ออกไปเที่ยวเมือง Uji (อุจิ) ที่ Kyoto เกียวโต ญี่ปุ่น เมืองแห่งชาเขียวที่หลายคนรู้จัก แต่ยังไม่ค่อยแวะเวียนไป

ตั้งแต่เปิดประเทศมา เราเชื่อว่าหลายคนคงอัดอั้น แล้วออกเดินทางกับให้หายคิดถึง ประเทศญี่ปุ่น น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายสุดฮิตของคนไทยอย่างเรา ทั้งโอซาก้า โตเกียว และเกียวโต ล้วนเป็น 3 จุดหมายหลักที่เราหมายใจไว้ว่าจะต้องไปแน่ ๆ แต่ไปแต่ละครั้งก็หนีไม่พ้นเมืองเดิม ๆ ที่คุ้นเคย (และฮอตฮิต) ถ้าไปเกียวโต ก็ไม่พ้นเที่ยววัดในตัวเมือง หรืออาจฉีกไปยัง Arashiyama (อะระชิยะมะ) มิยะมะ (Miyama Village) หรือ Ine (อิเนะ) แต่เมืองที่เราคุ้นหูกันมาก ๆ อย่าง Uji (อุจิ) โดยเฉพาะสายชาเขียวที่รู้จักกันดีแน่ ๆ เพราะนี่คือเมืองที่การันตีได้ว่าผลิตชาเขียวคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่กลับเป็นเมืองที่หลายคนยังไม่ได้แวะเวียนไปเสียอย่างนั้น

Uji อุจิ Kyoto เกียวโต

อาจเป็นเพราะไม่รู้ว่าเมืองนี้มีอะไรนอกจากชาเขียว หรืออาจเพราะเมืองนี้ไม่ได้อยู่ในรูทหลัก ๆ ของการท่องเที่ยวเกียวโต วันนี้เราจึงขอมาตกทุกคนด้วยการพาเที่ยวเมือง อุจิ กันสักหน่อย เผื่อทริปเกียวโตคราวหน้า จะใส่แพลนเที่ยวเมืองนี้เข้าไปบ้างสักวันนะ

Uji Kyoto

เราสามารถเดินทางจาก โอซาก้า ไปยังเมือง อุจิ ได้ง่าย ๆ ด้วยรถไฟ โดยห่างกันเพียง 35 กิโลเมตร ซึ่งเมือง อุจิ จะถึงก่อนเกียวโต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-50 นาที ค่ารถไฟ 240 เยน (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) จะนั่งด้วยสาย JR หรือสาย Keikan ก็ได้เช่นกัน โดยสถานีรถไฟของทั้ง 2 สายก็ตั้งอยู่ใกล้กัน บริเวณฝั่งแม่น้ำอุจิ (แต่อยู่คนละฝั่ง) และเชื่อมต่อด้วยสะพาน Ujibashi (อุจิบาชิ)


สถานีรถไฟอุจิ Uji Station

สถานีรถไฟอุจิ Uji Station

เอาแค่เราลงจากรถไฟมาถึงตัวสถานีอุจิ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวได้ทันที เพราะตัวสถานีเองมีความโดดเด่นด้านการออกแบบมาก ในใจที่คิดว่าเมืองสงบ ๆ แถมยังมีความดั้งเดิมสูงแบบนี้ ตัวสถานีน่าจะอนุรักษ์ความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้แหง แต่ตัวสถานีกลับมาในรูปแบบโมเดิร์น ฟีลอินดัสเทรียลหน่อย ๆ ด้วยคอนกรีตเรียบและซุ้มทางเดินทรงโค้ง ตัวคอนเกรีตมีรูบุ๋มเล็ก ๆ กระจายอยู่ คล้ายงานสถาปัตยกรรมของ Tadao Ando (ทาดาโอะ อันโดะ) สถาปนิกที่มีเอกลักษณ์ในงานออกแบบ และมีชื่อเสียงทั่วโลก แต่จริง ๆ แล้วสถานีแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิก Hiroyuki Wakabayashi (ฮิโรยูกิ วากาบายาชิ) ได้รับรางวัล Good Design Award ในปี พ.ศ. 2539 และในปี พ.ศ. 2543 สถานีนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “100 สถานีที่ดีที่สุดในภูมิภาคคินกิ” โดยสำนักงานขนส่งเขตคินกิ ของกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว (Kinki District Transport Bureau of the Ministry of Land, Infrastructure, Transport and Tourism) แค่ตัวสถานี ก็มีมุมให้เราได้ถ่ายรูปเล่นเยอะเลยล่ะ

