ไม่รู้ว่าย่านสาธุประดิษฐ์ แถวพระราม 3 ในสายตาของทุกคนเป็นอย่างไร บางคนอาจมองว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยใกล้เมือง ที่มีของอร่อย ๆ มีตลาดให้แวะเวียน และเดินทางไปได้ไม่ยาก แต่ใครจะไปคิดว่า ในซอยสาธุประดิษฐ์ 41 จะมีร้านเท่ ๆ และน่าสนใจซ่อนตัวอยู่มากมาย (ซึ่ง Routeen. จะพาไปทำความรู้จักกับร้านทั้งหมดในซอยนี้อีกครั้ง เร็ว ๆ นี้นะ) หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ ที่ตอนกลางคืนช่วงสุดสัปดาห์จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นบาร์ที่มีไวป์สนุก ๆ ที่มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งที่เตะตาและดูสนุกสุด ๆ จนเราอดใจไม่ได้ที่จะผลักประตูเข้าไป กับ The Ordinary Mansion คาเฟ่ ที่ชื่อไม่เหมือนคาเฟ่แห่งนี้
![The Ordinary Mansion คาเฟ่](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-4-1024x683.jpg)
![The Ordinary Mansion คาเฟ่ ชั้น 2](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-27-1024x683.jpg)
เราชักชวน คุณเฟิร์น – ขนิษฐา แสงสวัสดิ์ และคุณภูมิ – วรัญชัย ปลอดกระโทก มานั่งพูดคุยด้วยกันสักหน่อยถึงที่มาที่ไปของคาเฟ่แห่งนี้ เลยทำให้ได้รู้ว่าที่จริงแล้วทั้งสองคนก็เป็นเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์มือสองออนไลน์ที่เรารู้จักกันดีอย่าง Yellow Summerrine Store นั่นเอง (แต่ช่วงที่มาทำ The Ordinary Mansion คาเฟ่ ก็แอบปิดร้านไประยะหนึ่งเหมือนกัน) เพราะทั้งคุณเฟิร์นและคุณภูมิเป็นคนชอบแต่งบ้านอยู่แล้ว รวมถึงความชอบในการดูภาพยนตร์ที่พอเห็นเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ในนั้น ก็อยากไปตามหาของจริงอยู่เรื่อย ๆ
![vinyl ไวนิล](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_vertical-1-683x1024.jpg)
วันหนึ่ง สตูดิโอที่ไว้ใช้ถ่ายงาน และถ่ายสินค้าของ Yellow Summerine Store มีเหตุให้ต้องหาบ้านใหม่ จนได้มาเจอตึกแถวแห่งนี้ ความตั้งใจแรกจึงเริ่มจากการให้พื้นที่นี้เป็นสตูดิโอ แต่เมื่อทำไปนานวันเข้าก็เริ่มไม่เหมาะทั้งขนาดของพื้นที่ และเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องยกขึ้นยกลง ความคิดว่าจะปรับปรุงห้องนี้เป็นอย่างอื่นจึงเริ่มขึ้น ไอเดียเริ่มการทำบาร์จึงเริ่มขึ้น ถึงอย่างนั้น พอทำบาร์ตอนกลางคืน พื้นที่นี้ก็ว่างในตอนกลางวัน จึงเพิ่มพาร์ตคาเฟ่ในตอนกลางวันเข้ามาด้วยนั่นเอง
![Routeen. Copyright](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-1-1024x683.jpg)
The Ordinary Mansion คาเฟ่ เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2565 (นอกจากคุณเฟิร์นและคุณภูมิแล้ว ร้านนี้ยังมีหุ้นส่วนเป็นเพื่อนของคุณภูมิอีก 1 คนด้วย) ทั้งคู่เองค่อนข้างรู้เรื่องงานดีไซน์และเทสต่าง ๆ อย่างดีอยู่แล้ว เพราะจริง ๆ นอกจากการดูแลร้านนี้ คุณเฟิร์นเองก็เป็นสไตลิสต์ ผู้ช่วยอาร์ตไดเรกเตอร์ ส่วนคุณภูมิเองก็เป็นโปรดิวเซอร์ งานออกแบบและการเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในร้านทั้งหมดจึงมาจากไอเดียของทั้งคู่เอง และแน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์ในร้านแทบทั้งหมด ก็มาจาก Yellow Summerrine Store นั่นเอง เพราะอยากให้ที่นี่ได้เป็นโชว์รูมเล็ก ๆ ที่สามารถมาดู มาจับต้อง และทดลองนั่งหรือใช้งานเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นได้จริง ๆ ด้วย
