Saloon Ari บาร์ ไวบ์ คาเฟ่ แห่งใหม่ในย่านอารีย์ – สุทธิสาร ที่คนชอบค็อกเทลก็ถูกใจ คนรักดนตรีสดก็ต้องแวะ

หากลองให้จิ้มย่านกลางคืนใหม่ของกรุงเทพฯ ขึ้นมาสักแห่ง (ที่ไม่ใช่สีลม – ทองหล่อ เอกมัย อีกแล้ว) ก่อนหน้านี้หลายนิ้วคงไปจ่ออยู่แถวเจริญกรุง – ตลาดน้อย และอีกหลาย ๆ นิ้วคงมาจ่ออยู่แถว ๆ อารีย์อาใจที่เราคุ้นเคย แต่ตอนนี้นิ้วเหล่านั้นน่าจะขยับออกมาจากอารีย์อีกนิด เลยมาจนถึงย่านสุทธิสาร – สะพานควาย อีกสักหน่อย เพราะต้องบอกจริง ๆ ว่าตอนนี้แถวนี้มี บาร์ คลับ และร้านกินดื่มเกิดใหม่ (และหลายร้านก็ฮอตฮิตเหลือเกิน) กันนับไม่ถ้วน แต่มีบาร์เปิดใหม่แห่งหนึ่งในซอยสุทธิสารวินิจฉัย ที่เชื้อชวนให้เราลองแวะเข้าไปอยู่ในเวลานี้ กับ Saloon Ari (ซาลูน อารีย์)

Saloon Ari บาร์ สุทธิสาร อารีย์
Saloon Ari บาร์ สุทธิสาร อารีย์ ป้าย ร้าน

ด้วยหน้าร้านที่คงต้องพูดว่าโดดเด่นและแตกต่างกว่าบาร์ทั่วไป เพราะดูเผิน ๆ แล้วความรู้สึกเหมือนเป็นคาเฟ่เก๋ ๆ เสียมากกว่า ด้วยพื้นที่เพียงคูหา กับประตูที่เล่นเลเยอร์เป็นชั้นมีมิติ กับบริเวณกระจกบานใหญ่ที่โชว์บรรยากาศของเคาน์เตอร์บาร์ด้านใน ก็ยังมีลูกเล่นให้ผนังบริเวณนี้เป็นพื้นกรงกระบอกลึกลงไป จนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปในร้านนี้สักหน่อย

งาน ตกแต่ง บรรยากาศ กิน ดื่ม กลางคืน เที่ยว อารีย์ บาร์

คุณเบนซ์ – กรชัย ประกอบศิลป์ หนึ่งในหุ้นส่วนของ Saloon Ari บาร์ แห่งนี้ เล่าถึงที่มาที่ไปว่า บาร์แห่งนี้เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เป็นกลุ่มที่ชอบกินดื่มเหมือนกัน จึงอยากหาพื้นที่สักแห่ง ที่เราสามารถมาแฮงก์เอาต์กันได้ ตอนนั้นก็เล็ง ๆ ไว้ว่าอยากให้เป็นย่านอารีย์ – สะพานควายนี้แหละ เพราะไม่อยากเข้าไปอยู่ในเมืองมากนัก จนได้มาเจออาคารหลังนี้ ที่เห็นแล้วก็ถูกใจ จึงเลือกลงหลักปักฐานที่นี่เสียเลย

saloon ari ชั้น 1 บาร์ เวที ดนตรีสด

ส่วนสิ่งที่เราสงสัยว่าทำไม Saloon Ari ถึงมีบรรยากาศฟีลสาว ๆ คาเฟ่กรุบแบบนี้ ก็ได้คำตอบมาว่า นั่นเพราะแรกเริ่มพวกเขาตั้งใจว่าจะให้ที่นี่เป็นคาเฟ่ในตอนกลางวัน และเทิร์นเป็นบาร์ในตอนกลางคืน (จึงเป็นที่มาของชื่อต่อท้ายร้านว่า Bar • Co นั่นเอง) จึงออกแบบร้านให้มีความเป็นกึ่งคาเฟ่ เลือกใช้เป็นสีน้ำตาล – ครีม และดีไซน์ที่มีความเป็นคาเฟ่นิด ๆ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะเปิดเป็นบาร์เพียงอย่างเดียวแทน เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายของร้านได้ และให้สมกับความตั้งใจที่จะเป็นบาร์นั่งชิลล์จริง ๆ อย่างที่ต้องการนั่นเอง

saloon ari บาร์ คำคม ชั้น 3

“ความตั้งใจของ Saloon Ari คืออยากให้เป็น บาร์ นั่งชิลล์ ที่มีดนตรีสดด้วย เพราะค็อกเทลบาร์ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นดีเจเล่นเพลงเสียมากกว่า ที่นี่จึงคล้ายว่าจะเป็นบาร์แรก ๆ ที่มีดนตรีสด”

