Chou Shabu เปิดประสบการณ์ชาบูคอร์สแบบใหม่ ที่ยกระดับมื้อชาบูให้พิเศษกว่าเดิม บนเส้น อารีย์ ซอย 1

หนึ่งในรายการอาหารที่คนไทยหลาย ๆ คนชื่นชอบ น่าจะมี Shabu – Shabu อยู่ในลิสต์ของหลาย ๆ คนแน่ ๆ กับหม้อซุปร้อน ๆ พร้อมใส่วัตถุดิบที่ชอบลงไปให้ได้กินอย่างคล่องคอ แต่ล่าสุด เมนู ชาบู ที่ชื่นชอบจะถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่ ที่ทำให้ประสบการณ์การกิน ชาบู ของเราถูกยกระดับมากขึ้น กับ Chou Shabu อารีย์ ซอย 1

จริง ๆ Routeen. เองก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ที่ในย่านสุดคึกคัก (และหนาแน่น) อย่าง อารีย์ ยังเหลือพื้นที่ให้ขึ้นอาคารหลังใหม่ได้ (ยิ่งเป็นอารีย์ซอยต้น ๆ แล้วด้วย ยิ่งหาที่ว่างยากเข้าไปอีก จะเห็นก็เพียงการเปลี่ยนแปลงของร้านต่าง ๆ ในอาคารเดิมที่มีอยู่แล้วเสียมากกว่า) แต่ Chou Shabu เป็นร้านที่ถูกสร้างขึ้นใหม่บนพื้นที่กว้างที่มีที่จอดรถเพียบพร้อม และบนพื้นที่นี้ ในอนาคตยังจะมีร้าน CUT Raw & Grilled ที่มาในรูปแบบ Chef Table ตั้งอยู่ที่นี่ด้วยอีกร้านหนึ่ง

Chou Shabu อารีย์ ชาบู ร้านอาหาร

เรามีโอกาสคุยกับทีมงานของ Chou Shabu ถึงที่มาที่ไปของที่นี่ จึงทำให้ได้รู้ว่า จริง ๆ แล้วที่นี่มีเจ้าของเดียวกับ Chez Miline และ CUT Raw & Grilled (ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยแวะไปจัด 9 เมนูจัดตั้งรัฐบาลที่ Chez Miline มาก่อนแล้วด้วยนะ ลองอ่านได้ที่นี่เลย) ที่เปิดให้บริการมากว่า 3 ปีแล้วบนถนนสุโขทัย โดยพื้นที่ในซอย อารีย์ 1 นี้ได้มาในช่วงการแพร่ระบาด และก่อนนี้ร้าน CUT Raw & Grilled ก็อยู่ในย่านนี้ (ก่อนที่จะย้ายไปรวมอยู่กับ Chez Miline) จึงพัฒนาพื้นที่ที่ได้มาทำเป็นร้านนั่นเอง

โลโก้ ผีเสื้อ ชาบู สุกี้ Chou

สิ่งหนึ่งที่ Chou Shabu ใส่ใจมาก ๆ นั่นคือเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบ หากย้อนกลับไป เรื่องคุณภาพเป็นสิ่งที่ใส่ใจมาจากการที่ทางเจ้าของร้านมีธุรกิจเลี้ยงและจำหน่ายไก่อย่างครบวงจรมาอยู่แล้ว และไก่ที่เขาเลี้ยงนั้นก็มีนวัตกรรมการผลิตและเลี้ยงไก่โดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะทุกตัว และจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนาน มีพาร์ตเนอร์ที่ใช้เนื้อไก่หลากหลายเจ้า อาทิ บุญตงกี่ เป็นต้น

ร้าน อาหาร ดินเนอร์ คอร์ส ชาบู Shabu เนื้อ ปลาดิบ

ด้วยการอยู่กับวงจรการผลิตเนื้อสัตว์มาอย่างยาวนาน ประกอบกับความสนใจในการทำอาหารของเจ้าของร้าน จึงตั้งใจที่จะคัดวัตถุดิบดี ๆ มานำเสนอ โดยได้พาร์ตเนอร์ที่มีความสามารถในการผลิตวัตถุดิบตามมาตรฐานที่ทางร้านต้องการ โดยที่ยังอยู่ในราคาที่ควบคุมได้ เพื่อให้ส่งต่อจานอาหารได้แบบไม่ Overprice จนเกินไปนั่นเอง

