นับตั้งแต่การรีโนเวต และเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ MUU Bangkok ไลฟ์สไตล์โฮเทลที่ตั้งอยู่ด้านบนของโครงการ Eight Thonglor ทำให้ทองหล่อคึกคักและมีสีสันขึ้นอีกเยอะ ที่สำคัญคือใน MUU Bangkok มีห้องอาหารใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานอย่าง OTTO Italian Restaurant (อ็อตโต้ อิตาเลียน เรสเตอรองก์) ที่เสิร์ฟ อาหารอิตาเลียน ตามแบบฉบับของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน สไตล์ซิซิเลียน (Sicilian) ที่พิเศษและน่าสนใจกว่าอาหารอิตาเลียนทั่วไปด้วย
เมนูทั้งหมดถูกรังสรรค์โดย เชฟโจ-นันทปรีชา ชำนิป่า Executive Chef ผู้คว่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารตะวันตกมากว่า 15 ปี ผ่านคอนเซปต์ที่ตั้งใจนำเสนอความสดใหม่ของวัตถุดิบคุณภาพดีนำเข้าจากอิตาลี ตามแบบฉบับของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและดีต่อสุขภาพ ซึ่งความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนก็จะแสดงออกผ่านงานตกแต่งและรูปแบบของห้องอาหารด้วย ที่ดีไซน์ให้ดูทันสมัย ลงตัวกับการตกแต่งที่มีกลิ่นอายของความสนุกสนาน สะท้อนผ่านลวดลายของจานอาหารและเฟอร์นิเจอร์ที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร แอบหยอดสีน้ำเงิน เหลืองมะนาว ลงบนพื้นสีขาวสะอาด ขับให้บรรยากาศดูผ่อนคลายและเป็นกันเองเข้าไปด้วย
ส่วนชื่อร้าน OTTO นั้นก็เป็นภาษาอิตาเลียน ที่แปลว่า 8 ที่เข้ากับพื้นที่ตรงนี้ ด้วยความที่อยู่บริเวณทองหล่อซอย 8 รวมถึงตั้งอยู่บนโครงการ Eight Thonglor ด้วย จึงตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสถานที่ นอกจากนี้ตามหลักความเชื่อแล้ว เลข 8 ยังหมายถึงความรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้นด้วย จึงหยิบคำนี้มาเป็นชื่อร้านอย่าง OTTO Italian Restaurant เข้ากับ อาหารอิตาเลียน นั่นเอง
ทางร้านมีไวน์ให้เราเลือกมา Pairing กับอาหารจานต่าง ๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ หากลูกค้าต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ รวมถึงม็อกเทล ก็สามารถสั่งจาก Ze Bar บาร์ริมสระว่ายน้ำของโรงแรม MUU Bangkok ได้เช่นกัน
“เมนูทั้งหมดถูกรังสรรค์โดย เชฟโจ-นันทปรีชา ชำนิป่า Executive Chef ผู้คว่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารตะวันตกมากว่า 15 ปี ผ่านคอนเซปต์ที่ตั้งใจนำเสนอความสดใหม่ของวัตถุดิบคุณภาพดีนำเข้าจากอิตาลี ตามแบบฉบับของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและดีต่อสุขภาพ”
นอกจากเมนูที่มีให้เลือกหลากหลายแล้ว ความพิเศษคือทางห้องอาหารยังมี Black Board ที่จะเป็นเมนูนอกเหนือจากในเมนู รังสรรค์โดยเชฟที่แตกต่างออกไปในแต่ละโอกาสและวัตถุดิบที่มีในแต่ละช่วงเวลา ให้เราได้ลองสั่งและรับประสบการณ์ใหม่ ๆ อีกด้วย
