Undyed คาเฟ่ & บาร์ ไวบ์ชิลล์ ที่บอกเราว่าคิดอะไรไม่ออกก็มาที่นี่สิ มีครบทั้ง Brew, Bar & more ในซอยสุขุมวิท 36

ในยุคที่คาเฟ่เปิดใหม่ทุกวัน แข่งกันด้วยคาแรกเตอร์การตกแต่งที่จัดจ้านเพื่อดึงดูดสาย Cafe Hopping แต่บางครั้งเราแค่ต้องการร้านกาแฟง่าย ๆ ที่เป็นเหมือนเซฟโซนให้เราได้ไปทิ้งตัวสบาย ๆ ไม่พิธีรีตอง ด้วยแนวคิดนี้เลยเกิดเป็น Undyed คาเฟ่ & บาร์ ในคอนเซปต์ Brew, Bar & more กลางวันเป็นคาเฟ่ กลางคืนเป็นบาร์ ร้านที่จะมาเป็นร้านเดิม ๆ ของทุกคน 

Undyed – Brew, Bar & more เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใน ซอยสุขุมวิท 36 ไม่ไกลจาก BTS ทองหล่อมากนัก เดินเตาะแตะเข้ามาในซอยนภาศัพท์แยก 1 ราว ๆ 350 เมตร ก็จะพบกับตัวร้านที่มาในมู้ดโฮมมี่คอฟฟี่

ร้าน Undyed คาเฟ่ & บาร์ เป็นร้านฝีมือคุณ เซนส์  – ภาคภูมิ วิบูลย์พันธ์ุ เจ้าของร้านสูท The Primary Haus ที่อยู่ตรงนี้นี่แหละ ด้วยความที่ปักหลักอยู่ในสเปซนี้มาหลายปี พอมีจังหวะที่ห้องข้าง ๆ ตรงนี้ว่าง เลยจับมาทำร้านกาแฟและบาร์เองเลย

ถ้าถามว่า ตัดสูทอยู่ดี ๆ มาทำร้านกาแฟได้ไงกันนะ ต้องเล่าย้อนกลับไปแล้วจะอึ้งกว่าเดิมอีก เพราะแรกเริ่มเลยคุณเซนส์ทำงานด้านกฎหมายมาก่อน แต่ด้วยความชอบในแฟชั่น เลยเริ่มจากทำธุรกิจเสื้อผ้ามือสองเล็ก ๆ ในสไตล์ที่ตัวเองชอบ ก่อนจะพัฒนามาเป็นร้านสูท และออกมาทำเต็มตัวจนถึงทุกวันนี้

“ถ้าย้อนไปตั้งแต่แรกเลยจริง ๆ จบนิติศาสตร์มาแล้วก็ทำงานสายนี้มาเรื่อย ๆ แต่ว่าเราชอบเสื้อผ้า เราก็เริ่มจากร้านขายเสื้อผ้ามือสอง แล้วก็มาทำร้านสูท มันมาจาก Passion อย่างเดียวเลย”

ส่วนขาฝั่งคาเฟ่ และถ้าใครจำได้ (หรือเป็นแฟนคลับ) พื้นที่ตรงนี้เคยมีคาเฟ่ไวบ์เท่ร้านหนึ่ง ชื่อ Blue Dye Cafe ด้วยความสนิทของคุณเซนส์เองและทีม Blue Dye พอทางทีมขยับขยายไปเปิดคอมมูนิตี้สเปซที่ชื่อ Blue Wild Warehouse ในซอยวชิรธรรมสาธิต 6 ย่านอุดมสุข เลยตามไปเปิดคาเฟ่ชื่อ OOOz.cafe เพราะตัวเองชอบดื่มกาแฟ และ Partner ก็เป็นคาเฟ่ฮอปปิ้งกันอยู่แล้ว

หลังจากเปิดร้านสูทมาร่วม 5 ปี เปิดคาเฟ่มาอีกเกือบ 2 ปี พอมีจังหวะที่พื้นที่ข้าง ๆ ร้านสูทตรงนี้ว่าง บวกกับประสบการณ์ที่เริ่มมีคอนเซปต์ทางธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและกาแฟบ้างแล้ว ก็เลยเอามาต่อยอดให้มาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เกิดเป็น Undyed ขึ้นมา