Chou Shabu อารีย์ คอร์ส ชาบู Kurobuta Wagyu

โดยเลือกอาหารประเภท ชาบู มาเป็นวิธีในการนำเสนอวัตถุดิบคุณภาพที่มีอยู่ รวมถึงให้มีความแตกต่างกับร้านอาหารอีก 2 ร้านที่มีอยู่ด้วย แต่หลัก ๆ เลยก็คือ ชาบู สุกี้ ยังเป็นหนึ่งในอาหารที่ทางเจ้าของร้านชอบกินมาก ๆ ด้วย จึงค่อนข้างอินกับ ชาบู และพอกินบ่อยเข้า ก็เริ่มมีความอยากที่จะได้เห็น ชาบู ในแบบของตัวเองอย่างชัดเจนขึ้น และอยากถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง

menu shabu single hot pot ชาบู อาหาร อารีย์ Routeen.

ชื่อร้านอย่าง Chou Shabu (โชว ชาบู) เป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็น ชาบู รวมถึงวัตถุดิบหลัก ๆ ของร้านทั้งเนื้อและปลา ก็นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นด้วย โดย โชว แปลว่า ผีเสื้อ ที่ถือเป็นกิมมิกของร้าน 

จากไอเดียของ ‘Butterfly Effect’ สิ่งเล็ก ๆ ที่ส่งผลมากมายต่อไปได้ (เปรียบดั่งการคัดของดีมาให้ ก็ส่งผลต่าง ๆ ต่อผู้บริโภคได้นั่นเอง) อีกอย่างหนึ่งคืออยากให้ชื่อร้านขึ้นต้นด้วยตัว C เช่นเดียวกับ Chez Miline และ CUT Raw & Grilled ด้วย

“ซึ่งชื่อของร้านก็ยังสะท้อนผ่านโลโก้รูปผีเสื้อ ที่มีรอยกระเพื่อมจากหยดน้ำมาเป็นข้อความที่ต้องการสื่อสารถึงการแผ่ขยายของเอฟเฟกต์ออกไปได้นั่นเอง”

ตัวร้านรองรับได้ทั้งหมด 16 ที่นั่ง เน้นการใช้ไม้สีอ่อนมาเป็นวัสดุหลักของตัวร้านที่ดึงความเป็นธรรมชาติเข้ามาในร้าน แอบใส่รายละเอียดเอาไว้ในตัวร้านอย่างมากมาย ทั้งการฉายภาพผีเสื้อบินอยู่บนผนัง การสร้างผนังไม้ที่สามารถบิดองศาได้ เพื่อเล่นกับแสงไฟที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง แชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นทรงของ “เนื้อที่ถูกคีบ”

ผีเสื้อ ร้าน อาหาร ชาบู สุกี้ อารีย์ Routeen. Chou Shabu

และมองเผิน ๆ ก็ยังคล้ายกับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อ ไปจนถึงเคาน์เตอร์ที่นั่งกลางร้าน ที่หากมองจากมุมท็อปจะเห็นว่าเป็นทรงปีกผีเสื้อ และเพลงประกอบภายในร้านก็ได้คุณพ่อของหนึ่งในเจ้าของร้านเป็นผู้แต่งให้ เนื่องด้วยคุณพ่อเป็นนักไวโอลิน และได้เพื่อนของคุณพ่อที่อยู่คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อสร้างบรรยากาศได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ ในแบบที่อยากให้เป็น

Chou's Journey คอร์ส ชาบู สุกี้ อาหาร ไทย

แม้ว่า ชาบู ของที่ Chou Shabu จะได้ถูกจำกัดว่าเป็นการนำเสนอ ชาบู ในแบบใด ชาติไหน แต่ถ้ามองรวม ๆ แล้วก็น่าจะออกไปทางกึ่ง ๆ ญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย ทางร้านมีให้เลือกทั้งหมด 2 คอร์ส เริ่มที่ Butterfly (3 คอร์ส ราคา 1,800 บาท) ประกอบไปด้วย Appetizer 1 จาน Main Course 1 อย่าง และของหวาน 1 จาน

กับ Chou’s Journey (5 คอร์ส ราคา 2,800 บาท) ประกอบไปด้วย Appetizer 3 จาน Main Course 1 อย่าง และของหวานอีก 1 อย่าง ทุกคอร์สสามารถเพิ่ม Beverage Pairing โดยเพิ่มอีกเพียง 500 บาท หรือ 900 บาทสำหรับ Free Flow Drinks ตลอด 1.30 ชั่วโมงได้เช่นกัน