พิกัด: google maps


สะพานอุจิ Ujibashi

สะพานอุจิ Ujibashi

เมื่อเดินออกมาจากสถานี เราก็ต้องข้าม สะพานอุจิ เพื่อเข้าเมืองกันก่อน ซึ่งสะพานนี้ก็มีประวัติที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สะพานที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่ต้องหาโอกาสมาสักครั้ง สะพานรถยนต์ที่มีทางเดินเท้าขนาดกว้างขนาบข้าง ราวสะพานเป็นไม้สไตล์ญี่ปุ่น ขอบอกว่าชาวเมืองอุจิชอบมาเดินทอดน่อง รับลมที่นี่มาก ๆ เพราะลมดี และวิวดีสุด ๆ ไปเลยล่ะ

พิกัด: google maps


รูปปั้นมุราซากิ ชิคิบุ Statue of Murasaki Shikibu

รูปปั้นมุราซากิ ชิคิบุ Statue of Murasaki Shikibu

พอเดินมาถึงตีนสะพานอุจิ สิ่งแรกที่เราจะได้เจอคือรูปปั้นหินผู้หญิงคนหนึ่งในชุดกิโมโนยาวสวย กำลังอ่านบันทึกอะไรสักอย่างอยู่ นี่คืออนุสาวรีย์ของ มุราซากิ ชิคิบุ (Shikibu Murasaki) ผู้ประพันธ์วรรณกรรมเรื่อง ตำนานเก็นจิ (The Tale of Genji) หนึ่งในนิยายที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยเฮอัน อายุกว่า 1,000 ปี ที่มาตั้งอยู่ที่นี่ก็เพราะใน 10 บทสุดท้ายของนิยายเกิดขึ้นที่เมืองอุจินี้นี่เอง จุดนี้ก็มีหลาย ๆ คนแวะมาเดินเล่น เพราะเป็นพื้นที่ติดริมน้ำสุดชิลล์ด้วยนั่นเอง

พิกัด: google maps


วัดเบียวโดอิน Byodoin Temple

วัดเบียวโดอิน Byodoin Temple

มาเกียวโต จะไม่มีวัดอยู่ในลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวเลยได้อย่างไร ขอบอกว่านอกจากวัดน้ำใส วัดเงิน วัดทอง หรือวัดดัง ๆ ในเกียวโตแล้ว วัดเบียวโดอิน นี่แหละเป็นอีกหนึ่งวัดที่จะต้องหาโอกาสมาให้ได้สักครั้ง เพราะหากลองไปคุ้ยกระเป๋าสตางค์ หาเหรียญ 10 เยนที่ยังมีอยู่ จะเห็นว่าหลังเหรียญ 10 เยนก็คือภาพของวัดแห่งนี้นี่เอง! 

 

ที่นี่เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบ โจโด ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และแตกต่างจากวัดอื่น ๆ ของญี่ปุ่นพอสมควร เพราะสร้างโดยยึดเอาแนวคิดทางพระพุทธศาสนามาเป็นคอนเซ็ปต์หลัก แล้วเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน โดยเริ่มจากการจัดสวนก่อน ให้ออกมาในฟีลดินแดนบริสุทธิ์ต่างอุดมคติในศาสนาพุทธ แล้วยึดเอาแนวทางของสวนมาสร้างตัววัดต่อ ซึ่งจะบอกว่าสร้างเป็นวัดตั้งแต่แรกก็ไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะเดิมทีที่นี่เป็นบ้านพักตากกอากาศมาก่อน (ช็อตฟีลมาก) พอถึงรุ่นลูกของเจ้าของ ก็เแลี่ยนจากบ้านพักมาเป็นวัดเบียวโดอินนี่แหละ ซึ่งตอนที่เปลี่ยนเป็นวัดนี้ก็เกิดการสร้าง โถงฟีนิกซ์ (Phoenix Hall) ที่โด่งดังและมีเอกลักษณ์จนถูกหยิบมาใส่ไว้หลังเหรียญ 10 เยนนั่นเอง

