ถึงเวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักคาเฟ่เชอร์รี่ยักษ์ย่านปิ่นเกล้าอย่าง Cham.thing ที่หลาย ๆ คนเคยแวะเวียนไปแล้ว และอีกหลายคนตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้ง (Routeen. เองก็ไปมาแล้วววว อ่านอีกครั้งที่นี่เลย) แต่พอตกเย็น เราไม่อยากให้พลาด ‘Cham Bar’ ที่ตั้งอยู่ชั้น 2 เหนือคาเฟ่ด้วย เพราะไวบ์ดีไม่แพ้กัน!
เรายังคงจับตัว คุณก้อง – ธวัชชัย สาริสุทธิ์ เจ้าของร้าน Cham Thing รวมถึงบาร์ และสตูดิโอที่อยู่ในอาคารเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าอย่าง c.h.m.official และ cham.him ที่ปักหลักอยู่ใน Instagram ที่หลายคนรู้จักกันอยู่แล้วด้วย มาคุยเรื่องราวของบาร์แห่งนี้
บรรยากาศของร้านจะเน้นไวบ์สบาย ๆ มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่มีความแตกต่างกัน แต่พอนำมาวางด้วยกันแล้วเข้ากันอย่างลงตัว รวมถึงวัสดุที่เลือกนำมาใช้ด็แตกต่างกัน ทั้งหิน ไม้ อลูมิเนียม โดยหยิบเอาคอนเซปต์ตามชื่อร้านอย่าง Cham (ชำ) มาใช้ คือการเลือกเอาสิ่งที่ชอบ แล้วมาวางรวมกัน เหมือนร้านชำที่มีของหลากหลายแต่อยู่ด้วยกันได้ งานตกแต่งที่ดูโมเดิร์น และมีความ Mid Century หน่อย ๆ จึงมารวมกับอาหารอีสาน ค็อกเทล และอิตาเลียนได้แบบไม่น่าเชื่อแบบนี้
ด้วยอาคารนี้เคยเป็นธนาคารเก่ามาก่อน พื้นที่ชั้นสองเดิมถูกทำเป็นห้อง ๆ ซอยย่อยเพื่อใช้ในแผนกต่าง ๆ ทางร้านจึงลงมือรื้อออกทั้งหมดให้เป็นพื้นที่โล่ง ๆ และเปลี่ยนกำแพงให้เป็นกระจกเพื่อสร้างความโปร่งให้กับตัวร้าน เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพื่อให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปได้เรื่อย ๆ
“เรื่องอาหารต้องบอกว่าที่นี่เขามา (ตะวันออกเฉียง) เหนือ! เพราะเห็นเป็นบาร์เก๋ ๆ ฟีลโมเดิร์นแบบนี้ แต่ที่นี่เขาเสิร์ฟอาหารอีสานแบบแท้ ๆ อย่างที่บอกว่าทีมของร้านเองก็เป็นคนอีสานด้วย โดยเน้นความอีสานแบบหนองคาย”
แล้วทำไมบาร์ที่นี่ถึงมีอาหารอีสานแบบจริงจังขนาดนี้ล่ะ? จุดนี้ไม่ต้องแปลกใจ เพราะตัวคุณก้องเองก็เป็นคนจังหวัดหนองคาย คลุกคลีกับวัฒนธรรมและอาหารอีสานมาตั้งแต่เกิด พอมีโอกาสได้เปิดบาร์และร้านอาหารเป็นของตัวเอง ก็อยากจะนำอาหารอีสานมาทำให้ทุกคนรู้จักกันมากขึ้น และแสดงออกให้เห็นว่า อาหารอีสานก็สามารถไปได้กับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคนี้ ที่สามารถไปด้วยกันได้กับบาร์สวย ๆ แม้กระทั่งจะวางจานส้มตำคู่กับไวน์ดี ๆ สักแก้วก็ไม่รู้สึกผิดที่ผิดทางแต่อย่างใด
ค็อกเทลที่นี่หยิบจับเอาความสนุกของแนวเพลงมาเป็นโจทย์ เพราะที่นี่เองก็เปิดเพลงแนว Pop-Jazz และ Old School 90’s ที่สนุกสนาน แถมในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ยังมีดีเจและดนตรีสดอีกด้วย เครื่องดื่มจึงหยิบเอาแนวเพลงต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกัน บนเมนูที่สกรีนลงบนแผ่นเสียงสุดเท่
