Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน หวนคืนความทรงจำในวัยเด็กกับเมนูจานโปรดที่ดังจัดในเดลิเวอรี กับร้านแรกในย่านอารีย์

ยังจำกันได้ไหมว่าในช่วยที่เราเด็ก ๆ มีอะไรเป็นอาหารจานโปรดกันบ้าง? บางคนอาจเป็นไก่ทอดเสียบไม้ในโรงอาหาร บางคนเป็นขนมโตเกียวหน้าโรงเรียน หรือบางคนอาจเป็นสายไหมฟูฟ่องเอาไว้ถือกินระหว่างกลับบ้าน แต่เราเชื่อว่าจานโปรดที่อยู่ความทรงจำ และถือเป็นคอมฟอร์ดฟู้ดในใจมาตลอด คงต้องยกให้ “ข้าวผัดอเมริกัน” นี่แหละ และจะมีกี่ร้านที่ขายเมนูนี้อย่างจริงจังแบบทั้งร้านมีเมนูเดียวไปเลย แถมยังชวนให้เราได้ลิ้มรส ข้าวผัดอเมริกัน ที่คิดถึง ในรูปแบบที่พรีเมียมและ Specialty มากขึ้น กับ Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน (ลัคกี้’ส ฮังกรี)

Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน

พอพูดชื่อนี้ออกมา เหล่าคนที่ชอบสั่งอาหารเดลิเวอรีน่าจะอ๋อกันบ้างแหละ เพราะจริง ๆ แล้ว Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน เขาฮิตและมีแฟน ๆ อยู่ในเดลิเวอรีมาพอตัวเลยล่ะ จนเรียกว่าช่วงหนึ่งเป็นกระแสอยู่ไม่น้อยสำหรับร้านข้าวผัดอเมริกันนี้ หลังจากที่เริ่มขายข้าวผัดอเมริกัน (ที่หลังจากนี้เราจะขอเรียกสั้น ๆ ว่า AFR นะ) ในเดลิเวอรีมาตั้งแต่ช่วงสิงหาคม 2565 มาถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่จะมีหน้าร้านจริงจัง ให้เราได้เข้าไปนั่งชิมกันได้ถึงที่ ในย่านอารีย์อย่างอารีย์ซอย 3 ซึ่งเพิ่งเปิดได้สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2566 นี่เอง

คุณเบสท์ - ณัฐธนนท์ สิทธิปัญญพัฒน์ และ คุณนิว - ยุทธดนัย พิมพ์โสภา

แล้วทำไมจากที่เคยขายเดลิเวอรี ถึงต้องมีหน้าร้านด้วยล่ะ? เรื่องนี้คงไม่มีใครตอบคำถามได้ดีเท่า คุณเบสท์ – ณัฐธนนท์ สิทธิปัญญพัฒน์ หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน และเป็นพ่อแรงหลัก ๆ ในครัวอีกด้วย คุณเบสท์เล่าให้ Routeen. รู้จักตั้งแต่จุดเริ่มต้นของธุรกิจของเขา ว่าจริงๆ แล้วคุณเบสท์ (และพาร์ตเนอร์อีกท่านอย่าง คุณนิว – ยุทธดนัย พิมพ์โสภา) ก็ทำธุรกิจอาหารมาก่อน โดยเป็นเดลิเวอรีเหมือนกัน ทั้งแบรนด์ เจ๊ใหญ่โอเด้งหมาล่า และ ข้าวเหนียวมะม่วง อยู่ดีมีสุข ซึ่งในช่วงสองสามปีก่อน เดลิเวอรีค่อนข้างบูมมาก ๆ ด้วยวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เมื่ิอทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ประเทศกลับมาเปิดอีกครั้ง ยอดเดลิเวอรีก็ลดลง ประกอบกับทั้ง 2 แบรนด์นั้นก็เป็นเพียงอาหารทานเล่น การสั่งซื้อก็ลดลงเรื่อย ๆ

บรรยากาศร้าน

“AFR ของ Lucky’s Hungry ถูกตั้งขึ้นผ่านไอเดียว่า อยากหวนคืนความทรงจำดี ๆ ที่พวกเรามีสมัยเด็ก กับความอร่อยของ AFR กลับคืนมาอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน ในตอนเด็ก ๆ เราก็จะโดนตีกรอบจากผู้ใหญ่ในการสั่งอาหาร เราจะไม่ได้เลือกเองหรอกว่าอยากกินอะไร”