“จริง ๆ นอกจากการดูแลร้านนี้ คุณเฟิร์นเองก็เป็นสไตลิสต์ ผู้ช่วยอาร์ตไดเรกเตอร์ ส่วนคุณภูมิเองก็เป็นโปรดิวเซอร์ งานออกแบบและการเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในร้านทั้งหมดจึงมาจากไอเดียของทั้งคู่เอง”
![โซนดอกไม้](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-2-1024x683.jpg)
ด้วยรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ที่นี่ถูกตกแต่งออกมาในแนวของ Mid-Century Modern ที่ผสมผสานกัน ที่ไม่ใช่แค่การหยิบเอาเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มามิกซ์แอนด์แมตช์กันเท่านั้น หากยังเปลี่ยนบางมุมบางจุดของอาคารให้เข้ากับภาพรวมทั้งหมดของร้านอีกด้วย พร้อมแอบใส่กิมมิกต่าง ๆ ที่หยิบเอาจากความชอบของทั้งคู่เข้ามาซ่อนไว้เป็นจุด ๆ ทั่วร้าน เช่นบริเวณด้านหลังร้านที่มีการทุบพื้นที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่ออยากให้ตัวร้านมีช่องแสงธรรมชาติบ้าง พร้อมกับปรับปรุงห้องน้ำใหม่ เปลี่ยนประตูห้องน้ำให้กลายเป็นทางเข้าลิฟต์แบบโบราณที่ทั้งคู่ชอบเข้าไป (ที่มองเผิน ๆ ก็ไม่รู้เลยว่าตรงนี้คือห้องน้ำ!) เติมสวนดอกไม้ประดิษฐ์และฉายโปรเจกเตอร์รูปดวงจันทร์เข้าไปอีก แค่มุมนี้มุมเดียวก็มีกิมมิกให้ถ่ายรูปเล่นเยอะไม่ไหวแล้ว
![phonebooth](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_vertical-5-683x1024.jpg)
หรืออีกมุมที่เตะตาตั้งแต่เดินเข้าร้านมา ก็คือมุม Phonebooth ที่ทางเข้าของร้าน แน่นอนว่าก็มาจากความชอบของทั้งคู่อีกแล้ว และก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ให้เป็นจุดบังตาบริเวณทางเข้า เพื่อเพิ่มความไพรเวทของร้านได้ด้วย แต่ยังมีกิมมิกแปลกใหม่ให้คนแวะเวียนมาถ่ายรูปได้อีก
![บันไดชั้น 2](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-10-1024x683.jpg)
![ordinary mansion มุมชั้น 2](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-9-1024x683.jpg)
เราจะเห็นว่าที่ร้านจะไม่ได้จัดฟอร์มให้เป็นร้านนั่งจ๋า ๆ แบบที่มีโต๊ะและเก้าอี้จริงจัง แต่เลือกที่จะเป็นโต๊ะเล็กบ้าง โซฟาบ้าง หรือเก้าอี้เดี่ยว ๆ วางไว้บางตัว รวมถึงหยิบเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ชอบ และไวนิลวงที่ตัวเองรักมาวางไว้ในร้าน เพราะอยากให้มู้ดเหมือนมาบ้านมากกว่า ซึ่งก็สอดคล้องกับชื่อร้าน ที่อยากให้เราเป็นพื้นที่สบาย ๆ ไม่หวือหวา ตามคำว่า Ordinary แต่ก็หยิบคำว่า Mansion ที่บางทีเราพูดคำว่าแมนชั่น ก็จะคิดถึงความหรูหรา ความแกลม แบบแมนชั่นในแมนฮัตตัน เป็นพื้นที่ธรรมดาที่ซ่อนความพิเศษไว้ข้างในนั่นเอง
![Honey Latte](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_vertical-22-683x1024.jpg)
