Red.cose ปิ่นเกล้า เปิดสเปซใหม่ พร้อมนิทรรศการแรกที่ให้อิสระศิลปินแบบสุดขั้ว ด้วยความตั้งใจที่จะเป็น Art & Design Promoter มากกว่าแค่แกลเลอรี

พูดถึงสเปซ หรือแกลเลอรีงานศิลปะ Red.cose จะเป็นหนึ่งชื่อที่เรานึกถึง ตั้งแต่เปิดสเปซแรกที่เอกมัย จนมาถึง cose.club หรือ Red.cose ไซซ์เล็กย่านประชาชื่นที่เราได้เล่าไปเมื่อครั้งก่อนนู้น ล่าสุด Red.cose เปิดสเปซใหม่ ไซซ์ใหญ่กว่าเดิม พร้อมกับนิทรรศการสุดเอ็กซ์ตรีม ‘The Lost Wall’ ที่เอาการ Deconstruction ตึกเก่า มา Reconstruction ด้วยการเอาอิฐแต่ละก้อนมาสร้างแรงบันดาลใจในกำแพงที่หายไป และเป็นนิทรรศการแรกเปิดประเดิม Red.cose ปิ่นเกล้า

(ย้อนไปดู Red.cose ไซซ์เล็กย่านประชาชื่นได้ที่นี่ : COSE.CLUB คอมมูนิตี้ที่รวมความ ART ไว้หลายแขนง แผ่นเสียง – งานศิลป์ – คาเฟ่ – สตูดิโอ)

Red.cose ปิ่นเกล้า เปิดสเปซใหม่ พร้อมนิทรรศการแรกที่ให้อิสระศิลปินแบบสุดขั้ว ด้วยความตั้งใจที่จะเป็น Art & Design Promoter มากกว่าแค่แกลเลอรี
Red.cose ปิ่นเกล้า งานนิทรรศการ The Lost Wall

ก่อนจะไปพูดคุยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในพื้นที่ใหม่ เราขอพาไปดูถึงนิทรรศการนี้กันก่อน สำหรับนิทรรศการแรกมีชื่อว่า The Lost Wall จัดร่วมกับ 10 ศิลปินกลุ่ม T-WEST (TEMPORARYWEST) ได้แก่ PICABOO, DEIO, FREAK, MR.KREME, MONTEMITH, ORON, R KOI, Y?, YOUNGPRAY และ HOIE เป็นกลุ่มศิลปินสตรีตอาร์ตที่มีความชอบเหมือนกันมารวมตัวกัน ถ่ายทอดสตรีตอาร์ตแนวกราฟฟิตี้ ในคอนเซปต์เอาต์ดอร์สู่อินดอร์ ปลุกตึกเก่าให้กลับมามีชีวิตและถ่ายทอดแรงบันดาลใจ

ต้องบอกว่างานนี้เปิดตัวมาได้หลายสัปดาห์แล้ว ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา แต่งานนี้ค่อนข้างยาวเลย มีถึง 12 สิงหาคม 2566 ไฮไลต์ของงานนี้ นอกจากการนำศิลปะกราฟฟิตี้เข้ามาในอาคารแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ศิลปินจัดขึ้นทุกสัปดาห์ รวม ๆ แล้ว 8 สัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะมีธีมงาน หรือคอนเซปต์ต่างกันออกไป

Red.cose ปิ่นเกล้า งานนิทรรศการ The Lost Wall
Red.cose ปิ่นเกล้า งานนิทรรศการ The Lost Wall

ความน่าสนใจของนิทรรศการนี้ คือเราจะเห็นว่างานนี้ Red.cose เปิดสเปซให้กับศิลปินได้ครีเอตผลงานอย่างอิสระสุด ๆ เริ่มตั้งแต่การเก็บพื้นที่ที่ยังไม่รีโนเวทมาให้ศิลปินได้ถ่ายทอดงานอาร์ตได้อย่างเต็มที่ พ่นผนังกราฟฟิตี้ในแต่ละด้านแบบโหด ๆ ที่เรามาเห็นยังแอบตกใจเพราะมักปกติมักจะเจองานแบบนี้แบบเอาต์ดอร์มากกว่า ซึ่งทีม Red.cose บอกเราว่า อยากนำเสนอรูปแบบของศิลปะในด้านที่แตกต่างไม่จำเป็นต้องอยู่ในกระดาษหรือบนกำแพงอย่างเดียว

