พูดก็พูดไป แต่หนึ่งในอาหารไทยที่ใครหลายคนชอบ คงต้องยกให้อาหารใต้นี่แหละ เพราะถึงรสถึงเครื่อง เผ็ดเป็นเผ็ด เข้มข้นเป็นเข้มข้น เรียกว่าหลายคนได้สัมผัสรสชาติผู้ใหญ่ก็จากอาหารใต้ และพอพูดถึงอาหารใต้ ขนมจีนปักษ์ใต้ ก็เป็นหนึ่งในจานโปรดของใครหลาย ๆ คน ซึ่งโอกาสที่จะได้ชิมขนมจีนแกงใต้แท้ ๆ ของคนที่ไม่ได้อยู่ภาคใต้อย่างเราก็ไม่ได้มีบ่อย ๆ แต่ตอนนี้เราพร้อมหรอยคาดได้ทุกวันแล้ว เพราะล่าสุดร้านขนมจีนชื่อดังจากภูเก็ตอย่าง ขนมจีนจิ้ลิ่ว มาเปิดสาขาล่าสุดในกรุงเทพฯ ย่านสะพานควายแล้ว กับ Koob Kao (กุบข้าว)
![Koob Kao กุบข้าว](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-1-1024x683.jpg)
ร้านขนาด 1 คูหา ที่อัดแน่นไปด้วยเมนูส่งตรงจากปักษ์ใต้นี้ ได้สองพี่น้องอย่าง คุณแอม – ศิริกานต์ แซ่อึ๋ง และ คุณอัพ – เจษฎากร แซ่อึ๋ง มาดูแลสาขาในกรุงเทพฯ ซึ่งหากใครเป็นแฟนร้านขนมจีนจี้ลิ่วที่ภูเก็ต ก็คือคุณแอมนี่แหละคือผู้ปลุกปั้นสร้างร้านนี้ขึ้นมาตั้งแต่แรกเริ่ม คุณแอมและครอบครัวอยู่ที่ภูเก็ตมาตั้งแต่เกิด แต่คุณแอมขึ้นมาเรียนหนังสือ และทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จนจุดหนึ่งก็เริ่มรู้สึกว่าอยากกลับมาทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่บ้าน และเมื่องคุณแม่ของคุณแอมเองก็เป็นคนชอบทำอาหาร (ที่สำคัญคืออร่อยเสียด้วยสิ) โดยเฉพาะขนมจีนที่มีสูตรเฉพาะเป็นของตัวเอง เลยมองว่าขนมจีนนี่แหละ คือธุรกิจที่จะกลับมาทำที่ภูเก็ต
![ขนมจีนจี้ลิ่ว สาขาถลาง](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/106277655_1408785952652782_8193472368345537367_n-1024x768.jpg)
ภาพร้านขนมจีนจี้ลิ่ว บ๊ะจ่างภูเก็ต สาขาถลาง
สาขาแรกของ “ขนมจีนจี้ลิ่ว” เกิดขึ้นช่วงปี พ.ศ. 2555 ที่อำเภอถลาง โดยคำว่า ‘จี้ลิ่ว’ ก็คือชื่อของคุณแม่นั่นเอง (จี้ ในภาษาใต้ คือ เจ๊ ส่วน ลิ่ว คือชื่อของคุณแม่ หมายถึง ร้านขนมจีนเจ๊ลิ่ว) โดยเสิร์ฟขนมจีนน้ำยาปู สูตรจี้ลิ่วเป็นหลัก และมีอาหารแกล้มอื่น ๆ ประกอบเล็กน้อย ด้วยเสียงตอบรับที่ดี ประกอบกับสาขาแรกที่อยู่ถนนเส้นไปสนามบิน ทำให้อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร เสียงเรียกร้องของชาวเมืองภูเก็ต รวมถึงนักท่องเที่ยวบางส่วน ทำให้เกิดสาขาที่สองขึ้นแถวสะพานหินในอีก 3 ปีให้หลัง
![บรรยากาศในร้าน](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-4-1024x683.jpg)
![เคาน์เตอร์อาหาร](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-5-1024x683.jpg)
คุณแอมเริ่มมองเห็นว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ร้านขนมจีนจี้ลิ่ว ไม่ได้มีแค่คนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ขนมจีนแกงใต้ ก็เป็นอีกหนึ่งอาหารปักษ์ใต้ที่นักท่องเที่ยวหลายคนปักหมุดเอาไว้ว่าต้องลองชิมให้ได้ ไม่ต่างจากติ่มซำ หรือบักกุดเต๋ และร้านขนมจีนจี้ลิ่ว นับเป็นร้านต้น ๆ ของภูเก็ตที่เปิดขายเมนูขนมจีนอย่างจริงจัง ที่ร้านจึงมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศเดินทางแวะเวียนมาเสมอ รวมถึงเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เอง ในขณะเดียวกัน คุณแอมก็รู้สึกว่า ในกรุงเทพฯ หาร้านขนมจีนปักษ์ใต้ได้ยาก หากมีก็อาจยังไม่ปักษ์ใต้แท้ ๆ ยังมีความเป็นภาคกลางเจืออยู่ ด้วยเครื่องแกงที่ต่างกัน จึงลองมาสำรวจตลาดและลงเอยสาขาที่ 3 ในกรุงเทพฯ
