คุ้นตากันดีกับ People Park คอมมูนิตี้มอลของชาวอ่อนนุชที่เปิดตัวมาได้หลายปีแล้ว ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ริมถนนอ่อนนุชก่อนถึงอ่อนนุชซอย 10 ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้าต่าง ๆ เรียกว่าครบรสเลยล่ะ ล่าสุดมีร้านอาหารเปิดใหม่ ไวบ์ชิลล์ และกำลังจะกลายเป็นที่แฮงเอาต์แห่งใหม่ ชื่อ ร้าน Olympus Bar Cafe & Restaurant
Olympus Bar Cafe & Restaurant เรียกว่าเป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร และบาร์ ครบจบในที่เดียว เพิ่งเปิดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ในฐานะที่เป็นชาวอ่อนนุชท่าหนึ่ง เราเลยขอแวะเข้าไปสำรวจดูหน่อยว่าที่นี่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง และโชคดีที่เราได้เจอกับคุณ โบว์ – หทัยรัตน์ หิรัญสถิตย์พร และคุณ กันต์ อุดมพร เจ้าของร้าน Olympus แห่งนี้ด้วย
จุดเริ่มต้นของ Olympus Bar Cafe & Restaurant เกิดขึ้นจากคุณโบว์ – หทัยรัตน์ หิรัญสถิตย์พร ผู้ชื่นชอบการกินดื่มเที่ยว มีความสุขกับการแฮงเอาต์ กินอาหารอร่อย ๆ และด้วยความชอบท่องเที่ยวเลยมีโอกาสได้ไปที่ประเทศโครเอเชีย ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวแห่งยุโรป เป็นหนึ่งในประเทศที่สวยมาก ๆ ของยุโรปเลย มีทั้งวิวทิวทัศน์ที่ติดทะเล สถาปัตยกรรมเก่าแก่ เชื่อว่าใครได้ไปน่าจะหลงรักเหมือนคุณโบว์แน่ ๆ
ด้วยความมีแพชชั่นในการกินและการเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยตัดสินใจเปิดร้านอาหารในธีมโครเอเชียขึ้นมา ตั้งใจให้เป็นไวบ์แบบเมือง Trogir (โทรเกียร์) ที่บ้านเรือนจะมีความเก่าแก่สไตล์กรีก-โรมัน มีสถาปัตยกรรมเก่าให้เห็น รวบรวมไอเดียโยนให้สถาปนิก เนรมิตพื้นที่ชั้น 2 ของคอมมูนิตี้ให้กลายเป็นเมือง Trogir แบบย่อม ๆ และโชคดีที่ได้พื้นที่ตรงหัวมุมพอดี ทำให้ที่นี่ได้กระจกบานใหญ่ เพิ่มความโปร่งให้กับพื้นที่
“ชื่อร้านโอลิมปัส เริ่มมาจากเรามีเสาโรมันสไตล์กรีกในร้านก่อน เลยอยากได้ชื่อที่มีความเป็นโรมันโบราณ เลยนึกถึงเทพเจ้าสไตล์กรีก ตอนแรกคิดไว้ว่าชื่อ แอสการ์ด แต่มองว่าเป็นชื่อที่ได้ยินบ่อยแล้ว เลยเปลี่ยนใจใช้ชื่อ โอลิมปัส เป็นชื่อภูเขาของทวยเทพแทน”
ที่บอกว่าตกแต่งแบบโครเอเชีย ก็คือเล่นใหญ่ตั้งแต่ทางเข้าเลย มีการจำลองกำแพงหิน และประตูเหล็กดัดโค้งเหมือนกำลังจะเข้าไปในปราสาทของเทพ เข้าไปด้านในจะพบกับพื้นหินเทียม ที่ปูเต็มทั้งร้าน บาร์วงกลม และเสาโรมัน แอบมีมุมถ่ายรูปเป็นประตูหลอกไว้ให้ด้วย
ภายในร้านมีการแบ่งโซนค่อนข้างชัดเจน โดยฝั่งบาร์จะมีโต๊ะริมกระจกแบบนั่งคู่กัน ให้ไวบ์โรแมนติกหน่อย ๆ หรือมาชิลล์กับเพื่อนสาว ส่วนด้านในจะมีโต๊ะแบบจริงจังเลย และมีห้อง Private ด้วย ไม่ว่าจะกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่สามารถรองรับได้ พื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลย คุณโบว์บอกเราว่า ตั้งใจทำพื้นและผนังให้เป็นหินเทียม เหมือนกับว่าเรากำลังเดินอยู่ในตรอกซอกซอยของประเทศโครเอเชีย แบบที่เธอได้เจอมาแล้วชอบ
ส่วนบาร์จะเห็นว่ามีไฟสีสันห้อยลงมาเป็นเส้น ๆ ตรงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง Avatar จะเห็นว่าหลายอย่าง Inspired มาจากภาพยนตร์บ้าง เกมบ้าง เพราะทั้งคู่จริง ๆ ก็เป็นเกมเมอร์นี่เลยเป็นจุดเชื่อมของทั้งคู่ให้ดีไซน์ร้านออกมาในสไตล์เหนือจินตนาการนิด ๆ รวมไปถึงสตอรี่เมนูต่าง ๆ ด้วย