และด้วยเหตุนี้ จึงสอดคล้องไปกับชื่อบาร์อย่าง Saloon ที่หมายถึงห้องโถงสำหรับนั่งพูดคุย พบปะกัน เปรียบดั่งที่นี่เป็นสถานที่สำหรับทุกคนที่อยากมารวมตัวกันนั่งชิลล์ แฮงก์เอาต์ตามที่ชอบนั่นเอง

ทางขึ้น บาร์ เที่ยว ดื่ม ค็อกเทล อารีย์

แม้จะเป็นอาคารคูหา แต่ภายในก็ตกแต่งและปรับเปลี่ยนใหม่หมดจนลืมเค้าเดิมของตัวอาคารไปเลย เราชอบที่ตัวบาร์มีการทุบพื้นระหว่างชั้นออก ให้มีช่องว่างที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างชั้นเข้าด้วยกัน นอกจากจะช่วยลดความอึดอัดของอาคารหน้าแคบแล้ว ยังช่วยทำให้ข้อเสียของการนั่งบาร์ในชั้นอื่น ๆ หายไป ได้บรรยากาศเหมือนอยู่พื้นที่เดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่ในชั้นไหนของบาร์ แม้จะต้องเสียพื้นที่นั่งไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก ๆ เลยล่ะ ส่วนผนังเองก็ใส่แผ่นซับเสียงเอาไว้ทั้งอาคารเพื่อป้องกันการรบกวนเพื่อนบ้านเอาไว้พร้อม

ดนตรีสด ดื่ม สังสรรค์ เที่ยว กลางคืน อารีย์ บาร์

นอกจากนี้ ในบาร์เองยังมีงานศิลปะตกแต่งไปทั่ว ที่ไม่ใช่เป็นตกแต่งเท่านั้น แต่หากเราชอบพอชิ้นไหน ก็สามารถเอฟกลับบ้านได้ด้วยเช่นกัน โดยงานศิลปะในบาร์นี้ก็จะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ

ความตั้งใจของ Saloon Ari คืออยากให้เป็น บาร์ นั่งชิลล์ ที่มีดนตรีสดด้วย เพราะค็อกเทลบาร์ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นดีเจเล่นเพลงเสียมากกว่า ที่นี่จึงคล้ายว่าจะเป็นบาร์แรก ๆ ที่มีดนตรีสด รวมถึงที่นี่เองก็จริงจังในเรื่องของอาหารไม่น้อย หากเทียบกับค็อกเทลบาร์ทั่วไป ที่มีอาหารจานเล็ก ๆ เพียงไม่กี่เมนู แต่ที่นี่มีทั้งอาหารจานเดี่ยว จานแชร์ ไปจนถึงจาน Main Course ที่กินอิ่มอยู่ท้องได้เลย แถมเมนูก็ไม่ธรรมดา เพราะมาในสไตล์ฟิวชันที่ค่อนข้างครีเอตอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ 

Saloon Ari บาร์ ไวบ์ คาเฟ่ รวม ค็อกเทล cocktail
Earl’s Delight

ตัวค็อกเทลได้พาร์ตเนอร์จากเชียงใหม่อย่างร้าน Looper & Co. มาช่วยครีเอตให้ โดยตั้งใจให้ Signature Cocktail ทั้ง 6 แก้วมีความแตกต่างกันออกไปทั้งหมด และมีเบสสปิริตที่แตกต่างกัน เพื่อให้มีความหลากหลาย เราลองสั่ง Earl’s Delight (450 บาท) ที่นำชาเอิร์ลเกรย์มา Infused กับ Gin แก้วนี้ให้รสชาติเปรี้ยวหวาน ได้ความฝาดของชาที่ปลายลิ้นเวลาจิบ เสริมความนุ่มด้วยโฟมไข่ขาว เป็นแก้วที่ดื่มสนุกและได้อโรมาของชาอยู่ไม่น้อย

Golden Hour

ต่อกันที่ Golden Hour (380 บาท) นำ Gin ไปผสมกับน้ำผึ้ง แล้วมา Infused กับเก๊กฮวย เติมน้ำมะนาว และโฟมไข่ขาวเข้าไปเพิ่ม กลิ่นเก๊กฮวยจากการอินฟิวส์ชัดเจนและหอมมาก ๆ ในขณะเดียวกันกลับได้รสน้ำผึ้งเล็ก ๆ อวลในกระพุ้งแก้ม เป็นแก้วเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ที่สาว ๆ น่าจะชอบได้ไม่ยาก