“จุดเด่นของขนมจีนภูเก็ตคือ มักจะกินคู่กับผักสด ซึ่งผักเคียงขนมจีนนั้นค่อนข้างเยอะมาก ๆ ทางร้านจึงเลือกที่จะปลูกผักเองในพื้นที่หลังร้านสาขาแรกที่ค่อนข้างมีพื้นที่ โดยปลูกผักมากกว่า 10 ชนิด และปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี”
แต่พอเข้ามายังกรุงเทพฯ จำเป็นต้องมีชื่อร้านใหม่เล็กน้อย เนื่องด้วยลูกค้าอ่านออกเสียงชื่อร้านเดิมยาก อ่านเป็น จี้ลิ้ว บ้าง หรือเป็น จี้หลิว บ้าง พอเรียกยากชื่อร้านก็ไม่ติดปาก สาขาในกรุงเทพฯ จึงใช้ชื่อว่า ‘Koob Kao – กุบข้าว’ โดยคำว่า กุบ ในภาษาใต้แปลว่า กล่อง ก็หมายถึง ‘กล่องข้าว’ ที่สอดคล้องกับการเปิดร้านสาขากรุงเทพฯ ในช่วงแรกด้วย เพราะเดิมตั้งใจบุกตลาดเดลิเวอรีเพียงอย่างเดียว แต่สุดท้ายเมื่อเปิดจำหน่ายได้ไม่ถึงเดือน ก็มีเสียงเรียกร้องที่อยากนั่งกินในร้าน ตอนนี้จึงปรับให้สามารถนั่งทานในร้านได้แล้วด้วย
![ขนมจีนภูเก็ต ผักสด](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-18-1024x683.jpg)
จุดเด่นของขนมจีนภูเก็ตคือ มักจะกินคู่กับผักสด ซึ่งผักเคียงขนมจีนนั้นค่อนข้างเยอะมาก ๆ ทางร้านจึงเลือกที่จะปลูกผักเองในพื้นที่หลังร้านสาขาแรกที่ค่อนข้างมีพื้นที่ โดยปลูกผักมากกว่า 10 ชนิด และปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี โดยปลูกผักท้องถิ่นที่เราไม่คุ้นชื่ออยู่เป็นจำนวนไม่น้อย อาทิ ใบขลู่ ยอดหมุย เล็บรอก ยอดจิก มันปู ยอดกาหยี (ยอดใบมะม่วงหิมพานต์) จักรนารายณ์ หรือลูกฉิ่ง และผักชนิดอื่น ๆ ความโชคดีอยู่ที่ทางร้านขนมจีนจี้ลิ่วเองก็ส่งผักท้องถิ่นต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นมาที่ร้านกุบข้าว ให้เรามีโอกาสได้กินแนมกับขนมจีนปักษ์ใต้กันด้วย
![แกงปูหม้อไฟ](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-20-1024x683.jpg)
![ขนมจีนแกงปู](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_vertical-23-683x1024.jpg)
สำหรับขนมจีน สามารถเลือกแกงได้ 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่ น้ำยากะทิ, แกงปู, แกงเนื้อ และแกงไตปลา เราอดใจไม่ไหวจึงสั่งมาลองหลายตัว ตั้งแต่ไฮไลต์อย่าง ขนมจีนแกงปู (ขนาด 2 คน แบบกรรเชียงปู ราคา 250 บาท / จานเดียวแบบก้ามปูอ่อน ราคา 135 บาท) ที่สั่งมาเป็น แกงปูหม้อไฟ (490 บาท) เสิร์ฟมาในหม้อดินขนาดทานได้ 3-4 คนสบาย ๆ ตัวแกงปูค่อนข้างกลมกล่อม ไม่โดดไปรสใดรสหนึ่ง บางจังหวัดน้ำยาใต้อาจมีรสเค็ม หรือที่นครศรีธรรมราชก็เผ็ดนำ เครื่องแกงทางร้านทำเอง ที่ค่อนข้างมีกลิ่นสมุนไพรหอมชัด กินคู่กับผักจากทางใต้ และผักเหมียงต้ม (ใบเหลียง) ที่ไม่เคยเจอร้านขนมจีนในกรุงเทพฯ ที่ไหนจัดผักเหมียงต้มให้เรากินแกล้มมาก่อน ที่สำคัญคือเนื้อปูใส่มาแบบไม่กั๊ก ตักขึ้นมากี่ช้อนก็เจอ ถูกใจสายปูทะเลแน่นอน
