ภาพจำของขนมโตเกียวของใครหลาย ๆ คน น่าจะเป็นภาพขนมโตเกียวที่ขายตามรถเข็นหน้าโรงเรียน มีไส้หวาน ใส้เค็ม ใส่ไข่ ไส้กรอก และเหยาะซอสนิด ๆ หอมอร่อย เป็นความสุขหลังเลิกเรียนที่ต้องขอแวะอร่อยก่อนกลับบ้าน แล้วถ้าเราไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว เราจะเจอโตเกียวได้ที่ไหนนะ? Roueteen. จะพาไปพบกับคาเฟ่โตเกียวรูปแบบใหม่ที่คาดไม่ถึง ชวนให้คิดถึงวัยเด็กอีกครั้ง กับร้าน Tokyyo Roaster ขนมโตเกียวแห่งความสุข
Tokyyo Roaster คาเฟ่ลับ ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเย็นจิตร 8 โดดเด่นด้วยหน้าร้านที่ฉาบไปด้วยโทนสีเขียวหัวเป็ด ดูผิวเผินไม่คิดว่าด้านในจะมีโตเกียวหอม ๆ รอเสิร์ฟอยู่ จุดเริ่มต้นของคาเฟ่โตเกียวแห่งนี้ คุณหมอจอย-แพทย์หญิงลลิต ลีลาทิพย์กุล หนึ่งใน 6 พี่น้องผู้ก่อตั้งร้านนี้ เล่าให้เราฟังว่า ขนมโตเกียว เป็นขนมที่ทุกคนชอบมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ และเป็นขนมที่ทุกคนคิดถึง
เลยตกลงกันเปิดร้านขนมโตเกียวขึ้นมา แต่อยากให้มีความพิเศษเพิ่มมากขึ้น แตกต่างจากโตเกียวทั่ว ๆ ไป จึงคิดสูตรใหม่ ๆ ขึ้นมา ทั้งไส้คาวและไส้หวาน ยกระดับโตเกียวให้ดูโตขึ้นตามวัย และด้วยความชื่นชอบการลองอาหารแบบไฟน์ไดน์นิ่งอยู่แล้ว จึงนำสองอย่างนี้มารวมกัน กลายเป็นขนมโตเกียวที่เสิร์ฟแบบจานหรูดูสะดุดตา เรียกได้ว่า เป็นโตเกียวแห่งแรกที่เสิร์ฟแบบไฟน์ไดน์นิ่งเลยก็ว่าได้
ความพิเศษของโตเกียวของ Tokyyo Roaster ไม่ใช่แค่การปรับรูปแบบการเสิร์ฟให้ดูหรู แต่ยังพิถีพิถันตั้งแต่การคิดสูตรแป้ง คุณจอยเล่าว่า ตัวแป้งได้ออกแบบให้มีความบางกรอบกำลังดี รู้สึกไม่หนักจนเกินไป ซึ่งต่างจากแป้งโตเกียวแบบดั้งเดิมที่จะมีความหนานุ่มมากกว่า
นอกจากนี้สูตรต่าง ๆ ยังผ่านการคิดและออกแบบร่วมกับเชฟมืออาชีพ เพื่อให้แต่ละเมนูออกมารสชาติสมบูรณ์อย่างที่ต้องการและเป็นสูตรซิกเนเจอร์ของร้านโดยเฉพาะ แม้กระทั่งโตเกียวรสดั้งเดิมที่มีไข่ หมู ไส้กรอก และซอส ยังถูกออกแบบใหม่ให้มีความว้าวกว่าเดิม โดยใช้หมูสับผัดเพิ่มรสกับโรสแมร์รี่ให้มีกลิ่นหอม ใช้ไส้กรอกเยอรมันรสชาติที่ชื่นชอบ ปรุงรสด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้านที่ไม่ได้มีแค่แม็กกี้ธรรมดา ส่วนตัวเราคิดว่า เมนูให้ความรู้สึกว้าวตั้งแต่ตั้งแรกที่กินจริง ๆ เพราะหน้าตาเหมือนโตเกียวที่เราคุ้นเคย แต่รสชาติมีมิติมากกว่าเดิม
เค้าใส่ใจแม้กระทั่งตัวกล่องสำหรับส่งเดลิเวอรี่ ด้วยความที่ขนมโตเกียวเป็นขนมที่ควรจะต้องกินตอนร้อน ๆ แป้งกรอบ ๆ จึงได้ปรับหาวิธีให้ขนมโตเกียวกรอบนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการเจาะรูขนาดใหญ่ เพื่อรักษาความอร่อยได้มากที่สุดเมื่อถึงมือลูกค้า
นอกจากเมนูโตเกียว เครื่องดื่มกาแฟ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Tokyyo Roaster ให้ความสำคัญ เห็นได้จากเครื่องชงกาแฟตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ พร้อมด้วยเครื่องบดกาแฟที่มีเมล็ดกาแฟสองแบบวางคู่กัน ดูแล้วรู้เลยว่า ไม่ธรรมดาแน่ ๆ คุณจอยเล่าว่า ด้วยความที่ชอบกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงใช้กาแฟ House Blend ที่เลือกกาแฟเอง จากโรงคั่วเจ้าประจำที่ถูกใจ ตั้งใจอยากให้เป็น Everyday Coffee ของทุก ๆ คน ซึ่งทำออกมาได้ดี คนที่ชอบกาแฟไม่ผิดหวังเลยล่ะ