วันหนึ่ง ออฟฟิศของคุณนิว ก็อยากให้ทำอาหารเลี้ยงพนักงานในบริษัท คุณเบสท์จึงเลือกทำข้าวผัดอเมริกัน เพราะส่วนตัวก็ชอบกิน AFR อยู่แล้ว ปรากฎว่าพนักงานที่ได้กินก็ชอบมาก จนมีเสียงพูดขึ้นมาว่า ทำไมทั้งคู่ถึงไม่ทำ AFR ขายกันนะ จุดเริ่มต้นของ Lucky’s Hungry จึงเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น

จากอาหารทานเล่น สู่ Specialty AFR ที่โด่งดังในเดลิเวอรี

outdoor area

แต่เพียงแค่เสียงฟีดแบ็กอาจไม่มีการตัดสินใจทั้งหมด จริง ๆ แล้วคุณเบสท์และคุณนิวก็มองแล้วว่า ธุรกิจอาหารจานหลักน่าจะไปได้ดีกว่าอาหารทานเล่น ประกอบกับการที่เห็นว่า ในยุคนี้ ร้านที่ขายอาหารเฉพาะทางไปเลย มักจะประสบความสำเร็จมากกว่าร้านที่ขายอาหารแบบวาไรตี้ ประกอบกับกำลังการผลิตที่มีของทั้งคู่ จึงเป็นปัจจัยเพิ่มเติมในการตัดสินใจเปิด Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ (ในเดลิเวอรี) พอลองเปิดร้านครั้งแรกผ่าน LINE Man โดยที่ยังไม่ได้ทำการโปรโมตใด ๆ วันแรกก็ได้ยอดขายหลักพัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจไม่น้อย

เมื่อตัดสินใจขายอย่างจริงจัง จึงต้องมองดูตลาดให้ชัดเจนขึ้น ทั้งคู่เริ่มวางตัวเองให้เป็น Specialty AFR ที่อยู่ในราคาที่สามารถจับต้องได้ การมองหากลุ่มเป้าหมายจึงเป็นอีกสิ่งที่พวกเขาตั้งใจมองหา ในตอนแรกทางร้านมีครัวอยู่ที่ย่านเจริญกรุง เพราะยังอยู่ในรัศมีการสั่งของชาวออฟฟิศย่านสีลม-สาทร จากนั้นจึงเริ่มจัดเมนูต่าง ๆ ท็อปปิงที่ควรมีบนจาน ที่รองรับทั้งความต้องการ และราคาที่กลุ่มเป้าหมายนี้จะรับได้ เพื่อให้สอดคล้องกันทั้งความต้องการทำอาหารที่อร่อย กับกำลังของลูกค้าที่จะสั่งไปด้วย

ข้าวเหนียวมะม่วง อยู่ดีมีสุข

ส่วนชื่อ Lucky’s Hungry ก็ขยายความมาจากชื่อบริษัทอย่าง อยู่ดีและมีสุข (ซึ่งเป็นชื่อของร้านข้าวเหนียวมะม่วงด้วย) เลยหยิบความหมายของชื่อบริษัทอย่างความโชคดี และเป็นมงคล มาเป็นตัวตั้ง ชื่อ Lucky จึงมาก่อน ส่วน Hungry ก็มาด้วยความบังเอิญจากน้องพนักงานที่หิวจัดแล้วได้กิน จนบอกออกมาว่า โชคดีนะที่หิว เลยได้กินของอร่อย ๆ แบบนี้ กลายมาเป็นชื่อร้าน AFR ในปัจจุบันนี่เอง

Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน

ในขณะที่เปิดเดลิเวอรี ความต้องการที่จะมีหน้าร้านก็คลุ้งอยู่ในใจเสมอมา เพราะในฐานะคนทำอาหารย่อมรู้อยู่แล้วว่า การเสิร์ฟอาหารจานร้อนแล้วได้กินทันทีย่อมอร่อยกว่า รวมถึงการสื่อสารกับลูกค้าก็ทำได้ชัดเจนกว่า รวมถึงปัจจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยเสริมให้การกิน AFR อร่อยขึ้น ทั้งการจัดจาน ไปจนถึงบรรยากาศ ที่เดลิเวอรีมอบให้ไม่ได้ ทำให้การมีหน้าร้านถือกำเนิดขึ้น

จากครัวเดลิเวอรีเล็ก ๆ ที่เจริญกรุง สู่ Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน อารีย์

