ดูเหมือนว่าตึกออฟฟิศใหม่เอี่ยมย่านเพลินจิตอย่าง One City Centre จะเริ่มมีความคึกคักในยามค่ำคืนกันแล้ว จากการเปิดตัวรูฟท็อปบาร์ใหม่ล่าสุด Akara Sky Hanuman Bangkok ที่สูงถึงชั้น 61 พร้อมกับคอนเซปต์สุดเก๋ ที่นำเอา ‘หนุมาน’ มาเป็นไอคอนิกได้อย่างทำถึง และเราเองก็อยากให้ทุกมาเห็นกับตาตัวเองให้ได้
เรียกได้ว่า บาร์อัคราสกายหนุมาน เป็นบาร์ที่เป็นที่พูดถึง และน่าจับตามองอย่างมากตั้งแต่ยังไม่เริ่ม Grand Opening เลยด้วยซ้ำ เพราะแค่ได้เห็นภาพหัวหนุมานขนาดยักษ์ใหญ่ กับ Immersive Art ที่เล่นแสงสวย และวิวมุมสูงแบบพาโนราม่า ก็ทำเอาอยากรู้แล้วว่าบาร์นี้คือที่ไหนกันนะ
Routeen. เองก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตบาร์ใหม่ ๆ เลยขอมาดูให้เห็นกับตา ทำให้รู้ว่านี่คือบาร์ใหม่จากเครือ Akara Hospitality อาณาจักรที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และบาร์มากมาย อย่าง Truth or Dare และ The Office – Community Space ใจกลางทองหล่อที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน (และถ้าใครจำได้ เราเคยพาไปร้าน CUM coffee ที่อยู่ใน The Office ด้วย)
คุณรัช กวิน Creative Director ของเครือ Akara Hospitality เล่าว่าไอเดียหนุมานนี้ เกิดจากความตั้งใจที่อยากหยิบยกเอาความเป็นไทยขึ้นมาบนรูฟท็อป เพราะยังไม่ค่อยเห็นใครที่เอาเอกลักษณ์ความเป็นไทยขึ้นมามากนัก เลยเลือกหยิบเอาเรื่องราวของ ‘หนุมาน’ เพราะเป็นตัวละครที่มีความภักดี ซื่อสัตย์ เก่งกาจ และพรีเซนต์ความเป็นไทยได้ดี
“ความตั้งใจที่ทำให้เกิด Akara Sky Hanuman Bangkok มาจากความคิดที่ว่า ในเมื่อเรามีตึกที่สูงที่สุด ใหม่ที่สุด เราก็ควรจะมีรูฟท็อปที่ดีสุดด้วยเช่นกัน ให้เป็นหนึ่งในจุดที่นักท่องเที่ยวมาแล้วต้องเช็กอิน เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของเมืองไทย”
แต่นี่ไม่ใช่บาร์ที่ใส่ความเป็นไทยจ๋าอย่างที่คุ้นตาอย่างลายกนก หรือผ้าไหม แต่จะเป็นการเอาความเป็นไทยมาหยอด แล้วเน้นหนักเป็นไวบ์แบบยูโรเปียนให้ดูมีความทันสมัย และเข้าถึงได้ง่าย
ซึ่งงานนี้ Akara ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะเค้าตั้งใจทำ Mega Project เตรียมเปิดตัวห้องอาหาร บาร์ และห้อง Virtual Art ที่ครอบคลุมทั้งชั้น 58 พร้อมทั้งร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเดียวกันกับรูฟท็อปชั้น 61 ซึ่งถ้าเปิดครบทั้งหมด จะกลายเป็นหนึ่งใน Destination ใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้แน่ ๆ
Akara Sky Hanuman Bangkok บาร์ไวบ์ดี ที่มาพร้อมกับเรื่องราวของ หนุมานอมพลับพลา
ความสนุกของ Akara Sky Hanuman เริ่มตั้งแต่ตอนเปิดลิฟต์มายังชั้น 58 ที่ต้อนรับเหล่านักดื่มด้วย Projection Mapping สวย ๆ พร้อมเสียงเพลงที่เร้าอารมณ์ เป็นการวอร์มเครื่องก่อนจะชี้ให้เราไปต่อลิฟต์อีกตัวเพื่อขึ้นไปรูฟท็อปชั้น 61
เมื่อมาถึงชั้น 61 จะพบกับโซน Indoor เคาน์เตอร์บาร์ที่ทอดยาวอยู่ด้านในลักษณะคล้ายอุโมงค์นิด ๆ มองเห็นบาร์เทนเดอร์ชงเครื่องดื่ม และถ้าสังเกตโต๊ะยาว ๆ จะเป็นหินขนาดใหญ่ที่ซ่อนกิมมิกคือ มีความเหมือนไม้ชิ้นยาว ที่ดูเหมือนผุพังนิด ๆ แบบสมัยเก่า แต่ยังมีความแกรมด้วยสีคอปเปอร์ และเมื่อเดินทะลุออกไปจะเจอโซน Outdoor ที่นั่งโล่ง ๆ ให้รับลม ชมวิวได้แบบพาโนราม่า
พระเอกของงานนี้คือหัวหนุมานสีขาวโพลน ที่โอบล้อมทางเข้าอีกฝั่งของบาร์ เป็นหนุมานที่หยิบยกมาจากรามเกียรติ์ ตอนศึกมัยราพณ์ ที่มีฉากสำคัญคือ ‘หนุมานแปลงกายใหญ่ อมพลับพลาที่ประทับของพระรามเอาไว้ เพื่อปกป้องพระรามให้พ้นภัย’ เปรียบเหมือนกับด้านในก็คือพลับพลานั่นเอง