“ชื่อร้านก็มาจากการเก็บกลิ่นอายบางอย่างของ Blue Dye มา และเราชอบคำว่า Undyed ความหมายก็ดูแปลกดี จะแปลว่า ไม่ตายก็ได้ หรือ ไม่ย้อม ไม่ต้องตกแต่งหวือหวาก็ได้ เป็นคอนเซปต์ง่าย ๆ”

Undyed คาเฟ่ & บาร์ | มือนึงจิบกาแฟ อีกมือนึงกินบรันช์อร่อย ๆ

ตัวร้านมีความเรียบง่าย สบาย ๆ โต๊ะไม่ได้เป็นแพทเทิร์น แซมด้วยของสะสม เป็นความตั้งใจของคุณเซนส์ที่อยากให้มีความโฮมมี่ ไม่ดูเป็น Business จ๋า ๆ เป็นร้านที่สบายใจเมื่อได้มา หรือเป็นร้านเดิม ๆ ที่มาซ้ำได้บ่อย ๆ ไม่รู้จะไปไหนก็มาที่นี่ได้เสมอ

ด้วยคอนเซปต์เรียบง่าย เมนูที่มีเลยจะไม่หวือหวามากนัก มีกาแฟ Houseblend 1 ตัวคือ โคลัมเบีย-บราซิล-ลาว เป็นคั่วกลางที่เข้าได้ทั้งกาแฟดำและนม เป็นเมล็ดที่เรารู้สึกว่าดื่มได้สะดวกทุก ๆ วัน

เราได้ลอง Caramel Macchiato (130 บาท) มีความนัว ๆ ของกาแฟคั่วกลางที่ผสมกับนม ไม่ขมและไม่หยักเกินไป หอมกลิ่นคาราเมลชัดเจน ความหวานกำลังดี

อีกแก้วเป็น Rum Barrel Cold Brew Black (125 บาท) เป็นกาแฟสกัดเย็นที่มีความพิเศษคือ เป็นการนำกาแฟไปหมักกับถังไม้ที่ใช้หมักเหล้ารัม แล้วสกัดออกมาเป็นกาแฟ ทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัว ดื่มสนุก

และ Sparkling Yuzu (100 บาท) เป็นไซรัปยูซุที่ Selected มาอย่างดี ผสมกับสปาร์กกลิ้งเพิ่มความซ่า เป็นเมนู Refreshing ง่าย ๆ ที่มีทั้งความหอมหวานของยูซุ และความสดชื่นแบบนุ่มนวลของสปาร์กกลิ้ง

นอกจากเครื่องดื่ม เร็ว ๆ นี้จะมีเมนูบรันช์พร้อมเสิร์ฟด้วยนะ เราแอบได้ลอง Tamago Sando (ราคาประมาณ 130 บาท) เป็นแซนด์วิชที่ใช้ขนมปัง Milk Bread จากร้าน ประจักษ์เบเกอรี่ ย่านพระโขนง เนื้อเหนียวนุ่มดีมาก ๆ สอดไส้สลัดไข่ญี่ปุ่น ไข่แน่น ๆ ปรุงใส่ซอสโฮมเมดมาโยสูตรพิเศษ กินเพลินมาก

และ Undyed Breakfast (ราคาประมาณ 190 บาท) ใช้เป็นขนมปังซาวโดวจ์จากร้านประจักษ์เบเกอรี่เช่นกัน แต่ตัวนี้ทำพิเศษให้โดยเฉพาะ Undyed เนื้อจะไม่เหนียวและแข็งเกินไป มาพร้อมไข่ดาว ไส้กรอกเยอรมัน และสลัดผักราดบัลซามิก