แล้วทำไมถึงไม่ลงหลักปักฐานที่ย่านเจริญกรุง ย่านแรกที่มีครัวเดลิเวอรีล่ะ? จุดนี้ทางคุณเบสท์และคุณนิวยึด Data เป็นหลัก เมื่อเช็กจากการสั่งซื้อในเดลิเวอรี ที่จะมีรัศมีพื้นที่แสดงอย่างชัดเจน จะพบว่าในบริเวณครัวเดิมที่เจริญกรุง 93 นั้น ในวงรัศมีของพื้นที่ พบว่าครึ่งหนึ่งเป็นสีลม-สาทรก็จริง แต่อีกครึ่งก็เป็นพระราม 3 ที่เขยิบออกไปก็เป็นผืนน้ำ ที่ไม่มีประชากรอยู่ แปลว่าจริง ๆ แล้วลูกค้ามีเพียงครึ่งของรัศมีนั้น การมองหาพื้นที่ที่มี Potential จึงเริ่มขึ้น เมื่อลองดูกลุ่มลูกค้าที่สั่งนอกรัศมีวงกลม ก็พบว่ามีทั้งปทุมวัน สามย่าน พญาไท ซึ่งน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว  

ป้ายหน้าร้าน

ในขณะเดียวกัน แบรนด์ข้าวเหนียวมะม่วงก็ไปได้ได้ดีไม่ต่างกัน ในช่วงต้นปีจึงมีโอกาสได้ลองเช่าซุ้มเล็ก ๆ ที่อารีย์ซอย 1 เพื่อขายข้าวเหนียวมะม่วง ทำให้ได้เจอลูกค้าตัวจริงเสียที โอกาสการได้รับฟีดแบ็กต่าง ๆ ก็มีมากขึ้น และเมื่อลูกค้าหลายคนก็รู้ว่า ทั้งคู่ยังมีร้าน AFR อยู่เช่นกัน ก็เกิดการถามหาอย่างหนาหูมากขึ้นถึงหน้าร้าน จนมีลูกค้าข้าวเหนียวมะม่วงคนหนึ่งที่ชี้เป้าว่าตัวเขาเองมีพื้นที่ร้านอาหารเดิมของตัวเองในอารีย์ซอย 3 เมื่อดูทั้งโอกาสและความพร้อมที่มี หน้าร้านแรกของ Lucky’s Hungry จึงเกิดขึ้นที่นี่นั่นเอง

Specialty AFR ที่ใส่ใจถึงวัตถุดิบ และบาลานซ์ของรสชาติ

AFR ของ Lucky’s Hungry ถูกตั้งขึ้นผ่านไอเดียว่า อยากหวนคืนความทรงจำดี ๆ ที่พวกเรามีสมัยเด็ก กับความอร่อยของ AFR กลับคืนมาอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน ในตอนเด็ก ๆ เราก็จะโดนตีกรอบจากผู้ใหญ่ในการสั่งอาหาร เราจะไม่ได้เลือกเองหรอกว่าอยากกินอะไร หรือการได้กินไส้กรอก ไข่ดาว หมูแฮม ก็เป็นอะไรที่หรูหรามากแล้วในความคิดของเรา พอเด็กในวันนั้นที่เติบโตขึ้นมาในวันนี้ ก็อยากมอบโอกาสในการเลือกท็อปปิง หรือจะ Add-on อะไรก็ได้ตามใจ เพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเองในวัยเด็ก

Lucky’s Hungry

สิ่งหนึ่งที่ทางร้านใส่ใจคือ การทำให้ทุกคำที่ตักเข้าปากต้องอร่อยเหมือนเดิม เพราะจุดอ่อนของ AFR คืออร่อยคำแรก ๆ แต่คำต่อไปเลี่ยน ทางร้านจึงต้องจัดบาลานซ์ของรสชาติในจาน ด้วยการทำให้ตัวข้าวผัดมีรสอ่อน เพื่อให้เข้ากับท็อปปิงที่เข้มข้น ตัวซอสมะเขือเทศที่ไว้ผัดกับข้าว จึงเป็นสูตรพิเศษที่ทำขึ้นมาเอง เพิ่มเติมด้วยเครื่องเทศที่ใส่เข้าไป เพื่อเพิ่มกลิ่นเฉพาะตัว ส่วนข้าวทางร้านเลือกใช้ข้าวหอมมะลิแท้

