WAKEN CAFE โฮมคาเฟ่สุดเฟรนด์ลีหลังใหญ่ย่านตลิ่งชัน ที่รอส่งความสดใสของสีสันทั้ง 5 ที่เกิดขึ้นใน 1 วัน ผ่านบรรยากาศร้าน และเครื่องดื่มแก้วโปรด

ย่านตลิ่งชัน เริ่มกลายเป็นย่านที่มีพิกัดใหม่ ๆ น่าสนใจผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ด้วยความที่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก แวะมาแวบเดียวก็ถึง แถมตอนนี้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงที่วิ่งมาจนถึงแถบนี้ด้วย ก็ทำให้เราออกจากเมืองแวะเวียนมาย่านนี้บ่อยขึ้น ยิ่งพอได้รู้ว่าใกล้ ๆ กับสถานีชุมทางตลิ่งชัน (ที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงมาได้) เพิ่งมีคาเฟ่หลังใหม่สีพาสเทลตัดแดงที่เปิดตัวได้ไม่นานนี้ ก็ชักชวนให้ Routeen. อยากแวะเวียนไปหาเสียแล้ว กับ WAKEN CAFE

Waken Cafe หน้าร้าน ตลิ่งชัน
Waken Cafe coffee counter

โชคดีมาก ๆ ที่วันนั้นเราแวะไปในวันที่ผู้มีส่วนร่วมกับทางร้านอยู่กันครบพอดี (และกำลังเม้ามอยกันอย่างสนุกสนาน) จึงขออนุญาตร่วมวงและขอดึงตัวมาพูดคุยถึงตัวร้านสักเล็กน้อย คุณแป้ง – พิชชาพร บวรสมบัติ และ คุณมด – ธาดา ชัยฤกษ์ คือหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังของร้านนี้ โดยคุณแป้งรับหน้าที่เป็นดีไซน์เนอร์ให้กับร้าน ส่วนคุณมดจะดูแลเรื่องของกาแฟในร้าน โดยจริง ๆ แล้วอาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนแล้วโดย คุณไก่ – สมจินต์ คณาวราประเสริฐ (ปัจจุบันคุณไก่ก็เป็นเจ้าของ Waken Cafe ด้วย) เนื่องด้วยที่ตรงนี้ก็เป็นที่ของคุณไก่เอง แต่ยังไม่มีไอเดียว่าจะพัฒนาอาคารหลังนี้ไปเป็นอะไรดี พอมองว่ารอบ ๆ นี้ก็เป็นที่อยู่อาศัยทั้งหมด ถ้าลองขายกาแฟก็น่าจะมีเสียงตอบรับที่ดี รวมถึงยังไม่มีคาเฟ่จริงจังในละแวกนี้ด้วย จึงเลือกให้อาคารนี้เป็นคาเฟ่นั่นเอง

บรรยากาศร้านชั้น 2

“ภายนอกของอาคารจะใช้เป็นสีพาสเทล เพราะคุณแป้งลองเซอร์เวย์ย่านนี้แล้วพบว่า บ้านแถว ๆ นี้จะสีออกพาสเทลเสียมาก จึงเลือกใช้โทนนี้เพื่อให้ทั้งกลมกลืน และโดดเด่นไปพร้อมกัน พร้อมหยอดสีแดงผ่านกันสาดผ้าที่ทำให้หน้าอาคารเรียบ ๆ ดูน่าสนใจและเตะตาขึ้น”

ที่นั่ง วงกลม ชั้น 2 ร้านกาแฟ ฝั่งธน กรุงเทพ

คุณไก่เปิดกว้างเรื่องไอเดียกับคุณแป้งในเรื่องของตัวร้านอย่างมาก คุณแป้งจึงมองว่าอยากให้ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่โดดเด่นไปเลยในย่านนี้ แต่ยังแทรกความเป็นบ้านให้เข้ากับย่านนี้เข้าไป อีกทั้งยังอยากให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาจอยกันได้ พอมีไอเดียแบบนี้ คุณแป้งจึงเข้าไปคุยกับ Duudlebynng ทีมที่มาช่วยดู Branding ให้ว่าอยากให้พื้นที่นี้แสดงออกถึง 3 คีย์เวิร์ดหลักอย่าง Friendly, Energize และ Welcome เพื่อสร้าง Waken Cafe ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างแข็งแรง

waken decoration

ด้วยความที่อยากให้ตัวร้านโดดเด่น และมีความเทรนดี้ คุณแป้งจึงเลือกใช้วัสดุเดียวตกแต่งภายในเพื่อให้ลูกค้าจำได้ โดยเลือกใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก ที่ถือเป็นวัสดุที่นิยมในการทำคาเฟ่ตอนนี้ และยังมีต้นทุนที่ไม่สูงเกินไปนัก ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็จะเลือกที่ให้อารมณ์ถึงความเป็นบ้านมากขึ้น ความน่าสนใจอย่างหนึ่งคือโต๊ะในร้านค่อนข้างมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับคาเฟ่ทั่วไปที่สมัยนี้จะเป็นโต๊ะเล็ก ๆ วางแก้วเครื่องดื่มและขนมได้นิดหน่อยเท่านั้น นี่คือความตั้งใจเพราะมองว่ากลุ่มเป้าหมายของร้านน่าจะมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน รวมถึงทางร้านแพลนไว้ว่าอนาคตจะมีเมนู All Day Brunch เข้ามาเพิ่มเติมด้วย จึงต้องมีโต๊ะไซซ์ใหญ่ที่รองรับแผนการดังกล่าว

