Qottontale Cafe คาเฟ่ในตึกเก่าสีอิฐ ที่ออกแบบมาให้เป็นบ้านกระต่ายสุดอบอุ่น

ใครผ่านซอยร่วมฤดี ย่านเพลินจิต ต้องเคยเห็นตึกแถวชุดหนึ่งที่มีสีอิฐแดงเป็นเอกลักษณ์และมีสถาปัตยกรรมโดดเด่นกันบ้าง ทั้งดีไซน์และการใช้อิฐเป็นองค์ประกอบหลักทำให้ดูโดดเด่นเห็นแล้วต้องหันไปมองบ้างล่ะ และไม่นานมานี้ก็มีคาเฟ่เปิดใหม่ ใช้พื้นที่ของตึกสีอิฐได้อย่างลงตัวมาก ๆ ชื่อว่า Qottontale Cafe

Qottontale Cafe เป็นคาเฟ่มู้ดสบาย ๆ ที่ครบเครื่องทั้งกาแฟ ขนม และอาหาร โดยหุ้นส่วน 3 คน คือ คุณสุวิจักขณ์ ตั้งอารมณ์มั่น / คุณละอองดาว กาลจักร และคุณโสภิดา เชี่ยวนาวิน โชคดีที่เราเจอคุณละอองดาว และคุณโสภิดาพอดิบพอดี เลยแอบเข้าไปพูดคุยสักหน่อย

ย้อนไปจุดเริ่มต้นของการทำร้านนี้ หุ้นส่วนทั้ง 3 คน มีความถนัดแตกต่างกันไป คนหนึ่งชอบคาเฟ่ เป็นสาย Cafe Hopping มานาน ทั้งเชียงใหม่ กรุงเทพ ไปจนถึงเกาหลี อีกคนเป็นดีไซเนอร์มีแบรนด์เสื้อผ้า ที่บังเอิญมีคนรู้ใจเป็นบาริสต้า อีกคนมีความสนใจอยากทำธุรกิจ เลยตกลงทำร้านกาแฟขึ้นมา

หลังจากคิดที่จะทำร้านกาแฟ ก็ตระเวนหาพื้นที่ จนบังเอิญมาเจอพื้นที่ตรงนี้ ที่ตรงความต้องการ คือใกล้ออฟฟิศ อยู่ในย่านที่มี Traffic ลูกค้าเยอะพอสมควร และใกล้ BTS เดินทางสะดวกด้วย

“ตึกแถวตรงนี้มีเอกลักษณ์คืออิฐแดง มีอายุน่าจะ 30 ปีแล้ว ชั้นบนมีลานดาดฟ้าด้วย โชคดีที่ตรงนี้เป็นหัวมุม ข้าง ๆ ไม่มีอะไรมาบังวิวเรา”

เมื่อได้ที่ตรงนี้ โจทย์ต่อมาคือเรื่องของการออกแบบตกแต่งร้าน อย่างที่เราเห็นดีไซน์บาร์และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ดูกลมกลืนไปอิฐแดงได้ดีเลย ดูไม่ดิบหรือฉีกเกินไป ทั้ง 2 ท่านบอกเราว่าที่เห็นคือโครงสร้างเดิม แต่ที่แปลกตาคือเราแทบจะไม่เห็นเสาเลย เพราะตึกนี้เดิมทีก่อสร้างแบบซ่อนเสา ทำให้ดูเนียนตามาก ๆ

และเพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น เลยต่อเติมห้องออกมา (จริง ๆ แล้วบ้านเดิมจะสุดที่หลังพื้นที่หลังประตูโค้งเท่านั้น ด้านหน้าทั้งหมดใช้เป็นโรงรถ ใหญ่มาก!!) แต่ยังคงเก็บเอกลักษณ์ความเป็นอิฐแดงไว้ทั้งพื้นด้านนอกและผนังด้านใน แล้วเบรกด้วยคอนกรีตและไม้ ให้ดูมีความโฮมมี่ดูอบอุ่นละมุนตุ้นมากขึ้น 

ความน่ารัก (มากกกก) อีกอย่างคือที่มาของชื่อร้าน Qottontale มาจากน้อนกระต่าย เพราะทางหุ้นส่วนเลี้ยงกระต่ายอยู่แล้วถึง 6 ตัว และเป็นดีไซเนอร์มีแบรนด์เสื้อผ้าด้วย เลยเอาคำว่า Cottontail (ที่แปลว่ากระต่าย) มาบิดเป็น Qotton และเลือกคำว่า tale ที่แปลว่าเรื่องเล่ามาแทน

“ตัว Q ก็ดูเป็น Symbolic ของกระต่ายตัวกลม ๆ ที่มีหางเล็ก ๆ ด้วย เราเลยเอามาใช้และแอบมีกระต่ายกระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ ให้พื้นที่นี้เหมือนเป็นที่ปลอดภัย หลบหนีจากความวุ่นวายในเมืองของกระต่าย”