เราขอเริ่มจากเมนูใน Black Board ในวันที่เรามีโอกาสได้แวะเวียนไปก่อนเลยอย่าง Ghocchi Lobster (520 บาท) เส้นญ็อกกี้ที่ผสมมันฝรั่งลงไปในแป้งด้วย ทำให้หนึบและแน่นกว่าพาสตาเส้นสดทั่วไป ผัดกับล็อบสเตอร์สด และซอสที่ผสมเลือดล็อบสเตอร์ลงไปด้วย ทำให้ได้กลิ่นทะเลที่มากกว่า สร้างความพิเศษในจานนี้ได้มากขึ้น
Linguine Crab & Bottagar (700 บาท) เส้นลิงกวินีที่นำไปผัดกับวองโกเลสต็อกกับล็อบสเตอร์สต็อก สร้างกลิ่นทะเลในจานนี้มากขึ้น จากนั้นผัดเนื้อปูม้าผัดกับไวน์ขาว ราดลงบนลิงกวินี ออนท็อปด้วย Bottagar เป็นอีกจานที่เอาใจคนรักเส้นได้ดี
อีกจานกับ Scallop Rossini (900 บาท) หอยเชลล์จากอเมริกาที่มีเนื้อขาวมากกว่าโฮตาเตะของญี่ปุ่น นำไปเซียร์ แล้วท็อปด้วยฟัวกราส์ชิ้นโต ซอสมะม่วงที่ตีกับเดรสซิงที่มีเลมอน น้ำผึ้ง และน้ำส้มสายชูเวเนการ์ เพิ่มความสดชื่นในจานด้วยอโวคาโดเพียวเร และท็อปด้วยบัลซามิคที่นำไปรีดักชันแล้ว ขอบอกว่าเนื้อหอยเชลล์เด้งหนึบดีมากเลยล่ะ
นอกจากจานใน Black Board แล้ว เมนูประจำในร้านก็น่าสนใจอยู่หลายจานไม่น้อย เราเลือก Polpo Arrosto (450 บาท) ปลาหมึกทั้งตัวที่ทางร้านเลือกใช้แค่ส่วนหนวด (เพราะส่วนหัว Octopus จะค่อนข้างเหนียว) นำหนวดหมึกไป Sous Vide 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำไปกริลล์ โรยผงสโมกปาปริกาอิมพอร์ต วางลงบนมันฝรั่งบดที่ใส่ White Truffle Paste ที่กลิ่นชัดกว่า Black Truffle
จานต่อมากับ Spigola (600 บาท) ปลากระพงแล่ เคียงด้วยมันฝรั่งหั่นเต๋าที่นำไปกริลล์ มะเขือเทศ ผัดกับเนย และไวน์ขาวให้มันฝรั่งดูดน้ำเพิ่มรสชาติ จานนี้่ได้กลิื่นสมุนไพรอ่อน ๆ บีบเลมอนนิดลงบนปลาแล้วกิน ทำให้จานนี้ครบรสมากขึ้น
Scampi Alla Griglia (580 บาท) กุ้งขาวสดที่นำไปซีซันนิงสูตรพิเศษของทาง Otto Italian Restaurant นำไปเซียร์บนกระทะร้อน จากนั้นนำไปดิวซ์กับวองโกเลสต็อกและล็อบสเตอร์บิท โรยด้วยกระเทียมผัด คนรักกุ้งน่าจะตกหลุมรักจานนี้ได้ไม่ยาก (เพราะเป็นจานขายดีของทางร้านเช่นกัน)
กินเล่น ๆ กับ Bruschetta (400 บาท) มะเขือเทศเนื้อลูกใหญ่ที่มีความสดชื่น ใส่ White Balsamic ช่วยขับความหวานของมะเขือเทศ ท็อปด้วยซาร์ดีนที่แช่ใน Extra Vergin Olive Oil หอม ๆ เค็มหน่อย ๆ หรืออยากนั่งคุยกันยาว ๆ ก็สั่ง Iberico Ham (490 บาท) กับ Smoked Scamorza (190 บาท) มาจับคู่กับไวน์แก้วโปรด ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเหมือนกันนะ
นี่เป็นอีกหนึ่งห้องอาหารอิตาเลียนที่รสมือน่าสนใจ กับการใส่ใจในการปรุงแต่ละจานให้เข้ากับวัตถุดิบพรีเมียมที่หามาจากทั่วโลก บวกกับบรรยากาศแบบสบาย ๆ ตกกลางคืนจะได้วิวทองหล่อของตึกระฟ้าด้านนอก ให้บรรยากาศโรแมนติกเล็ก ๆ สร้างโมเมนต์ดี ๆ ให้มื้ออาหารได้ดีทีเดียว
OTTO Italian Restaurant
เปิดทุกวัน 11:00 – 22:30 น.
ชั้น 11 โรงแรม MUU Bangkok
BTS ทองหล่อ แล้วต่อพี่วิน หรือเดิน | มีที่จอดรถ