เจาะความสามารถ ฟีเจอร์ Galaxy AI ใน Galaxy S24 Ultra ตระกูลเรือธงรุ่นล่าสุด ที่ Samsung เคลมว่านี่คือนิยามใหม่ของสมาร์ทโฟน!

หรือนี่จะเป็นสมาร์ทโฟนที่สายครีเอเตอร์ต้องมี? หนึ่งคำถามที่เกิดขึ้นมาในหัว หลังจากได้เห็นข่าวการเปิดตัวของ Samsung Galaxy S24 Ultra สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากค่ายซัมซุง ซึ่งในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญของ ตระกูล S Series ที่เรียกความสนใจได้สุด ๆ ต้องยกให้ ฟีเจอร์ Galaxy AI ที่ซัมซุงเรียกว่า ‘นิยามใหม่ของสมาร์ทโฟน ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น สร้างสรรค์ได้มากขึ้น จัดการทุกอย่างได้ง่ายขึ้น ด้วยพลังจาก Galaxy AI ในมือ’ 

ซึ่งไอ่เจ้าฟีเจอร์ AI ใน Galaxy S24 เนี่ย ดูไปดูมา เราว่ามันช่างเหมาะเจาะกับงานสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์มาก ๆ มาดูกันว่าฟีเจอร์ AI ใน Galaxy S Series รุ่นล่าสุด มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง?

สรุป ฟีเจอร์ Galaxy AI ที่น่าจะได้ใช้แน่ ๆ สำหรับคนทำงาน

1. AI Camera in Galaxy S24 Ultra

เรื่องกล้องไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะสมัยนี้สมาร์ทโฟนแข่งกันที่เรื่องกล้องนี่แหละ ซึ่งความสามารถของกล้องมือถือตอนนี้ แทบจะใช้แทนกล้อง DSLR ได้เลย ไม่ว่าจะถ่ายงานภาพนิ่ง วิดีโอ หรือเวลาไปเที่ยวตอนนี้แทบไม่ต้องพกกล้องตัวใหญ่ ๆ อีกต่อไป

ซึ่งความพิเศษของกล้อง Galaxy S24 Ultra ให้กล้องหลักความละเอียดสูงสุด 200MP เก็บรายละเอียดได้สมจริง มาพร้อมขนาดเมกะพิกเซลสำหรับสมาร์ทโฟนที่สูงที่สุดใน Galaxy และระบบประมวลผล AI มีการปรับปรุงการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ด้วยพิกเซลขนาดใหญ่ขึ้น 1.6 เท่าและระบบกันสั่น Tele OIS ภาพและวิดีโอจึงมีความสว่างและนิ่งขึ้น 

พร้อมทั้งซูมแบบดิจิทัลได้ทรงพลังกว่าเดิม ด้วยระบบ AI คงรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน ด้วยการทำงานของ AI ZOOM ไม่ว่าจะซูมตั้งแต่ระยะซูม 1 ถึงระยะซูม 100 ระบบ AI จะเรียนรู้และช่วยเพิ่มรายละเอียดให้ภาพของคุณอย่างแม่นยำ

2. Generative Edit ฟีเจอร์ Galaxy AI ช่วยแต่งภาพ

พูดถึง AI ในการถ่ายภาพแล้ว มาถึงเรื่องการแต่งภาพกันบ้าง อย่างที่รู้กันว่า Samsung มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ อย่างการลบวัตถุเฉพาะจุด การลบเงา ลบแสงสะท้อน ที่ทำได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว ใน Galaxy AI จะมาช่วยให้การแต่งภาพล้ำไปกว่าเดิม

ด้วยความสามารถในการ ลบ ย้ายวัตถุ จัดองค์ประกอบ ปรับขนาด เติมภาพ ได้เนียนกริบด้วย AI เช่น ถ่ายภาพมาแคบเกินไป อยากได้วิวเพิ่ม AI ก็สามารถ Generate ให้ได้ หรือแม้กระทั่ง ถือบางสิ่งอยู่ในมือ แล้วอยากเปลี่ยนวัตถุเป็นอย่างอื่น AI ก็สามารถเปลี่ยนให้ได้เช่นกัน

3. Circle to Search with Google

เป็นฟีเจอร์ที่พูดถึงกันอย่างมาก เหมาะกับสายอัปเดต สายที่ต้องรู้ไว ไม่ตกเทรนด์ ฟีเจอร์นี้มีจุดเด่น ทำให้เราค้นหาข้อมูลได้ง่าย เร็ว และละเอียดขึ้น โดยอยากรู้อะไรแค่วง AI จะไปทำการค้นหาให้ทันที หลายคนถกเถียงกันว่าฟีเจอร์นี้ก็เหมือนกับ Google Lens ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็คล้ายกันจริง แต่ที่พิเศษคือฟีเจอร์นี้ใน Galaxy AI จะสะดวกมากกว่า

ไม่ว่าจะดูคลิป หรือท่องโซเชียลอยู่ หากอยากรู้อะไรก็สามารถกดค้างที่หน้าจอแล้ววง จะมีหน้าต่างฟีเจอร์เด้งขึ้นมาให้ข้อมูลโดยไม่ต้องออกจากแอปฯ นั้น ๆ และยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในหลายแง่มุม ที่ดึงมาจากทั่วทั้งเว็บ พร้อมทั้งสามารถพิมพ์ค้นหาข้อมูลเรื่องที่ต้องการได้ต่อ ทำให้ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว ซึ่งฟีเจอร์ Circle to Search นี้ สามารถวงค้นหาได้ทั้ง สิ่งของ แฟชั่น สถานที่ อาหาร แต่ที่จะค้นไม่ได้คือใบหน้าคนนะ

