สายแฟชั่นเกาหลีเกาใจ ถ้าไม่บินไปซื้อถึงที่เกาหลี ก็คงคุ้นเคยกับการพรีออเดอร์กันดี ที่ฝากหิ้วหรือรอของทีนานเป็นสัปดาห์ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เจอกับ Multi-brand Store ที่รวมแบรนด์เกาหลีล้วน ๆ ที่สายแฟจะต้องฟิน เพราะรวมหลากหลายแบรนด์ฮิตมาให้เราได้ช้อปกันง่าย ๆ หยิบจับลองก่อนได้ ได้สัมผัสของจริงแบบไม่ต้องลุ้นอีกต่อไป ชื่อร้านว่า FEEM BKK ในซอยเอกมัย
FEEM BKK เป็นร้านที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้น 2 ของตึกสีขาวที่อยู่หัวมุมซอยเอกมัย 26 ใครที่มาแล้วเจอทางเข้าเป็นและบันไดเปลือย ๆ เหมือนยังสร้างไม่เสร็จ ไม่ต้องตกใจ เพราะตึกนี้ยังมีอีกหลายร้านที่กำลังจะเกิด
เราได้เจอกับคุณ ฟิล์ม – ธนพร สิงห์ทอง ดูจากชื่อแล้วคงเดาได้ไม่ยากว่านี่แหละเจ้าของร้านแน่ ๆ (ซึ่งก็ใช่จริง ๆ นั่นแหละ) เลยขอจับมานั่งสัมภาษณ์กันหน่อย เธอบอกเราว่า ‘การทำร้านนี้ขึ้นมา เต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญ บวกกับจังหวะชีวิตที่พอดีสุด ๆ’
ย้อนกลับไปก่อนจะเกิดร้าน FEEM BKK เดิมทีเธอเป็น Production Manager หรือผู้จัดการกองถ่าย ใน Production House โฆษณา ทำมาหลายปีทั้งอยู่ในบริษัท เอเจนซี่ จนถึงออกมาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว
พอสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ประเทศเปิดแล้ว เลยบินไปเที่ยวเกาหลี ตั้งใจจะไปเที่ยวให้เต็มที่เลย 10 วัน แต่เหมือนกับว่าตอนที่ประเทศเริ่มเปิดใหม่ ๆ หลาย ๆ อย่างยังไม่กลับมาเป็นปกติขนาดนั้น เมืองเลยมีความเงียบอยู่ จากที่จะเที่ยวให้หนำใจ กลายเป็นว่างเลยเพราะไม่รู้จะไปไหน
จังหวะว่าง ๆ บวกกับ ช่วงนั้นรองเท้า New Balance 530 กำลังดังเป็นกระแสขึ้นมา เลยเปิดรับพรีออเดอร์ขำ ๆ ในเฟซบุ๊ก เผื่อเพื่อนจะสนใจ ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด มีคนฝากหิ้วเยอะจนไม่รู้จัเอากลับมาไทยยังไง
ก็เลยหาบริษัทชิปปิ้ง ส่งของจากเกาหลีกลับมาไทย ตั้งแต่ตอนนั้นเลยทำให้รู้ว่าการพรีออเดอร์ของเกาหลีต้องทำยังไง มีวิธียังไงบ้าง เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้เห็นช่องทางการทำธุรกิจตรงนี้ขึ้นมา
“ทำไปทำมารู้สึกชอบ และจอยกับสิ่งนี้มากกว่า เพราะตั้งแต่ฝึกงานเราทำโพรดักชันส์โฆษณา จบมาก็ทำโพรดักชันส์อีก แล้วไม่เคยทำอย่างอื่นเลย มีบ้างที่รู้สึกกลัวว่าเราจะอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอดชีวิตหรอ พอมาเจอตรงนี้ เจอช่องทางการทำธุรกิจ ก็เลยดึงตัวเองออกมาตรงนี้ดู”
จริง ๆ ต้องบอกว่างานประจำที่ทำ ก็ยังรับอยู่นะเพราะเธอเองมีแฟนเป็น DOP หรือผู้กำกับภาพที่อยู่ในโพรดักชันส์อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เธอเองเทิร์นออกมาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวแล้ว เลยมีเวลามาโฟกัสที่ร้านได้มากขึ้น
