เอาใจเหล่าทาสที่มองหาร้านอาหาร หรือคาเฟ่ Pet-friendly ไว้พาเจ้านายน้องหมาน้องเหมียวไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ ที่ร้าน Petrichor Cafe คาเฟ่ย่าน เลียบคลองทวีวัฒนา ที่เป็นทั้งคาเฟ่และ Grooming อาบน้ำตัดขนที่เดียวจบ นอกจากจะถูกใจน้อง ๆ แล้ว บรรยากาศ เครื่องดื่ม และเมนูอาหารยังถูกใจมนุษย์แบบสุด ๆ
Petrichor Cafe (เพททริเคอร์ คาเฟ่) เป็นร้านที่เกิดขึ้นโดยความตั้งใจของคุณ เต้ – ณัฐธิภา วารีศรศักดิ์ ที่อยากจะทำคอมมูนิตี้เพื่อคนรักสัตว์แบบครบวงจร มีโรงแรม สระว่ายน้ำ กรูมมิ่ง และร้านอาหาร แต่ที่เริ่มก่อนตอนนี้จะเป็นฝั่งคาเฟ่และกรูมมิ่งอย่างที่เห็น
คุณเต้บอกเราว่า จุดเริ่มต้นของ Petrichor Cafe ต้องเล่าย้อนก่อนว่าจริง ๆ แล้วเธอเองเป็นสถาปนิกที่มีกิจการที่บ้านคือรับเหมาก่อสร้าง – งานโยธา หลังจากผ่านประสบการณ์การทำงานออกแบบตึก สร้างบ้าน ไปจนถึงสร้างถนน สร้างสะพาน พบว่าจริง ๆ มันก็สนุกแหละ แต่มีความ Suffer เล็ก ๆ ตรงที่ตัวงานโยธาต้องทำงานกับผู้ชายซะส่วนใหญ่ สำหรับผู้หญิงในสายงานนี้การคุยงานยังมีกำแพงอยู่ เป็นปัญหาที่มีอยู่อย่างปฏิเสธไม่ได้ และด้วยตัวงานที่ความรับผิดชอบค่อนข้างสูง ยิ่งทำให้เครียดเข้าไปใหญ่
ประจวบเหมาะกับ Project ที่กำลังทำอยู่ใกล้จะเสร็จ และเจอช่วงโควิดพอดีก็เลยเฟดจากงานตรงนี้ แล้วกลับมาคุยกับตัวเองว่าชอบอะไร ก็พบว่าชอบสัตว์ชอบหมาแมว มีความฝันตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าอยากทำคาเฟ่อาบน้ำตัดขน และเลี้ยงน้องหมาอยู่แล้วด้วย เลยตัดสินใจไปเรียนอาบน้ำตัดขนจริงจัง เป็นช่างกรูมมิ่งเองเลย
แล้วกิจการกรูมมิ่งก็เริ่มต้นขึ้น หลังจากเรียนจบก็ลองใช้พื้นที่บ้านที่มีห้องว่าง ๆ อยู่ มาเปิดรับน้องหมาน้องแมว ให้มาอาบน้ำตัดขนที่บ้าน ซึ่งเป็นช่วงโควิดพอดี ซึ่งชื่อ Petrichor แปลว่า กลิ่นไอดิน มาจากคุณเต้ที่ชอบกลิ่นหลังฝนตกก็เลยไปหาว่ากินหลังฝนตกมีคำศัพท์หรือเปล่า ก็เลยเจอคำนี้ ซึ่งความน่ารักคือมี ‘Pet’ อยู่ในคำนี้ ก็เลยชอบ ทั้งดูสดชื่น และมีความเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย
“ทำงานอาบน้ำตัดขนก็ถือว่าเป็นงานที่เครียด เพราะสัตว์แต่ละตัว Control ไม่ได้ แล้วการอาบน้ำบางทีเราก็ไม่ได้เจอน้องหมาที่สะอาดทุกตัว เจอน้องหมาที่เป็นโรคก็มี แต่สิ่งที่เราทำกลายเป็นว่าไม่ว่าเราจะเจอแบบไหนเรารู้สึกมีความสุข ที่ได้เปลี่ยนจากน้องโทรม ๆ ทำให้สวยขึ้น จากที่ดูสุขภาพไม่ดี ก็ดูดีขึ้น”
พอเริ่มมาทำกรูมมิ่ง ก็เริ่มวาง Process ว่าจะทำเป็น Community ที่มีทุกอย่าง ทั้งโรงแรม สระว่ายน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ Pet-friendly แต่ด้วยความที่การเริ่มต้นกิจการแรกเป็นโปรเจกต์นี้เลยอาจจะใหญ่เกินไปหน่อย ก็เลยลองทำบางส่วนเป็นตัวเริ่มต้นก่อน มาลงตัวที่กรูมมิ่งที่มีอยู่แล้ว และเพิ่มพาร์ทคาเฟ่เข้ามา
จนมาเจอกับพื้นที่ตรงนี้ ที่อยู่ริมคลองทวีวัฒนา คุณเต้บอกว่าที่ตรงนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เพราะอยู่ติดถนน เดินทางง่าย และมีต้นไม้ร่มรื่น ซึ่งความว้าวคือพื้นที่ตรงนี้เดิมทีเป็นชานระเบียงของบ้านทรงไทย นึกภาพง่าย ๆ คือตรงนี้เป็นเรือนไทยสองชั้นที่มีระเบียงยื่นออกมา และมีเสาอิฐแดงรับน้ำหนักอยู่ ใต้ระเบียงเป็นพื้นที่โล่ง ๆ แบบเอาท์ดอร์ไม่มีอะไรเลย อาจจะด้วยวิชั่นบางอย่างของความเป็นสถาปนิกเลยมองถึงความเป็นไปได้ในการทำพื้นที่คาเฟ่ขึ้นมา (เป็นเราคงนึกภาพไม่ออก)
“ตอนที่ตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะว่าเราชอบบรรยากาศ เรามาเห็นแสงที่สวยมาก และเราก็ชอบงานรีโนเวทอยู่แล้วด้วยก็เลยตัดสินใจ พอเลือกที่นี่ปุ๊บ ก็ดูว่าเราจะทำอะไรกับพื้นที่นี้ได้บ้าง”
อย่างที่บอกว่าตรงนี้เดิมเป็นใต้ชานระเบียง การทำกรูมมิ่งและคาเฟ่เลยต้องทำการต่อเติมออกมาให้เป็นห้องกระจก มีทั้งส่วนที่ใช้เพดานเดิม และส่วนที่เติมออกมาเพิ่ม ที่น่าสนใจคือบรรยากาศโดยรวมดูโมเดิร์น แต่กลับเก็บเสาอิฐแดงไว้ เพราะเป็นจุดที่คุณเต้ชอบและเลือกที่ตรงนี้ อยากให้มันเป็นส่วนหนึ่งของร้าน เลยให้สถาปนิกดีไซน์โดยอิงจากตัวเสานี้ด้วย ซึ่งก็ดูกลมกลืนกับพื้นที่แบบเนียน ๆ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการตกแต่ง คือเพดานที่มีดีไซน์หลุม ๆ ตรงนี้เป็นโจทย์ที่เริ่มจากไม่อยากใช้เพดานเดิมที่เป็นปูนขาว ๆ แบบใต้ระเบียงธรรมดา และอยากมี Message ที่สื่อถึงความเป็น Pet-friendly แบบที่ทั่ว ๆ ไปจะทำเป็นรูปอุ้งเท้า แต่คุณเต้ไม่อยากให้มันชัดขนาดนั้น
