ร้อน ๆ แบบนี้ ต้องมีตัวช่วยดับร้อน! และไอศกรีมหวาน ๆ เย็น ๆ คือตัวช่วยที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ เราอาจจะคุ้นเคยกับไอศกรีมเจลาโตจากอิตาลีมาไม่น้อย แต่วันนี้ Routeen. อยากพาทุกคนไปดับร้อนด้วยไอศกรีมสไตล์ฝรั่งเศสที่ La Vanille Ice Cream ร้าน ไอศกรีม น้องใหม่ แต่ฝีมือไม่ใหม่ กับสาขาแรกในกรุงเทพฯ ที่ The Emporium
ที่บอกว่าฝีมือไม่ใหม่ ก็เพราะแบรนด์ lavanille ผลิต ไอศกรีม มากว่า 15 ปีแล้ว คุณเบตตี – โชติกา ทัศกร Shop Manager เล่าให้เราฟังว่า ทางแบรนด์เป็น Supplier ให้กับหลากหลายธุรกิจในประเทศไทย ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สายการบิน คาเฟ่ และอื่น ๆ มาโดยตลอด ในยุคโควิด-19 ทางแบรนด์มีโอกาสขยายออฟฟิศไปยังภูเก็ต ทำให้มีโอกาสลองเปิดที่ภูเก็ตมาแล้ว 3 สาขา ก่อนที่จะมาลุยธุรกิจในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก และเพิ่งเปิดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง
ถึงอย่างนั้น สำหรับชาวราชพฤกษ์อาจจะคุ้น ๆ กับชื่อแบรนด์นี้อยู่บ้าง เพราะจริง ๆ แล้วก่อนที่ทางแบรนด์จะมาเปิดหน้าร้านในกรุงเทพฯ เป็นของตัวเอง ได้มีการขายแฟรนไชส์ให้มาเปิดร้านที่ย่านราชพฤกษ์มาก่อนนั่นเอง ที่เอมโพเรียมจึงนับเป็นสาขาแรกในกรุงเทพฯ ของตัวเองแบบเป็นทางการ
และเพราะเจ้าของ ร้าน ไอศกรีม lavanille เป็นชาวฝรั่งเศส ไอศกรีมที่นี่จึงมาในรูปแบบฝรั่งเศส ที่เนื้อไอศกรีมจะแตกต่างกับเจลาโต ไม่เหนียวหนืด แต่จะออกไปทางแน่น ๆ มากกว่า โดยจะมีส่วนผสมหนึ่งที่ชื่อ Crème-anglaise (แครม-อองแกลส) ที่คล้ายวิปครีม ประกอบอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย
“ไอศกรีมที่นี่จึงมาในรูปแบบฝรั่งเศส ที่เนื้อไอศกรีมจะแตกต่างกับเจลาโต ไม่เหนียวหนืด แต่จะออกไปทางแน่น ๆ มากกว่า โดยจะมีส่วนผสมหนึ่งที่ชื่อ Crème-anglaise (แครม-อองแกลส) ที่คล้ายวิปครีม ประกอบอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย”
แต่ความโดดเด่นอีกอย่างใน ไอศกรีม ของ lavanille นั่นคือการเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติจริง ๆ มาประกอบ อย่างกลุ่มไอศกรีมผลไม้หรือ Sorbet ก็จะใช้เป็น Fruit Purée ทั้งหมด หรือวานิลลาก็มาเป็นฝัก ๆ นำเข้ามาจากมาดากัสกากันไปเลย (จนที่ร้านก็ใช้ชื่อ la Vanille – ลา วานีเยอ ที่แปลว่า วานิลลา กันเลย) เรียกว่าเป็น French Ice Cream Made In Bangkok กันเลยก็ได้ อีกทั้งหลายส่วนผสมที่เลือกมา ทางแบรนด์ก็พยายามใช้วัตถุดิบจากบ้านเราเช่นกัน