ปล. เมนูบรันช์จะต้องสอบถามความพร้อมจากทางร้านอีกครั้งนะ

Undyed คาเฟ่ & บาร์ | จิบค็อกเทลเบา ๆ แล้วตามด้วยข้าวแมว

และเมื่อแดดร่มลมตก ทางร้านจะเปลี่ยนตัวเองจากคาเฟ่ สู่บาร์ไวบ์ง่าย ๆ สบาย ๆ ที่เพียงดิมไฟลง สร้างบรรยากาศเพิ่มเติมด้วยการฉายภาพเข้ากับผนัง เปลี่ยนเพลงในร้านจากแจ๊สสู่โซลที่มีกรู๊ฟเยอะขึ้น ไม่ได้ทรานสฟอร์มตัวร้านอะไรใหญ่โตจนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และยังคงให้บรรยากาศเหมือนมานั่งดื่มที่บ้านเพื่อนอยู่เช่นเดิม

“อยากให้ Undyed เป็นพื้นที่ให้คนรู้สึกสบายใจที่จะเข้ามา สบายใจที่จะมากินข้าว สบายใจที่จะมากินกาแฟ แวะมาดื่ม คือหลัก ๆ ตัวผมเป็นคนแบบชอบไปร้านเดิม ๆ เราอยากเป็นร้านเดิม ๆ ของคนอื่นบ้างแค่นั้นเอง”

จริง ๆ ไอเดียของบาร์นี้มาหลังคาเฟ่ แต่ที่เกิดบาร์นี้ขึ้นได้เพราะเพื่อน ๆ แก๊งหุ้นส่วนของคุณเซนส์เองที่ชอบดื่ม และอยากมีสถานที่ที่มากินดื่มของตัวเองได้ด้วย เมื่อมีสถานที่ที่เป็นคาเฟ่และไม่ได้ใช้งานในช่วงกลางคืนอยู่แล้ว จึงพัฒนาพื้นที่ให้เป็นบาร์ในช่วงกลางคืนไปด้วยเลย

จะบอกว่า Undyed เป็นค็อกเทลบาร์ก็คงไม่ใช่ (เพราะตัวค็อกเทลเองก็ยังไปมิกซ์กันหลังร้าน ไม่ได้มีบาร์เทนเดอร์มามิกซ์ให้เราเห็นที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยซ้ำ) แต่น่าจะเรียกว่าเป็นบาร์ที่มีเครื่องดื่มครบครัน

เหมาะกับการมาแฮงก์เอาต์กับกลุ่มเพื่อนที่แต่ละคนก็อาจมีความชอบที่แตกต่างกัน แต่สามารถมารวมตัวที่เดียวกันได้ บางคนชอบค็อกเทล บางคนชอบไวน์ บางคนดื่มเบียร์ หรือสปิริตตัวอื่น ๆ ก็มีรองรับทั้งหมด 

แต่ด้วยความที่คุณเซนส์เองก็สนิทกับพี่เจ้าของร้าน Blue Dye ทำให้คุณเซนส์เองก็พอมีสกิลในการทำค็อกเทลมาอยู่บ้าง และเมื่อมีบาร์เป็นของตัวเอง จึงได้เขามาช่วยคิดซิกเนเจอร์ค็อกเทลของทางร้านให้ด้วย 

“ตอนนี้ทางร้านจะมีซิกเนเจอร์ค็อกเทลทั้งหมด 5 แก้ว แบ่งตามประเภทได้เป็น Highball 2 แก้ว Sour 1 แก้ว และ Spirit อีก 2 แก้ว”

เราได้ลอง SAEN-SABAI (350 บาท) ที่หยิบเอาชื่อซอยมาตั้งเป็นชื่อค็อกเทลแก้วนี้ และดีไซน์ให้ดื่มง่าย สบาย ๆ สมกับชื่อ ไฮบอลที่ใช้เตกิลา เติมอุเมะชูเข้าไปเพิ่มความโดดเด่น หยอด Grape Vinegar และปิดท้ายด้วยโซดา ดื่มง่ายสไตล์ไฮบอลแต่ได้ความอุเมะชูเข้ามาเพิ่ม มีความซิตรัสที่ปลายลิ้นหน่อย ๆ ได้มิติเพิ่ม