เลยลดทอนออกมาเป็นฝ้าหลุมที่มีความโค้ง ๆ และเพิ่มลูกเล่นสร้างความน่าสนใจให้กับพื้นที่มากขึ้นโดยการใช้ฝ้าสีไม้ในส่วนใต้ระเบียง และฝ้าสีขาวในส่วนที่สร้างยื่นออกไป ถ้าแหงนหน้ามองจะเห็นเมฆสวย ๆ ท้องฟ้าใส ๆ ด้วยนะ เพราะโซนนี้เป็นเพดานกระจก
สำหรับฝั่งกรูมมิ่ง ตอนนี้มียังมีแค่บริการอาบน้ำตัดขน มีอ่างสปาด้วยนะ ทำได้ทั้งสปาขนขาว นวดสปาผ่อนคลายเลย ส่วนช่างก็มีแค่สองคนคือคุณเต้เอง และช่างอีกคน และด้านหน้ายังมีสนามหญ้าให้เด็ก ๆ มาวิ่งเล่นได้ด้วยนะ
Petrichor Cafe คาเฟ่ ที่มีทั้งเครื่องดื่ม ขนม และอาหารจริงจัง
ในฝั่งของคาเฟ่เอง ก็มีความจริงจังไม่แพ้กรูมมิ่งเลย เพราะวางคอนเซปต์ไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นคาเฟ่ที่มีทุกอย่าง โดยคิดจากมุมลูกค้า ที่มีสัตว์เลี้ยงดูว่าเขามาแล้วต้องการอะไร มีเพื่อนที่ทำร้านกาแฟอยู่แล้วมาช่วย Consult ให้ และยังเป็นคนที่คั่วเมล็ดให้อีกด้วย
“เครื่องดื่มทุกอย่างในร้านเราคัดเกรดค่อนข้างดีเพื่อให้มันคุ้มค่ากับสิ่งที่เขาจ่าย ต้องบอกว่าลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยงตอนนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและเขาคาดหวังในที่ที่เขาไป ต้องให้ตัวเขาแฮปปี้ และลูกเขาแฮปปี้ดดวย เพราะฉะนั้นมันก็ต้องรู้สึกคุ้มค่ากับสิ่งที่เขาจะต้องจ่าย”
สไตล์เครื่องดื่มของที่ร้านจะมีความแฟนซี ดูมีมิติ และตัวกาแฟเองก็จะมีความดื่มง่าย เพราะเริ่มมาจากตัวคุณเต้เองที่ไม่ดื่มกาแฟ พอได้มาทำธุรกิจที่มีกาแฟ เลยเลือกแบบโปรไฟล์กาแฟที่ดื่มง่าย ๆ คนไม่กินกาแฟก็เอนจอยได้ มี House Blend เป็นคั่วกลาง 3 ตัว คือ Mellow ลาว-บราซิล ออกโทนช็อกโกแลต นัตตี้ Sunny ไทย-เอธิโอเปีย ออกโทนฟรุตตี้ ดอกไม้ และ Moonshine ฮอนดูรัส-ไทย มีความหอมหวานมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์
ส่วนอาหารก็มีเชฟ มาเป็น Consult คิดสูตรต่าง ๆ ให้ จุดเริ่มต้นคิดไว้ว่าอยากให้เป็นสไตล์เม็กซิกัน-บรันช์ กินง่าย ๆ ก็เลยมีนาโช่ ทาโก้เข้ามา แต่ด้วยความที่พอเปิดมาสักพักลูกค้าก็อยากได้อะไรที่หลากหลายขึ้น เลยเพิ่มไลน์ใหม่ ๆ ที่เป็นสปาเก็ตตี้ ออกไปในทางตะวันตกมากขึ้น มีความวาไรตี้มากขึ้นเป็น All Day Brunch ที่ตอบสนองลูกค้ามีทั้งแบบทานง่าย ๆ ไปจนถึงทางอิ่มเลย
ถึงเวลาชิม!
