แม้ทุกวันนี้บ้านเราจะมีรูปแบบของอาหารให้เลือกมากเพียงใด หรือหลาย ๆ คนจะเอนจอยกับอาหารรูปแบบใหม่ ๆ แต่อาหารไทย ก็ยังเป็นรสชาติที่คุ้นลิ้น มีเอกลักษณ์ และทรงคุณค่าในศาสตร์การปรุงอยู่เสมอ ยิ่งเป็นอาหารไทยโบราณ หรือตำรับวังแล้ว ยิ่งหาโอกาสลิ้มชิมรสยากขึ้นทุกที แต่ล่าสุดทาง NAPHA Flagship Store ร้านอาหารไทยที่รวมเอา Cerebrity Chef ของเมืองไทยมารังสรรค์เมนูอาหารคาวหวานเข้าไว้ด้วยกันอย่างมากมาย ได้ร่วมกับ เชฟภูมิ – จักรภูมิ บุณยาคม ออกเซ็ตเมนูอาหารใหม่ล่าสุดในชื่อ WI-SET-WI-SO (วิเสทวิโส)
สำหรับแฟน ๆ รายการ Top Chef Thailand น่าจะรู้จักกับ เชฟภูมิ กันเป็นอย่างดี เพราะเขาคือ 1 ใน 12 เชฟที่เข้าร่วมรายการใน Season 2 ที่เต็มไปด้วยฝีมือในการรังสรรค์อาหารไทยโบราณ และอาหารยุโรป สำหรับเซ็ตอาหารนี้มาในชื่อเดียวกับร้านอาหารไทยของ เชฟภูมิ เอง ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 นี้ ในย่านพระราม 4 โดยจะมาในรูปแบบ Fine Dining และนี่คือเซ็ตอาหารที่จะพาทุกคนไปรู้จักในขั้นต้นของ WI-SET-WI-SO กันก่อนนั่นเอง
ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่า “วิเสทวิโส” มาจากคำว่า “วิเสท” ที่แปลว่าผู้ทำอาหารหลวง ซึ่งในสมัยก่อน พ่อครัวแม่ครัวที่ทำอาหารอยู่ในรั้วในวัง จะถูกเรียกว่าวิเสท และคำว่า “วิโส” ที่แปลว่างดงาม จึงหมายถึงผู้ทำอาหารหลวง (อาหารไทย) ที่งดงามนั่นเอง โดย เชฟภูมิ เลือกจานอาหารชาววังสุดโดดเด่นและมีเอกลักษณ์มาให้ได้ลองลิ้มกัน
เริ่มที่เมนูของว่างกับ ออเดิร์ฟวิเสท (190 บาท) ที่จับเอา 2 เมนูของว่างโบราณอย่าง ปลาแห้งแตงโม และ ม้าฮ่อ มารวมอยู่ในจานเดียวกันแบบคุ้ม ๆ ไม่ต้องรักพี่เสียดายน้อง จัดวางมาในสไตล์คอนเทมโพรารี กับแตงโมและสับปะรดหันเต๋า วางสลับกันดูโมเดิร์นและชวนหยิบลองชิม คลายร้อนในช่วงนี้ได้ดี
“สำหรับเซ็ตอาหารนี้มาในชื่อเดียวกับร้านอาหารไทยของ เชฟภูมิ เอง ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 นี้ ในย่านพระราม 4 โดยจะมาในรูปแบบ Fine Dining และนี่คือเซ็ตอาหารที่จะพาทุกคนไปรู้จักในขั้นต้นของ WI-SET-WI-SO กันก่อนนั่นเอง”
อีกจานไฮไลต์กับ กุ้งทอดซอสมะขาม (1,290 บาท) ที่ต้องบอกว่ากุ้งมาตัวใหญ่ ๆ ล้นจาน เชฟภูมิ เลือกใช้กุ้งแม่น้ำธรรมชาติไซซ์คัดพิเศษ นำไปทอดกรอบ แล้วราดด้วยซอสมะขามสูตรของวิเสทวิโส จานนี้ทอดกุ้งออกมาพอดีมาก ๆ กรอบนอก ฉ่ำใน มันกุ้งมาแบบเยิ้ม ๆ เสริมรสเปรี้ยวหวานของซอสมะขามเข้าไปอย่างลงตัว โดยจานนี้หากไม่กินกุ้งแม่น้ำ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นกุ้งกุลาได้เช่นกัน
อีกจานที่ เชฟภูมิ ภูมิใจนำเสนอ กับ แกงเผ็ดเป็ดย่างผลไม้ตามฤดูกาล (360 บาท) ซึ่งได้สูตรมาจากตำราของเจ้าคุณทวดของบ้าน เชฟภูมิ เอง เป็ดย่างชิ้นหนา เนื้อนุ่ม ไม่สาบ กับเครื่ิองแกงเผ็ดที่รสกลมกล่อม ไม่เผ็ดร้อนจนเกินไป เสริมรสเปรี้ยวหวานผ่านผลไม้ตามฤดูกาล (วันที่ Routeen. ไปลองชิม เชฟใส่มาเป็นมะยงชิด)
