พูดถึงโครงการ Mixed-use ภาพในหัวอาจจะเป็นโครงการใหญ่ ๆ ในตัวเมืองหรือพื้นที่ที่คอนโดเยอะหน่อย มีความพลุกพล่านประมาณหนึ่ง แต่ที่ที่เราไปเจอกลับเป็นตึกเก่าที่เอามารีโนเวทและอยู่ในชุมชนสุด ๆ ภายในมีทั้งร้านอาหาร ดนตรี กิจกรรมอย่างเซิร์ฟสเก็ต ชื่อว่า P.Sherman The Enjoyable Ground พื้นที่ Community Space สุดแนว ตอบโจทย์ Neighborhood ย่านฝั่งธนฯ
ต้องบอกว่าเปิดมา P.Sherman นี้เปิดมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว หลาย ๆ คนอาจเคยเห็นภาพลานเซิร์ฟสเก็ตอินดอร์ขนาดใหญ่ของที่นี่ไปแล้วแต่จริง ๆ แล้วพื้นที่นี้ไม่ได้มีแค่ลานสเก็ต เราได้พูดคุยกับ คุณอมร สุนทรญาณกิจ เจ้าของโครงการนี้ถึงที่มาที่ไปของตึกจึงได้รู้ว่าความตั้งใจของที่นี่อยากให้เป็น Community ที่รวม Lifestyle และ Activities
เล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ Mixed-use เป็นโปรเจคที่เคยมีมาก่อนแล้วตั้งแต่ก่อนโควิด Core Idea คืออยากให้มี Lifestyle + Activity ซึ่งได้ Inspired มาจาก The Racquet Club ที่เป็น Sport Club ตรงสุขุมวิท 49 และ The Common คอมมูนิตี้ด้านอาหาร มองว่า 2 อย่างนี้ตอบโจทย์ Neighborhood ได้ดี โปรเจคนี้จริงจังถึงขั้นหาผู้ลงทุน แต่โควิดดันมาก่อนเลยต้องพักไป
ส่วนหนึ่งที่อยากให้มีความสปอร์ตคลับเข้ามา มาจากตัวเองที่ชอบใช้ชีวิตดึก ๆ และมองว่าไม่ค่อยมีกิจกรรมให้ทำมากเท่าไหร่นอกจากกินดื่ม เลยอยากทำพื้นที่ให้ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนตัวเองได้มีที่ให้ไปใช้ชีวิตกัน
หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โปรเจคที่พักไว้ ก็นำกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งเพราะหลายส่วนเริ่มดำเนินการไปแล้วเลยอยากทำต่อให้เกิดขึ้นให้ได้ การมาเลือกใช้ตึกเก่าในซอยชุมชนอย่างอรุณอมรินทร์ 39 ที่ตรงนี้เคยเป็นโรงงานเสื้อผ้าของครอบครัวคุณอมรเองตั้งแต่รุ่นอากง พอถึงรุ่นพ่อก็ขยับขยายย้ายออกไปที่อื่น ตรงนี้เลยถูกปล่อยร้างไปหลายปี ซึ่งจริง ๆ โครงสร้างค่อนข้างดีเลย พื้นที่ใช้สอยเยอะ และยังมีลานจอดรถเยอะมาก ๆ ด้วย
ที่ตึกนี้มีพื้นที่ 4 ชั้น แต่ตอนนี้เริ่มเปิด 2 ชั้นก่อน ด้วยความที่ครั้งนี้คุณอมรลุยเดี่ยวแล้ว ไม่ได้หาผู้ลงทุนเหมือนครั้งแรก ทำให้ต้องค่อย ๆ ปรับพื้นที่ไปทีละ Phase ภายในที่เราเห็นเป็นโครงสร้างเดิม ทั้งเสา คาน กำแพง เก็บไว้ให้เห็น แต่มีการทุบทะลุเปิดพื้นที่ รีโนเวทด้านในบางส่วน และตั้งใจให้ชั้น 1 เป็นพื้นที่ของร้านอาหาร และมีลานเซิร์ฟสเก็ตอยู่ตรงกลาง
