ชวนสายเนื้อ แวะร้านอาหารไวบ์ดีย่านสาทร ที่มาพร้อมคอนเซปต์การ Dry Aged หรือการบ่มวัตถุดิบ ภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘วัตถุดิบแต่ละชนิด มีเวลาที่เหมาะสม ถ้าให้เวลามันมากพอ’ ที่ ร้าน ALT Dry Age ร้านอาหารแห่งใหม่ของ เชฟแก้ว แชมป์ Master Chef Thailand Season 1
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-29-683x1024.jpg)
ALT Dry Age (อาวท์ ดรายเอจ) เป็นร้าน Casual Dining ย่านสาทร ตั้งอยู่ในซอยสาทร 12 ไม่ใกลจากรถไฟฟ้าสถานีเซนต์หลุยส์ (ย่านนี้ร้านอาหารดี ๆ เพียบ!) ซึ่งมี Owner เป็นถึงเชฟ 2 คน
นั่นคือ เชฟแก้ว – ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร แชมป์มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์ ซีซัน 1 ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี และ เชฟสัญ – เวชกร เจริญปัญญาวุฒิ ผู้ผ่านเวทีมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์เช่นเดียวกัน ซึ่งเชฟสัญรับหน้าที่เป็น Head Chef ของร้านด้วย
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-21-scaled.jpg)
หลายคนอาจคุ้นภาพเชฟแก้วกับการเป็นหนึ่งในเจ้าของ Le Lapin เชฟเทเบิ้ลที่มีความหวือหวา เต็มไปด้วยลูกเล่นใหม่ ๆ แต่เมื่อดู ALT จะรู้สึกว่ามีดิบ เท่ และมีความสบาย ๆ อยู่มาก ดูคอนทราสต์กันไม่น้อย เชฟแก้วเล่าว่า ร้าน ALT เกิดขึ้นจากความชอบเนื้อ Dry Aged ของเชฟสัญเป็นทุนเดิม เลยชวนเชฟแก้ว และเพื่อนสนิทอีก 2 คนมาเปิดร้านอาหารร่วมกัน
“ตัวร้านจะมีความเป็น Casual Dining เราอยากให้คนรู้สึกว่ามากินได้เรื่อย ๆ หรือคิดถึงสิ่งนี้แล้วก็มากินได้เลย อาหารเลยไม่ได้ออกมาในรูปแบบ Fine-dining ที่ดูหรูหราจ๋า ๆ ขนาดนั้น รวมถึงการตกแต่งสไตล์ร้านด้วย ไม่ได้ดูหวือหวาจนเกินไป”
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-1.jpg)
และถ้าดูที่เคาน์เตอร์ จะเห็นเป็นเหมือนกับหินแผ่นใหญ่ ๆ ซึ่งตรงนี้เชฟแก้วตั้งใจใส่ดีเทลไว้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก หินเกลือหิมาลายัน เพราะสิ่งที่ทำให้วัตถุดิบต่าง ๆ เฉิดฉายได้มากที่สุด ก็คือเกลือ
เลยดีไซน์มาจากคอนเซปต์นี้ ส่วนโต๊ะกลาง ก็ตั้งใจอยากให้เป็นที่ที่เพื่อน ๆ มาเจอกัน มาสังสรรค์ เลยมีโต๊ะใหญ่ไว้รองรับ ในขณะเดียวกันก็มีทั้งโต๊ะแบบ 2 ที่นั่ง ให้ฟีลมาเดทได้ หรือโต๊ะ 4 ที่นั่งที่เหมาะกับครอบครัว
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-12-683x1024.jpg)
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-40-683x1024.jpg)
ธีมหลักที่วางไว้เลยเป็นการ Dry Aged แต่การเอจในที่นี้ เชฟแก้วเล่าว่าไม่อยากให้จำกัดความอยู่แค่เนื้อวัว แล้วเป็นสเต็กเฮาส์ไปเลย เพราะการเอจ สามารถเอจได้ทุกอย่าง ทั้งเนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อแกะ ปลาฮามาจิ เป็ด แม้กระทั่งหอยเชลล์ ก็สามารถเอจได้ เลยอยากทำร้านที่เล่าเรื่องการเอจ โดยนำเสนอวัตถุดิบหลาย ๆ แบบ
ที่น่าสนใจไม่น้อยคือ การตีโจทย์การเอจของที่ ALT ก็ไม่ได้มีแค่เนื้อสัตว์หรือโปรตีนอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใส่มาในจาน อย่างตัวซอสบัลซามิกในสลัด ก็ผ่านการเอจ หรือผักต่าง ๆ ในเบอร์เกอร์จากผักสด ก็เลือกเสิร์ฟเป็น Sun-dried Tomatoes แทน เพราะคำว่าเอจ เชฟเหมารวมถึง Preserve และ Fermented ต่าง ๆ ด้วย
