PULSE Phra Arthit สาขาที่สองของคาเฟ่ไวป์สุดชิลล์ ในย่าน พระอาทิตย์ ที่ยังเน้นเรื่องเครื่องดื่ม ดนตรี และทัศนียภาพเช่นเดิม

คาเฟ่แรกที่ Routeen. แวะเวียนไป (จนตอนนี้เราไปมามากกว่าร้อยแห่งทั่วกรุงเทพฯ แล้ว) คือ PULSE Bangkhuntian ที่ปกติพวกเราก็ไปกันเองบ่อยมาก ๆ เนื่องด้วยชอบทั้งบรรยากาศ ไวป์ของร้าน ไปจนถึงเครื่องดื่มและขนมที่รสชาติถูกปาก (กลับไปอ่านเรื่องราวของคาเฟ่แห่งนี้อีกครั้งได้ที่นี่) พอเราได้ข่าวว่าพวกเขามีสาขาที่สองแล้ว แถมยังเขยิบเข้ามาในเมืองเสียทีบนถนน พระอาทิตย์ กับ PULSE Phra Arthit ที่แม้ช่วงนี้จะยังเป็น Soft Opening อยู่ แต่เราก็รอไม่ไหวที่จะไม่แวะไปจริง ๆ

PULSE Phra Arthit คาเฟ่ กรุงเทพ

ตัวร้านตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 2-3 ของคูหาหนึ่งหลัง (ที่อนาคตเราจะพาทัวร์พื้นที่ทั้งหมดของอาคารนี้อีกครั้งนะ) ที่พอมาอยู่ในอาคารแบบนี้ ความรู้สึกจึงแตกต่างจากสาขาแรกไปเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นเรายังมีโอกาสได้ทักทาย คุณมะนาว – ศศิ เทอดธีระกุล และ คุณวิทย์ – เอกวิทย์ เชพานุเคราะห์ อีกครั้ง และพูดคุยถึงที่มาของสาขาสองนี้สักหน่อย

คาเฟ่ ใหม่ พระอาทิตย์ กรุง เทพ เที่ยว

ทั้งคู่เล่าให้ Routeen. ฟังว่า จริง ๆ แล้วโปรเจ็กต์ของ PULSE Phra Arthit ที่ พระอาทิตย์ นี้ ไม่ใช่สิ่งแรกที่คิดจะทำ แต่ร้านที่ตั้งใจมาก่อนคือ Coconut Culture ที่อยู่ชั้น 1 ต่างหาก แต่เนื่องด้วยทั้งคู่มีโอกาสได้อาคารนี้ทั้งอาคารมาพัฒนาต่อ จึงเริ่มมองหาอะไรมาลงในอาคารแห่งนี้

“แต่เดิมอาคารนี้เป็นบ้านพักคนงานมาก่อน ที่ถูกกั้นห้องถี่ ๆ เอาไว้ในแต่ละชั้น เมื่อรื้อผนังกั้นห้องทั้งหมดออก จึงทำให้เห็นว่า ด้านนอกหน้าต่างของอาคารนี้ฝั่งหนึ่งจะติดกับวัง และบ้านพระอาทิตย์ ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่เรียงตัวแน่นสุดร่มรื่น พุ่มไม้ขึ้นสูงจนมองออกไปแล้วเห็นเพียงความเขียวขจีด้านนอก”

PULSE Phra Arthit พระอาทิตย์ Routeen.

ขอย้อนอดีตกลับไปอีกครั้ง คุณวิทย์เองก็เคยเปิดร้านกาแฟมาก่อนในย่านจตุจักร ในเวลานั้นก็เจอกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติแวะเวียนมาอย่างสม่ำเสมอ ฟีลลิงของการพบปะ และทำเครื่องดื่มให้กับนักท่องเที่ยวก็ยังอยู่ในใจและนึกถึงอยู่เสมอ ประกอบกับเมื่อปีก่อน จะเห็นว่าแวดวงคาเฟ่ในบ้านเราค่อนข้างเงียบลง แต่ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็เริ่มฟื้นตัวและเติบโตขึ้นได้อีกครั้ง ในเมื่อทั้งคุณวิทย์และคุณมะนาว ก็มีขาข้างหนึ่งที่ทำคาเฟ่เพื่อลูกค้าไทยอยู่แล้ว ก็เริ่มอยากก้าวขาอีกข้างออกไปพบเจอและสนุกกับนักท่องเที่ยวอย่างที่เคยเป็นอีกครั้ง