อูนิ amuse buse uni ไข่ หอยเม่น ชาบู คอร์ส Chou Shabu อารีย์

ไหน ๆ ก็แวะมาถึง Chou Shabu อารีย์ ทั้งที ก็ขอลองคอร์ส Chou’s Journey กันไปเลย ซึ่งคอร์สนี้จะรังสรรค์โดยได้ไอเดียมาจากวัฏจักรของผีเสื้อกันด้วย เริ่มด้วยจานเรียกน้ำย่อยในคอนเซปต์ Egg หรือระยะของไข่ผีเสื้อ

เชฟจะเสิร์ฟชูครีมทั้งหมด 2 ชิ้น ชิ้นแรกจะเป็นไส้ครีมอูนิ ที่ท็อปด้วยอูนิสายพันธุ์บาฟุนจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นไว้ด้านบน อีกชิ้นจะเป็นไข่ปลาแซลมอน (อิคุระ) อยากให้เริ่มคำแรกด้วยอูนิก่อน แล้วค่อยตามด้วยอิคุระ จะได้รสชาติต่อเนื่องที่ไม่กลบกัน เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

จานนี้ถูกจับให้คู่กับเครื่องดื่มอย่าง Nigori Yuzu ที่นำทั้งเนื้อและเปลือกของส้มยุสุลงไปหมักด้วย และกรองแบบหยาบ ๆ ที่ได้ความเปรี้ยวของเครื่องดื่มมาช่วยเปิดต่อมรับรส และเสริมรสของจานชูครีมที่ออกหวานเค็มได้ดี

ปลา ชิมะอะจิ คัมปะจิ อะกะมิ โอโทโร sashimi Chou Shabu อารีย์ Routeen.

คอร์สต่อมาเข้าสู่ Caterpillar หรือระยะของหนอนผีเสื้อ ที่จัดเสิร์ฟในรูปแบบของซาชิมิ มีทั้งปลาชิมะอะจิ (ปลากระมงญี่ปุ่น) ปลาคัมปะจิ (ปลาข้างเหลือง) อะกะมิ (ทูน่าเนื้อแดง) และโอโทโร (ส่วนท้องของทูน่า) ราดโชยุมาให้พร้อม เคียงด้วยสาหร่ายโทซากะ ส่วนตัวเราว่าทางร้านจัดการปลาได้ดีมาก ๆ เสิร์ฟมาที่อุณหภูมิของเนื้อปลาที่กำลังดี และไม่มีกลิ่นปลา ไม่คาวเลย

sake สาเก pairing sashimi ปลาดิบ Routeen. อารีย์

โดย Pairing กับ Emishiki Sensation Blue สาเกญี่ปุ่นที่ขัดข้าวประมาณ 50% ที่เข้ากับอาหารทะเลและเนื้อปลาได้ดี แม้ว่าสาเกขวดนี้จะแรงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ถือว่ายังดื่มง่ายอยู่นะ

เอนกาวะ ปลาตาเดียว อาหาร เสิร์ฟ อร่อย ดินเนอร์ มื้อ กลางวัน

ต่อกันที่จานสุดท้ายอย่าง Chrysalis หรือระยะของดักแด้ เชฟเสิร์ฟเอนกาวะดอง (ครีบปลาตาเดียว) ที่นำไปคลุกกับวาซาบิดอง ห่อด้วยแป้งเครปให้มีลักษณะคล้ายดักแด้ เสริมรสด้วยพอนซึ และยังฝานทรัฟเฟิลโรยมามาแบบไม่กั๊กอีกด้วย โดย Pairing กับ Gozenshu Now! Nine พรีเมียมสาเกที่ขัดข้าวสูงถึง 65% ที่หอม และนุ่ม

Routeen. Chou Shabu Clouse Butterfly Appetizer

แต่สำหรับใครที่สั่งคอร์ส Butterfly จะได้ Appetizer เป็นซาชิมิ 3 ชิ้น เสิร์ฟมาเป็นปลาชิมะอะจิ อิชิได และคัมปะจิ

main course Routeen. ชาบู อารีย์ โชว Chou

จากนั้นก็จะเข้าสู่ Main Course หรือ Butterfly ระยะของผีเสื้อกันแล้ว โดยทางร้านมีน้ำซุปให้เลือกทั้งหมด 3 ซุป ได้แก่ ซุปสุกี้ยากี้ (เสิร์ฟคู่กับไข่ดิบ) ซุปสาหร่ายคอมบุ (เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มงา และซอสพอนสึ)