พิกัด: google maps


เกาะโท (Tonojima) และเกาะทาจิบานะ (Tachibanajima)

เกาะโท (Tonojima) และเกาะทาจิบานะ (Tachibanajima)

ไม่ไกลจากวัดเบียวโดอิน บริเวณแม่น้ำอุจิ ยังมีเกาะกลางแม่น้ำอยู่ 2 เกาะเล็ก ๆ ให้เราได้เดินเล่นกันได้ เพราะบนเกาะนี้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีวิวหลักล้าน แถมยังมีสะพานเชื่อมเกาะและและฝั่งอีกหลายสะพาน ทั้งสะพานหลักอย่าง สะพานอาซางิริ (Asagiri bashi) และสะพานเล็ก ๆ ย่อย ๆ ทั้งสะพานที่เชื่อมระหว่าง เกาะโท กับ เกาะทาจิบานะ และสะพานที่เชื่อมระหว่างฝั่งวัดเบียวโดอิน กับเกาะโท ขึ้นไปบนสะพานแล้วเราจะเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำ รวมถึงเรือที่จอดมากมาย ที่มีเจ้านกตัวสีดำ ๆ อยู่บนเรือ นั่นคือนกกาน้ำ ที่ชาวบ้านใช้จับปลาในแม่น้ำมาเป็นเวลายาวนาน (แม้จะหาชมยากแล้วในปัจจุบัน) ชาวบ้านจะนำนกกาน้ำมาผูกเชือกที่คอไว้หลวม ๆ แล้วปล่อยนกลงไปในน้ำ เจ้านกกาน้ำก็จะลอยเหนือน้ำ แล้วจับปลาด้วยปากเป็นอาหารตามสัญชาติญาณ ชาวประมงก็จะดึงเชือกที่คอไว้ไม่ให้ปลาไหลลงคอ แล้วหยิบปลาออกมานั่นเอง

พิกัด: google maps


ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองอุจิ Uji City Tourist Information Center

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเมืองอุจิ Uji City Tourist Information Center

อย่าเพิ่งงงว่า Routeen. จะชวนมาเที่ยวศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวทำไม จริง ๆ แล้วเราอยากชวนให้ทุกคนได้มาลองเข้า พิธีชงชา Tea Ceremony ต่างหาก (มาถึงเมืองแห่งชาเขียวขนาดนี้ทั้งที จะไม่ลองพิธีชงชาได้อย่างไรกัน!) ที่ชวนมาที่นี่เพราะค่าเข้าถูกมากเพียง 500 เยนเท่านั้น (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่มาจัดพิธีชงชาให้เรา ล้วนเป็นผู้สูงอายุของเมืองอุจิ ที่อยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย เราจะได้เห็นสีหน้าที่มีความสุข และรอยยิ้่มของคุณลุงคุณป้าตลอดเวลา ทำให้พวกเขาไม่เหงา และยังช่วยให้พวกเขาสนุกกับชีวิต มีอะไรทำ ได้พบปะกับผู้คนใหม่ ๆ อีกด้วย

 

โดยจะต้องเข้าไปซื้อตั๋วที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเสียก่อน แล้วเดินไปยังบ้านญี่ปุ่นโบราณที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ศูนย์นี้ โดยจะให้บริการเป็นรอบ ๆ รอบหนึ่งไม่เกิน 5 คน ดังนั้นจึงจะเต็มไวมาก ๆ ใครอยากไปลองจริง ๆ แนะนำให้แวะไปซื้อตั๋วเก็บเอาไว้ก่อนก็ได้นะ