คุณรัชบอกเราว่า หัวหนุมานที่เห็นผ่านการปรับให้ดูโมเดิร์น ไม่เชย เข้าถึงง่าย แต่ในความเรียบง่าย ก็ซ่อนความประณีตเพราะทั้งกระจกที่ติดกับหนุมาน รวมถึงภาพวาดบนเพดานด้านใน ที่เล่าเรื่องหนุมานนั้นล้วนเป็นงานฝีมือของผู้เชี่ยวชาญ ที่เคยทำให้กับวัดพระแก้ว
และที่เป็นหัวหนุมานเป็นสีขาวล้วน เพราะจะมีฉาย Projection Mapping เพิ่มสีสันและลูกเล่นให้กับบาร์ ซึ่งจะมีหลายรูปแบบให้ชม หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ เป็นไฮไลต์สำคัญของบาร์นี้เลยล่ะ
Akara Sky Hanuman ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะจริง ๆ แล้วครอบคลุมทั้งชั้น โดยอีกฝั่งของลิฟต์ จะมีโซนที่นั่งให้เลือกนั่งอีก อีก 2 โซน คือ ฝั่งริมกระจกเรียกว่า โซน Gate to Heaven มีความเป็นยุโรปหน่อย ๆ สามารถกั้นที่นั่งเป็น Private ได้ และอีกด้านจะมีที่นั่งที่ขนาบข้างด้วยกำแพงอิฐแดง สื่อถึงความเป็นอยุธยาแบบไทย ๆ
“เราเรียกว่าแนว ยุโรปเปี้ยน ไทยทวิต์ เน้นไปทางยุโรปมากกว่า อยากให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาก็ยังรู้สึกว่าคุ้นชินกับอะไรที่เค้ารู้จัก แต่ในขณะเดียวกันยังมีความยูนีคของไทยเข้ามาแซม แบบที่ไม่รู้สึกถึงความแปลกจนทำตัวไม่ถูก”
Akara Sky Hanuman Bangkok หยอดความเป็นไทยไว้ในเมนูอาหารและเครื่องดื่ม
ฝั่งเมนูเครื่องดื่ม มีสปิริตให้เลือกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ เบียร์ ไวน์ แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือเมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ ที่หยิบเอาผลไม้ไทยมาครีเอต อย่างที่เราได้ลอง SOM-O (620 บาท) ที่ใช้น้ำส้มโอ มาผสมกับเตกีล่า น้ำมะนาว น้ำเชื่อม และท็อปด้วยโฟมกระเจี๊ยบฟู ๆ เวลาจิบจะได้รสเค็มนิด ๆ ก่อนจะเจอความหวานจากเครื่องดื่มด้านล่าง
อีกแก้วเป็น MON-JAM ม่อนแจ่ม (620 บาท) เป็นการเอามัลเบอร์รี่ หรือลูกหม่อน ผลไม้ที่มีเยอะในภาคเหนือ ไปปั่นจนได้น้ำออกมา แล้วผสมกับเบอเบิร์น โทนิค และแยมส้ม รสชาติออกแนวฟรุตตี้เปรี้ยวหวานสดชื่นดี และ LINCHEE (590 บาท) ลิ้นจี่ เบสเหล้าเป็นคอนญัค เฮเนสซี่ ส่วนผสมน้ำลิ้นจี่ กับน้ำมังคุดด้วย ท็อปด้วยเนื้อลิ้นจี่ เป็นแก้วที่หอมลิ้นจี่ขึ้นจมูก รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว
นอกจากเมนูเครื่องดื่ม ก็มีเมนูอาหารพร้อมเสิร์ฟด้วย โดยจะเน้นเป็นเมนูกินง่าย ๆ แต่ก็ยกเอาความเป็นไทยมาเช่นกัน อย่าง Thai Fried Meatballs (320 บาท) เซ็ตลูกชิ้นทอดที่ได้แรงบันดาลใจจากลูกชิ้นยืนกินที่เกิดเป็นกระแสจากลิซ่า Blackpink
มี Mango Maki (420 บาท) มากิแบบญี่ปุ่นที่สอดไส้ด้วยมะม่วงสุกหวานฉ่ำ เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ Volcano Roll (490 บาท) โรลแบบญี่ปุ่นโรยด้วยแป้งเทมปุระกรอบ ๆ
เมนูไท๊ยไทย ก็มี Taro Spring Roll (320 บาท) เปาะเปี๊ยะทอดสอดไส้เผือกนุ่ม ๆ เพิ่มความแซ่บด้วย Spicy Salmon Salad (590 บาท) ยำแซลมอนชิ้นโต ที่รสจัดจ้าน รู้ซึ้งถึงความเป็นยำไทยแบบไม่ปราณี
หรือจะกินจริงจัง เอาอิ่มท้องก็มี Thai Chicken Green Curry Rice (490 บาท) ข้าวแกงเขียวหวานไก่ เครื่องแกงเข้มข้นจัดจ้านแบบออริจินัล และยังมีอีกหลายเมนูเลยล่ะ ซึ่งการจัดจาน รวมถึงภาชนะต่าง ๆ ยังใส่ความเป็นไทยได้อย่างมีเสน่ห์ด้วย
และยังมีดีเจทุกวัน รวมถึงโชว์จริงจัง อย่างต่อยมวย หรือรำ สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้มาเยือนอีกด้วยนะ บอกเลยว่านี่จะเป็นรูฟท็อปในไทย ที่ต้องมาเช็คอินให้ได้สักครั้ง!
Akara Sky Hanuman Bangkok
เปิดทุกวัน เวลา 17:00 – 02.00 น.
ชั้น 61 One City Center เพลินจิต
BTS เพลินจิต | มีที่จอดรถ
Google Maps