คาเฟ่ ฝั่งธน ฉิมพลี
Routeen. waken blue sofa

ความหนาแน่นภายในร้านเองก็ถูกคิดมาแล้วเหมือนกัน เพราะแม้ว่าตัวร้านจะใหญ่ แต่ที่ Waken Cafe นี้ก็ไม่ได้อัดที่นั่งมาจนแน่น นั่นเพราะคุณแป้งมองว่าหากมีโต๊ะมากเกินไป ซีนของมุมที่สวย ๆ อาจถูกลดทอนลงได้ ส่วนภายนอกของอาคารจะใช้เป็นสีพาสเทล เพราะคุณแป้งลองเซอร์เวย์ย่านนี้แล้วพบว่า บ้านแถว ๆ นี้จะสีออกพาสเทลเสียมาก จึงเลือกใช้โทนนี้เพื่อให้ทั้งกลมกลืน และโดดเด่นไปพร้อมกัน พร้อมหยอดสีแดงผ่านกันสาดผ้าที่ทำให้หน้าอาคารเรียบ ๆ ดูน่าสนใจและเตะตาขึ้น

biggy doodle

ส่วนชื่อร้านอย่าง Waken นั้นก็มาจากคีย์เวิร์ดทั้ง 3 คำที่บอกไปก่อนหน้านี้เช่นกัน จึงเลือกคำนี้ที่สื่อถึงความสดใส สดชื่น และยังจำง่ายอีกด้วย โดยชื่อร้านที่ทำให้นึกถึงแสงแดดและยามเช้านี้ก็ถูกต่อยอดออกมาเป็นคาแรกเตอร์ของร้านอย่าง Biggy ที่มาเป็นน้องดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาจากพื้น หน้าตาน่ารักดูเฟรนด์ลีตัวนี้นี่เอง

waken คาเฟ่ บันไดวน ดาดฟ้า กาแฟ
ดาดฟ้า rooftop คาเฟ่ ฉิมพลี ตลิ่งชัน

ส่วนเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ถูกพัฒนามาจากไอเดียเดียวกับตัวร้านเช่นกัน โดยคุณไก่อยากให้ที่นี่เหมือนเป็นบ้าน ที่พร้อมต้อนรับเพื่อนบ้านละแวกนี้ และเพื่อน ๆ ทุกคนให้แวะเวียนเข้ามา และอยากให้ทุกคนได้ลองกินในสิ่งที่เราชอบกิน ซึ่งคุณไก่เองเป็นคนที่สนใจในเรื่องของอาหาร Healthy ไม่ปรุงแต่งมาก ตัวเครื่องดื่มนั้นทางคุณมดจึงคิดว่าอยากให้มีความ Comfort กับทุกคน ทั้งลูกค้า ทั้งผู้ดื่ม และบาริสต้า ตัวเมนูจึงไม่ได้แฟนซีมาก เน้นความคลาสสิคและเข้าใจง่าย แต่ยังมีความโดดเด่นและไอเดียแอบซ่อนอยู่ในแต่ละแก้วไม่น้อย เพราะไอเดียของกาแฟและชานั้น จะถูกลิงก์กับ “สีทั้งห้า” ของแบรนด์ของทางร้าน ได้แก่สีเหลืองพาสเทล (Sunrise) สีน้ำตาล (Sunset) สีน้ำเงิน (Sky) สีขาวออฟไวต์ (Cloudy) และสีเกือบ ๆ ดำ (Night) ซึ่งจะเป็นสีที่เราอาจมองไม่เห็นด้วยตาอย่างชัดเจน แต่รับรู้ได้ผ่านชาวงเวลาที่เดินทางในแต่ละวันนั่นเอง