ตัวร้านมาในไซซ์ขนาดน่ารัก (แต่ก็ยังมีที่นั่งเป็นเคาน์เตอร์อยู่นิดหน่อยนะ) กับสีสันที่สดใส โดดเด่นที่สีชมพูบนพื้นดำ แซมด้วยสีลูกกวาดต่าง ๆ ดูสนุกสนาน เข้ากับสีสันของไอศกรีมแต่ละรสสุด ๆ
ที่หน้าร้านจะมีไอศกรีมให้เราได้เลือกกว่า 18 รสชาติ ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีรสชาติมากกว่า 80 รส (เยอะมาก!) รวมถึงรสชาติใหม่ ๆ ประจำฤดูกาลอีก ทางร้านก็จะหมุนเวียนรสชาติกันไปเรื่่อย ๆ มีตัวเด่น ๆ ที่ขายดีและอยากให้ลองอย่าง Vanilla ที่ใส่วานิลลามาเน้น ๆ หอมมาก ๆ Chocolate ที่ทางแบรนด์ใช้ช็อกโกแลต 72% จากเบลเยี่ยมมาทำ ทำให้ได้รสชาติชาติแบบเข้ม ๆ ถูกใจคอช็อกโกแลตมาก ๆ
เราลองชิม Triple Chocolate (สกูปละ 95 บาท) ที่ประกอบไปด้วยเบสช็อกโกแลต ซอสช็อกโกแลต และบราวนีมาลองสักโคน ต้องบอกว่าตักให้ลูกใหญ่มากกก ตัวซอสยังเหลว ๆ คละอยู่ในเนื้อไอศกรีม และยังได้มิติของเนื้อบราวนีอยู่ด้วย ตัวไอศกรีมไม่หวาน รสช็อคโกแลตเข้มเลย เราอยากได้ความสดชื่นสักหน่อยเลยขอลอง Passion Fruit มาอีกสักถ้วย ไอศกรีมเนื้อซอร์เบต์ที่เปรี้ยวชื่นใจ คลายร้อนระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ที่ lavanille เขาก็มีเมนูพิเศษอื่น ๆ ด้วย เราลองเป็น Bun Ice Cream (120 บาท) ไอศกรีม 1 สกูปที่ประกบด้วยขนมปังฝรั่งเศสเนื้อฟูนุ่ม อบด้วยเชฟจากฝรั่งเศสเองเลย เราเลือกเป็นรส Toasted Almond Chocolate โรยหน้าด้วยท็อปปิงต่าง ๆ อย่างมาร์ชเมลโล สายรุ้ง และซอสคาราเมล (เพิ่มท็อปปิงละ 10 บาท)
และ Milk Shakes (180 บาท) เราลองเป็นรส Strawberry Senga Sengana ที่ใส่เนื้อไอศกรีมปั่นกับนมแบบเน้น ๆ ไม่ใส่น้ำแข็ง หรือน้ำเปล่าเลย ทำให้เนื้อมิลค์เชคเนียนและเหนียวมาก ๆ คนรักมิลค์เชคจะต้องถูกใจสิ่งนี้แน่ ๆ นอกจากนี้ยังมี Affogato ที่ใช้ไอศกรีมวานิลลาซิกเนเจอร์ของทางร้าน กับกาแฟนุ่ม ๆ
ส่วนใครอยากซื้อกลับบ้านไปอร่อยแบบจุใจ ทางร้านก็มีขายแบบ Pints ขนาด 480 มิลลิลิตร (Pints ละ 300 บาท) และคัพเล็กขนาด 100 มิลลิลิตร (85 บาท) ด้วยเช่นกัน ร้อนนี้ตุนไอศกรีมฝรั่งเศสเอาไว้ในตู้เย็นคลายร้อน ร้าน ไอศกรีม lavanille ก็น่าจะเป็นช้อยส์ที่ดีเหมือนกันนะ
lavanille
เปิดทุกวัน 10:00 – 22:00 น.
ชั้น 4 ศูนย์การค้าดิเอมโพเรียม คลองตัน
BTS พร้อมพงษ์ | มีที่จอดรถ