็อตกาแฟได้เรียลไทม์ เพื่อให้ได้กาแฟที่ตอบโจทย์ความชอบของลูกค้าแต่ละคน
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/runthru-bkk
เปิดทุกวัน วันธรรมดา 08:00 – 16:30 น. | ส. – อา. 08:00 – 17:00
ปากซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 17
มีที่จอดรถ
เสน่ห์ของ Summer Rain ส่วนหนึ่งมาจากดีไซน์ที่มีความเป็นบ้าน และมีสวนต้นไม้ ดอกไม้ย่อม ๆ ให้เราเห็นเด่นมาก ๆ อยู่ด้านหน้าร้าน และเมื่อขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเจอกับสวนครัวเล็ก ๆ ที่ปลูกพืชผักกินได้อยู่ด้วย และด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นภูมิสถาปนิก ตัวร้าน Summer Rain เลยออกมาสไตล์ Tropical-Floral House ที่มีทั้งสีเขียวและดอกไม้สวย ๆ แต่ไม่ใช่แค่สวนที่ทำเองนะ บ้านทั้งหลังคุณธนาก็ลุยเองหมด ทั้งการออกแบบภายใน ไปจนถึงภายนอก การเลือกเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ต่าง ๆ ทำออกมาได้ฟีลโฮมมี่มาก ๆ
แต่ละเมนูก็เก๋มาก ๆ เพราะทางร้านเริ่มจากดีไซน์หน้าตาอาหารเหมือนกับจัดสวน ให้อาหารมีการดีไซน์ตามสไตล์ภูมิสถาปนิก โดยเริ่มวางไอเดียว่าอยากได้โทนนี้ สไตล์นี้ จากนั้นมีเชฟช่วย Cousult ดูเรื่องความเข้ากันของรสชาติอีกทีจนออกมาเป็นเมนูที่ทั้งสวยและรสชาติดี และของส่วนใหญ่ 70-80% ใช้วัตถุดิบจากในร้าน และเมนูเยอะมากกกกกกก เป็นแนวฟิวชั่น มีทั้งอาหารไทย และตะวันตก
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/summer-rain
งามวงศ์วาน 47
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 08:00 – 21:00 น.
มีที่จอดรถ
จริง ๆ แล้วตัวร้านนี้ก็เป็นบ้านหลังใหม่ของเจ้าของร้านเอง และเป็นพื้นที่ของทั้งคู่ โดยเป็นสวนกล้วยริมคลองมาก่อน รวมถึงพื้นที่จอดรถตรงข้ามร้านด้วย แต่ด้วยชัยภูมิของตัวบ้านที่ติดกับคลองบางแพรกที่บรรยากาศแสนสบาย และยังเต็มไปด้วยธรรมชาติอยู่ รวมถึงการเดินทางที่แม้ว่าจะเข้าซอยมาคดเคี้ยวสักหน่อย แต่จริง ๆ แล้วก็อยู่ใกล้ ๆ เมือง เลยไปนิดก็เป็นเซ็นทรัลเวสต์เกตแล้ว เลยเกิดไอเดียว่า ไหน ๆ ก็จะสร้างบ้านตรงนี้อยู่แล้ว หากลองปรับเปลี่ยนให้เป็นคาเฟ่ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย โดยยกพื้นที่ทั้งหมดของชั้น 1 ให้เป็นตัวร้าน ส่วนพื้นที่ชั้น 2 ก็ใช้อยู่อาศัยของเจ้าของร้านนั่นเอง
ตัวเครื่องดื่มของทางร้านจะเน้นไปที่เครื่องคลาสสิก ง่าย ๆ เป็นหลัก โดยใช้เมล็ดกาแฟจากปางขอน จ. เชียงราย เบลนด์คั่วกลางและคั่วเข้มรวมกัน ส่วนเครื่องดื่มกลุ่ม Non-Coffee ทางร้านจะเน้นในเรื่องของการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมและมีคุณภาพ อย่างโกโก้ก็เลือกใช้แบบพรีเมียมที่มีความเข้มข้น ส่วนใบชาก็เลือกชาไทยที่มีความหอมละมุน ฝั่งเบเกอรีเองเจ้าของร้านจะเป็นคนลงมืออบขนมด้วยตัวเองสำหรับครัวซองค์ หรือครอฟเฟิล และอบชิ้นต่อชิ้นตามที่ลูกค้าออเดอร์ (หากสั่งต้องรอประมาณ 15 นาทีนะ) ส่วนเค้กทางร้านก็คัดเลือกร้านที่ถูกปากตัวเองมาจำหน่าย
อ่านบทความฉบับเต็มที่ https://routeen.co/t-touch-cafe
เปิดวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00 18:00 น.
ซอยวัดบางแพรก บางบัวทอง
MRT บางพลู / สามแยกบางใหญ่ แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