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-15-683x1024.jpg)
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-17-683x1024.jpg)
ซึ่งคอนเซปต์การ Dry Aged ยังมาจากความเชื่อที่ว่า ‘Everything gets better in time’ และ ‘Most things get better when you give them enough time’ การที่เราให้เวลากับวัตถุดิบแต่ละอย่างเหมาะสม จะทำให้วัตถุดิบเหล่านั้นแสดงคาแรกเตอร์ออกมาได้มากขึ้น
“เราอยากโฟกัสกับเวลา เปรียบเทียบเหมือนกับว่า คนเรามีเวลาเท่ากัน แต่เราเอาเวลาไปทำอะไรหลายอย่างที่แตกต่างกัน เกิดผลลัพธ์ในแบบต่าง ๆ ก็เหมือนวัตถุดิบที่จริง ๆ มันก็มีเวลาที่เหมาะสม และดีที่สุดของมันเองเช่นกัน”
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-6-1024x683.jpg)
ส่วนชื่อร้าน ALT ก็ไม่ใช่ alternate จากแป้นคีย์บอร์ด (ใครแอบคิดยกมือขึ้น) แต่เป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า old, age ส่วนหนึ่งมาจากตัวเชฟแก้วเองชอบประเทศเยอรมันมาก ๆ และบังเอิญตู้ Dry-aged ที่ร้านใช้ก็มาจากเยอรมันพอดี ตัวอักษรของร้าน ก็ยังเลือกใช้เป็น Black Letter เป็นอักษรเก่าแก่ของเยอรมันสมัยก่อน ราว ๆ ศตวรรษที่ 17 เลยทีเดียว เป็นร้านที่ใส่ดีเทลในทุก ๆ จุดจริง ๆ
ร้าน ALT Dry Aged กับสูตรดรายเอจ ที่ใช้เวลากว่า 1 ปี
ในส่วนของสูตรเมนูต่าง ๆ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเพราะมีเชฟถึง 2 คน โดยเมนูอาหารจะออกเป็นแนว Western และมีการผสมผสานแนว Asian Japanese ใส่ความ Twist ลงไปซึ่งเป็น DNA ของเชฟแก้ว ซึ่งทั้งคู่ช่วยกันคิดสูตร เทสรสชาติกันเองเลย รวม ๆ แล้ว ทั้งการคิดเมนู ทั้งการทดลองเอจเนื้อ ใช้เวลานานกว่า 1 ปี
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-4-1024x683.jpg)
“เริ่มจากตระเวนชิมร้านดรายเอจแทบจะทั่วกรุงเทพฯ เลย ทำให้พบว่าแต่ละร้านก็จะมีเทคนิคการเอจที่ไม่เหมือนกัน ทั้งตัวเนื้อ และตู้เอจเนื้อ เราก็ลอง และศึกษาปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ระยะเวลา ใช้เวลากว่า 1 ปี”
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-11-1024x683.jpg)
ในฝั่งวัตถุดิบ ร้าน ALT Dry Age เลือกเป็นเนื้อไทยวากิวจากสกลนคร เชฟแก้วบอกเราว่า เท่าที่ลองมาเนื้อไทยวากิวเอจออกมาแล้วดีที่สุด อาจเพราะเนื้อไทยวากิว เดิม ๆ เนื้อไม่ได้มีรสชาติมากนัก ไม่ได้หอมฟุ้งเหมือนเนื้อญี่ปุ่น หรือรสชาติจัดจ้านแบบเนื้อ US พอเอามาเอจเลยดึงส่วนที่ดีของมันออกมาได้ดีที่สุด ซึ่งที่นี่จะมีเนื้อให้เลือก 2 ส่วน คือ ริบอาย และ สตริปลอยด์ เลือกได้ทั้ง 30 วัน และ 45 วัน
นอกจากเนื้อ ที่ร้านยังมีการเอจ ปลาฮามาจิ ที่แยกตู้กันอย่างชัดเจน เป็นฮามาจิเอจ 14 วัน ซึ่งโดยปกติปลาฮามาจิ จะมีเลือดและกลิ่นเลือด และมีรสเปรี้ยวนิด ๆ เป็นเอกลักษณ์ พอเอามาเอจจะมีความหวานขึ้น กลิ่นเลือดน้อยลง รสเปรี้ยวน้อยลง และเทกเจอร์ปลาจะเฟิร์มขึ้น เพิ่มความอร่อยในอีกแบบหนึ่ง (เร็ว ๆ นี้จะมีเป็ดดรายเอจด้วยนะ รอติดตามกัน!)