จริง ๆ แล้วทั้งคู่ไม่เคยมีใครทำธุรกิจอาหารมาก่อน เพราะคุณโบว์เองทำธุรกิจเกี่ยวกับขายวัสดุก่อสร้าง และคอนกรีตผสมเสร็จ และคุณกันต์เองก็ทำด้านความงามมา แต่โชคดีที่คุณกันต์มีน้องชายเป็นเชฟอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย และมีประสบการณ์การทำงานในโรงแรมมาก่อน เลยดึงตัวเข้ามาช่วยดูเรื่องสูตรและเมนูอาหารให้ ทำให้ที่นี่มีทั้งอาหารจริงจรัง จานใหญ่แบบยุโรป ตะวันตก และอาหารกินแกล้มเบา ๆ แซ่บ ๆ สไตล์ไทยให้เลือก (เมนูเยอะมาก ๆ)
ชิมเมนูเด็ด ร้าน Olympus Bar Cafe & Restaurant
เราได้ลอง ยำสโนว์ไวท์กับแอปเปิ้ลทั้ง 7 (340 บาท) ยำปลากะพงทอดสูตรพิเศษ น้ำยำรสแซ่บที่มีความพิเศษคือใช้แอปเปิ้ลเขียวแทนมะม่วง ทำให้มีความเปรี้ยวอมหวานและหอมแอปเปิ้ลนิด ๆ เป็นเมนูที่มีเสิร์ฟจริงที่เมลเบิร์นเลย เชฟเลือกหยิบมาใส่ในเมนูที่นี่เพิ่มความแปลกใหม่
อีกจานเป็น สลัดแซลม่อนสติ๊ก (399 บาท) สลัดสูตรพิเศษที่ทำจากปลาแซลมอนจากแม่น้ำ Styx แห่ง Underworld หรือยมโลก เป็นสตอรี่สนุก ๆ ที่ร้านสร้างขึ้นมาให้มีกิมมิก และตอนเสิร์ฟก็มาแบบอลังการควันพวยพุ่งเหมือนมาจาก Underworld เลย
ทีเด็ดอยู่ที่ เนื้อวากิว Dry-aged ที่เป็นพระเอกของร้าน ซึ่งเมนูสเต็กเนื้อในร้านจะใช้เนื้อ Dry-aged ทั้งหมด ซึ่งเป็นเนื้อที่คุณโบว์คัดมาแล้ว ด้วยความชอบกินเนื้อเลยให้ความสำคัญมาก ตระเวนลองชิมเนื้อมาหลายแบบ กว่าจะหาซัพพลายเออร์ที่ถูกใจได้ เสียเงินไปเกือบห้าหมื่นบาท จนในที่สุดก็เจอเนื้อที่ถูกใจคือ ไทยวากิว Dry-aged เลยเลือกมาเป็นวัตถุดิบที่ร้าน ในราคาที่ไม่แพงเกินไปด้วย
เราเลือกเป็น สตริปลอยด์วากิวดรายเอจ New York Steak (230-250 กรัม 1,190 บาท) เนื้อบ่มส่วนสันนอกติดมันฟิน ๆ เนื้อนุ่มมีกลิ่นหอมของเนื้อและมันเนื้อผสานกันอย่างลงตัว เสิร์ฟมาแบบมีเดียมแรร์ พร้อมกับหินร้อน ถ้าใครอยากได้ความสุกเพิ่มขึ้นก็สามารถเอาเนื้อไปจี่ที่หินได้เลย (ร้อนจนควันขึ้น เสียงซู่ซ่ายั่วน้ำลายมาก)
ฝั่งเมนูไทย ๆ กินแกล้มถูกใจสายดื่ม เราเลือก หมูมะนาว (129 บาท) รสจัดจ้านเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดมาครบรส ถูกปากคนไทยสุด ๆ และ หมูกรอบคั่วพริกเกลือ (160 บาท) แค่เห็นก็ตาวาว หมูหนังกรอบมันฉ่ำ มีความคริสปี้ ผัดมาแบบรสจัด เผ็ดจัเจ้านดี
ส่วนเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย มีบาร์จริงจังถูกใจทั้งสายแฟนซีและสายชิลล์เลย ซึ่งคุณกันต์ยืนบาร์เองเลย ด้วยความชอบเลยไปเทคคอร์ส เอาหลาย ๆ เมนูที่เข้าใจมาดัดแปลงเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน หนึ่งในเมนูพิเศษที่คุณกันต์คิดขึ้นมาคือ Moon Fall เป็นจินโทนิคที่มีลูกเล่นคือ พ่นไฟใส่แก้วก่อนแล้วนำน้ำแข็งทรงกลมที่มีรูอยู่ตรงกลางมาวาง ก่อนจะเทค็อกเทลลงไป จะเห็นว่ามีควันหมุน ๆ อยู่ตรงกลางแก้วให้ความสนุกในการดื่มไปอีกแบบ
ในวันที่เราไปฝั่งคาเฟ่ยังไม่เปิดนะ แต่ในอนาคต (เร็ว ๆ นี้) คาเฟ่จะเปิดให้บริการแน่ ๆ มีเครื่องดื่ม กาแฟ ขนม ในบรรยากาศกลางวันสวย ๆ ให้มาแวะเช็คอิน ถ่ายรูปกันได้
ร้าน Olympus Bar Cafe & Restaurant
เปิดทุกวัน เวลา 15:00 – 01:00 น.
ชั้น 2 People Park อ่อนนุช
BTS อ่อนนุชแล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
Google Maps
