หนึ่งในคาเฟ่ที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ถึงบรรยากาศได้ คงต้องยกให้ T Touch Cafe คาเฟ่ แห่งนี้ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 เป็นหนึ่งในนั้น เพราะใครจะไปคิดว่าภายหลังของตัวอาคารทรงกล่องสีขาวสุดมินิมอลนี้ หากเดินทะลุตัวร้านไปแล้ว จะกลายเป็นคลองเล็ก ๆ ที่บรรยากาศดีสุด ๆ ที่เราสามารถดูวิถีชีวิตสองฝั่งคลองได้ด้วย เรียกว่ามาที่เดียวได้ 2 อารมณ์กันไปเลย
อีกสิ่งหนึ่งที่เราสนใจไม่แพ้กับบรรยากาศ นั่นคือตัวร้านที่เปิดให้บริการเพียง 3 วันเท่านั้น (เสาร์ – จันทร์) จนเราต้องแอบขอเวลาเจ้าของร้านอย่าง คุณติ๊ก – ณิชาภัทร สัจจาพันธุ์ (ที่วุ่นกับร้านตลอดเวลาเพราะลูกค้าแน่นจริง) มาพูดคุยกันสักหน่อย คุณติ๊กบอกว่าที่เปิดแค่นี้เพราะยังเป็นช่วง Soft Opening อยู่ และทั้งร้านก็ช่วยกันดูแลเพียงแค่ 3 คนกับน้องชาย และแฟนของคุณติ๊กเท่านั้น จึงอยากให้ดูแลอย่างทั่วถึงและให้บริการอย่างดีที่สุดเท่าที่มีกำลังไหว แต่ T Touch Cafe คาเฟ่ นี้จะขยายวันเปิดให้มากขึ้นในอนาคตแน่นอน
“พื้นที่หลังร้านติดคลอง ปกติแล้วจะเป็นคันดินลาดลงไปที่คลอง คุณติ๊กจึงสร้างลานกว้างให้ยื่นออกไปถึงริมคลอง ให้เราได้นั่งที่เก้าอี้โซนนี้ มองดูบรรยากาศสองฝั่งคลอง วิถีชีวิตของผู้คนในย่านนี้ และการเดินทางทางเรือที่หาดูได้ยากในเมืองกันอีกครั้ง”
จริง ๆ แล้วตัวร้านนี้ก็เป็นบ้านหลังใหม่ของคุณติ๊กและแฟนเอง และเป็นพื้นที่ของทั้งคู่ โดยเป็นสวนกล้วยริมคลองมาก่อน รวมถึงพื้นที่จอดรถตรงข้ามร้านด้วย แต่ด้วยชัยภูมิของตัวบ้านที่ติดกับคลองบางแพรกที่บรรยากาศแสนสบาย และยังเต็มไปด้วยธรรมชาติอยู่ รวมถึงการเดินทางที่แม้ว่าจะเข้าซอยมาคดเคี้ยวสักหน่อย แต่จริง ๆ แล้วก็อยู่ใกล้ ๆ เมือง เลยไปนิดก็เป็นเซ็นทรัลเวสต์เกตแล้ว แฟนของคุณติ๊กเลยเกิดไอเดียว่า ไหน ๆ ก็จะสร้างบ้านตรงนี้อยู่แล้ว หากลองปรับเปลี่ยนให้เป็นคาเฟ่ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย โดยยกพื้นที่ทั้งหมดของชั้น 1 ให้เป็นตัวร้าน ส่วนพื้นที่ชั้น 2 ก็ใช้อยู่อาศัยของทั้งคู่นั่นเอง
ตัวบ้านไม่ได้ถูกเปลี่ยนแบบมาเพื่อรองรับกับการเป็นคาเฟ่แต่อย่างใด โดยรูปทรงอาคารทรงเหลี่ยมสูงทรงโมเดิร์นสีขาวนี้เป็นแบบบ้านของคุณติ๊กมาแต่แรกอยู่แล้ว โดยมาจากความชอบในสไตล์มินิมอลของตัวคุณติ๊กและแฟนเอง ส่วนตัวคาเฟ่จะมีการหยิบวัสดุไม้เข้ามาตัดเพิ่มเติม ให้ตัวร้านดูโฮมมี่มากขึ้น และยังช่วยเสริมความเป็นมินิมอลฟีลเกาหลีเข้าไปอีกด้วย
พื้นที่หลังร้านติดคลอง ปกติแล้วจะเป็นคันดินลาดลงไปที่คลอง คุณติ๊กจึงสร้างลานกว้างให้ยื่นออกไปถึงริมคลอง ให้เราได้นั่งที่เก้าอี้โซนนี้ มองดูบรรยากาศสองฝั่งคลอง วิถีชีวิตของผู้คนในย่านนี้ และการเดินทางทางเรือที่หาดูได้ยากในเมืองกันอีกครั้ง ส่วนฝั่งตรงข้ามของร้านที่ปัจจุบันเป็นลานจอดรถ คุณติ๊กก็อยากขยายเฟสต่อไปของคาเฟ่ ลงต้นไม้ใหญ่บริเวณนี้ให้เป็นโซนการ์เดนของทางร้านต่อไป