เมล็ดกาแฟ Sunrise Blend Sunset Blend

เราอาจได้เห็นสีเหลืองพาสเทล สีน้ำเงิน และสีเกือบดำผ่านตัวอาคาร งานตกแต่ง และแก้วเครื่องดื่มแล้ว ส่วนสีเหลือง และสีน้ำตาล ทางร้านจะแตกออกมาเป็นรสชาติของกาแฟ ผ่าน House Blend ของทางร้าน สีเหลืองแทนความสดใส จึงออกมาเป็น Sunrise Blend เมล็ดคั่วอ่อนจากเคนยา คอสตาริกา เอธิโอเปีย ที่ให้ความฟรุ๊ตตี้ และฟลอรัลหน่อย ๆ ส่วนสีน้ำตาลแทนความเข้ม จึงออกมาเป็น Sunset Blend เมล็ดเอธิโอเปียและไทยคั่วกลาง รสออกโทนช็อกโกแลตนิด ๆ

waken ชง ชาเขียว

ส่วนอีก 3 สีที่เหลือก็ยังถูกจับมาอยู่ในเครื่องดื่มเช่นกัน แต่อยู่ในหมวดชา โดยที่ Waken Cafe มีชาเบลนด์เยอะมาก ๆ จนเราเองอยากให้ทุกคนได้ลองชิมดู ทั้ง Sky Blend ชาดอกไม้ มีความเฮอร์เบิลหน่อย ๆ Cloudy Blend ที่ให้ความรู้สึกครึ้ม ๆ หน่อย จึงเป็นชาดำที่มีรสช็อกโกแลตและเครื่องเทศอย่างกระวานเขียว และพริกไทยสีชมพูเข้ามา สุดท้ายกับ Night Blend ที่หยิบเอาชาเขียวมาเบลนด์กับอูหลง ที่มีกลิ่นพีชและฟลอรัลเข้ามา

Yuzu Espresso Matcha Yuzu

เราได้ลอง Yuzu Espresso (120 บาท) ทางร้านใช้เอสเพรสโซคั่วอ่อน Sunrise Blend เทลงในน้ำยุซุ โดยใช้ยุซุจากเมืองโคจิ ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รสชาติชัดและดีกว่าใช้ไซรัปยุซุ แก้วนี้รสชาติจะไลต์ ๆ ดื่มง่าย และสดชื่นจากยุซุ กับอีกแก้วยุซุที่น่าสนใจเหมือนกันอย่าง Matcha Yuzu (150 บาท) ของดีจากประเทศญี่ปุ่นทั้งมัตฉะจากเมืองมิเอะ และยุซุจากเมืองโคจิ มาเจอกัน มัตฉะฝาดเล็กน้อย แต่ไม่คอมเพลกซ์ในรสชาติ เข้ากับยุซุเอามาก ๆ จนเป็นอีกแก้วโปรดของเราได้เลย

Cloudy Signature

ฝั่งชาเราลองเป็น Cloudy Signature (100 บาท) ชาดำ Cloudy Blend ท็อปด้วยโฟมนมด้านบน ที่หากทิ้งไว้สักพักแล้ว ฟองนมด้านบนจะเคลื่อนตัวลงมายังชาด้านล่าง ฟีลเหมือนก้อนเมฆตามชื่อแก้วนี้ ชาไม่หวาน เข้ากับนมนุ่ม ๆ เป็นอีกแก้วที่ดื่มเพลิน

Routeen. Waken Cafe รวมเครื่ิองดื่ม กาแฟ ชา ช็อกโกแลต
Hot Latte

เรายังได้ลองช็อกโกแลตของทางร้าน ที่มีเมล็ดให้เลือกเยอะมาก ๆ ทั้งเฮาส์เบลนด์ (ร้อน 120 บาท เย็น 130 บาท) และเมล็ดโกโก้แบบ Single Origin (ร้อน 140 บาท เย็น 150 บาท) ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ เราเลือกเมล็ดดินอุดม จาก อ. ลำทับ จ. กระบี่ โกโก้รสชาติดื่มง่าย แต่ยังเข้มในแบบโกโก้ ไม่หวาน ไม่เปรี้ยว เป็นรสกลาง ๆ ที่คนไม่ชอบ Specialty Cocoa ก็ยังดื่มได้ รวมถึงแก้วคลาสสิคก็ยังน่าสนใจเสมอ ทั้ง Dirty (100 บาท) และ Hot Latte (80 บาท) ที่ใส่เป็นแก้ว Take Away ก็น่ารักไม่หยอก

Hot Latte biggy Routeen.

แอบบอกว่าที่นี่เขายังตั้งใจเฟรนด์ลีกับทุกสิ่งด้วยนะ ไม่ใช่แค่เฉพาะลูกค้าและบาริสต้าในร้านเท่านั้น หากยังรวมถึงน้อง ๆ ก็สามารถพามาที่ร้านได้ และยังใส่ใจโลกด้วยการจัดการระบบต่าง ๆ ในร้าน รวมถึงการใช้โซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วย

Waken Cafe

เปิดทุกวัน (เว้นวันอังคาร) 09:30 – 17:00 น.
ถนนฉิมพลี ตลิ่งชัน
SRT ชุมทางตลิ่งชัน แล้วต่อพี่วิน | ไม่มีที่จอดรถ

google maps

Articles You Might Like

Share This Article