Tomato Sunset

Tomato Sunset (380 บาท) ที่ประกอบไปด้วย Broker Infused กับมะเขือเทศ, Vermouth Martini Extra Dry น้ำมะนาว และไซรัปดอก Elderflower แก้วนี้ได้ความ Spice เล็ก ๆ แต่ไม่ถึงกับ Bloody Mary ได้รสชาติของมะเขือเทศปลาย ๆ

Midnight Truffle

ปิดท้ายด้วย Midnight Truffle (450 บาท) Gin ที่นำไป Infused กับ Truffle และมี Vermouth Martini Extra Dry ด้วย เป็นแก้วที่รสเข้มที่สุดที่เราลองสั่งมา กลิ่นทรัฟเฟิลเตะจมูกตอนยกดื่ม แต่รสชาติได้ความเป็นปลาแห้งเข้ามา สำหรับเราแล้วหากปิดท้ายคืนนี้ ลองแก้วนี้ก็น่าจะเหมาะอยู่เลยล่ะ

Calamari Tatar Sauce Saloon Ari Bar บาร์
Truffle Cream Caviar Pasta

มาถึงที่นี่แล้วไม่ลองเมนูอาหารเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง (เพราะเด่นไม่แพ้ค็อกเทลเลย) เราลอง Calamari Tatar Sauce (190 บาท) ปลาหมึกคลุกกับแป้งสูตรพิเศษของทางร้าน ที่เราสงสัยว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้างนะ เพราะทิ้งไว้นานแล้วก็ยังกรอบอยู่เลย กินคู่กับทาทาร์โฮมเมดรสกลมกล่อม อีกจานขอลองเมนูเส้นอย่าง Truffle Cream Caviar Pasta (280 บาท) เส้นพาสต้าอัลเดนเต้ เด้ง ๆ กรุบ ๆ กำลังดี กลิ่นทรัฟเฟิลหอมชัดเจน และยังใจป้ำโรยหน้าด้วยไข่ปลาคาเวียร์กันเลย แต่ส่วนตัวเราว่าจานนี้รสชาติดรอปไปนิด หากมีเกลือเติมอีกสักหน่อยน่าจะเข้าที่เลยล่ะ

Wagyu Marrow Fried Rice
สี่สหายทอดกรอบ กับแกล้ม บาร์
ลูกชิ้นกุ้ง ฉ่อยเป็ดย่าง บาร์ saloon Ari

จัดหนักกันอีกกับ Wagyu Marrow Fried Rice (320 บาท) ข้าวผัดไขกระดูกวัวหอม ๆ รสหวานเล็กน้อยแบบญี่ปุ่น ท็ปด้วยเนื้อวากิวไทยที่มาแบบมีเดียม ตัวเนื้อนุ่มไม่เหนียวเลย กินคู่กับไข่ดองยิ่งนัวอย่าบอกใคร ปิดท้ายด้วย สี่สหายทอดกรอบ (220 บาท) และลูกชิ้นกุ้ง (190 บาท) ต้องบอกว่าลูดชิ้นกุ้งที่นี่มาจากร้าน ฉ่อยเป็ดย่าง ที่มีรางวัล Michelin การันตีอยู่แล้ว ลูกชิ้นลูกโต เนื้อแน่น ได้รสชาติกุ้งเต็มคำ

Saloon Ari (ซาลูน อารีย์) บาร์ bar เครื่องดื่ม

แอบบอกว่าสำหรับสาว ๆ แล้ว ทุกคืนวันอาทิตย์ – พฤหัสบดี ทางร้านจะมี Lady Night ตั้งแต่ช่วง 18:00 – 22:00 น. ที่ Signature Cocktail ทุกแก้วเพียง 200 บาท เรียกว่าคุ้มมาก ๆ และไม่ว่าจะมาวันไหน ก็จะได้ฟังดนตรีสดกันทุกคืนแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคนชอบค็อกเทล หรือชอบฟังเพลงชิลล์ ๆ Saloon Ari ก็ตอบโจทย์ครบทุกความชอบแน่นอน

Saloon Ari
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 18:00 – 02:00 น.
ซอยสุทธิสารวินิจฉัย พญาไท
BTS สะพานควาย แล้วเดินอีกประมาณ 4 นาที | ไม่มีที่จอดรถ

google maps

Articles You Might Like

Share This Article