เปิดบ้านใหม่ของ Keep calm and eat pies ร้านขายจานชามวินเทจ ที่ตอนนี้มีไอศกรีมสีหวานพร้อมเสิร์ฟ

ไม่นานมานี้ Routeen. ได้พาไปแวะคาเฟ่สุดป๊อบที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 41 (แวะกลับไปดูได้ที่ THE ORDINARY MANSION คาเฟ่ สุดสนุก ที่หยิบเอาความ MID-CENTURY MODERN มาเปลี่ยนฟีลลิ่งให้คาเฟ่เล่นกล้องได้ทุกมุม) อย่างที่เราเคยบอกว่าซอยนี้มีร้านเท่ ๆ อีกหลายร้านที่เราอยากพาไปทำความรู้จัก หนึ่งในนั้นมีร้านจานชามวินเทจในบ้านสีชมพูหวาน ที่เราเพิ่งรู้ว่านี่ก็คือ ร้าน Keep calm and eat pies ร้านขายจานวินเทจที่เปิดมานานกว่า 8 ปี ที่ K-Village เพิ่งจะย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านในซอยนี้ได้ไม่นาน

ใครเป็นแฟนจานวินเทจสไตล์อังกฤษ น่าจะคุ้นหูกันบ้างกับร้าน Keep calm and eat pies เพราะอย่างที่บอกว่าเค้าเปิดมานานมากแล้ว ปักหลักอยู่ที่ K-Village นานถึง 8 ปี ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงตัดสินใจย้ายมาเปิดบ้านหลังใหญ่ที่ตรงนี้ (ซึ่งใหญ่กว่าเดิมมาก) เราเลยชวนคุณ มิ้งค์ – ภาวศุทธิ สรรพสิทธิ เจ้าของร้านมานั่งพูดคุยกันสักหน่อย และยังมี คุณแม่หทัยรัตน์ จรศาสตร์ มาร่วมวงด้วย

ชื่อร้าน Eat pies แต่ขายจาน

หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าชื่อร้าน Keep calm and eat pies แต่ทำไมดันขายจานซะงั้น ดูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย คุณมิ้งค์เลยเฉลยว่า ที่มาของชื่อมาจากการขายพายจริง ๆ นะ แต่ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน เธอเป็นสไตล์ลิสต์ที่แมกกาซีน Cheeze looker และตอนนั้นมีงาน Cheeze Car Boot Sale ที่ลานเซนทรัลเวิลด์ เรียกว่าเป็นแมกกาซีนหัวแรก ๆ ที่ทำงานเปิดท้ายขายของเลย

อย่างที่บอกว่ามันใหม่มาก พอเริ่มเปิดขายพื้นที่หรือขายล็อก ก็เลยขายไม่หมด ทางทีมเลยคิดกันว่าถ้าล็อกไม่เต็มของไม่เยอะ คนก็ไม่อยากมาเดินแน่ ๆ จะทำยังไงดีนะ เลยชักชวนให้คนในออฟฟิศมาขายของกันให้ล็อกมันดูเต็ม ๆ คุณมิ้งค์ที่มีทำขนมอยู่บ้าง เลยตัดสินใจทำพายง่าย ๆ ไปขาย และตั้งชื่อร้านว่า Keep calm and eat pies มาตั้งแต่ตอนนั้น

ความบังเอิญคือตอนที่ไปขายพาย หยิบเอาจานชามอังกฤษวินเทจที่สะสมอยู่แล้วไปวางตกแต่งร้าน และวางขนมให้ดูน่ารัก ๆ สรุปว่ามีคนสนใจซื้อจานเยอะกว่าพายซะงั้น กลายเป็นจุดประกายว่าก็มีคนที่ชอบของเหล่านี้อยู่เหมือนกัน

“ที่ชอบสะสม เริ่มมาจากการไปเที่ยว แล้วเห็นว่ามันเป็นของ Antique ยุโรปแล้วมันน่ารัก เวลาไปเที่ยวก็เลยซื้อเก็บมาตลอด มีทั้งจานทั้งของแต่งบ้าน ของกระจุ๊กกระจิ๊กเล็ก ๆ น้อย ๆ”