“คอนเซปต์เริ่มมาจากโครงสร้างตึกที่ Deconstruction หรือถูกรื้อโครงสร้างใหม่ เปิดพื้นที่ให้ศิลปินตีความ Deconstruction เป็น Reconstruction เก็บอิฐทุกก้อนที่มาจากกำแพงที่ทุบจากตึกนี้ ให้ศิลปินได้สร้างแรงบันลดาลใจในกำแพงที่หายไป”

Red.cose กับความตั้งใจที่ไม่ใช่แค่แกลเลอรี

Red.cose ปิ่นเกล้า ความเป็นมา แรงบันดาลใจ ความตั้งใจ

ทีม Red.cose เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นว่าจริง ๆ เริ่มมาจากความตั้งใจที่อยากจะกระจายความเป็น Art & Designไปสู่ผู้คนในทุก Generation และในทุก ๆ บริบท ที่สามารถเข้าถึงได้จริง ๆ แนวคิดนี้เกิดจากการไปดูงานหลาย ๆ ที่ ในต่างประเทศ แล้วรู้สึกว่าผู้คนสามารถเข้าถึงงานศิลปะดีไซน์ได้อย่างกลมกลืนโดยที่เค้าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

อย่างราวจับลงรถไฟใต้ดินที่มีดีไซน์ หรือสะพานลอยที่มีพื้นบันไดเป็นสีสัน สิ่งเหล่านี้ผ่านการถูกดีไซน์หรือกลั่นกรองความคิดให้เป็นศิลปะมาแล้ว อยากให้ผู้คนเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ว่าศิลปะสามารถเข้าถึงทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยได้จริง ๆ นะ

แกลเลอรี อาร์ตสเปซ ย่านปิ่นเกล้า

Red.cose จึงเกิดขึ้นมา และตั้งใจว่าจะกระจายตัวให้เข้าถึงคนในหลาย ๆ พื้นที่ และหลาย ๆ บริบท เลยออกมาเป็น เอกมัย ประชาชื่น และปิ่นเกล้า ความแตกต่างของทั้ง 3 ที่ คือขนาดและผู้คน เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับศิลปินหรือผู้จัดให้สามารถเลือกสถานที่แสดงงานได้อย่างเหมาะสมที่สุด

โดยไซซ์ S เล็กสุดจะอยู่ที่ประชาชื่น (ใกล้ตลาดบอง มาร์เช่) มีความเป็นคาเฟ่ ใกล้กับชุมชน เข้าถึงกลุ่มครอบครัว รวมถึงกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ ส่วนไซซ์ M คือ เอกมัย จะมีความ City Life ไวบ์ผู้คนในเมืองที่ค่อนข้างเข้าใจศิลปะ และที่เปิดล่าสุดคือ ไซซ์ L ที่ปิ่นเกล้า

Red.cose แกลเลอรี อาร์ตสเปซ ย่านปิ่นเกล้า

สำหรับพื้นที่ Red.cose ปิ่นเกล้า เดิมทีที่ตรงนี้เป็นพื้นที่โกดังเก็บของ เก็บอะไหล่เก่าแบบเซียงกง ที่ทางทีมมาเห็นแล้วรู้สึกว่าที่ตรงนี้มี Potential เข้าถึงกลุ่ม Generation ที่เป็น Young Generation เพราะตรงนี้อยู่ใกล้ ๆ ที่เรียนพิเศษ มีเด็ก ๆ กลุ่มคนรุ่นใหม่ และมีกลุ่มคนที่เป็นทั้งคนในพื้นที่ และมีชาวต่างชาติบ้างบางส่วน

เลยลองทดลองความเป็นคอมมูนิตี้โดยวางไว้ในจุดนี้ ซึ่งตึกนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น โดยชั้น 1 และชั้นลอย ทำเป็น Bar & Restaurant ส่วนสเปซจัดงานจะอยู่ชั้น 3-4 แต่จริง ๆ ทั้งตึกนี้ทางทีม Red.cose ตั้งทำให้เป็นสเปซที่เอางานมาลงได้ทั้งหมดเลยนะ 