4. Live Translate

อีกหนึ่งฟีเจอร์ AI ที่หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดี! คือเจ้า Live Translate การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ พูดปุ๊บ แปลปั๊บ เหมือนมีล่ามส่วนตัว ที่จะมาช่วยทลายกำแพงภาษาที่มี ให้การสื่อสารง่ายขึ้นกว่าที่เคย โดยฟีเจอร์ Translate สามารถทำได้ทั้งการโทร แชท และการสื่อสารแบบ Face to Face แบบไม่ต้องพึ่งแอปฯ แยก (ตอนนี้รองรับประมาณ 13 ภาษา เช่น อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย เวียดนาม เป็นต้น) 

  • Live Translate Call การแปลแบบเรียลไทม์ระหว่างการคุยโทรศัพท์ โดยจะมีหน้าจอขึ้นมาแปลข้อความของผู้พูด และปลายสายแบบอัตโนมัติ ให้เป็นภาษาตามที่ตั้งค่าไว้ ทำให้สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างลื่นไหล 
  • Interpreter การแปลภาษาแบบ Face to Face ในกรณีพูดคุยกันแบบพบหน้า ก็สามารถแปลภาษาได้ทันที โดยจะมาในรูปแบบการแยกหน้าจอ ให้คนที่ยืนตรงข้ามกันสามารถอ่านข้อความที่ถอดความของสิ่งที่อีกฝ่ายพูดได้ ซึ่งข้อดีคือทำงานได้โดยไม่ต้องใช้ข้อมูลมือถือหรือ Wi-Fi ได้เลย

5. Chat Assist

แป้นพิมพ์อัจฉริยะ AI ที่จะมาช่วยให้ Samsung Keyboard เก่งกาจกว่าเดิม โดยมีฟีเจอร์ในการแปลข้อความเป็นภาษาต่าง ๆ ก่อนส่งได้ทันที (ได้ถึง 13 ภาษา) เพิ่มความสะดวกในการสื่อสาร ไม่ต้องคอยออกไปแปลในแอปฯ แยก 

ที่น่าสนใจคือ AI สามารถ Generate โทนข้อความแบบต่าง ๆ จากข้อความที่เราพิมพ์ได้แบบมืออาชีพ เช่น โทนข้อความสุภาพสำหรับคุยงาน หรือวลีสั้น ๆ ที่ติดหูสำหรับโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

6. Note Assist

Samsung S24 Ultra ยังคงมาพร้อมกับปากกาในตัวเหมือนเดิม ทำให้ตระกูล S เป็นที่นิยมสำหรับสายจด สายวาดเขียน ซึ่ง Galaxy AI มี Note Assist ที่จะมาช่วยจัดระเบียบโน้ตได้ดีขึ้น เช่น ปรับแต่งบรรทัดที่จดไม่สวย ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น ปรับแต่งข้อความยาว ๆ ให้อยู่ใน Format ที่ดูง่ายขึ้น อย่างเช่นสรุปการประชุมต่าง ๆ

ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ Note Assist สามารถ Summarize สรุปข้อความยาว ๆ ออกมาเป็นบุลเลทที่เข้าใจง่ายได้ทันที ไม่เพียงแต่สรุปความจากในโน้ตได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึง บทความต่าง ๆ ในหน้าเว็บไซต์ บทความที่มีเนื้อหายาว ๆ AI ก็สามารถทำการสรุปดึงมาแต่เนื้อหาสำคัญ ๆ ได้ ทำให้เข้าใจได้ไว ไม่ต้องเสียเวลาอ่านนาน ๆ อีกต่อไป

7. Transcript Assist

นี่มันฟีเจอร์ที่ (โคตร) จะถูกใจนักถอดเทป เพราะเจ้า AI Transcript Assist สามารถถอดเสียงในแอปพลิเคชัน Record ออกมาเป็นข้อความได้ง่าย ๆ ที่น่าดีใจมาก ๆ คือฟีเจอร์นี้ก็รองรับภาษาไทยด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่ถอดเทปให้นะ เจ้านี่ยังช่วยแยกเสียงผู้พูดออกมาได้เลย (แต่อาจจะยังไม่เป๊ะมาก ขึ้นอยู่กับความยาวของประโยค) ใครที่ต้องแกะเทปประชุม สัมภาษณ์ หรือสายทำคอนเทนต์ที่ต้องเก็บข้อมูลมาแชร์ จะต้องเลิฟกับฟีเจอร์นี้แน่ ๆ

และนี่คือ ฟีเจอร์ Galaxy AI ที่ปล่อยมาพร้อมกับ Samsung S Series ล่าสุดอย่าง S24 ที่เราคิดว่าน่าจะถูกใจสายทำงานไม่น้อย ขอบอกว่าความใจป๋าของ Samsung คราวนี้คือ ฟีเจอร์ AI ที่ว่ามา สามารถใช้ได้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง Galaxy S24 เลย

Galaxy S24 ราคาเริ่มต้น 256GB|8GB 33,900 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอย่าง Galaxy S24 Ultra มีราคาเปิดตัวเริ่มต้น 256GB | 12GB 46,900 บาท (รุ่น Ultra จะได้กล้องที่เก่งกว่า) ใครคิดว่าคุ้ม ไม่คุ้ม ฟีเจอร์ AI น่าสนใจจริงมั้ย ลองมาแชร์กัน

อ้างอิง :
https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s24-ultra/
https://news.samsung.com/global/enter-the-new-era-of-mobile-ai-with-samsung-galaxy-s24-series

Articles You Might Like

Share This Article