MUU Bangkok ลักชูรีบูทีคโฮเทลกลาง ทองหล่อ ที่ชวนให้เราลองมารู้จักทองหล่อให้มากขึ้น แล้วกลับมานอนในโรงแรมที่หรูหราแต่ไม่ตะโกน

ใครเป็นสายชอบ Staycation บ้าง? อีกย่านที่เราอาจไม่ค่อยมีโอกาสได้ลองไป Staycation มากนัก ทั้งที่เราเองก็แวะเวียนไปในย่านนี้บ่อย ๆ อย่าง “ทองหล่อ” เพราะเราอาจจะนึกถึงแค่สถานที่แฮงก์เอาต์ ร้านอาหาร และมีตติ้งพอยต์ดี ๆ กับแก๊งเพื่อน แต่อาจไม่เคยลองมาดูว่า แล้ววิถีชีวิตในย่านทองหล่อนอกเหนือจากไนต์ไลฟ์นั้นเป็นอย่างไร การมาลองเปลี่ยนที่นอนสักคืนในย่านนี้จึงน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหากได้มีโอกาสมาทิ้งตัวลงบนเตียงใน Luxury Boutique Hotel กลางทองหล่ออย่าง MUU Bangkok

MUU Bangkok ทองหล่อ

MUU Bangkok ทองหล่อ เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา และยังเป็นหนึ่งในไม่กี่โรงแรมในประเทศไทยที่เป็นพันธมิตรกับเครือ Small Luxury Hotels of the World community อีกด้วย โดยตั้งอยู่ที่ชั้นบนของโครงการไลฟ์สไตล์มอลล์อย่าง EIGHT Thonglor ทำให้เป็นอีกหนึ่งโรงแรมกลางทองหล่อที่มีความสะดวกสบาย เพียงลงมาก็มีชอปปิงคอมเพล็กซ์ครบครัน และยังไปฮอตสปอตต่าง ๆ ของทองหล่อได้อย่างง่ายดาย

Small Luxury Hotels of the World community
MUU Bangkok lobby

“ส่วนชื่อ MUU Bangkok ก็มาจากภาษาไทยว่า “หมู่” ในภาษาไทย ที่สื่อความหมายถึงผองเพื่อน เครือญาติ ชุมชน ไปจนถึงหมู่ (บ้าน) ที่เป็นดั่งพื้นที่ของคนไทยที่ใช้การในที่อยู่ และแปลงเสียงให้ง่ายขึ้นสำหรับชาวต่างชาติ ”

โรงแรม ทองหล่อ eight thonglor

MUU Bangkok ทองหล่อ ตั้งใจให้ทุกคนที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นแขกผู้เข้าพัก หรือพนักงานทุกหน่วยในพื้นที่ ต้องได้ประสบการณ์ผ่าน 2 คีย์เวิร์ดหลัก ๆ อย่าง Happiness และ Being Yourself คืออยากให้ทุกคนมี ‘ความสุข’ กับพื้นที่ของโรงแรมนี้ แขกก็มีความสุขในการเข้ารับบริการ ส่วนพนักงานก็มีความสุขในการให้บริการ โดยทั้งหมดจะยังอยู่ใน ‘ความเป็นตัวเอง’ ตัวโรงแรมจะเฟรนด์ลี อยากให้ทุกคนได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน แม้การบริการที่หรูหรา และพิธีรีตองที่มีมากมายในโรงแรมจะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ แต่สุดท้ายทุกคนก็อุ่นใจที่ได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่บ้านเรา ในฝั่งพนักงานก็อยากให้มอบการบริการที่ยังเป็นตัวเองอยู่ ไม่สูญเสียตัวตนไปนั่นเอง

MUU-Bangkok-key-card

ด้วยเหตุนี้ แม้โรงแรมจะบอกว่าตัวเองเป็น Luxury Boutique Hotel แต่เราก็จะไม่ได้งานตกแต่งที่หรูหรา รายละเอียดซับซ้อน หรือวัสดุที่อลังการ ไม่ใช่ความลักชูรีฟีลหินอ่อน แชนเดอเลีย หรือแก้วต้องแสงระยิบระยับอะไรแบบนั้น แต่อยากให้ความลักชูรีเป็นประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับไปต่างหาก งานออกแบบของโรงแรมจึงจะเน้นไปที่ความร่วมสมัย คุมโทนให้มีความเรียบง่าย สบาย ๆ ด้วยโทนสีเข้ม แต่แอบหยอดสีเสน ที่ออกเป็นสีส้มสดเข้ามาตัด เพื่อสร้างอารมณ์ของพื้นที่เพิ่มเติม เราแอบได้ยินมาว่า ที่ทางครีเอทีฟของโครงการตั้งใจหยอดสีส้มเข้ามานี้มาจากการที่ได้อ่าน Brand Book ของ MUU Bangkok ที่ค่อนข้างลึกมาก ๆ (โดยได้นักเขียนวรรณกรรมชาวอังกฤษมาวาง Brand Book ให้) เลยหยิบเอาไทยโทนที่มีความเป็นตัวเรามาใส่เพิ่มลงได้นั่นเอง