หลังจากเริ่มธุรกิจพรีออเดอร์ ทำจริงจังได้เกือบปี จากลูกค้ากลุ่มแรกที่เป็นเพื่อน ๆ กัน ขยับวงกว้างมาเป็นเพื่อนของเพื่อน จนร้านเติบโตมีลูกค้าเป็นคนแปลกหน้ามากขึ้น ก็เริ่มเจอปัญหามากขึ้นตามไปด้วย เพราะด้วยความที่สินค้าแบรนด์เกาหลีราคาค่อนข้างสูง ทำให้การตัดสินใจซื้อยากขึ้น
ลูกค้าจะมีความกังวลว่า จะใส่ได้ไหม ของจริงจะสวยเหมือนในรูปไหม หรือซื้อมาแล้วจะตรงปกไหม จุดนี้เลยทำให้คุณฟิล์มตัดสินใจเปิดหน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาเจอกับสินค้าจริง ๆ ได้เข้ามาหยิบลองได้ด้วยตัวเอง
อีกหนึ่งจังหวะบังเอิญ คือตอนหาโลเคชัน คุณฟิล์มเล่าว่า พอคิดว่าอยากมีหน้าร้าน ก็เคยไปดูแถวสยามมาบ้างแต่ค่าเช่าที่สูง เลยบังเอิญมาเจอกับตึกนี้ในซอยเอกมัย ความบังเอิญคือทั้งตึกเป็นคนในโปรดักชั่นเฮาส์หมดเลย เลยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
ซึ่งตึกนี้แพลนไว้ให้เป็นเหมือน Avenue หนึ่งที่มีหลาย ๆ ร้าน อย่างข้างล่างเป็นร้านขายต้นไม้ของไดเรกเตอร์ ชั้น 2 ข้างกันที่กำลังทำ เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ของทีมอาร์ต ส่วนชั้นบนจะเป็นสตูดิโอของทีมแคสติ้ง และชั้นดาดฟ้าจะทำเป็นบาร์ในอนาคต
ในส่วนของ FEEM BKK ตั้งอยู่บนชั้น 2 มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้ได้เลย เพราะทุบ 2 ห้องรวมกัน ความเท่คือที่ร้านยังเลือกเก็บพื้นเดิมที่ฝั่งหนึ่งเป็นไม้ ฝั่งหนึ่งเป็นปูนไว้ และถ้าเราแหงนหน้าขึ้นไปก็จะเจอกับคานไม้ที่มีความคลาสสิคสุด ๆ ซึ่งเธอก็เลือกที่จะดีไซน์ร้านให้ล้อไปกับโครงสร้างเดิมที่มีความเป็นไม้ ๆ นี้ด้วย
ความตั้งใจในการทำร้าน อยากให้มีความเฟรนด์ลี่ เข้าถึงง่าย เข้ามาแล้วมีโซฟานั่งคอยตรงนี้ เผื่อแฟนมาด้วยกัน ผู้ชายที่ไม่ถนัดเลือกของก็มานั่งรอได้ (จริง ๆ ที่ร้านมีแบรนด์ทั้งของผู้หญิงผู้ชายเลยนะ) หรือเป็นที่นั่งเม้ามอยก็ได้เช่นกัน
“มีช่วงที่ไป ๆ กลับ ๆ เกาหลีบ่อย ซึ่งเราจะเห็นว่าที่เกาหลีจะมีเมืองที่มีร้านเล็ก ๆ เยอะแยะมากมาย ทั้งร้านคาเฟ่ ร้านเสื้อผ้า หรือเป็นร้านกระเป๋าเฉย ๆ เลยก็มี ความหลากหลายนี้ทำให้คนออกไปใช้ชีวิต ไปเดินเล่นกัน เราเองด้วยความที่ต่อไปทั้งตึกจะมีอีกหลายร้าน เลยอยากให้ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งที่อยากให้คนออกมาใช้ชีวิตด้วย”
สำหรับชื่อร้าน FEEM ก็มาจากชื่อคุณฟิล์มเลยตามคาด แต่ที่เลือกเขียนแบบ FEEM เธอเล่าว่าด้วยความที่ทำงานวงการสื่อโฆษณามาก่อน ถ้าใช้ FILM ตรงตัวในการเปิดตัว กลัวคนจะสับสนว่าเกี่ยวกับภาพยนตร์หรือเปล่า เลยดัดแปลงนิด ๆ ไปใช้ FEEM แทน ซึ่งเขียนออกมาแล้วก็ดูยูนีค ดูแฟชั่นดี เธอยังเล่าติดตลกอีกว่าที่ใช้ชื่อนี้เพราะหมอดูเคยบอกว่า ‘ตั้งชื่อร้านหรืออะไรก็ตามให้มีชื่อตัวเองนะ’ (เราว่านี่แหละจุดสำคัญ!)
