สายค็อกเทล ย่านที่มักจะมีค็อกเทลบาร์ดี ๆ ที่นึกถึงกันบ่อย ๆ คงหนีไม่พ้นทองหล่อ-เอกมัย หรือถ้าให้นึกอีกทีก็จะมีย่านอารีย์ติดโผมาบ้าง แต่คืนนี้ เราจะชวนมาแวะสีลม ไปค็อกเทลบาร์ (เกือบ) ลับ ไวบ์ดีไม่แพ้ย่านไหน ๆ ซ่อนตัวอยู่ในซอยสีลมซอย 3 ที่ถ้าเดินผ่านต้องมีหยุดแล้วเหลียวกลับไปมองกันบ้าง เพราะเป็นบาร์ไวบ์เท่ที่ดึงดูดตั้งแต่หน้าประตู ร้านที่เรากำลังพูดถึงคือ Pili Pala บาร์ค็อกเทล #drunkenroom แห่งย่านสีลม
Pili Pala (พีลี พาลา) เป็นบาร์เล็ก ๆ ที่แอบอยู่ในซอยสีลม 3 ที่บอกว่าเดินผ่านแล้วต้องหยุดมอง ก็เพราะหน้าร้านมีคาแรกเตอร์หนุ่มไซซ์ใหญ่เท่ากระจก ยืนถือแก้ว ยิ้มกรุ้มกริ่ม เหมือนคอยเชื้อเชิญให้เราเข้าไปดื่มสักแก้ว เมื่อเข้ามาในร้านจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์ หรือห้องใต้ดินยังไงอย่างงั้น
แวะมาดื่มคราวนี้ เราได้พบกับคุณ มิ้น – สุภิสรา วรรณศิริกุล หนึ่งใน Owner ของร้านนี้เลยได้รู้ว่า คอนเซปต์ของร้านนี้คือ American Bar บาร์สไตล์อเมริกันเท่ ๆ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของแก๊งเพื่อนที่ชอบดื่ม ชอบปาร์ตี้กันอยู่แล้ว เลยตัดสินใจมาทำบาร์ด้วยกัน
และความเป็นอเมริกันบาร์ ก็มาจากความชอบของหุ้นส่วนคนหนึ่งนี่แหละ (ที่นี่มีหุ้นส่วนหลายคนมาก ๆ แต่หุ้นส่วนหลักจะมี 3 คน คือคุณมิ้น / คุณบิว – ธนภร เก่งถนอมศักดิ์ และ คุณปอม – ธนัชพร อัจฉริยะกุลพร)
“คำว่า พีลี พาลา มีความหมายจากเสียงดังของพลุ แบบประทัดแบบปุ้งปั้ง ๆ อยากให้ไวบ์ดูสนุก (และแอบมู ให้มีความปัง ๆ) เลยคุยกันในแก๊งว่า อยากให้ร้านเป็นคอกเทลบาร์ที่เข้าถึงง่าย ไม่ถึงกับ Speakeasy ที่ต้องคีพลุคเวลามานั่งที่ร้าน เข้ามาแล้วสนุก”
หนึ่งสิ่งที่เราชอบมาก ๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาในร้าน จะรู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ไวบ์ของร้านจะมีความเป็นอุโมงค์ ได้ฟีล Underground หน่อย ๆ แต่ไม่ดิบเกินไป ยังมีความเนี้ยบ ด้วยแสงสีของบาร์ที่คุมโทน ยูนิฟอร์มของบาร์เทนเดอร์ที่มีความ American แบบ Old Money หน่อย ๆ
ด้านการตกแต่งคุณมิ้นเล่าว่าด้วยพื้นที่ที่ได้มาไม่ได้กว้างมาก ตัวร้านเป็นทรงลึก หน้าแคบหน่อย เลยนึกถึงอุโมงค์ใต้ดินใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ ส่วนโต๊ะเก้าอี้ เลือกเป็นโซฟายาว อยากให้รู้สึกสบาย ๆ ไม่แบ่งแยกโต๊ะขนาดนั้น ให้นักดื่มได้มีโอกาส Make Friend ได้ หรือบาร์เทนเดอร์เองก็สามารถมาแนะนำเมนูได้ใกล้ชิด สะดวก
ไวบ์ของร้านเลยจะออกแนวสนุก ๆ เป็นกันเอง ไม่ต้องคีพลุคเวลามานั่ง สามารถมานั่งคุยกัน หรือเอนจอยกับเพลงสนุก ๆ ได้ มี DJ มาเปิดแผ่นทุกวันอังคารถึงเสาร์ด้วย แนวเพลงจะเน้นแนว Hiphop House มีจังหวะให้จอย เข้าถึงง่าย