พิกัด: google maps


ถนนเบียวโดอิน โอโมเตะซันโดะ Byodoin Omotesando

ถนนเบียวโดอิน โอโมเตะซันโดะ Byodoin Omotesando

ก่อนกลับก็ต้องขอแวะชอปกันสักหน่อย ซึ่งที่เมืองอุจิมีถนนสายหลักสำหรับซื้อของฝาก และนั่งหาอะไรอร่อย ๆ กินอย่าง ถนนเบียวโดอิน ที่อยู่บริเวณหน้าวัดเบียวโดอินนั่นแหละ ถนนมีความยาวประมาณ 200 เมตร แต่มีของขายอัดแน่นมากมายเต็มไปหมด แน่นอนว่าแทบทั้งหมดจะเป็นสินค้าจากชาเขียว ของขึ้นชื่อของที่นี่คือ โซบะชาเขียว ที่หลายคนอยากมาลองลิ้มชิมรสกัน ไม่เพียงแค่นั้น อาหารที่มีชาเขียวเป็นส่วนประกอบยังมีทั้ง ทาโกยากิราดซอสชาเขียว ซอฟต์ครีมชาเขียว เกี๊ยวซ่าชาเขียว ข้าวแกงกะหรี่ชาเขียว และราเมนชาเขียว (ที่ไม่ใช่เส้นใส่ชาเขียวแบบโซบะ แต่ซุปเขียวอื๋อกันไปเลย) ให้สายชาเขียวได้ลองอย่างเต็มอิ่ม

 

ที่นี่ยังมีร้านกาแฟเชนชื่อดังอย่าง Starbucks ตั้งอยู่ด้วย เป็นหนึ่งในสาขาสตาร์บัคส์ของญี่ปุ่นที่สวยและหลายคนอยากแวะมาด้วยตัวเอง โดดเด่นด้วยหลังคาหน้าจั่วและต้นสนเดี่ยวหน้าร้าน ภายในร้านเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีเพดานสูง รับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ ด้านกลังของร้านยังมีสวนหินสไตล์ญี่ปุ่น ที่สอดคล้องกับวัดในศาสนาพุทธด้วย

พิกัด: google maps


อิโตะคิวเอมอน อุจิ ฮอนเตน  ItohKyuemon Uji Honten

อิโตะคิวเอมอน อุจิ ฮอนเตน ItohKyuemon Uji Honten

ปิดท้ายก่อนกลับด้วยพาร์เฟต์สักถ้วย กับ อิโตะคิวเอมอน อุจิ ฮอนเตน (ItohKyuemon Uji Honten) แม้ร้านนี้จะไกลจากย่านอื่น ๆ อยู่สักหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่เดินมา ตัวร้านก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2375 (เก่าแก่มากกก) นอกจากพาร์เฟ่ต์ตามฤดูกาลที่ฮิตมาก ๆ แล้ว ยังมีชาอุจิหลากหลายชนิด รวมถึงขนมหวานที่ทำจากชาเขียวอุจิซึ่งเหมาะสำหรับเป็นของขวัญ โรงน้ำชาที่อยู่ติดกันสามารถชงชาเขียวมัทฉะได้เอง บอกเลยว่าพาร์เฟ่ต์ที่นี่ต้องลองจริง ๆ เพราะของเขาดีมาก ๆ !

พิกัด: google maps

ขอบอกว่า อุจิ เกียวโต ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชักชวนให้เราแวะไปอีกเยอะมากกก จนลืมไปเลยว่าที่นี่เป็นเมืองชาเขียว เพราะจริง ๆ แล้วทั้งประวัติศาสตร์ สถานที่ต่าง ๆ และธรรมชาติของที่นี่ก็สวยสะกดจนไม่มีอะไรโดดเด่นไปกว่าอะไร อุจิ จึงเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่หากใครมีโอกาสแวะไปภูมิภาคคันไซ ก็ลองปักหมุดเอาไว้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ต้องแวะก็ได้นะ

Articles You Might Like

Share This Article