ลอง Mix and Match แฟชั่นแบรนด์ที่ FEEM BKK กัน!
สำหรับ Multi-brand ต่าง ๆ ในร้าน ส่วนมากประมาณ 80% เป็นแบรนด์ดัง หรือแบรนด์ที่เป็นกระแสของเกาหลี แบบที่เราเห็นตอนไปเที่ยวเกาหลีว่าเขาใส่กันแบบนี้ และอีก 20% เป็นแบรนด์ที่คุณฟิล์มไปเลือกมาเอง เห็นว่าน่าสนใจ ซึ่งในร้านจะมีครบทั้ง ทั้งเสื้อผ้า กางเกง กระเป๋า รองเท้า ไปจนถึง Accessory เลย
แบรนด์ดัง ๆ ที่มีตอนนี้ค่อนข้างวาไรตี้เลย ไม่ว่าจะเป็น mardi mercredi, rr (Rest & Recreation), scluptor, standoil, ADER error, new balance, matin kim, emis, blue elephant และอีกเพียบ ทำให้เราสามารถหยิบจับแมทช์ชุดได้อย่างสนุก
คุณฟิล์มบอกเราว่า ซึ่งจริง ๆ คุณภาพของแบรนด์เกาหลีก็ค่อนข้างมั่นใจได้อยู่แล้ว พอมีหน้าร้านที่ได้มาหยิบจับ ลองด้วยตัวเองก็เพิ่มความมั่นใจในการซื้อได้มากขึ้น และเธอเองก็มองว่า ในไทยยังไม่มีร้านที่รวมแบรนด์เกาหลีจัด ๆ แบบนี้ด้วย ก็เลยคิดว่า ซึ่งที่ร้านก็ตั้งใจเลือกแบรนด์ให้มีความหลากหลาย โดยที่แต่ละแบรนด์มีหลายรุ่น สต๊อกหลายตัว มีของค่อนข้างพร้อม
“ฟิล์มตั้งใจจะบินไปเลือกเองทุกซีซั่น ของบางชิ้นเป็นกระแสก็จริง แต่เราอยากได้ของที่ไม่ได้มีในร้านพรีทั่วไปด้วย อยากเลือกบางอย่างมาลงเอง ให้ลูกค้าที่เข้ามาหน้าร้านได้เจอกับสิ่งนี้ก่อนใคร”
สำหรับแบรนด์อะไรที่ไม่มีในร้าน หรือใครกำลังสนใจแบรนด์อื่น ๆ หรือมีของชิ้นไหนเพิ่มเติมที่อยากได้ ก็ลองสอบถามที่ร้านกันได้เลย เพราะทางร้านก็ยังเปิดรับพรีออเดอร์อยู่เหมือนเดิมนะ
FEEM BKK
เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 20:00 น.
เอกมัย 26
BTS เอกมัย แล้วต่อพี่วิน
Google Maps