นิทรรศการ The Lost wall ปิ่นเกล้า

ตอนเริ่มปรับปรุงพื้นที่ เป็นช่วงเดียวกับที่วางโปรเจกต์นี้ร่วมกับเหล่าศิลปิน T-WEST ซึ่งจริง ๆ พูดคุยกันมาค่อนข้างนานแล้ว เกิดจากหนึ่งในกลุ่ม T-WEST ได้ไป Red.cose เอกมัยแล้วชอบตัวตน หรือความเป็น Red.cose แต่พื้นที่ตรงเอกมัยอาจจะยังไม่เข้ากับคาแรกเตอร์ เลยรอกันมาเรื่อย ๆ

จนเมื่อเกิดพื้นที่ปิ่นเกล้าขึ้นมา ทาง Red.cose เลยตั้งใจเก็บพื้นที่ที่ยังไม่รีโนเวทให้กับงานนี้โดยเฉพาะ และยังตั้งใจเก็บเศษอิฐที่มาจากการทุบผนัง กำแพง ไว้ให้ศิลปินมาสร้างสรรค์ผลงานกันด้วย ออกมาเป็นสเปซดิบ ๆ ที่เอา Art แทรกซึมไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

Red.cose ปิ่นเกล้า งานนิทรรศการ The Lost Wall
Red.cose ปิ่นเกล้า งานนิทรรศการ The Lost Wall

ความร่วมมือของ Red.cose กับศิลปิน นอกจากเปิดพื้นที่ให้อย่างเต็มที่แล้ว ทีม cose เองยังช่วยดูแลในเรื่องการจัดไฟ วางธีม คอนเซปต์ ใส่ไอเดียว่างานชิ้นไหนควรพรีเซนต์อย่างไรถึงจะโดดเด่น (ภายใต้ความเป็นตัวตนของศิลปินนะ) เพราะด้วยความที่ศิลปินแนวกราฟฟิตี้ก็จะถนัดงาน Exterior ซะมากกว่า พอต้องมาอยู่ใน Indoor แสงในร่มก็จะไม่เหมือนกัน ทางทีม cose เองที่เป็นสถาปนิกทำ Interior อยู่แล้ว เลยเข้ามาดูแลตรงนี้ให้ ทำให้พื้นที่ดูมีชีวิตขึ้นมา

“Red.cose ไม่ได้มองตัวเองเป็นแกลเลอรี เรามองตัวเองว่าเป็น Collaborative Space ที่ใครก็ตามที่มาร่วมงานกับเรา เราจะทำตัวให้เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง Art&Design Promoter เราจะทำให้เป็นทีม Back-up ให้บุคคลนั้น ทีมนั้น ๆ หรือสิ่งนั้น ๆ ชูโรงโดดเด่นขึ้นมาได้มากที่สุด”

Red.cose ปิ่นเกล้า งานนิทรรศการ The Lost Wall

หลังจากจบนิทรรศการ The Lost Wall ทาง Red.cose จะทำการรีโนเวทพื้นที่อีกครั้ง ให้เป็นสเปซที่มีคาแรกเตอร์ความเป็น cose คือ Cozy อบอุ่น และเป็นหน้ากระดาษที่พร้อมรับทุก ๆ Product ที่เข้ามา

เราแอบถามถึงโปรเจกต์ในอนาคต ทางทีมยังไม่ได้มีสปอยล์อะไรชัดเจนนะ บอกแต่เพียงว่า พื้นที่ตรงนี้สามารถทำอะไรได้ค่อนข้างหลากหลาย เพราะตั้งใจเป็น Collaborative Space ที่ไม่จำกัดเฉพาะงานอาร์ตบน Canvas อาจจะมี Workshop, Art & Design, Talk, Movie หรือ Wine Tasting ก็ยังได้ ครั้งต่อไปจะเป็นอะไร รอติดตามกันได้เลย

นิทรรศการ The Lost Wall
เข้าชมฟรี
24 มิถุนายน – 12 สิงหาคม 2566 เวลา 11:00 – 19:00 น.
Red.cose ปิ่นเกล้า
จอดรถได้ที่ The sense ปิ่นเกล้า (มีค่าจอดนะ)
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article