“ตั้งใจให้เห็นโครงสร้างเดิมเป็น Vibe ได้แรงบันดาลใจมาจากอเมริกา เอาของเดิมมาผสมสิ่งใหม่ มีความอาร์ต เป็นฟู้ดคอร์ทที่มีความ Self-service ประมาณหนึ่ง แต่ยังมีความสวยงาม”
ส่วนชั้น 2 เป็นลานเซิร์ฟสเก็ตเต็มพื้นที่ ขนาดใหญ่พอสมควร คุณอมรบอกเราว่าจริง ๆ ที่นี่เหมาะกับคนที่เล่นเซิร์ฟสเก็ตเป็นแล้ว แล้วอยากมาเล่นแบบชิล ๆ เพื่อออกกำลังกาย ไม่ได้เล่นเอาจริงจังขนาดโปร หรือใครที่อยากลองสนุก ๆ ก็มาได้ มีอุปกรณ์ให้ยืมแต่ไม่มีคนสอนนะ ค่าเซิร์ฟสเก็ตอยู่ที่ 250.-/คน/วันเท่านั้น
เมื่อถามถึงที่มาถึงชื่อ P.Sherman คำตอบที่ได้ฟังก็ทำเราอมยิ้มเลยล่ะ คุณอมรบอกเราว่าเป็นชื่อที่คิดเร็ว ๆ ขึ้นมาตอนที่โครงการยังเล็กอยู่ มาจากความทะเล ชอบเลี้ยงปลาทะเล แต่ก็มองคอนเซปต์ร้านให้มีความ Urban ด้วย เลยหยิบชื่อของร้านหมอฟันในเรื่อง Finding Nemo ที่เจ้า Dory ท่อง ‘P Sherman, 42 Wallaby Way, Sydney’ มาเป็นชื่อร้าน เป็น Massage ที่น่ารักดี มีความ urban ผสมกับทะเลอย่างที่ชอบ และหลาย ๆ คนอาจจับไม่ได้
“ตัวลานสเก็ตชั้น 1 ที่เห็นเลยมีลวดลายแบบทะเล ๆ เพราะไม่ได้อยากให้เป็นธีมทะเลทั้งตึกขนาดนั้น คอนเซปต์เราค่อนข้างเป็น Urban มากกว่า เลยมีหยอดทะเลไว้ในลานเซิฟร์ตสเก็ตแทน เป็นแนว Urban x Beach”
ลานเซิร์ฟสเก็ตที่สร้างขึ้นมาทั้งชั้น 1 และ 2 เป็นแบบ Temporarily เคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมด เพราะมีไอเดียการหยิบกีฬาอีกหลาย ๆ แบบมาลงที่พื้นที่นี้แบบที่ตั้งใจไว้ แต่ความเป็น Sport Club อาจจะใช้เวลาขยายช้ากว่าด้านอาหารอยู่บ้าง เพราะตอนนี้โปรเจกต์ร้านอาหารและ Community Space ที่รันไปได้อีกหลายอย่าง และลูกค้าเองก็รีเควสหลาย ๆ ประเภทอาหารมากขึ้นด้วย
ร้านอาหารที่มีตอนนี้หลากหลายมาก ๆ ข้อดีของที่นี่คือ พื้นที่สำหรับร้านค้าใช้โมเดล Share space ทุกร้านไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ใหญ่ ใช้ที่นั่งของส่วนกลาง ใช้ครัวกลางแบบ Share kitchen ที่มีให้ ทำให้ร้านเล็ก ๆ มีโอกาสเข้ามาได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงด้วย
เราได้ลองชิมหลายร้านเลยล่ะ ต้องบอกว่ามีหลากหลายจริง ๆ เริ่มกันที่ Minami ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านดังจากสุขุมวิท 26 มาเปิดครัวที่ P.Sherman ให้ชาวฝั่งธนฯ ได้ลิ้มลองรสชาติแบบคางาวะถึงที่ เราลอง Yakiniku Garlic Fried Rice (395 บาท) ข้าวผัดกระเทียมหน้าเนื้ออสเตรเลีย ตัวข้าวญี่ปุ่นนุ่มหอมเนยกระเทียม เนื้อมาแบบพอดีคำชิ้นหนา ไม่เหนียวกำลังเคี้ยวอร่อยเลย