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-8-1024x683.jpg)
มาครั้งนี้ เราได้ลอง Burrata Salad (490 บาท) ความพิเศษของจานนี้คือ ใช้บูราต้าสดจากอิตาลี ซึ่งจะต่างกับแบบแช่แข็งตรงความครีมมี่ที่มากกว่า เนื้อสัมผัสดีกว่า (มาก ๆ) มาพร้อมกับผักคอส และไวลด์ ร็อกเก็ต สดกรอบ ราดด้วยน้ำสลัดบัลซามิกเอจรสบาลานซ์ดี เพิ่มสัมผัสด้วยแอปเปิลถึง 3 แบบ คือ Fresh Apple, Apple Pickle และ Apple Compote และมี Cranberry, Cherry Tomato และ Walnuts ด้วย เป็นจานสลัดที่กินเพลินมาก ๆ
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-9-1024x683.jpg)
ตามด้วย Truffle Soup (650 บาท) ซุปเห็ดทรัฟเฟิลที่ใช้เบสเห็ดเข้มข้น มีทั้งครีมสดจากฝรั่งเศส ทรัฟเฟิลเพส ทรัฟเฟิลออย และเนื้อแบล็กทรัฟเฟิลสดฉ่ำ ๆ รสครีมมี่ แต่ไม่เลี่ยน และไม่หนักเกินไป ถูกใจคอทรัฟเฟิล
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-16-1024x683.jpg)
อีกหนึ่งไฮไลต์ของร้าน Golden Foie Gras Burger (999 บาท) เมนูนี้ทางร้านเลือกใช้แป้งบริยอช ซึ่งจะมีรสชาติเข้มข้นกว่าขนมปังเบอร์เกอร์ทั่วไป ทาด้วยซอสหลายชนิด ทั้ง มารินาร่าซอส ดิลมาโย และ เกรนมัสตาร์ด คลุกเคล้าด้วยกัน ส่วนเนื้อเลือกเป็นเนื้อส่วนสะโพกติดมัน ทำให้มีความชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งเกินไป และจะมีความหอมมันเนื้อด้วย
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-20-683x1024.jpg)
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_vertical-37-683x1024.jpg)
มาถึงเมนูพระเอกของงาน Ribeye 30 Day Dry aged (1,700 บาท) ทางร้านเลือกใช้เนื้อไทยวากิวจากสกลนคร มาเอจนาน 30 วัน จนได้เนื้อนุ่ม ๆ ติดมันหน่อย ๆ รสเข้มข้น มีความ Buttery มากขึ้น ตัวเนื้อทางร้านจะเสิร์ฟมาพร้อมกับ Chicken red wine jus ที่เคี่ยวนานกว่า 1 วัน วาซาบิดอง และกระเทียมดำ เลือกจิ้มได้เลย ให้การกินเนื้อสนุก และได้รสชาติหลากหลายมากขึ้น
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-10-1024x683.jpg)
เมนูเอจที่ร้าน นอกจากเนื้อยังมี Aged Hamachi Ceviche (650 บาท) ปลาฮามาจิดรายเอจ 14 วัน จนได้เนื้อปลาที่มีความเฟิร์ม รสหวาน แน่น คลุกในซอสสไตล์ญี่ปุ่นเป็นโชยุ และมิริน ที่ทางร้านนำไปเคี่ยวใส่คอมบุกับปลาโอ ราดด้วย Fresh Cream และ Dill Oil ให้ความครีมมี่และหอมผักดิล
![](https://routeen.co/wp-content/uploads/2024/01/Routeen-Alt-Dry-Age_horizon-23-1024x683.jpg)
ปิดท้ายด้วย Homemade Fudge Brownie (320 บาท) เมนูโฮมเมดบราวนี่ ที่มีเนื้อแน่นหนึบ ช็อกโกแลตเน้น ๆ (เป็นดาร์กช็อกโกแลต 70%) ออกแนวฟัดจ์บราวนี่ เสิร์ฟคู่กับเฮเซลนัทเจลาโต้ที่สั่งทำพิเศษ รองด้วยครัมเบิลเพิ่มเทกเจอร์กรุบกรอบ
นอกจากเมนูเนื้อดรายเอจ ที่ร้านยังมีสเต็กเนื้อแบบไม่เอจ และหมูคุโรบูตะเป็นทางเลือกคนไม่กินเนื้อด้วยน้า บอกเลยว่าแต่ละเมนูเชฟตั้งใจกันมาก ๆ! เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายเนื้อ หรือสายกินจะต้องจดไว้ในลิสต์เลยล่ะ
ALT Dry Age
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 11:30 – 22:00 น. (Last order 21:30 น.)
สาทร 12
BTS เซ็นต์หลุยส์ | จอดรถริมถนนได้ หรือลานจอดรถฝั่งตรงข้าม (สามารถแสตมป์บัตรที่ร้านได้ 1 ชั่วโมง)
Google Maps