พอมีคนสนใจก็เริ่มออกบูธบ้างที่ K-village แต่ไม่ได้เปิดประจำเพราะยังทำงานประจำอยู่ ไป ๆ มา ๆ เริ่มมีลูกค้าถามหนาหูขึ้นว่าจะไปเปิดที่ไหน เมื่อไหร่บ้าง จะตามไปซื้อ ด้วยความที่ทำกันเองกับคุณแม่ ไม่ได้จ้างใครเลย ออกบูธแต่ละทีก็ต้องยกของไปมา (ซึ่งหนักมาก) เลยตัดสินใจไม่ออกบูธแล้ว เช่าที่ตรง K-Village อยู่ประจำไปเลย จนกลายเป็นเปิดยาว ๆ มา 8 ปี

ย้ายบ้านสู่สาธุประดิษฐ์

จุดที่ทำให้ตัดสินใจย้าย ส่วนหนึ่งเพราะค่าเช่า แล้วร้านก็เล็กมากแค่ 4×3 ตร.ม. บวกกับเปิดช่องทางขายออนไลน์อยู่แล้วด้วย มีฐานลูกค้าอยู่แล้วประมาณหนึ่ง เลยตัดสินใจออกมา ซึ่งจริง ๆ ตั้งแต่แรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำหน้าร้านจริงจังขนาดนี้ แค่อยากหาพื้นที่เก็บของ เพราะของที่มีเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ทั้งนั้น และคิดว่าอยากหาพื้นที่ที่แมสเซนเจอร์ยังวิ่งไปมาได้สะดวก เพราะก็ยังมีลูกค้าที่อยากรับของเลยทันที มองหาหลายที่มากจนมาเจอที่นี่

คุณมิ้งค์เล่าว่าที่เจอตรงนี้ได้ เพราะมาคาเฟ่ที่อยู่ในซอยนี้อยู่แล้ว (ชื่อร้าน Envies ที่เราจะเล่าให้ฟังในครั้งหน้า) บังเอิญเจอว่าตรงนี้ยังว่าง ติดป้ายให้เช่าอยู่พอดี แล้วข้างกันก็มีร้านที่น่ารักมากๆ อย่าง Envies และ The Ordinary Mansion ด้วย

กว่าจะมาเป็นร้านหวาน ๆ อย่างที่เราเห็น เธอบอกไม่ได้คิดว่าจะออกมาเป็นรูปแบบนี้เลย เพราะสภาพบ้านตอนแรกก็เอาเรื่องอยู่ เป็นบ้านเก่า 40 ปีที่เยินมาก ที่เห็นนี้ก็คือรีโนเวทใหม่ทั้งหมด พื้นก็ทำใหม่ ระบบไฟก็จัดการเดินระบบใหม่ทั้งหลัง (พอทำไปทำมาก็โดนค่ารีโนเวทไปเยอะเรียกว่างบบานกันเลย)

พูดถึงดีไซน์การตกแต่ง ถ้าใครเคยไปร้านที่ K-village ก็จะรู้เลยว่า ผนังสีชมพูสีเดียวกันเป๊ะ ชนิดที่โค้ดสีใช้เลขเดียวกัน เฟอร์นิเจอร์อย่างตู้ ชั้นวางของ รวมถึงเคาน์เตอร์ก็ยกมาจากที่นู่นทั้งหมด (ที่เธอยังงงว่าตั้งแต่ตอนนู้นยัดเข้าไปได้ยังไงหมด)

แต่จุดไฮไลต์ที่ดีไซน์ขึ้นมาใหม่ และน่าจะดึงดูดใครหลาย ๆ คน ก็คือส่วนของหน้าร้าน ที่เป็นมุมหน้าต่างบ้านใหญ่ เข้ากับประตูไม้และโคมไฟสีทอง เหมือนกับช็อปวินเทจในอังกฤษ

ส่วนจานชามที่มีตอนนี้จะเป็นสไตล์วินเทจยุโรป-อังกฤษ รวมไปถึงของกระจุ๊กกระจิ๊กอีกเพียบ และยังมีลายที่ร้านออกแบบและผลิตขึ้นมาเองด้วยนะ จุดเริ่มต้นในการผลิตลายของตัวเองมาจากลูกค้าเริ่มอยากได้ลายเดียวกันจำนวนมาก ๆ มีรีเควสพิเศษเช่นอยากจัดโต๊ะยาว ใช้จานลายเดียวกัน 20 ใบ แต่ด้วยความเป็นวินเทจเลยอาจมีไม่ครบตามต้องการขนาดนั้น ก็เลยดีไซน์ลายเป็นคอลเลกชันของตัวเองขึ้นมาซะเลย รวมถึงยังเคย Custom ลายพิเศษตามความต้องการลูกค้าอีกด้วยนะ ไปสุดเรื่องจานวินเทจสุด ๆ