เมนูที่ Qottontale Cafe นอกจากเครื่องดื่มเยอะแล้ว ยังมีขนมที่ตั้งใจทำมาก ๆ

มาถึงเรื่องเมนูเครื่องดื่มและอาหารกันบ้าง ฝั่งเครื่องดื่มมีทั้ง Coffee และ Non-coffee เลย เราได้ลอง Sunrise (160 บาท) เมนูกาแฟซิกเนเจอร์ ที่มิกซ์สูตรให้แก้วมีสีสันคล้ายกับบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น เป็นกาแฟน้ำส้มที่ผสมเสาวรสและมิกซ์เบอรี่ รสชาติหลักเป็นส้มมีกลิ่นเสาวรสปลาย ๆ ไม่เหมือนกาแฟส้มทั่วไป โดยกาแฟใช้เป็น House Blend บราซิล-โคลัมเบีย คั่วกลาง ออกโทนนัทตี้ บาลานซ์กับกาแฟส้มได้ดี

เมนู Non-coffee เราลอง Sparkling peach tea (160 บาท) ไซรัปพีชในชาที่ร้านเบลนด์เองจากใบชา 2 ชนิด คือชาดำกับเออเกรย์ ทำให้แก้วนี้มีความหอมชามาก ๆ ไซรัปพีชก็ไม่หวานเกินไป และมีความสดชื่นจากสปากลิ้งโซดา อีกแก้วเป็น Horlicks (160 บาท) ไวท์มอลต์เย็นรสนุ่ม ที่ร้านเลือกใช้แบรนด์ฮอร์ลิคส์แบบเน้น ๆ ไม่หวานมาก มีความหอมเข้มข้น ท็อปด้วนมาชเมลโล่เบิร์นให้เคี้ยวนุ่ม ๆ เข้ากับมอลต์ 

ส่วนเมนูขนมทางร้านจะเน้นเป็นเมนูโฮมเมด อบสด ทำใหม่ที่ร้านเลย เป็นสูตรเฉพาะของที่ร้าน และเมนูขนมก็จะมีเมนู Seasonal ให้ติดตามเรื่อย ๆ ด้วยนะ เมนูที่ร้านแนะนำให้ลองคือ Croffle sauce lemon (160 บาท) ครอฟเฟิลอบสดใหม่ ท็อปด้วยครีมสดที่ตีเองเนื้อเนียน ราดซอสเลมอนโฮมเมดที่ใช้เลมอนสดในการทำซอส ทำให้มีความหอมกว่า เมนูนี้ในหนึ่งคำจะเจอกับความเปรี้ยวของเลมอน ความมันของครีมและความหวานที่ครอฟเฟิลชูก้า กินได้เพลินแบบไม่เลี่ยน มีเลมอนสดและบลูเบอร์รี่เพิ่มความสดชื่นไปอีก

อีกเมนูเป็น Banoffee pie (160 บาท) บานอฟฟี่แน่น ๆ ฐานเป็นโอริโอ้ช็อกโกแลต ตามด้วยกล้วยซอสคาราเมล และครีมสดที่ทำเอง โรยผงโกโก้ท็อปด้วยผลไม้ ดูเหมือนต้องหวานแน่ ๆ แต่จริง ๆ เป็นองค์ประกอบที่กินรวมกันแล้วกำลังดีเลย ไม่หวานเลี่ยนอย่างที่คิด กำลังอร่อย จบด้วย Qottontale Basque burn (160 บาท) ชีสเค้กหน้าไหม้โฮมเมด สูตรเฉพาะของทางร้าน (อีกแล้ว ทำขนมเก่งม้ากกก) ขอชมว่าอร่อย เนื้อนุ่ม แน่น ไม่กระด้างและไม่หวานโดด กำลังดี ท็อปด้วยวิปครีมหอมมันและผลไม้สดเป็นสตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รีตัดเลี่ยนได้

ในส่วนของดาดฟ้า อยู่ชั้น 4 ของร้าน สูงนิดนึงแต่ได้วิวสวยเลย เป็นอิฐแดงล้วน ๆ แอบได้ฟีลเกาหลีหน่อย ๆ ช่วงกลางวันแดดอาจจะแรงสักหน่อย ใครอยากได้ภาพแสงสวย ๆ แนะนำให้ขึ้นช่วงบ่าย 2-3 จะเป็นช่วงที่แสงแดดพาดตึกกำลังดีเลยนะ ส่วนชั้น 3 ของร้านจะมีสตูดิโอให้เช่าด้วย ลองติดต่อกับร้านเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลย

Qottontale Cafe
เปิดทุกวัน 09:00 – 18:00น.
ซอยร่วมฤดี เพลินจิต
BTS เพลินจิต | จอดรถได้ที่ ร่วมฤดีวิลเลจหรือวัดมหาไถ่ (มีค่าจอดนะ)
Google Maps