![ขนมจีนแกงเนื้อ](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-21-1024x683.jpg)
![แกงไตปลา](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-25-1024x683.jpg)
สายเนื้อก็ลองสั่ง ขนมจีนแกงเนื้อ (95 บาท) รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องแกงตามแบบฉบับของขนมจีนจิ้ลิ่ว ตัวเนื้อไม่บางจนเกินไป กินง่าย ไม่เหนียว แต่ก็ไม่เปื่อยถึงขนาดไม่ต้องเคี้ยว พร้อมกับสั่ง แกงไตปลา (120 บาท) มาเพิ่มอีกถ้วย เป็นสูตรแบบใสไม่ใส่กะทิ พุงปลามาชิ้นใหญ่ ๆ เครื่องแน่น และกลิ่นไม่แรงเลย
![ห่อหมกปลา](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-16-1024x683.jpg)
![ทอดมันปลา](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-17-1024x683.jpg)
กินขนมจีนแบบปักษ์ใต้ ก็ต้องกินคู่กับของทานเล่นด้วย หลัก ๆ ตงหนีไม่พ้น ห่อหมกปลา (50 บาท) และ ทอดมันปลา (80 บาท) ทางร้านเลือกใช้ปลาทะเลในการทำทั้งห่อหมกและทอดมัน โดยตัวห่อหมกจะเป็นใบชะพลู และทอดมันปลา ทางร้านใส่เครื่องแกงใต้ลงไปด้วย สีของทอดมันจึงไม่ออกส้มแดงแบบภาคกลาง แต่จะออกเหลือง ๆ หน่อย จะกินเล่น ๆ หรือกินคู่กับขนมจีนก็ช่วยเสริมรสจานอาหารได้ดีมาก ๆ
![เกี้ยนทอด](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_vertical-10-683x1024.jpg)
![บะจ่าง](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-11-1024x683.jpg)
อีกหนึ่งจานทานเล่นที่หากินได้ยาก และในร้านขนมจีนที่จังหวัดภูเก็ตเอง ก็รับประกันว่ามีเพียงร้านขนมจีนจี้ลิ่วร้านเดียวที่ขาย นั่นคือ เกี้ยนทอด (165 บาท – ราคาเปิดร้าน 120 บาท) ซึ่งมีขายที่ กุบข้าว ด้วย เกี้ยนทอดเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวภูเก็ต ซึ่งได้มาจากชาวจีนฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว อีกที หน้าตาจะคล้ายแฮกึ๋นที่นำไปทอด ทำมาจากหมูสับ ผสมกุ้ง หรือปู หรือเผือก ปรุงรสด้วยพะโล้แล้วนำไปนึ่ง ตอนเสิร์ฟจะนำไปชุบแป้งทอดอีกครั้ง กินคู่กับซอสพริกติ่มซำ รสชาติเครื่องเทศชัด หรือ บะจ่าง (80 บาท) สูตรฮกเกี้ยนแบบไส้คาว เครื่องแน่น ๆ ตัวข้าวเหนียวไม่แข็ง หอมพริกไทยแต่รสพริกไทยไม่ฉุน ใครไม่ชอบรสพริกไทยเยอะ ๆ น่าจะติดใจไม่น้อย
![หมูฮ้อง](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-7-1024x683.jpg)
![แกงพริกกระดูกหมู](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_horizon-12-1024x683.jpg)
นอกจากนี้ยังมีบางเมนูที่ไม่มีในสาขาภูเก็ต แต่สามารถลองชิมได้ที่นี่ อย่าง หมูฮ้อง (220 บาท) แกงพริกกระดูกหมู (160 บาท) ที่ต้องบอกว่าถึงอกถึงใจจริง ๆ ใครชอบรสแบบใต้แท้ ๆ (แบบที่บอกว่าเผ็ดไม่มาก แต่ก็เผ็ดร้อนพอตัว) ต้องลองแกงพริกนี้เลยล่ะ
![Koob Kao กุบข้าว](https://routeen.co/wp-content/uploads/2023/07/Routeen-Koob-Kao-by-kanomjeen-Jeeliew_vertical-22-683x1024.jpg)
Koob Kao กุบข้าว by ขนมจีนจี้ลิ่ว ภูเก็ต
เปิดทุกวัน เวลา 10:30 – 14:00 น. และ 16:30 – 21:00 น. (จันทร์ถึงศุกร์) 10:30 – 21:00 น. (เสาร์-อาทิตย์)
ถนนประดิพัทธ์ สะพานควาย
BTS สะพานควาย แล้วเดิน | จอดรถได้ที่ลานจอดรถ J Park