พื้น ร้าน คาเฟ่ อาคาร เก่า พระอาทิตย์ กรุงเทพ

ทำให้ทั้งคู่เริ่มมองหาโลเคชั่นที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่ตัวเองกำลังมองอยู่ โดยเดินหาเอาตามย่านต่าง ๆ ที่เล็งไว้ ทั้งทรงวาด เยาวราช ท่าเตียน ประตูผี หรือย่านอื่น ๆ จนสุดท้ายจึงนึกถึงถนนพระอาทิตย์ที่ทั้งคู่ผูกพันอยู่ไม่น้อย ทั้งแวะเวียนมานั่งกินดื่มที่นี่ หรือเคยศึกษาในสถาบันการศึกษาในละแวกนี้เช่นกัน และทำให้พวกเขาได้เจอกับอาคารหลังนี้นี่เอง

PULSE Phra Arthit cafe Coffee Scenery Music

แต่ในเมื่อโจทย์ที่ได้คือ ต้องเช่าพื้นที่ทั้งคูหา ไม่แบ่งเฉพาะชั้นใดชั้นหนึ่งให้เช่า ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจอย่างละเอียดขึ้น แต่ด้วยโลเคชั่นที่ดีมาก ๆ จึงไม่อยากเสียพื้นที่แห่งนี้ไป คุณมะนาวและคุณวิทย์จึงสำรวจอาคารนี้อย่างจริงจัง โดยแต่เดิมเป็นบ้านพักคนงานมาก่อน ที่ถูกกั้นห้องถี่ ๆ เอาไว้ในแต่ละชั้น เมื่อรื้อผนังกั้นห้องทั้งหมดออก จึงทำให้เห็นว่า ด้านนอกหน้าต่างของอาคารนี้ฝั่งหนึ่งจะติดกับวัง และบ้านพระอาทิตย์ ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่เรียงตัวแน่นสุดร่มรื่น พุ่มไม้ขึ้นสูงจนมองออกไปแล้วเห็นเพียงความเขียวขจีด้านนอก

pulse พระอาทิตย์ คาเฟ้่ กรุงเทพ ใหม่ เที่ยว hopping

ด้วยทัศนียภาพตรงหน้า ทำให้ทั้งคู่เริ่มมองเห็นว่า ที่จริงแล้วพื้นที่ของชั้นสองนี้ก็เป็น PULSE ในอีกหนึ่ง Scenery ได้ (จากคอนเซปต์ของแบรนด์อย่าง Coffee | Scenery | Music) และให้เป็น PULSE ที่มีขนาดกะทัดรัดลงก็ได้ และมองหาโจทย์ของร้านใหม่ที่เข้ากับย่านนี้อย่าง พระอาทิตย์ ด้วย โดยจับความสดชื่น ความมีชีวิตชีวาของย่านนี้มาเป็นโจทย์ในการนำเสนอ ซึ่งก็จะมีคาแรกเตอร์ต่างจาก PULSE Bangkhuntian อยู่เช่นกัน โดยแสดงออกผ่านงานตกแต่ง สีสัน และเมนูของสาขานี้ด้วย

งานดีไซน์ของ PULSE Phra Arthit ยังคงเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติที่มี Texture และจับต้องได้ เราจึงยังคงเห็นวัสดุอย่างไม้จริง เหล็ก ปูน อิฐ ดิน มากกว่าใช้วัสดุปิดผิวสังเคราะห์ แต่มีพาเลตต์ของสีสันที่มีชีวิตชีวาขึ้น และสอดคล้องกับตัวอาคารที่เป็นสีเหลืองพาสเทล (ซึ่งเป็นสีเดิมของตึก) จึงหยิบเอาสีอื่น ๆ ที่เข้ากันได้ เช่นเลือกใช้กระเบื้องสีฟ้าอ่อน สีเขียว และสีส้มเข้ามาแซมกับสัจจะวัสดุที่มีอยู่

PULSE Phra Arthit

ส่วนพาร์ต Music ก็มองหาลำโพงที่ค่อนข้างมีคาแรกเตอร์ และเสียงที่ไม่จี๊ดจ๊าดบาดหูมาก เนื่องด้วยพื้นที่ค่อนข้างเล็กและระยะของผู้นั่งอาจอยู่ใกล้กับลำโพง จึงเลือกเป็น Altec Lansing Model 14 ที่นอกจากเสียงที่ไม่บาดหูแล้ว ตัววัสดุของลำโพงยังเป็นไม้ที่เข้ากับตัวร้านได้ดี และเลือกใช้แอมป์หลอดที่ช่วยให้เสียงนวล ๆ อุ่น ๆ ขึ้น มาพร้อมเพลย์ลิสต์ที่มีจังหวะเปลี่ยนไปตามแต่ละช่วงเวลา เราอาจจะได้เจอแจ๊สในช่วงเช้า ๆ หรือกลางวัน และบีตก็เร้าขึ้นในช่วงเย็นเพื่อสร้างความกระปรี้กระเปร่าขึ้น