โจทย์หลักของร้าน นอกจากบรรยากาศแล้ว ค็อกเทลยังเน้นรสชาติ ที่ต้องดี รสชาติต้องถึง และใช้ของดีทำเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ ส่วนผสม ไปจนถึงแอลกอฮอล์ ที่คัดมาอย่างดี (ร้านเคลมว่า) ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่แฮงค์ด้วยนะ
คอนเซปต์เมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่นี่จะเป็นแนวเปรี้ยวหวาน ให้ความรู้สึกดื่มง่าย เหมือนดื่มไปแล้วดูเบา ๆ แต่จริงๆ แล้วมีแอลกอฮอล์ที่มีความแรงซ่อนอยู่ เบสหลาย ๆ ตัวจะมีการนำไป Infused กับผลไม้สด ให้เกิดรสหรือกลิ่นโทนหวาน ๆ ชูวัตถุดิบได้ดี (ใครอยากได้แรง ๆ หนักแน่น ก็สั่งคลาสสิค หรือ Custom ได้เลย)
“โจทย์ของ Cocktail Signature จะต้องชูรสชาติ ชูกลิ่น ของทุก Ingredient ที่ใส่ลงไปใน Cocktail ออกมาให้ชัดเจน แต่ละเมนูผ่านการคิด กระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อน เป็นแนวคราฟต์ค็อกเทลที่ตั้งใจมาก ๆ”
เราได้ลอง Strawberry Cup (420 บาท) แก้วนี้เบสเป็น Tanqueray london dry gin ที่นำไป Infused กับสตรอว์เบอร์รีสด (สีสันที่เห็นคือไม่มีการแต่งสีใด ๆ เลย) และมี Vermouth เลมอน และมินท์ เพิ่มความ Refreshing เหมาะกับการเป็นแก้วเริ่มต้นเบา ๆ
ต่อมาเป็น Silver Honey Daisy (380 บาท) แก้วนี้เบาเป็นจินไป Infused กับโรสแมร์รี ใส่น้ำผึ้งเพิ่มความหอม วิปปิ้งครีมและไข่ขาวเพิ่มความครีมมี่ เวลาดื่มจะรู้สึกหอมน้ำผึ้งนิด ๆ พร้อม after taste เป็นกลิ่นโรสแมร์รี่ชัดเจน เป็นแก้วที่มีความนัว และซับซ้อนในรสชาติ ดื่มสนุก
อีกแก้วเป็น Lychee Martini (420 บาท) เบสเป็น Tanqueray london dry gin ที่นำไป Infused กับลิ้นจี่ และมี cocchi americano ยูซุ เลมอนเพิ่มความเปรี้ยวหวาน หอมลิ้นจี่ ดื่มง่าย
แก้วทรงสวยเป็น Grape Manhattan (420 บาท) หนึ่งในคลาสสิคค็อกเทลที่เป็นแนว Spirit Forward แก้วนี้เพิ่มความน่าสนใจด้วยการนำ Monkey Shoulder Whiskey ผสมผสานกับ Suntory Kyoho ที่มีกลิ่นองุ่นชัดเจนจากญี่ปุ่น เพิ่มกลิ่นเฮิร์บนิด ๆ ท็อปด้วยองุ่นฟรีซ ไว้กินคู่กัน
สายคลาสสิคต้องลอง Cocoa O/F (490 บาท) แก้วนี้เรียกว่า Old Fashion ที่มีความคลาสสิคแต่เพิ่มลูกเล่น ด้วยการนำ Flor De Cana ดาร์กรัม 12 ปี และ Bulleit Ryes ไป infused กับเมล็ดกาแฟ และโกโก้ ใส่น้ำตาลปาล์มให้มีความกลมกล่อม มีความหวานของโกโก้ปลาย ๆ หอมกาแฟ รสเข้มข้น
ปิดท้ายด้วย Spice Mule (380 บาท) แก้วนี้เป็นวอดก้า กับ Tanqueray london dry gin เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยเครื่องเทศอย่างซินนาม่อน กระวาน และนำขิงสด ได้ความรู้สึกแรงแต่สดชื่น
ใครหาค็อกเทลบาร์ไวบ์ดี นั่งชิลล์ ๆ ย่านสีลม ร้านนี้จะเป็นหนึ่งในร้านที่ต้องจดไว้ในลิสต์เลยล่ะ!
Pili Pala บาร์ค็อกเทล
เปิดทุกวัน 18:00 – late
สีลมซอย 3
BTS ศาลาแดง | จอดรถได้ที่ The Fifth Silom (สามารถแสตมป์บัตรที่ร้านได้ เหลือชั่วโมงละ 10 บาท)
Google Maps