สำหรับชื่อร้าน Tokyyo Roaster อ่านว่า โต-คี-โอ ตั้งใจให้มีความคล้ายกับคำว่าโตเกียว แต่เพิ่มกิมมิคเล็ก ๆ ให้มีความแตกต่าง และคำว่า Roaster ก็มาจากความตั้งใจที่จะสื่อถึงความเชี่ยวชาญในการทำโตเกียว เหมือนกับโรงคั่วที่เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟ นอกจากนี้ พนักงานที่ทำโตเกียวที่นี่ จะได้ชื่อว่า ‘โตริสต้า’ ผู้เชี่ยวชาญโตเกียว ซึ่งล้อมาจากคำว่า บาริสต้า ผู้ที่เชี่ยวชาญในการชงกาแฟนั่นเอง
การตกแต่งของร้าน แม้ว่าจะตั้งใจเสิร์ฟแบบไฟน์ไดน์นิ่งมื้อหรู แต่บรรยากาศร้านกลับเลือกตกแต่งแบบคาเฟ่มินิมอล ใช้สีเขียวหัวเป็ดตัดกับสีชมพูโอลด์โรส เป็นคู่สีที่ดูสนุกแต่ไม่จี๊ดจ๊าดจนเกินไป พร้อมทั้งโชว์ภาพงานศิลปะจากศิลปินไทยที่มาวาดให้โดยเฉพาะ อย่าง Painterbell, Sandy Diary, Bloody Hell Big Head, LMOLMO และ Kapi เพิ่มเสน่ห์ให้กับร้าน ถูกใจเหล่า instagrammable จะได้ภาพอัปลง Social ได้ไม่น้อยเลย
ถึงเวลาชิมเมนูโตเกียวไฟน์ไดน์นิ่งที่ตั้งตารอ เริ่มด้วยเมนูไส้คาว เมนูที่ครีเอทขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบฟิวชั่น Tokkyo Salmon & Truffle Cream (50 บาท) เมนูชูโรงที่อัดแน่นไปด้วยความอร่อย ทั้งแซลมอนรมควันจากนอร์เวย์ชิ้นโต ๆ โปะครีมชีส และครีมทรัฟเฟิลสูตรเฉพาะ มีผักดิลเพิ่มความหอมอบอวลอยู่ในปาก และไข่กุ้งเพิ่ม Texture ให้มีความกรุบ ๆ ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูไส้คาว Tokkyo Mushroom Spinach with Bacon (50 บาท) ไส้ผักโขมแน่น ๆ และเห็ด โรยด้วยเบคอนกรุบกรอบ และซอสสูตรพิเศษ ตัวแป้งหอมเตะจมูก
กินคาว ต้องกินหวาน…เริ่มด้วย Tokyyo Salted Egg Custard Cream (30 บาท) โตเกียวใส้ครีมคัสตาร์ดไข่เค็ม ที่เลือกใช้ไข่เค็มไชยา จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี รังสรรค์เป็นไส้ครีมเนื้อเนียนละมุนลิ้น มีความหอมมัน ไม่เค็มจนเกินไป ตามด้วย Tokyyo Custard Cream with Crackling Candy (30 บาท) เป็นไส้คัสตาร์ดครีม หอมโรลวานิลลา เพิ่มความสนุกด้วยเกล็ดน้ำตาลที่มีความเป๊าะแป๊ะ ชวนคิดถึงขนมในวัยเด็ก
Tokyyo Vanilla Custard Cream with Golden Threads (30 บาท) ฝอยทองครีมสดที่มีความหอมมันของฝอยทอง และความหอมหวานของครีมสดแบบโฮมเมดที่ไม่หวานจนเกินไป มีความผสมเอเชียเข้ากับยุโรป กลมกล่อมลงตัว
ตบท้ายด้วยเมนูซิกเนเจอร์สุดอลังการ Tokkyo London (199 บาท) ที่เห็นแล้วอดสั่งไม่ได้ ตัวกาแฟเป็น Gravity Dirty Coffee กาแฟสกัดเย็นเข้ากับนมที่เย็นจัด ให้รสกลมกล่อม หอมกาแฟ เพิ่มความเก๋ด้วยการปาดปากแก้วด้วยเนยถั่วและโรยเมล็ดอัลมอนด์ที่ขอบแก้ว เพิ่มความหอมมันขึ้นไปอีก จับคู่กับโตเกียวนูเทลล่าที่ตัดรสด้วยผลไม้รสเปรี้ยวนานาชนิดมาวางบนปากแก้ว เป็นเมนูที่เสิร์ฟแล้วต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอวด Social ให้ได้
ใครที่คิดถึงขนมโตเกียวในวัยเด็ก นี่คือร้านโตเกียว แบบ Specialist ที่ต้องลองไปชิมให้ได้สักครั้ง มีทั้งหน้าร้าน และเดลิเวอรี่นะ
Tokyyo Roaster
เปิดทุกวัน 8:30 – 17:30 น.
ซอยเย็นจิต 8 สาทร
BTS เซนต์หลุยส์ ต่อด้วยวินมอเตอร์ไซค์
ใครที่มาด้วยรถส่วนตัว สามารถจอดได้ที่สมาคมแต้จิ๋ว แสดงบัตรจอดรถที่พนักงาน จะได้รับส่วนลดค่าอาหาร 30 บาท (เมื่อสั่งเครื่องดื่มหรือขนมโตเกียวครบ 300 บาท)