แม้ทางร้านจะไม่ได้เน้นกาแฟมากนัก เพราะเพื่อนบ้านของเขาก็เป็นคาเฟ่ที่ขายกาแฟอย่าง ENVIES Cafe อยู่ด้วย แต่ก็ยังจัดหาเมล็ดกาแฟที่ดีให้กับลูกค้าอยู่เสมอ โดยเลือกใช้ House Blend คั่วกลาง เราได้ลอง Honey Latte (110 บาท) ลาเต้ทางร้านเลือกใช้นมโอ๊ต เสริมความหอมด้วยน้ำผึ้งป่า ท็อปด้วยครีมชีสและมาร์ชเมลโล เป็นแก้วที่ดูเหมือนจะหวานแต่ไม่หวานมากจนเกินไป ครีมชีสช่วยให้บอดี้ของแก้วนี้แน่นขึ้น แต่ยังดื่มง่ายอยู่
![You Are The Yuzu Of My Eye](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_vertical-26-683x1024.jpg)
ส่วนเครื่องดื่มกลุ่ม Non-Coffee ก็มีให้เลือกเยอะมาก ๆ ไม่แพ้กัน โดยคุณภูมิจะชอบครีเอตและปรับสูตรให้เข้ากับความชอบของลูกค้าโดยคุณเฟิร์น เราลองเป็น You Are The Yuzu Of My Eye (135 บาท) โดยชื่อก็ได้มาจากภาพยนตร์ไต้หวันเรื่องดังอย่าง You Are The Apple Of My Eye นั่นเอง ชาพีชกับยุสุไซรัป เติมความเปรี้ยวด้วยน้ำเลมอน แล้วนำไปเชคให้เข้ากัน เป็นอีกแก้วที่สดชื่น เปรี้ยวหวานลงตัว หอมทั้งพีชและยุสุไปพร้อมกัน
![La La Land](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_vertical-23-683x1024.jpg)
เพื่อให้สมกับเป็นคาเฟ่ที่มีบาร์ช่วงค่ำ จึงขอแนะนำอีกแก้วอย่าง La La Land (155 บาท) เครื่องดื่มแก้วสีม่วงคล้ายท้องฟ้าช่วงทไวไลต์ของฉากในโปสเตอร์จากภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน น้ำราสป์เบอร์รี่และพีช เติมรสชาติด้วย Single Malt และท็อปด้านบนด้วยอัญชันเลมอน คนให้เข้ากันแล้วดื่ม ได้มิติใหม่ ๆ ของเครื่องดื่ม และกลิ่นหอมของซิงเกิลมอลต์
![Mini Lemon Curd](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-22-1024x683.jpg)
![Grand Marinier Cordon Rouge Choholate Ganache](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-21-1024x683.jpg)
นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ยังมีขนมและเบเกอรี่ที่น่าสั่งมาแกล้มคู่ด้วยอีกหลายตัว เราลองเป็น Mini Lemon Curd (85 บาท) บัตเตอร์เค้กเนื้อแน่น ร่วน ๆ กรอบ ๆ ตัดกับเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหวานลงตัว อีกชิ้นคือ Grand Marinier Cordon Rouge Choholate Ganache (135 บาท) ช็อกโกแลตกานาจที่ใส่ Grand Marinier รสไม่หวาน เนื้อมูสนุ่มละมุน
![The Ordinary Mansion คาเฟ่](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/08/Routeen-The-Ordinary-Mansion_horizon-18-1024x683.jpg)
ตอนกลางคืนที่แปลงร่างเป็นบาร์แล้ว ต้องบอกว่าที่นี่จะมีทั้งดีเจมาเปิดแผ่น และแบนด์ต่าง ๆ มาเล่นดนตรีสดอยู่เรื่อย ๆ ด้วยนะ กับซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่มีให้เลือกถึง 7 ตัว รวมถึงอาหารต่าง ๆ ให้ฝากท้องเช่นกัน นี่จึงเป็นแมนชั่นเล็ก ๆ แต่ความสนุกสุดยิ่งใหญ่ ที่สามารถมาได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลยล่ะ
The Ordinary Mansion
คาเฟ่เปิดพฤหัสบดี – อาทิตย์ เวลา 10:00 – 18:00 น.
บาร์เปิดวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 18:00 – 24:00 น.
ซอยสาธุประดิษฐ์ 41 ช่องนนทรี ยานนาวา
BTS ข่องนนทรี แล้วต่อแท็กซี่ | ไม่มีที่จอดรถ