Progress Cafe & Bar คาเฟ่ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

จะมีที่ไหนที่ให้เรานั่งทำงานจิบกาแฟได้แบบชิลล์ ๆ จนถึงค่ำ พอเหนื่อยหน่อยก็พักสมองแล้วออเดอร์ค็อกเทลมาย้อมใจในตอนดึก ไม่นานมานี้ Routeen. ได้ไปเจอร้านไวบ์นั้นแล้ว เป็นคาเฟ่และบาร์ในที่เดียวกันซ่อนตัวอยู่ในย่านอารีย์ เอาใจคนทำงานแบบสุด ๆ นั่นก็คือ Progress Cafe & Bar คาเฟ่และบาร์ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน อยู่บนชั้น 3 ของ Ari Story Hostel ซอยอารีย์ 1

คาเฟ่ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

ต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ ตรงนี้เคยเป็นร้านสัก madgrey tattoo มาก่อน (สายสักมินิมอล สีสันน่ารัก ๆ น่าจะเคยเห็นผลงานผ่านตากันบ้าง) ซึ่งหุ้นส่วนของ madgrey และ Progress ก็คือคนเดียวกันนั่นแหละ เราได้เจอหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านอย่างคุณ เตี้ยง – จตุพล ธนะปุระ เลยขอนั่งพูดคุยถึงที่มาที่ไปของร้านกันสักนิด เพราะทั้งดีไซน์ร้าน และคอนเซปต์ดูน่าสนใจไม่น้อยเลย

อย่างที่บอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ของ madgrey taatoo ที่เริ่มเปิดก่อนช่วงโควิดสักพัก มีคุณเตี้ยง และคุณเบียร์หุ้นส่วนอีกคนดูแลอยู่ พอร้านสักเริ่มมีลูกค้ามากขึ้น เลยขยับขยายขึ้นไปชั้น 4 ที่ยังว่างอยู่เพราะมีพื้นมากกว่า พอห้องนี้ว่างก็เลยรู้สึกเสียดาย เก็บพื้นที่มาทำเป็นคาเฟ่ซะเลย

“มีความคิดอยากทำคาเฟ่ที่ ที่ตอบรับลูกค้าได้ทั้งเช้า กลางวัน เย็น มีทั้งกาแฟ Coffee Cocktail และ Cocktail ด้วย ให้คนที่อยากนั่งนาน ๆ นั่งทำงานได้ ชิลล์ได้ เลยออกมาเป็นคาเฟ่และบาร์”

Progress Cafe & Bar คาเฟ่ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

คุณเตี้ยงบอกเราว่าที่ที่ตั้งใจทำให้เป็นคาเฟ่และบาร์ แทนที่จะทำร้านอาหาร เหตุผลหลัก ๆ คือพื้นที่ก็ไม่ได้พร้อมที่จะทำครัวขนาดนั้น แล้วส่วนตัวคุณเตี้ยงเองอยากนำเสนอวัฒนธรรมการดื่ม อย่างกาแฟที่เรียบง่าย ค็อกเทลที่มีความจริงจัง และซับซ้อนขึ้นมาหน่อย ซึ่งส่วนตัวก็ชอบดื่มค็อกเทล เป็นสายบาร์ประมาณหนึ่งอยู่แล้วด้วย

คาเฟ่อารีย์ Co-working space ใต้ร้านสัก madgrey tattoo ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

พอมีไอเดียว่าจะทำคาเฟ่และบาร์ ก็ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าให้เป็นคนละร้านไปเลย ไม่ได้อยากให้เป็น madgrey cafe เพื่อให้สื่อสารง่ายกว่า แต่ก็ยังอยากให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ตั้งใจให้ลิงก์กันเลยทุบสร้างบันไดลงมาจากชั้นบน เผื่อรับลูกค้าร้านสักลงมาได้ด้วย และตั้งใจให้มีดีไซน์ที่เชื่อมโยงกัน เป็นคอนเซปต์แบบ Add-on เพิ่มความเป็นคุณเบียร์และคุณเตี้ยงทั้งข้างบน ข้างล่าง ให้ดูไม่ฉีกกันเกินไป

คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

ซึ่งก่อนหน้านี้คุณเตี้ยงทำงาน Remote work เกี่ยวกับกราฟิกดีไซน์ ตั้งแต่ตอนทำ madgrey ทำควบคู่กันมา ก่อนจะออกมาลุยทำร้านเต็มตัวตอนเกิด Progress Cafe อย่าง madgrey ก็หยอดความเป็นคุณเตี้ยงด้วยโลโก้ อะไรที่เป็นสีสัน ขวดสี โปสเตอร์ต่าง ๆ ส่วนโลโก้ Progress ก็เป็นฝีมือคุณเตี้ยงเช่นกัน ดีไซน์ให้มีตัว P และตัว G ที่เป็นเหมือนควันอโรม่าซ้อนอยู่ด้านหลัง 

ถ้าขึ้นไปดูที่ madgrey ก็จะเห็นว่ามีคาแรกเตอร์เทา ๆ เท่ ๆ หน่อย ซึ่งคุณเบียร์เองเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์มาก่อนด้วย พอมาดีไซน์ร้าน Progress เลยจะเน้นพวกแพทเทิร์น มีดีเทล มีเส้น มี Grid เข้ามา ส่วนตัวคุณเตี้ยงเองคาแรกเตอร์เป็นคนขี้เล่น เลยใส่ความสตรีทอย่างพื้นกระเบื้องอิฐสีส้มให้ร้านดูสนุกขึ้น เฟรนด์ลี่มากขึ้น

คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

ที่เลือกหยอดสีส้ม ตั้งใจทำให้สื่อถึง Energy ความกระตือรือร้น เหมือนกับชื่อร้าน Progress ที่เป็นอะไรที่ทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะชื่อ Progress Cafe ก็มาจากคำว่า ‘Work in progress’ อยากให้เชื่อมโยงถึงคนที่มานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือวาดรูป มาต่อยอดจากชีวิตประจำวันที่ร้านนี้ แล้วสีส้มก็ทำให้ดูเฟรนด์ลี่ ดูอบอุ่นหน่อย ซึ่งก็ดูเข้ากับสีเทาได้ดีอีกด้วย

สไตล์คาเฟ่ ตอนกลางวันก็ตั้งใจให้เป็นแนวคนมานั่งทำงานเงียบ ๆ ได้ บรรยากาศสบาย ๆ ส่วนพาร์ตกลางคืนก็จะใกล้เคียงกัน ไม่ได้เสียงดังขนาดนั้น โดยกลางวันจะเจอกับคุณเตี้ยง ที่ยืนเป็นบาริสต้าเองเลย ส่วนพาร์ตบาร์จะมีบาร์เทนเดอร์มาเสริมทัพ

Progress Cafe คาเฟ่ที่ถูกใจสาย Worker

สไตล์คาเฟ่ ตอนกลางวันก็ตั้งใจให้เป็นแนวคนมานั่งทำงาน เงียบ ๆ ได้ บรรยากาศสบาย ๆ และจะเจอกับคุณเตี้ยง ที่ยืนเป็นบาริสต้าเองเลย

คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ ที่ตกดึกจะกลายเป็นบาร์ให้ดื่มจนลืมงานที่กองอยู่

บอกก่อนว่าที่นี่เมนูไม่หวือหวา เน้นเมนูคลาสสิกกับรสชาติที่ไม่ผิดหวัง อย่างเมล็ดกาแฟก็มี House Blend เป็นเอธิโอเปีย กัวเตมาลา และบราซิล เป็นคั่วกลางอ่อนที่ให้ฟีลลิ่ง หอมดอกไม้ปลาย ๆ เบอร์รี่หน่อย ๆ บอดี้คลีน ๆ มีความอโรม่า ส่วนใครที่ไม่ชอบเปรี้ยวมากก็มี Single อีกตัวเป็นบราซิลให้เลือกด้วย

มีเมนู non-coffee 2-3 เมนู เอาใจคนไม่ดื่มกาแฟ และมีเมนู Refreshment ให้เลือกอีก 3 เมนู โดยคอนเซปต์คือเป็นไซรัปทำเอง เลือกหยิบวัตถุดิบมาจากของที่มีอยู่ในบาร์มาเป็นเครื่องดื่มแบบมิกซ์นิด ๆ มีคาแรกเตอร์

