สัมผัสประสบการณ์กิน-ดื่ม สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน กับร้านสุดสดใสกลางสาทร ที่ Mimosa Restaurant & Bar

หากมีโอกาสแวะเวียนไปย่านสาทร แล้วมองเข้าไปในพื้นที่ของร้านอาหารไทยที่อยู่คู่กับถนนเส้นนี้มากว่า 30 ปีอย่าง บ้านขนิษฐา ก็น่าจะเห็นอาคารหลังสีเหลืองครีม ที่มีไม้ใบและไม้ดอกสีสันสดใสแน่นอยู่หน้าร้าน พร้อมกันสาดสีเขียวเตะตา ให้บรรยากาศคล้ายร้านในเมืองร้อนแถบยุโรป ตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นด้วย นี่คือร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนแห่งใหม่ในย่านสาทร – สีลม ที่เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ กับ Mimosa Restaurant & Bar นั่นเอง

Mimosa Restaurant & Bar

ที่ตัวร้านมาตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับร้านอาหารบ้านขนิษฐา นั่นเพราะร้านมิโมซ่าก็เป็นหนึ่งในเครือของกลุ่มร้านอาหารบ้านขนิษฐานี่แหละ ด้วยความตั้งใจที่อยากนำเรื่องราวของอาหารแดนไกล และวัตถุดิบ ในแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปชิมแต่ละจานที่โซนประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจริง ๆ จึงหยิบเอาดอกไม้สีเหลืองอย่าง ดอกมิโมซ่า ที่พบเจอได้ตามแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มาเป็นไอเดียตั้งต้นของตัวร้าน ที่ต้องการจะสื่อถึงความสดใส สวยงาม สดชื่น และมีชีวิตชีวา การตกแต่งของร้านจึงหยิบเอาสีเหลืองมาใช้เป็นหลัก เพิ่มความโปร่ง โล่ง ด้วยเพดานยกสูงสีขาวที่เผยให้เห็นโครงสร้างเหล็ก และหลังคาทรงโค้งด้านบน มีการใช้งานกระเบื้องตามสไตล์ของประเทศแถบนั้นร่วมด้วย ทั้งพื้น ทางเดิน ไปจนถึงหน้าโต๊ะที่เลือกใช้กระเบื้องสีน้ำเงิน ตัดกับสีของตัวร้านได้เป็นอย่างดี

Mimosa Interior

“ด้วยความตั้งใจที่อยากมอบความรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปชิมแต่ละจานที่โซนประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจริง ๆ จึงหยิบเอาดอกไม้สีเหลืองอย่าง ดอกมิโมซ่า ที่พบเจอได้ตามแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มาเป็นไอเดียตั้งต้นของตัวร้าน ที่ต้องการจะสื่อถึงความสดใส สวยงาม สดชื่น และมีชีวิตชีวา”

ชื่อร้าน Mimosa Restaurant & Bar ก็หยิบเอาชื่อของดอกไม้นี้แหละมาใช้ รวมถึงคาแรกเตอร์ของร้านที่ใช้เป็นภาพหญิงสาวสวมหมวกปีกกว้าง มีพวงดอกมิโมซ่าตกแต่งประดับเพิ่มความสวยงาม ก็มาจากดอกไม้นี้ที่เป็นดอกไม้แทนวันสตรีสากล ที่สวยงาม อ่อนโยน แต่ก็แข็งแกร่ง นั่นเอง

Chris Beverley

เราแอบส่องเข้าไปถึงในครัวก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะที่นี่ได้ เชฟคริส เบเวอร์รี่ (Chris Beverley) มาดูแลเรื่องอาหารให้ โดยนำเอาเทคนิคเฉพาะ วัตถุดิบพรีเมียม และความเชี่ยวชาญในการประกอบอาหารแนวอิตาเลียน ฝรั่งเศส และสเปนของเชฟมาพัฒนาเมนูที่นี่ หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเชฟชาวอังกฤษผู้นี้อยู่แล้ว เพราะเชฟคริสมีประสบการณ์ทางด้านโรงแรม และร้านอาหารทั้งในประเทศไทย และทั่วโลกมากว่า 20 ปี อาทิ Gigi Bangkok, Theo Mio Intercontinentsl Bangkok, Red Lion Freehouse UK, Theo Randell Intercontinental London หรือ Chez Bruce UK เป็นต้น จุดนี้มั่นใจได้เลยว่าเชฟคริสและทีมจะต้องพาเราไปถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนผ่านจานอาหารโดยไม่ต้องเสียเวลาบินแน่นอน

house Mediterranean gin & tonic
Fiesta Mimosa

ยังไม่หมด เพราะนอกจากครัวเปิดที่เราจะแอบมองเข้าไปได้แล้ว หากหันหลังกลับมาอีกฝั่งของทางร้าน ก็จะพบกับเคาน์เตอร์บาร์สุดเท่ที่ตั้งต้อนรับพวกเราอยู่ ที่ทางมิโมซ่าได้ตัวเซเลบริตี้บาร์เทนเดอร์ที่เรารู็จักกันดี (และแอบกรี๊ดอยู่เล็ก ๆ) อย่าง คุณณิกษ์ อนุมานราชธน มาดีไซน์เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ทุกแก้วให้ตรงตามคอนเซปต์ของทางร้าน โดยเน้นที่ความสดชื่น ผ่อนคลาย และรสชาติใหม่ ๆ แบบไม่ซ้ำที่ไหน งานนี้คุณณิกษ์จะยกเอาประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้มาจาก Asia Today, Issan Rum, Independence, VV Spirits, Bangkok Bar Show และ Bangkok Gin Fest มาสร้างความสนุกผ่านแก้วเครื่องดื่มแบบไหน งานนี้ Routeen. ได้ลองชิมแล้วเหมือนกัน!