และซุปโสมสูตรเฉพาะของทางร้าน (เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซิกเนเจอร์ที่ทางร้านทำขึ้นมาเอง รสหวานนำ เค็มตาม และสามารถจิ้มได้ทั้งกับเนื้อและปลา แนะนำให้ใส่กระเทียมและพริกสับ กับข่าดองเข้าไปเพิ่ม จิ้มกับอะไรก็อร่อย ) โดยใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 72 ชั่วโมง เพื่อดึงรสอูมามิของส่วนประกอบในซุปออกมาให้ได้มากที่สุด

main course kurobuta หมู ชาบู Chou shabu

เราสามารถเลือกเนื้อสัตว์ได้ทั้งเนื้อวัว และเนื้อหมูคุโรบุตะสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อ โดยจานหมูจะจัดซีฟู้ดมาให้เพิ่มเติมแบบเน้น ๆ เริ่มที่ชิเมได (ปลากระพงแดงน้ำลึก) ไทอิชิโระมาได เลือกใช้ปลามาไดที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดมาเสิร์ฟ สุดท้ายกับอิชิได กรรเชียงปู และซูไวคานิ หรือขาปูหิมะมาให้ด้วย สำหรับเนื้อปลาเราแนะนำให้ชาชูสัก 3-5 วินาทีก็พอ หรือดูที่หนังปลา ถ้ามันตึง ๆ แล้วก็แปลว่าได้ที่แล้วล่ะ

Striploin Wagyu A4 Ribeye Wagyu A5 Chou Shabu Routeen.

จานเนื้อจะเสิร์ฟเป็น Ribeye Wagyu A3 ในแถวล่าง Striploin Wagyu A4 ในแถวกลาง และ Ribeye Wagyu A5 ที่แถวบน แนะนำให้ไล่กินมาตั้งแต่ A3 ไปจนถึง A5 เพื่อให้ได้รับรสชาติไต่ระดับไป ในจานยังมีซีฟู้ดเช่นเดียวกับจานหมูด้วย ทั้งหมดจะ Pairing กับ Sichel Margaux ไวน์แดงจากฝรั่งเศสปี 2020 บอดี้จะออกกลาง ๆ ดื่มง่าย

ชาบู ญี่ปุ่น ผัก ฟองเต้าหู้ อาหาร ดินเนอร์ คอร์ส Routeen.

Main Course นี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักสด วุ้นเส้นญี่ปุ่น และฟองเต้าหู้ ที่ขอเติมได้ตลอดได้ด้วยนะ หรือถ้าใครต้องการเพิ่มคาร์บ ก็สามารถขอข้าวญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้ด้วยเช่นกัน

ของหวาน ไอศกรีม ชาเขียว ชาบู routeen.

ปิดท้ายคอร์สด้วย Flower หรือจานดอกไม้ เป็นของหวานอย่างขนมโมจิโฮมเมด ที่ใส่จุนไซ หรือยอดใบบัวอ่อนเอาไว้ด้วย กินคู่กับมัตฉะไอศกรีมโฮมเมดรสเข้มข้น ที่แม้จะเป็นจานของหวาน แต่ก็ยังมีเครื่องดื่ม Pairing ด้วย (เรียกว่าเพิ่มแค่ 500 แต่ได้มาคุ้มจุก) กับ Toukai Umeshu อุเมะชูแบรนด์ไทยที่ทำร่วมกับชาวญี่ปุ่น โดยใช้บ๊วยจากภาคเหนือบ้านเรา ไปบ่มกับเหล้านานถึง 5 ปี ที่ให้กลิ่นแสะรสชาติได้อย่างชัดเจน

เชฟ ปลาดิบ Chou Shabu อารีย์ ชาบู

ในอนาคตอันใกล้นี้ ทาง Chou Shabu ก็จะมีคอร์ส Omakase เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคอร์สให้ได้ลิ้มลองกัน (ราคาประมาณ 4,300 บาท) และจะกลายเป็นชาบูโอมากาเสะที่แรกในเมืองไทยด้วย

จุดนี้พอจบคอร์สแล้วก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเรื่องวัตถุดิบที่นี่ไม่เป็นสองรองใคร และไม่ได้มีดีแค่เรื่องคุณภาพของวัตถุดิบ แต่มีการจัดการและนำเสนอได้อย่างเหมาะสมและดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้อย่างดีมาก ๆ ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ของการกิน ชาบู ที่นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งร้านที่พาไปถึงจุดนั้นได้เป็นอย่างดี

Chou Shabu
เปิดทุกวัน เวลา 11:30 – 15:00 น. และ 17:00 – 22:30 น.
อารีย์ซอย 1 พญาไท
BTS อารีย์ แล้วต่อดพี่วิน | มีที่จอดรถ

google maps

Articles You Might Like

Share This Article