Progress Cafe & Bar คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ เมนู Iced Espresso Tonic

เราเองได้ลองทั้ง 3 ประเภทเลย ตัวกาแฟเราได้ลอง Iced Espresso Tonic (120 บาท) เป็นเมนูที่ดื่มง่ายกว่าที่คิด เป็นโทนิคที่ไม่ขมปี๋ มีความฝาดของเลมอนหน่อย ๆ กาแฟออกโทนไลต์ ๆ ไม่เปรี้ยว และไม่ขม บาลานซ์กำลังดี เป็นแก้วที่สดชื่นใช้ได้

Progress Cafe & Bar คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ เมนู Strawberry Latte

ตัว Non-coffee เราเลือกเป็น Strawberry Latte (90 บาท) ความพิเศษคือเป็นแยมสตรอว์เบอร์รีโฮมเมดที่ทางร้านทำเองเป็นประจำอยู่แล้ว เอามามิกซ์กับนมสดที่มีความมัน ๆ นวล ๆ แก้วนี้ได้รสเปรี้ยวหวานกำลังดี ตอนกินใช้หลอดใหญ่ดูดจะได้เนื้อสตรอเบอร์รี่ให้เคี้ยวเต็ม ๆ คำ กินเพลินมาก

Progress Cafe & Bar คาเฟ่อารีย์ Co-working space ถูกใจสาย working ย่านอารีย์ เมนู Iced Tomato Basil Fizz

ส่วน Refreshment เราลอง Iced Tomato Basil Fizz (100 บาท) แก้วนี้หน้าตาคล้ายโมฮิโต สดชื่นมีมิติซับซ้อน มีมะเขือเทศรสหวานฉ่ำ ที่เริ่มจากเอามะเขือเทศที่ลอกเปลือกแล้วมาแช่ในน้ำตาล ให้ค่อย ๆ ละลายเป็นน้ำเชื่อม แล้วเอาน้ำเชื่อมตัวนั้นมาผสมในโซดาอีกที ทำให้มีความซ่าปนหวานนิด ๆ และหอมใบโหระพา

เร็ว ๆ นี้จะมีขนม Coffee Jelly เจลลี่กาแฟท็อปด้วยครีมนุ่ม ๆ โฮมเมด รอติดตามได้เลยนะ!

Progress Bar บาร์ในคราบคาเฟ่ที่จริงจังไม่แพ้กัน

ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป คาเฟ่ก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นบาร์ ปรับแสงให้อุ่นขึ้นและดิมไฟลง รวมถึงเพลงในร้านก็ยังคงเป็นแจ๊ส แต่จะถูก Up beat ขึ้นมาอีกเล็กน้อย อย่างที่บอกว่านอกจากคุณเตี้ยงแล้ว จะมีบาร์เทนเดอร์อย่าง คุณกันต์ และคุณจอย มาช่วยกันดูแล และรังสรรค์เครื่องดื่มในค่ำคืนนี้อีกด้วย

พาร์ตบาร์ยังคงจับคอนเซปต์ของร้านอย่าง ‘Work in Progress’ มาเป็นกิมมิกในการนำเสนอเครื่องดื่ม โดยหยิบเอาการทำงานของเรา (โดยเฉพาะสายครีเอทีฟและเอเจนซีน่าจะอินคูณสอง) เป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทลทั้ง 5 แก้ว ที่ไต่ระดับเรื่องราว และรสชาติไล่เรียงกันไป

Progress Cafe & Bar ค็อกเทลบาร์ อารีย์ เมนู ราคา บรรยากาศ

เริ่มตั้งแต่ Shining Start Up (360 บาท) เปรียบดั่งการเริ่มวันทำงานอันแสนสดใส สมองแล่น เต็มไปด้วยไอเดียที่อยากนำเสนอของวันนี้ ตัวเครื่องดื่มจึงเน้นคล้าย ๆ Starter เล็กน้อย ดื่มง่าย ด้วย Umeshu ที่เติมด้วยน้ำมะนาวสดและโรสแมรี