ขยับมาฝั่ง Sour กับ UN-DIED (350 บาท) ที่ล้อมาจากชื่อร้าน เบสจินที่นำไป Infused กับชาเบอร์รี่ น้ำเลมอน โฟมไข่ขาว และเติมกลิ่นด้วยใบมะกรูด ที่ทำให้แก้วนี้หอมโดดเด่น ดื่มง่าย ได้ฟีลเบอร์รี่หน่อย ๆ ที่สาว ๆ น่าจะชอบ

ปิดท้ายด้วย Spirit สักแก้วกับ Hidden Ivory (350 บาท) ที่จะขยับออกมาจากความญี่ปุ่นมาสู่ความโลคอลบ้าง โดยหยิบเอาหนึ่งในของเด่นในย่านทองหล่ออย่าง “ข้าวเหนียวมะม่วง” มาเล่น เตกิลา กับ Vermouth ที่นำไป Infused กับกระเจี๊ยบ และไซรัปข้าวเหนียวมะม่วง เป็นแก้วเข้ม ๆ แต่ไม่ได้ดื่มยาก ถึงอย่างนั้นเรายังรู้สึกว่าความเป็นข้าวเหนียวมะม่วงอาจยังไม่ออกมากนัก

นอกจากเครื่องดื่มแล้ว Undyed ยังมีเมนูอาหารแบบจัดเต็มไม่แพ้ที่ไหน โดยเน้นเมนูฟิวชันไทย – เวสเทิร์น แบบโฮมคุ้ก เพราะอยากให้เป็นพื้นที่ที่มาได้ตลอดเวลาจริง ๆ และจบทุกเรื่องกิน-ดื่มได้ในที่เดียว ทุกเมนูคุณเซนส์กับแม่ครัวจะช่วยกันรังสรรค์ขึ้นมา โดยหยิบเอาความชอบของตัวเองขึ้นมาเป็นตัวตั้ง

ต้องบอกว่าอาหารที่นี่ค่อนข้างหลากหลายแนวมาก ๆ เราได้ลองตั้งแต่ ข้าวแมว (139 บาท) ปลาทูทอดเนื้อกรอบแน่น แล้วแกะเฉพาะเนื้อมาผัดกับข้าวหอมมะลิ โรยหอมเจียวและไข่เจียวหั่นเป็นเส้น เสิร์ฟพร้อมพริกน้ำปลาสูตรของทางร้านที่มาแบบสามรส เป็นจานง่าย ๆ แต่อร่อยดีเลยล่ะ

ถัดมากับ Spaghetti Pork Num-Tok (250 บาท) เส้นสปาเกตตีผัดกับซอสน้ำตกโฮมเมด ท็อปด้วยหมูสันคอย่างชิ้นโต โรยผักชีฝรั่ง ข้าวคั่ว และพริกป่น เป็นจานฟิวชันที่รสชาติจัดจ้านสมกับเป็นน้ำตกหมู และเข้ากันดี หรือจะเป็น สลัดหมูย่าง ที่ใช้หมูชนิดเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากเส้นเป็นผักสลัด ราดด้วยบัลซามิคโฮมเมด และไข่ต้ม ก็ได้

ปิดท้ายด้วย Calamari (180 บาท) ปลาหมึกชิ้นใหญ่ชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมกับ Dill Sauce ที่ทางร้านทำเอง ก็เป็นจานทานเล่นที่กินได้เพลิน ๆ 

ในแต่ละเดือน เราอาจจะได้เจอแก้วพิเศษ หรือตามแต่เทศกาลมาให้ได้ลองใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ฝั่งอาหารเองก็จะได้เจอ Picanya Steak ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เพิ่มเติม รวมถึงยังอาจมี Special Event สนุก ๆ ทั้งงาน Collabs กับร้านอาหารอื่น ๆ หรือมี Chef Table เกิดขึ้นด้วย สามารถติดตามกันได้ที่เพจของทางร้านเลยนะ

Undyed – Brew, Bar & more
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 11:00 – 17:30 น. (คาเฟ่) และ 18:00 – 24:00 น. (บาร์)
ซอยนภาศัพท์ แยก1 สุขุมวิท 36
BTS ทองหล่อ | จอดรถริมถนน
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article