แก้วแรกเราลอง The Apple Coffee (180 บาท) กาแฟซิกเนเจอร์ที่เกิดจากการคิดว่าจะเอาผลไม้อะไรดีมาใส่กาแฟ ที่ดูสดชื่น และมี Value เข้าใจง่าย เลยลองเอาแอปเปิ้ลเขียวมาทำเป็นไซรัปสูตรพิเศษ เข้ากับกาแฟได้ดี เพิ่มความหอมหวานอมเปรี้ยว ดื่มแล้วสดชื่น
กาแฟอีกแก้วเป็น White Mocha (160 บาท) ช็อตกาแฟไทย-เอธิโอเปีย ที่ละลายกับไวท์ช็อกโกแลต แล้วตีจนฟูเนียน เทลงบนนมสดแบ่งเลเยอร์สวย ๆ แล้วโรยด้วยไวท์ช็อกที่ขูดเป็นเส้นเพิ่มเทกเจอร์ แก้วนี้รสนวล ๆ ไม่หวาน แต่ไม่ขม อร่อยมาก
ถัดมาตัวแก้วทรงสวยเป็น Apple Tea (160 บาท) ชาแอปเปิ้ลที่ใช้ไซรัปเดียวกันกับตัวกาแฟ ด้วยความที่ไซรัปแอปเปิ้ลเขียวค่อนข้างนิยม ก็เลยอยากเอามาตอบโจทย์ลูกค้าที่เขาไม่ถนัดดื่มกาแฟ ครีเอตเป็นเมนูชาขึ้นมา มีกลิ่นหอมอะโรม่าของชาดำ ตัดกับกลิ่นสดชื่นของแอปเปิ้ลเขียวมีส่วนผสมของน้ำแอปเปิ้ลด้วย เสิร์ฟมาเป็นเลเยอร์โฟมสวยเหมือนม็อกเทล แก้วนี้หอมทั้งชาทั้งแอปเปิ้ลเลย
ฝั่งเมนูอาหารเราได้ลอง Petrichor’s Breakfast (359 บาท) จานที่รวมความฟินแบบเน้น ๆ ทั้งไส้กรอกชิ้นโต เบคอนกรอบ ไข่ดาว ขนมปัง สลัด ผัดเห็ด มะเขือเทศ และแอปเปิ้ลท็อปด้วยซอสแอปเปิ้ลอีกที กินจานนี้จานเดียวจุกแน่ แต่อร่อยกินเพลินทุกองค์ประกอบ
อีกจานเป็น Nachos Supreme (229 บาท) นาโช่กรุบกรอบจานใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก มาพร้อมมะกอกเขียวมะกอกดำ ซอสซัลซ่าสูตรเฉพาะ เพิ่มรสเผ็ดนิด ๆ โรยหน้าด้วยชีสยืด ๆ สุดฟิน
ปิดท้ายด้วยขนมหวานเป็น ทีรามิสุ (200 บาท) ขนมโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง มาแบบกระปุกแน่น ๆ ครีมเนื้อเนียน ไม่หวานมาก วางเลดี้ฟิงเกอร์ชิ้นใหญ่มาให้กินเล่นด้วย
สำหรับโปรเจกต์คอมมูนิตี้สัตว์เลี้ยงอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก คุณเต้บอกกับเราว่าถ้าตรงนี้ลงตัวแล้ว มีโอกาสเหมาะ ๆ ก็อยากทำต่อแน่นอน ส่วนตอนนี้ขอโฟกัสตรงนี้ก่อน ใครอยากพาน้อง ๆ ไปคาเฟ่แวะไปได้เลย ส่วนอาบน้ำตัดขนอาจจะต้องจองล่วงหน้านิดนึงน้า เพราะช่างที่นี่พิถีพิถันสุด ๆ ค่อนข้างใช้เวลา ลองติดต่อสอบถามทางร้านได้เลย
Petrichor cafe.bkk
เปิดจันทร์ – พุธ 10:00 – 19:00 น. และ ศุกร์ – อาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.
ทวีวัฒนา | มีที่จอดรถ
Google Maps