และเลือกวางเคาน์เตอร์ที่หันหลังในกับประตูทางเข้า เมื่อเราเดินเข้ามาในร้าน จะเจอบรรยากาศของร้าน พื้นที่ของร้าน ที่นั่ง และ System ต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่ของพวกเขา ให้โฟกัสกับวิวตรงหน้า เพลงจากลำโพง มากกว่าจะต้องมานั่งมองบาร์

PULSE พระอาทิตย์ เมนู เครื่องดื่ม ขนม เค้ก

เมนูเครื่องดื่มที่นี่มีทั้งเหมือนและต่างกับสาขาแรก ที่แน่ ๆ คือเมนูซิกเนเจอร์ที่ถูกคิดและนำเสนอตามย่านที่ร้านตั้งอยู่เองจะต่างกัน (แน่ล่ะ) อย่างที่ PULSE Phra Arthit นี้จะนำเสนอ 2 เมนูที่คิดมาจาก “พระอาทิตย์” ทั้งความสดใสจากพระอาทิตย์ขึ้น และความสงบจากพระอาทิตย์ตก

Sunbeam Non-Coffee น้ำสับปะรด น้ำส้ม เลมอน

ออกมาเป็นเครื่องตัวแรกกับ Sunbeam (130 บาท) เครื่องดื่ม Non-Coffee ที่ใช้น้ำสับปะรด น้ำส้ม และเลมอน ที่ช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่า ท็อปด้วยครีมมัตฉะวานิลลา ที่ช่วยตัดรสเปรี้ยวด้วยความหวานขมเล็ก ๆ ที่บอกเลยว่าดื่มแก้วนี้ไปด้วย มองสีเขียวนอกหน้าต่างไปด้วย จะรู้สึกเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก แก้วนี้อยากให้ลองดื่มจากเลเยอร์ล่างไล่ขึ้นมาเลเยอร์บน จะได้มิติที่ไล่เรียงจากเปรี้ยมาหวานและขมได้ดี

Sundown เอสเพรสโซ ซินนามอน ซีซอลต์ คาราเมล ครีม

อีกแก้วกับ Sundown (140 บาท) เอสเพรสโซช็อตกับซินนามอนซีซอลต์คาราเมลครีม ที่ได้ทั้งความอบอุ่น และความเข้มของกาแฟ ที่ปากแก้วยังท็อปด้วยส้มเครมบูเลที่ให้ฟีลลิงเหมือนกำลังจิบค็อกเทลสักแก้วในยามค่ำคืนเลยล่ะ

Double Choc Soft Cookie With Fresh Cream
Red Velvet Cake PULSE Phra Arthit พระอาทิตย์

ลองสั่ง Double Choc Soft Cookie With Fresh Cream (140 บาท) คุกกี้แบบซอฟต์ที่อุ่นร้อนมาพอให้ช็อกโกแลตในคุกกี้เมลต์ได้ที่ กินคู่กับครีมสดที่ทำให้ขนมถ้วยนี้ละมุนขึ้น กับ Red Velvet Cake (130 บาท) ที่ช่วยเสริมรสชาติให้กับเครื่องดื่มในมือได้เป็นอย่างดี

โดยตอนนี้พื้นที่ชั้น 3 ถูกใช้เป็นโซนซัพพอร์ตลูกค้าร้าน PULSE Phra Arthit ไปก่อนในวันที่ตัวร้านชั้น 2 หนาแน่น แต่จริง ๆ แล้วที่ชั้น 3 นี้ถูกวางให้เป็น PULSE Workplace & Space พื้นที่สร้างสรรค์สำหรับจัดงานแบบอเนกประสงค์ ทั้งเป็นที่นั่งทำงาน พื้นที่จัดงานนิทรรศการ เวิร์กชอป เปิดตัวสินค้า จัดอิเวนต์ หรือจะมีคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ก็ยังได้ในอนาคต

PULSE Phra Arthit 
เปิดทุกวัน เวลา 9:00 – 18:30 น.
ถนนพระอาทิตย์ ชนะสงคราม 
MRT สนามไชย แล้วต่อพี่วินหรือแท็กซี่ | จอดรถได้ที่ Sheepshank, Muay Thai Street และวัดชนะสงคราม (มีค่าจอด)

google maps

Articles You Might Like

Share This Article