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง ไอศกรีมทุเรียน ที่ เชฟภูมิ หยิบเอาความเป็นไอติมตัดในอดีตมานำเสนอ และยังคงได้สูตรมาจากเจ้าคุณทวดเช่นเดิม ไอศกรีมทุเรียนรสแน่น ที่เนื้อไอศกรีมจะมีเนื้อทุเรียนกวนโฮมเมดเสริมมาด้วย เสิร์ฟพร้อมครัมเบิลใบเตย และโฟมกะทิอบควันเทียนกับคาราเมลกะทิ
มาถึง NAPHA Flagship Store ทั้งที ก็ต้องขอลองเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านเพิ่มเติมสักหน่อย เราสั่ง แกงคั่วปูใบชะพลู (390 บาท) มาเสริมทัพจานอาหารบนโต๊ะ ทางร้านเลือกใช้เนื้อปูสดชิ้นโต นำไปแกงกับพริกแกงคั่วใต้รสจัดจ้านที่นำไปผัดกับกะทิเข้มข้น เติมใบชะพลูลงไป รสชาติเผ็ดร้อนกำลังดี ไม่เค็มโดด จะกินกับข้าวสวยหรือขนมจีนก็อร่อย
ขอลองอีกจานกับ ลูกฟักแม้วผัดกุ้งสด (250 บาท) ลูกฟักแม้วหั่นพอดีคำ ผัดมาแบบหอมกลิ่นกระทะ รสออกหวานเล็กน้อย ผัดมายังกรอบอร่อย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หาโอกาสลองชิมไม่ได้บ่อย แต่ก็อยากให้ทุกคนได้ลองกันดูนะ
นอกจากนี้เรายังขอลอง Mocktail ของทางร้านที่สีสันเตะตาทุกแก้ว ทั้ง Sweet Sunshine (150 บาท) น้ำยุซุและแอปเปิล ที่มาในแก้วทูโทนสีอำพันและสีม่วง เสริมมิติด้วยเม็ดคริสตัลรสลิ้นจี่ Mellow Yellow (150 บาท) ชาเก๊กฮวยและพีชสีสันสดใส ช่วยดับร้อนและชื่นใจดีมาก ๆ
สุดท้ายกับ Green Passion (150 บาท) ที่ใครจะไปคิดว่าแก้วสีดเขียวแบบนี้ แต่กลับซ่อนความเปรี้ยวจากน้ำเสาวรสเอาไว้เต็ม ๆ โดยสีเขียวที่เห็นมาจากใบเตยนั่นเอง
ก่อนกลับ ขอดับร้อนกับ สำรับข้าวแช่ตำรับร้านข้าว (1,890 บาท) การันตีด้วยรางวัลมิชลินสตาร์ 5 ปี (2563 – 2567) ที่ทาง NAPHA เพิ่งต่อเวลาให้เราได้ลองเมนูนี้ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นี้ ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี หุงให้เป็บพอตากบ ก่อนนำมาขัดยาง แล้วนำไปนึ่งจนสุกเต็มที่ อบควันเทียนพร้อมลอยดอกมะลิให้ความหอมเย็น
เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงไทยถึง 9 ชนิด ทั้งลูกกะปิ ปลายี่สนผัดหวาน หอมแดงไส้ปลา หมูฝอย ม้าอ้วน หัวไชโป๊วผัดหวาน ไข่แดงเค็มชุบแป้งทอด พริกหยวกสอดไส้ และปลาสายไหมทอดกรอบ มาพร้อมผักแนมอย่าง แตงกวา กระชาย และมะม่วงดิบ มาช่วยชูรสเพิ่มด้วย ต้องบอกว่าเซ็ตนี้ใหญ่โตมาก สามารถทานได้ 2-3 คนเลยนะ
ใครที่คิดถึงอาหารไทยรสมือถึง และเมนูอาหารโบราณชาววัง สามารถไปเปิดสัมผัสแห่งตำรับอาหารไทยได้ที่ NAPHA Flagship Store ได้เลยนะ ต้องบอกว่าพอได้ชิมฝีมือของ เชฟภูมิ แล้ว ก็อยากเร่งเวลาให้ WI-SET-WI-SO เปิดเร็ว ๆ จะได้ไปลองในรูปแบบเต็ม ๆ กันสักครั้ง
NAPHA Flagship Store
เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 22:00 น.
ชั้น GM ศูนย์การค้า EMSPHERE
BTS พร้อมพงษ์ | มีที่จอดรถ