หลังจากที่เราได้ทราบข่าวอย่างเป็นทางการว่า แบรนด์ร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่นอย่าง NITORI เขากำลังจะมาเปิดสาขาแรกที่กรุงเทพฯ บ้านเราในช่วงเดือนกันยายน 2566 เราก็ตั้งตารอเพื่อจะได้แวะเวียนเข้าไปดู (และชอปติดไม้ติดมือสักชิ้นสองชิ้น) ในที่สุดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา สาขาแรกในบ้านเราของ NITORI ประเทศไทย ก็ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้า CentralwOrld

ตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ฝั่งโซนใหม่ของศูนย์การค้า (โซนอิเซตันเดิม) โดยขนานกับด้านกว้างของอาคาร หากเทียบกับร้านเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านแบรนด์อื่น ๆ ในบ้านเรา คงเทียบขนาดพื้นที่ได้กับ Homepro หรือ Index Living Mall ที่ตั้งในห้างสรรพสินค้า มากกว่าแบรนด์สวีเดนอย่าง IKEA ที่ตอนแรกเราเองก็หวังว่า NITORI ประเทศไทย จะมีขนาดใหญ่ไม่แตกต่างกับ IKEA เสียอีก

โดยแบรนด์นี้เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2510 สาขาแรกตั้งอยู่ในฮอกไกโด ตอนนั้นก็ต้องบอกว่า NITORI เป็นเพียงร้านขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านตามปกติ แต่พอผู้ก่อตั้งได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากเปิดมาแล้ว 2 สาขา ก็ต้องพบว่าทำไมชาวอเมริกันถึงแต่งบ้านกันสวยมาก ๆ สวยจนบ้านคนญี่ปุ่นดูจืดไปเลย ทั้งการจับคู่สี การเลือกวัสดุ ม่านสีนั้นคู่กับพรมสีนี้ กระเบื้องแบบนั้นคู่กับไม้ลายนี้ ทำให้บ้านดูเป็นหนึ่งเดียวกัน แถมราคาสินค้าก็ถูกกว่าที่ญี่ปุ่นอีกเยอะ


ผู้ก่อตั้งจึงกลับมาเปลี่ยนโฉมร้านของเขาเสียใหม่ โดยตั้งใจว่าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านของเขาจะต้องสวย มีคุณภาพ และราคาจับต้องได้ นอกจากนี้ยังมีโมเดลคล้ายกับ IKEA คือการสร้างห้องตัวอย่างขึ้นมาให้ลูกค้าเห็นไปเลยว่าถ้าชอบแต่งห้องแนวนี้ ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบไหน ทำให้คนญี่ปุ่นชอบมาก
“แม้จะเป็นสินค้าจากญี่ปุ่น แต่ก็เน้นการใช้งานมากกว่าจะมาในแบบมินิมอล หรือเีไซน์ตามมายาคติว่าจะสินค้าญี่ปุ่นจะต้องคลีน ๆ เกลี้ยง ๆ เรียบง่ายแต่ลงตัว แต่จะเป็นไอเท็มที่หากได้ดูละครญี่ปุ่นที่ตัวละครจะต้องอยู่ในแฟลต หรือบ้านเช่า จะมีสินค้าแบบนี้อยู่”

ตัวร้านจะแบ่งออกได้เป็น 18 โซนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่โซนอุปกรณ์จัดเก็บของใช้ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อุปกรณ์สำหรับตู้เสื้อผ้า ผ้าม่าน หมอนอิงและรองเท้าในบ้าน พรม สินค้าสำหรับเด็ก เครื่องนอน เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร อุปกรณ์ซักรีดและทำความสะอาด ของใช้ในห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน เฟอร์นิเจอร์โฮมออฟฟิศ ตู้ครัว เฟอร์นิเตอร์ห้องรับประทานอาหาร เฟอร์นิเจอร์ห้องนั่งเล่น และโชว์รูม