Burrata and Tomato Salad

เรามีโอกาสได้ลองหลากหลายเมนูของทางร้าน เริ่มเรียกน้ำย่อยกันก่อนอย่าง Burrata and Tomato Salad (450 บาท) ชีสสดสไตล์อิตาลีที่ข่างในยังเป็นครีมอยู่ กินคู่กับสลัดมะเขือเทศที่ใส่ขนมปัง Focaccia Croutons หอมแดง และโหระพา ช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดีมาก ๆ

Mussels & Chorizo
Goat’s Cheese Souffle
Goat’s Cheese Souffle

ขยับมาที่ Mussels & Chorizo (495 บาท) กันบ้าง หอยแมลงภู่กับโชลิโซ นำไปผัดกับน้ำมันมะกอกและไวน์ขาว ใส่ถั่วลูกไก่เข้าไปหน่อย กินคู่กับขนมปัง Sourdough เป็นอีกจานที่เราชอบไม่แพ้กัน ยิ่งได้กินคู่กับ Goat’s Cheese Souffle (375) ที่มาพร้อมซัมเมอร์ทรัฟเฟิล ชีสจากนมแพะมีกลิ่นเฉพาะตัวแต่อร่อยเชียวล่ะ หรือถ้าใครอยากได้หนักท้องกว่านี้อีกหน่อย ก็มีพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนน่าลองอีกเยอะ สายชีสอย่างเราลอง Cheesus Christ! (325 บาท) พิซซ่าที่ใส่ชีสแบบจุก ๆ อย่าง Mozzarella, Gorgonzola, Scamorza, Parmezan, เติมรสชาติด้วยกระเทียมเม็ดอบ และ Breadcrumbs แบบครันชี่ หรือสายเห็ดเราก็ได้ลอง Tell Me The Truff (le) (395 บาท) พิซซ่าเห็ดแชมปิญอง และทรัฟเฟิลมาสคาโปน ก็ถูกใจไปอีกแบบ

Calamarata allo Scoglio
Tagliatelle al Tartufo

ต่อด้วยพาสต้า ที่มีให้เลือกจุใจมาก เราขอต่อความทรัฟเฟิลจากพิซซ่าชิ้นก่อนด้วย Tagliatelle al Tartufo (475 บาท) พาสต้าเส้นตัลยาเตลเลที่ลวกมาแบบอัลเดนเต้กำลังดี ผัดกับทรัฟเฟิลครีมซอส และซัมเมอร์ทรัฟเฟิล อีกจานเป็น Calamarata allo Scoglio (395 บาท) คาลามาราตาสไตล์อิตาเลียนท้องถิ่นแท้ ที่ปกติจะใส่ปลาหมึกหั่นแว่นกับเพสโตซอส แต่ที่นี่มาเต็มทั้งกุ้ง หอย และปลาหมึก เรียกว่าถูกปากสายซีฟู้ดแน่นอน อีกอย่างคือคาลามาราตานั้น อัล เดนเต้ ดีมาก ๆ 

Tender Valley Striploin
Prawns al Ajillo

มาที่จานหลักกันบ้างอย่าง Tender Valley Striploin (1,100 บาท) เนื้อสตริปลอยด์ที่ Grain-Fed มา 200 วัน ทำให้เนื้อนุ่มและมีรสชัดขึ้น ดิปกับ Mojo Rojo เข้ากันอย่าบอกใคร ส่วนใครไม่กินเนื้อ ลองสั่งเป็นจานกุ้งอย่าง Prawns al Ajillo (495 บาท) กินคู่กับขนมปัง Sourdough ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

Mimosa’s Chocolate Pot

ปิดท้ายด้วยของหวาน เราสั่งตัวเด่นของร้านอย่าง Mimosa’s Chocolate Pot (275 บาท) ช็อกโกแลตกานาจเนื้อเนียน นุ่ม รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟมาในแก้วกาแฟ แต่งหน้าด้วยราสป์เบอร์รี่ ครีมอัลมอนด์ ช็อกโกแลตครัมป์ และตุอีล หรือใครชอบอะไรร้อน ๆ ต้องสั่ง Rum Baba! Rum! (275 บาท) เค้กเนื้อนุ่มที่ตอนเสิร์ฟจะราดสปิริตพร้อมจุดไฟ รอให้ไฟมอดดับแล้วผ่าครึ่ง ทาครีมช็องติยี่ลงไป กินคู่กับสับปะรดย่าง เป็นของหวานที่กินคนเดียวแล้วอาจเดินเซได้เลยนะ

Rum Baba! Rum!

สำหรับเราผู้หลงใหลและชื่นชอบในอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนอยู่แล้ว คิดว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งร้านที่จดเอาไว้ในใจ ให้เป็นจุดหมายของมื้อที่อยากกินอาหารอิตาเลียน ฝรั่งเศส หรือสเปนอร่อย ๆ ไปจนถึงค็อกเทลดี ๆ สักแก้ว จะแวะเวียนมาหาเมนูคลาสสิก หรือทวิสต์นิดหน่อย ที่นี่ก็มีพร้อมเสิร์ฟ กับบรรยากาศสบาย ๆ ที่ทำให้เราปล่อยใจจอย ๆ จากความวุ่นวายบนถนนสาทรได้ ที่สำคัญที่นี่ Pet Friendly ด้วยนะ

Mimosa Restaurant & Bar

เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 23:00 น.
เมนูบรันซ์ มีเสิร์ฟทุกวัน
ปากซอยสาทร 3 สาทรใต้ 
MRT ลุมพินี แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ

google maps

Articles You Might Like

Share This Article