ส่งต่อมายังแก้วที่สองอย่าง Sweetie Engaging (360 บาท) เหมือนการเข้าถึงงาน หรือการเข้าถึงลูกค้า ที่จะต้องมีหวานมีขมปนกันไป เครื่องดื่มเบสวอดก้าที่ท็อปด้วยโฟมพีชฮันนีขิงโฮมเมด เสิร์ฟมาแบบแยกชั้นมีลูกเล่นไม่หยอก

ค็อกเทลบาร์ อารีย์ เมนู Green Pitching ราคา บรรยากาศ

เข้าสู่เนื้องานจริงจังกับแก้วถัดมา Green Pitching (360 บาท) ถึงเวลาที่ต้องพิชชิงงานกันแล้ว! แก้วนี้จึงต้องเรียกร้องความสนใจกันหน่อย ด้วยการหยิบเอามัตฉะมาทำเป็นเตกิลา ให้รสชาติหวานแกมขม ออกฝาดเล็กน้อย เติมมิติด้วยมะกอกไว้แกล้มสักหน่อย

ส่งต่อมายังแก้วชื่อเจ็บอย่าง Final Never Final (360 บาท) เปรียบการทำงานที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่จบสักที เหมือนการจิบเครื่องดื่มแก้วนี้ ที่จิบได้เรื่อย ๆ นำเสนอผ่าน Negroni Twist ที่นำไปสโมกกับ Cinnamon Stick เสริมด้วย Shiitake Bitter ที่ทางร้านทำเองด้วย ทำให้แก้วนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น

ปิดท้ายกับแก้วที่จะช่วยเราต่อยอดไอเดียของการทำงานในวันนี้ ผ่าน Hidden Progress (360 บาท) ให้จบวันด้วยนุ่ม ๆ สบาย ๆ ทางร้านเลือกใช้เป็นเบสจินที่มาอินฟิวส์กับเก็กฮวย เสริมความหอมนุ่ม มิกซ์กับสูตรลับของบาร์เทนเดอร์ที่เราแอบรู้มาว่าเป็นการผสมกันระหว่าง Homemade Syrup Yuzu Coriander Seeds ผสมกับบราวน์ชูการ์ และบิตเตอร์ชิตาเกะ ท็อปด้วยโฟมไข่ขาว เป็นอีกแก้วที่ซับซ้อนแต่ปิดท้ายได้ดี และสูตรลับ (ที่เราแอบเอามาบอกแล้ว) นี้ก็ต้องชักชวนให้ทุกคนมาลองให้รู้ด้วยตัวเองจะดีกว่า

นอกจากซิกเนเจอร์ค็อกเทลแล้ว ทางร้านยังมี Coffee Cocktail คอยเสิร์ฟอีกด้วย เราลองเป็น Irish Coffee (220 บาท) เอสเพรสโซช็อตเติมด้วยไอริชวิสกี้ น้ำตาลอ้อย และท็อปด้วย Fresh Cream เป็นแก้วที่หอมกาแฟ แต่เมื่อดื่มแล้วจะได้รับรสชาติของวิสกี้มาก่อน ตามด้วยกาแฟตอนปลาย ตัวครีมช่วยทำให้บอดี้ของกาแฟชัดขึ้น แก้วนี้ค่อนข้างหวานสักหน่อย หากใครไม่ชอบหวานก็แจ้งลดหวานได้เลยนะ

นอกจากความสนุกของเครื่องดื่ม (ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกลับมาทำงานผ่านแก้วในมือ) และบรรยากาศชิลล์ ๆ และเป็นกันเองของทางร้านแล้ว ในอนาคตทางบาร์จะยังมีเครื่องดื่มตามโอกาสต่าง ๆ มาให้ได้ลองเพิ่มเติม เช่น Signature Of The Month ไปจนถึงเมนูอาหารที่จะเริ่มมีมากขึ้นอีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวนั่งได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และเป็นพิกัดที่น่าสนใจอีกแห่งในย่านอารีย์เลยล่ะ

Progress Cafe & Bar
โซนบาร์เปิดวันพุธ – อาทิตย์ เวลา 17:00 – 23:00 น.⁣ (นั่งได้ถึง 24:00 น.)
ชั้น 3 ของ Ari Story Hostel
BTS อารีย์ | จอดรถได้ที่อาคารสหกรณ์ ค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article