เราลองซิกเนเจอร์อย่าง Velvet Moonshine (320 บาท) เบสวอดกา เชอร์รี่ เลมอน และโฟมไข่ขาว ประดับด้วยเชอร์รี่สดที่เป็นดั่งเอกลักษณ์ของ Cham แก้วนี่ดื่มง่าย และกลิ่นเชอร์รี่หอมชัด และยังมีกิมมิกน่ารัก ๆ ด้วยการแนบไพ่ทำนายมาตอนเสิร์ฟด้วย เราได้ไพ่ Nine Of Cups ที่เรียกว่าลัคกี้สุด ๆ เลยล่ะ
ต่อกันที่ Cherry Signature (320 บาท) เครื่องดื่มคราฟต์รสเชอร์รี่สูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ให้ฟีลโรเซ่นิด ๆ แต่บอดี้จะหนากว่า นอกจากนี้ยังมีเป็น Peach / Lychee และ IPA หมุนเวียนกันไปด้วย
อีกแก้วกับ Umeshu ที่มีให้เลือกว่าจะลองอุเมะชูจากเชียงใหม่ (230 บาท) หรือกาญจนบุรี (190 บาท) เราลองเป็นของเชียงใหม่ ที่ทางร้านจะเสิร์ฟมาในแก้วทรงเตี้ย พร้อมจอกที่ใส่โซดามาให้เราเติมเองได้ตามใจ
เรื่องอาหารต้องบอกว่าที่นี่เขามา (ตะวันออกเฉียง) เหนือ! เพราะเห็นเป็นบาร์เก๋ ๆ ฟีลโมเดิร์นแบบนี้ แต่ที่นี่เขาเสิร์ฟอาหารอีสานแบบแท้ ๆ อย่างที่บอกว่าทีมของร้านเองก็เป็นคนอีสานด้วย โดยเน้นความอีสานแบบหนองคาย วัตถุดิบต่าง ๆ นำเข้าจากเมืองหนองคาย ผักสดบางชนิดก็เป็นผักประจำถิ่นหนองคาย ขนาดแม่ครัวยังมาจากหนองคายเลยนะ (แต่ก็ยังมีอาหารอิตาเลียนให้เลือกชิมอยู่ด้วย)
เราได้ลอง ตำมหาสมุทรไทย (199 และ 359 บาท) ส้มตำที่ใส่เครื่องซีฟู้ดมาแบบแน่น ๆ ทั้งหอยแมลงภู่ กุ้งสุก ปลาหมึกสุก มาพร้อมขนมจีน โดยสามารถสั่งแบบใส่หรือไม่ใส่ปลาร้าก็ได้ เราสั่งแบบใส่ปลาร้ามา ต้องบอกว่านัวคักและทำถึงเกินอาหารในบาร์ไปมาก! ถึงเครื่องอีสานแบบ จริง ๆ ที่สำคัญคือปลาร้าข้น แต่ไม่เค็มโดด และไม่มีกลิ่นเลย
อีกจานกับ ยำสามยอไข่แดงเค็ม (279 บาท) ที่มีทั้งหมูยอ หมูยอหนัง และหมูยอเห็ด พร้อมไข่แดงเค็มเนื้อหนึบ เป็นอีกจานที่ทำได้ถึงเครื่องไม่แพ้ร้านยำที่ไหน
ไหน ๆ ทางร้านก็มีอาหารอิตาเลียน เราจึงขอลอง สปาเกตตี้กุ้งครีมซอสไข่เค็ม (299 บาท) สปาเกตตี้เคลือบซอสไข่เค็มแบบทั่วถึง ใส่เนื้อกุ้งหั่นเต๋า ท็อปด้วยกุ้งตัวใหญ่และโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง เป็นอีกจานฟิวชันที่รสจัดจ้าน เค็ม ๆ มัน ๆ ของไข่เค็มมาครบเลย
แอบบอกว่าภายในเดือนนี้ ทางร้านจะเปิดโซน Rooftop ให้เราได้ขึ้นไปนั่งชมวิวรับลม แต่งสไตล์บาหลี แต่ก็ยังมีเชื่อมความเป็นบาร์ที่ชั้นสองอยู่ด้วย และที่ชั้นรูฟท็อปจะมีบาร์บีคิวด้วยนะ
Cham Bar
เปิดทุกวัน 18:00 – 02:00 น. (เสาร์ – อาทิตย์ เปิด 12:00 น. และชั้นรูฟท็อป ปิด 24:00 น.)
ชั้น 2 ซอยบรมราชชนนี 12 บางพลัด
MRT บางยี่ขัน แล้วต่อแท็กซี่ | มีที่จอดรถ