ส่วนประกอบอื่น ๆ ของจาน โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องจัดหามา คุณเบสท์และคุณนิวก็ตั้งใจเลือกให้เข้ากับจาน AFR มากที่สุด อย่างไส้กรอกก็เลือกใช้ของ Belucky (บีลัคกี้) สำหรับจานคลาสสิค ส่วนแฮมก็ใช้ของ Butcher รวมถึงไส้กรอกแฟรงเฟิร์ตสำหรับจาน AFR อื่น ๆ ก็ใช้ของ Butcher เช่นกัน

Classic AFR

เราขอเริ่มกันที่จานเริ่มต้นอย่าง Classic AFR (129 บาท) ภายในจานประกอบไปด้วยไส้กรอกหมูแฟรงค์เฟอร์เตอร์ ปีกบนไก่ทอด ไข่ดาวที่รองด้านล่างด้วยแฮมหมูแผ่นใหญ่ เราชอบที่ทางร้านเลือกทอดไข่ดาวแบบไทยนิด ๆ ที่ขอบมีความกรอบ แต่ไข่แดงจะไม่สุก (แนะนำให้เจาะไข่จนแตก แล้วนำไข่แดงเยิ้ม ๆ มาคลุกกับข้าวผัด ก็คืออัปเลเวล 99 สุด) ตัวข้าวผัดรสอ่อน ไม่มัน และบดหัวหอมผสมลงไปใน Tomato paste เรียบร้อยแล้ว ทำให้มีกลิ่นของหัวหอมอ่อน ๆ แต่รสสัมผัสกรอบ ๆ (ที่บางคนอาจไม่ชอบ) ของหัวหอมหายไป ทำให้กินง่ายขึ้นเยอะ

Chic N Cream AFR

ขยับมาเครื่องแน่นอีกนิดกับ Chic N Cream AFR (319 บาท) ข้าวผัดอเมริกัน ที่เสิร์ฟพร้อมไก่ที่นำไป Confit แบบฝรั่งเศส ราดด้วยซอสบัตเตอร์สุพรีมรสชาติเค็มนิด ๆ แต่เข้ากับข้าวผัดอย่างเหลือเชื่อ ในจานยังมีเบคอน ไข่ดาวที่มีหมูแฮมรอง และไส้กรอกหมูอิตาเลียนมาด้วย จานนี้ต้องบอกว่าพระเอกอย่างสะโพกไก่คือถูกต้อง ตัวไก่กงฟีมาดี เนื้อร่อนแต่ไม่เละ และเบคอนก็ไม่เค็มจนเกินไป

Surf N Turf AFR

สุดท้ายกับ Surf N Turf AFR (319 บาท) เซิร์ฟแอนด์เทิร์ฟที่เราชอบ ถูกนำมารวมกับ AFR สุดคลาสสิคจนได้ Combination ที่ลงตัว ทางร้านเลือกใช้ปลากระพงที่คัดมาจากสะพานปลากรุงเทพฯ ทอดในสไตล์คัตสึ ที่ทิ้งไว้นานก็ยังกรอบนอกฉ่ำในอยู่ จิ้มกับทาทาร์ซอสและเลมอน เสิร์ฟคู่กับเบคอน ไข่ดาวที่มีหมูแฮมรอง และไส้กรอกหมูอิตาเลียนชีสแน่น ๆ เป็นอีกหนึ่งจานที่สานฝันคนรักข้าวผัดอเมริกันและของทอดแบบที่เด็ก ๆ ชอบได้เป็นอย่างดี

รวมจานข้าวผัดอเมริกัน

สำหรับเรา Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกัน เปรียบเสมือนพื้นที่ที่ไม่ใช่แค่พาเราย้อนวัยกลับไปเจออาหารจานโปรดสมัยเด็ก ๆ อีกครั้ง แต่กำลังเพิ่มเมนูลูกรักในวันวัยที่เราโตขึ้นมาอีกจาน ทำให้ข้าวผัดอเมริกันไม่ได้เป็นเพียงอาหารจานคุณหนูอีกต่อไป ด้วยความใส่ใจที่อัดแน่นเต็มจาน ช่วยยกระดับให้เมนูจานง่าย ๆ จานนี้ไปไกลกว่าที่คิด และทำให้เราจดบันทึกเอาไว้ในใจแล้วว่า ถ้ารู้สึกอยากกินข้าวผัดอเมริกัน จะต้องคิดถึง Lucky’s Hungry ไปโดยปริยาย

Lucky’s Hungry AFR

เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 14:00 น.
อารีย์ซอย 3 พญาไท 
BTS อารีย์ | ไม่มีที่จอดรถนะ แนะนำมารถสาธารณะดีกว่าจ้า

google maps

Articles You Might Like

Share This Article