การจัดวางสินค้าในร้านจะคล้ายกับร้านกลุ่มโฮมโปร หรืออินเด็กซ์มากกว่า คือเน้นการจัดวางสินค้าที่แบ่งเป็นล็อก ๆ คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ได้เป็น Route เส้นทางเดินเหมือนกับ IKEA รวมถึงโชว์รูมที่มีห้องตัวอย่างให้ดูก็ไม่ได้มีมากนัก อาจด้วยเพราะพื้นที่ที่ไม่ได้มีมาก แต่ด้วยความพิเศษของพื้นที่ที่มีระเบียงกว้างเอาต์ดอร์จริง ๆ จึงสามารถจัดแสดงสินค้ากลุ่มเอาต์ดอร์ เช่น เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ สำหรับใช้ในสวนหรือพื้นที่นอกอาคารได้จริง ๆ ด้วย
แม้จะเป็นสินค้าจากญี่ปุ่น แต่ก็เน้นการใช้งานมากกว่าจะมาในแบบมินิมอล หรือดีไซน์ตามมายาคติว่าจะสินค้าญี่ปุ่นจะต้องคลีน ๆ เกลี้ยง ๆ เรียบง่ายแต่ลงตัว แต่จะเป็นไอเท็มที่หากได้ไปบ้านคนญี่ปุ่นจริง ๆ หรือได้ดูละครญี่ปุ่นที่ตัวละครจะต้องอยู่ในแฟลต หรือบ้านเช่า จะมีสินค้าแบบนี้อยู่ ซึ่งใช้งานได้จริงและน่าสนใจหลาย ๆ ชิ้นทีเดียว ที่สำคัญคือยังใส่ใจในดีไซน์ และราคาจับต้องได้ หลายชิ้นผลิตในประเทศญี่ปุ่นจริง ๆ


มีผลิตภัณฑ์หลายชิ้นที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องนอนที่ใช้นวัตกรรม N-COOL ที่สร้างความเย็นในตอนนอนให้กับเราได้ พร้อมทั้งช่วยลดความร้อนที่มีในร่างกายได้ด้วย โดยมีทั้ง แผ่นรองหมอน ผ้าห่มนวม และแผ่นรองที่นอน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกความเย็นได้ถึง 3 ระดับ ตั้งแต่ระดับ 1 (เย็น) ระดับ 2 (เย็นมาก) และระดับ 3 (เย็นที่สุด) นอกจากผลิตภัณฑ์ที่เลือกระดับความเย็นได้ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เทคโนโลยี N-COOL เช่นกัน ได้แก่ ผ้าห่มเย็น (ผืนจะบางกว่าผ้าห่มนวม) และหมอน

ชุดโต๊ะอาหารที่เน้นใช้วัสดุไม้มาเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ดูอบอุ่นและโฮมมี่มากขึ้น ดีไซน์มีความเป็นญี่ปุ่นแบบมินิมอลดีมาก ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกเข้าชุดระหว่างโต๊ะและเก้าอี้ได้ตามความต้องการ สิ่งที่น่าสนใจคือ เรารู้สึกว่าความสูงของโต๊ะและเก้าอี้จะต่ำกว่าที่เราคุ้นเคย คาดว่าด้วยการออกแบบที่ยึดหลักของพื้นที่และการใช้งานของคนญี่ปุ่นมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าเตี้ยจนนั่งลำบากแต่อย่างใด กลับทำให้มุมนี้จะดูน่ารักขึ้นอีกด้วยนะ

ฝั่งเครื่องนอนก็มาพร้อมเครื่องหมาย N-Sleep ของ NITORI เอง ซึ่งก็มีการใช้วัสดุภายในที่นอนที่หลากหลาย เช่น โพรียูรีเทน ขนนก เม็ดบีดส์ และวัสดุอื่น ๆ อีกมากมาย หากไปที่ร้าน ก็จะสามารถลองขึ้นนอนได้สบาย ๆ โดยเชื้อเชิญให้เราลองนอนโดยไม่ต้องถอดรองเท้าด้วยนะ


นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ หมอน “โมจิโมจิ” หมอนที่นุ่มชวนกอดเป็นพิเศษ ที่มาในรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งหมอนหนุน หมอนอิง หมอนยาว, จานชาม และเครื่องครัวที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ช่วยให้คุณแม่เตรียมอาหารและเก็บจานได้สบายไม่เมื่อยมากขึ้น ที่คว่ำจานแบบม้วนได้, ผ้าม่านหมากหลายลายที่มาพร้อมกับทีมงานช่วยดูแลเรื่องการติดตั้งและวัดพื้นที่ให้, Reed Diffusers ไปจนถึงอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็ก

ในช่วงเปิดร้านอย่างเวลานี้ ทาง NITORI ประเทศไทย ก็จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย ทั้งลดเพิ่ม 5% เมื่อซื้อสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท หรือรับถุงชอปปิงใบใหญ่ เมื่อซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท เป็นต้น นอกจากนี้ ทาง NITORI ประเทศไทย ก็เตรียมตัวที่จะขยายสาขาออกไปอีกภายในปีนี้ ที่แน่ ๆ แล้วคือ Central Westgate และ Seacon Bangkae นั่นเอง เรียกว่าต่อไปเราก็สามารถชอปสินค้าตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์ในการมีตัวเลือกมากขึ้นสำหรับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นั่นเอง
NITORI THAILAND
เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.
ชั้น 5 ศูนย์การค้า CentralwOrld
ราชประสงค์ ปทุมวัน
BTS สยาม / ชิดลม | มีที่จอดรถ