พลาดไม่ได้กับเมนูซิกเนเจอร์ Shio Honetsuki Dori (220 บาท) ไก่อบส่วนสะโพก เนื้อชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับเกลือ พริกไทย และซอสพริกพรานเพิ่มรสจัดจ้าน ไฮไลต์คือตอนเสิร์ฟจะมีการเบิร์นไฟโชว์ถึงโต๊ะ ใครอยากอิ่มแนะนำสั่งเซ็ต Add-on (60 บาท) มีข้าวญี่ปุ่น ซุปและสลัดให้นะ
ขยับมาที่เมนูแซ่บ ๆ จากร้าน เปรี้ยวหวานมันเค็ม ร้านอาหารอีสานสุดแซ่บของคุณอมรเอง เราได้ลอง ตำไทยไข่เค็ม (80 บาท) รสชาติเปรี้ยวหวานพอดี กุ้งแห้งตัวใหญ่มาพร้อมไข่เค็มรสหอมมันเข้ากัน อีกเมนูเป็น ลาบหมู (100 บาท) รสแซ่บถึงเครื่องแบบอีสานแท้ ความดีงามคือเค้าเพิ่มกากหมูที่เจียวเองใหม่ ๆ ยิ่งกินยิ่งเพลิน
ใครมาต้องลอง ไข่ตุ๋นต้มยำ (60 บาท) ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนถ้วยใหญ่ ตุ๋นไปพร้อมซอสต้มยำรสกลมกล่อมสูตรของทางร้าน ไม่เผ็ดหรือเปรี้ยวเกินไป กินเล่นก็ได้ กินกับข้าวก็อร่อย ถ้วยนี้กินเพลินสุด ๆ
ที่นี่มีคาเฟ่ด้วย ชื่อว่า Charlies Caffeine ใช้เมล็ดกาแฟจากโรงคั่ว Roast Runner เมนูกาแฟเราเลือก Iced Charlie’s Signature (90 บาท) ลาเต้ซิกเนเจอร์ที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลาง ตัวนมเป็นนมผสมสูตรเฉพาะที่ไม่หวานจนเกินไป ถูกใจคอกาแฟเลยล่ะ ตามด้วยเมนู Strawberry Soda (80 บาท) เมนูที่ใคร ๆ ก็ชอบ ไซรัปสตอเบอรี่มีความหวานหอมกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่น
ปิดท้ายด้วย Matcha Sparkling Yuzu (120 บาท) เหมาะกับคนที่อยากกินมัทฉะ แต่ไม่อยากได้รสหนัก ๆ แบบมัทฉะาเต้ใส่นม เลยเปลี่ยนเป็นสปาร์กกิ้งผสมไซรัปยูซุ ทำให้แก้วนี้มีทั้งความหอมกลิ่นมัทฉะแต่ได้ความสดชื่นเต็ม ๆ
ช่วงค่ำยังมีบาร์ Liquors Planet พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มหลากหลาย และช่วงนี้มีโปรกิมมิกน่ารัก ๆ เปิดไวน์ 1 ขวด จะได้เพนท์แก้วไวน์ฟรี ถือจิบแบบคิวท์ ๆ กันเลย (เช็กโปรโมชั่นกับที่ร้านอีกทีนะ) และมีดนตรีสดแบบ full band ให้มาสนุกกันด้วย สามารถอยู่ได้ทั้งวันไปจนถึงดึกเลย
ความเป็น Community สำหรับเพื่อนบ้านไม่หมดเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีงาน Workshop เยอะมาก ๆ ในแต่ละเดือน ให้ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน (ติดตามได้ที่เพจของร้านเลย : P.Sherman The Enjoyable Ground) เป็นสเปซดี ๆ ของชาวฝั่งธนฯ เลยล่ะ
P.Sherman The Enjoyable Ground
เปิดทุกวัน 09:30 – 24:00 น. (ดนตรีสด ศุกร์-เสาร์)
ซอยเหล่าลดา (อรุณอมรินทร์ 39)
มีที่จอดรถ
Google Maps