ส่วนชื่อ MUU Bangkok ก็มาจากภาษาไทยว่า “หมู่” ในภาษาไทย ที่สื่อความหมายถึงผองเพื่อน เครือญาติ ชุมชน ไปจนถึงหมู่ (บ้าน) ที่เป็นดั่งพื้นที่ของคนไทยที่ใช้การในที่อยู่ และแปลงเสียงให้ง่ายขึ้นสำหรับชาวต่างชาติ

Dermalogical Grade Amenities

ความน่าสนใจอีกอย่างของที่นี่คือการพัฒนาโครงการผ่าน Sustainable Program และตั้งใจทำอย่างมาก ๆ เราจะเห็นได้ตั้งแต่ Amenities ทุกตัวในห้องน้ำที่เป็น Dermalogical Grade ที่ทั้งประเทศไทยเลือกใช้เกรดนี้เพียงแค่ 2 โรงแรมเท่านั้น นอกจากไม่ทำลายผิวแล้ว ยังไม่ทำลายน้ำอีกด้วย รวมถึงในห้องพักจะมีถังขยะที่ให้แขกผู้เข้าพักช่วยกันแยกขยะก่อนทิ้ง (ถังขยะก็ใช้ตะกร้าสาน) ต้นไม้ในบริเวณโรงแรมก็เติบโตด้วยปุ๋ยธรรมชาติจากกากอาหารที่ได้มาจากห้องอาหารของโรงแรม รวมถึงระบบภายในโรงแรมอื่น ๆ อีกด้วย

Deluxe King MUU Bangkok

MUU Bangkok ทองหล่อ จะแบ่งออกเป็นโซนโรงแรม และโซนเรซิเดนซ์สำหรับลองสเตย์ โดยฝั่งโรงแรมจะมีทั้งหมด 148 ห้อง แบ่งออกเป็น 6 รูมไทป์ เริ่มต้นที่ห้อง Deluxe King ขนาด 37 ตารางเมตร ห้อง Junior Suite King ขนาด 61 ตารางเมตรที่มีพื้นไม้ดูอบอุ่น ห้องนอนกว้างขวางพร้อมเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารขนาดใหญ่ และโซฟาขนาดใหญ่ หรือจะใหญ่ขึ้นมาอีกกับ Junior Suite King With Balcony ขนาด 72 ตารางเมตร ที่มีระเบียงวิวเมืองขนาดกว้างให้ออกมาพักผ่อน พร้อมอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วย

room ทองหล่อ โรงแรม

สำหรับกลุ่มใหญ่หรือครอบครัว ก็มี Two Bedroom Suite ขนาด 100 ตารางเมตรที่มีห้องพักขนาดใหญ่ถึง 2 ห้อง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านแต่ยังหรูหรา และสุดท้ายกับ Thong Lo Suite ขนาดใหญ่ถึง 180 ตารางเมตร ที่มาพร้อมห้องนอนหรูหรา 2 ห้อง ระเบียงกว้างเหมาะสำหรับการรับประทานอาหารกลางแจ้ง ห้องน้ำหินอ่อนตกแต่งด้วยสีทอง พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารขนาดใหญ่ พร้อมห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน

La Sala di Otto
สระว่ายน้ำ โรงแรม มูว์ แบงคอก

ที่ชั้น 10 เป็นที่ตั้งของ La Sala di Otto ห้องอาหารที่ตอนเช้าจะเปลี่ยนเป็นจุดให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ และเปิดให้บริการยาวมาก ๆ ตั้งแต่ 6:30 – 11:30 น. ในวันจันทร์ – ศุกร์ และลากยาวไปจนถึง 14:00 น. ในวันเสาร์ – อาทิตย์ไปเลย! นั่นเพราะทางโรงแรมเข้าใจว่า ผู้เข้าพักหลายคนก็ต้องการอยากออกไปใช้ชีวิตข้างนอก และไม่อยากให้ต้องรีบร้อนตื่นมาเพื่อทานอาหารเช้าขนาดนั้น นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีบริการ Afternoon Tea หลังจากจบเวลาอาหารเช้าอีกด้วย

Petite Trolley
italian-อาหารอิตาเลียน-muu-bangkok
OTTO Italian Restaurant อาหารอิตาเลียน food

ที่บริเวณล็อบบี้ยังมีร้านกาแฟเล็ก ๆ ในชื่อ Petite Trolley รถเข็นเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ให้เราได้ลองกาแฟแก้วโปรด พร้อมเสิร์ฟทั้งกาแฟ และเครื่องดื่มอื่น ๆ ไปจนถึง Coffee Cocktail เลยด้วย เรียกว่าตัวเล็กแต่สเปคใหญ่มาก นอกจากนี้ยังมีสปา ฟิตเนส บาร์อีก 2 แห่ง ได้แก่ Ze Bar บาร์ริมสระว่ายน้ำของโรงแรม และ 008 Bar บาร์ที่มีชื่อเสียงที่หลายคนรู้จักกันดี รวมถึงห้องอาหารอิตาเลียนใหม่ล่าอย่าง OTTO Italian Restaurant ที่เราเพิ่งพาไปชิมมาไม่นานนี้ (อ่านอีกครั้งที่นี่)

MUU Bangkok

ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 4,800 บาท เช็กราคาที่ https://muuhotels.com/bangkok/ 
โครงการ EIGHT Thonglor ทองหล่อซอย 8
BTS ทองหล่อ แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ

google maps  

Articles You Might Like

Share This Article