Keep calm and eat pies มีไอศกรีมพร้อมเสิร์ฟ

ความแตกต่างระหว่างบ้านสาธุประดิษฐ์ และ K-village นอกจากความกว้างของร้านที่เพิ่มขึ้น (มาก) ก็คือมีเมนูขนมเกิดขึ้นมา ด้วยความอยากให้ร้านดู Lively มากขึ้น แต่ออกตัวก่อนว่าที่ร้านขายจานชามเป็นหลักอยู่ดีนะ ไม่ได้จะเป็นคาเฟ่จ๋า ๆ ขนาดนั้น มีที่นั่งไม่กี่ที่เผื่อลูกค้ามาเลือกจาน เลือกซื้อของ มีที่นั่งให้นั่งพักกินน้ำกินขนมนิดหน่อย

เริ่มแรกมีไอศกรีมมาก่อน แล้วก็คิดว่าลูกค้าน่าจะอยากดื่มน้ำ เลยเพิ่มเครื่องดื่มง่าย ๆ ขนมพุดดิ้ง และเอาพายตัวต้นเรื่องกลับมาอีกครั้งด้วย คุณมิ้งค์บอกที่เลือกเป็นไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟ เพราะส่วนตัวชอบแล้วก็ไปกินมาหลายที่ เลยอยากให้มีไอศกรีมที่ร้าน

“พอคิดว่าเป็นไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟ ก็พยายามคิดว่าจะทำยังไงให้แตกต่าง เหมือนว่าเค้าไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน เห็นแล้วว้าว แล้วรสชาติต้องอร่อยจนอยากกลับมากินอีก เลย Custom ไอศกรีมออกมาเป็นสีและรสชาติที่ชอบ”

ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟที่ Custom ออกมาเป็นสีฟ้าที่ Photogenic มาก ๆ เห็นสีหวานแบบนี้ไม่ใช่รสบลูเบอร์รี่ แต่นี่คือ ไอศกรีมมะพร้าวนมสดอัญชัน (แบบโคน 89 บาท) ความพิเศษคือเป็นซอฟท์เสิร์ฟที่ใส่น้ำมะพร้าวและกะทิสดลงไป เพิ่มความมันนัวกว่าเดิม รสชาติหวานมันกำลัง กินเพลินสุด ๆ เพิ่มท็อปปิ้ง (20 บาท) ได้รวงผึ้งหวานฉ่ำ มะพร้าวอบกรอบ และ Coco pops กรุบ ๆ เข้ากันได้ดี

แอบบอกว่าไอศกรีมที่คิดสูตรขึ้นมา คุณมิ้งค์ตั้งใจจะทำแบรนด์จริงจังในอนาคตเลยนะ ใช้ชื่อว่า Coco’s babe อาจจะเข้าไปอยู่ในห้าง หรือต่อยอดแตกไลน์เมนูอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับมะพร้าวขึ้นมาอีก รอติดตามได้เลย

เครื่องดื่มที่เราเลือกเป็น Lychee Yogurt Soda (89 บาท) ไซรัปลิ้นจี่โยเกิร์ต รสชาติหอมหวานในโซดาซ่า ๆ ให้ความสดชื่นดี ความเก๋คือมีน้ำแข็งก้อนกลมและดอกไม้สีชมพูหวานและตัดด้วยเลมอนสีเหลือง เป็นแก้วที่ไวบ์เข้ากับร้านมาก ๆ

นอกจากขายจานชามวินเทจ ที่ชั้น 2 ก็ตั้งใจทำเป็นสตูดิโอให้เช่าด้วย เพราะอยากทำอะไรที่รองรับลูกค้าได้หลาย ๆ กลุ่ม เราแอบขึ้นไปดู พื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย อาจจะมีการตกแต่งที่ฟูลออฟชั่นกว่านี้ ใครสนใจก็รอติดตามได้เลย 

Keep calm and eat pies
เปิดทุกวัน 11:00 – 19:00 น. (ไอศกรีมเสิร์ฟถึง 18:00 น.)
ซอยสาธุประดิษฐ์ 41 ช่องนนทรี ยานนาวา
BTS ช่องนนทรี แล้วต่อแท็กซี่ | ไม่มีที่จอดรถ
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article