และเพราะนี่คือบ้านของคุณติ๊กและแฟน ทำให้ตัวชื่อร้านจึงถูกตั้งมาจากชื่อของทั้งคู่ด้วย โดย T ตัวแรกมาจากอักษรตัวหน้าของคุณติ๊ก ส่วน Touch ก็เป็นชื่อแฟนของคุณติ๊กนั่นเอง แต่เปลี่ยนการเขียนใหม่จาก Tat แทน เพื่อให้สื่อความหมายถึงการเชื้อเชิญให้ลูกค้าทุกคนเข้ามาลองสัมผัสพื้นที่นี้ด้วยตัวเองดูสักครั้ง (หรือหลาย ๆ ครั้ง)
ตัวเครื่องดื่มของทางร้านจะเน้นไปที่เครื่องคลาสสิก ง่าย ๆ เป็นหลัก โดยมีน้องชายของคุณติ๊กเป็นผู้ดูแลในส่วนของเครื่องดื่มในร้านทั้งหมด โดยใช้เมล็ดกาแฟจากปางขอน จ. เชียงราย เบลนด์คั่วกลางและคั่วเข้มรวมกัน ส่วนเครื่องดื่มกลุ่ม Non-Coffee ทางร้านจะเน้นในเรื่องของการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมและมีคุณภาพ อย่างโกโก้ก็เลือกใช้แบบพรีเมียมที่มีความเข้มข้น ส่วนใบชาก็เลือกชาไทยที่มีความหอมละมุน ฝั่งเบเกอรีเองทางคุณติ๊กเป็นคนลงมืออบขนมด้วยตัวเองสำหรับครัวซองค์ หรือครอฟเฟิล และอบชิ้นต่อชิ้นตามที่ลูกค้าออเดอร์ (หากสั่งต้องรอประมาณ 15 นาทีนะ) ส่วนเค้กทางร้านก็คัดเลือกร้านที่ถูกปากตัวเองมาจำหน่าย
เราลอง Americano ช่อดอกมะพร้าว (110 บาท) อเมริกาโน่คั่วเข้มที่เติมน้ำเชื่อมช่อดอกมะพร้าวเข้าไป ได้กลิ่นหอมของดอกมะพร้าวอย่างชัดเจน สั่งคู่มากับ Croissant Almond (65 บาท) หรือ Croffle Original (60 บาท) ที่ไม่หวานมาก กรอบกำลังดี ก็เรียกว่าเข้ากันอย่างลงตัว แต่หากใครไม่ชอบกินหวานอาจไม่เหมาะกับแก้วนี้เท่าไหร่นะ
มาลองเครื่องดื่มตัวอื่นกันบ้าง ทั้ง Matcha Latte (95 บาท) มัตฉะเข้มข้นฝาดนิด ๆ หวานหน่อย ๆ หรือจะลอง Thai Tea ก็รสชาติเข้มข้นไม่แพ้กัน ส่วนใครที่ชอบโกโก้จะลองเป็น Premium Cocoa (80 บาท) ก็ได้นะ
และหากได้เห็นสนามหญ้าสีเขียวกว้างที่หน้าร้านมันยั่วยวนให้ปิกนิกขนาดไหน ขอบอกว่าในช่วงหน้าหนาวนี้ T Touch Cafe คาเฟ่ จะถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านชาบูในช่วงเย็นเวลา 18:30 – 22:00 น. อีกด้วย (เฉพาะพื้นที่ด้านนอกที่สนามหญ้าและลานริมคลองเท่านั้นนะ) พร้อมดนตรีโฟล์คซอง และคาดว่าน่าจะเปิดในวันศุกร์ – อาทิตย์ โดยมีน้ำซุปให้เลือก 3 ซุป ได้แก่ ซุปกระดูกหมู ซุปญี่ปุ่นน้ำดำ และซุปแจ่วฮ้อนสูตรพิเศษของทางร้าน ลมหนาวมาเมื่อไหร่มั่นใจได้เลยว่าซดชาบูชิลล์ ๆ ฟินแน่นอน!
T Touch Cafe
เปิดวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00 18:00 น.
ซอยวัดบางแพรก บางบัวทอง
MRT บางพลู / สามแยกบางใหญ่ แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
