ชีวิตคนเมืองอย่างเราที่หลายคนมองว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อมทุกอย่าง การใช้ชีวิตที่สะดวก ก็อาจเจอความสุขได้ไม่ยาก แต่เรื่องนี้จะมีใครตอบได้ดีเท่าพวกเราที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนาน ในเมืองที่มีคนเหงามากกว่าเสาไฟฟ้า และความสุขแต่ละวันก็ไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น แล้วแบบนี้ความสุขที่เราเคยมี แต่ตอนนี้กลับทำหล่นหาย จะพอตามกลับมาได้ไหมนะ?
ในขณะที่กำลังตั้งคำถามแบบนี้กับตัวเอง ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันพอดีที่ Routeen. ได้มีโอกาสแวะไปชมงานนิทรศการน่ารัก ๆ ที่ชื่อ Cocoon: Lost and Found ที่ต้องบอกว่าหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจแวะไปดูงานนี้สักหน่อย ก็เพราะคอนเซ็ปต์ของงานที่จะพาเราออกไปตามหาความสุขที่เคยทำหล่นหาย บวกกับความน่ารักระดับแปดสิบล้านกะโหลกของคาแรกเตอร์ “น้องโคคูน” ตัวหลักของงานนี้ ก็ต้องบอกเลยว่าคิดไม่ผิดที่แวะไป!
“ในงานนี้ ครูปานขอใช้เจ้า Cocoon มาเป็นกระบอกเสียงในการพูดถึงความสุขของเราทุกคนที่เราอาจเคยทำหล่นหาย และสามารถค้นหาได้กันอีกครั้งที่นี่”
Cocoon: Lost and Found เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ ครูปาน – สมนึก คลังนอก ศิลปินผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และจดจำช่วงเวลาดี ๆ ในวัยเยาว์ได้อย่างดี ต้องบอกว่าครูปานเองเกิดมาในต่างจังหวัด ฐานะของทางบ้านก็ไม่สู้ดีนัก แต่ครูปานชอบขีดชอบเขียนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นก็ใช้พื้นดินนี่แหละเป็นกระดาน ใช้รากไม้แทนพู่กัน แล้วลงมือวาดในสิ่งที่ตัวเองรักและสนุกมาโดยตลอด
พอโตมา ด้วยฐานะของทางบ้าน ทำให้ครูปานต้องเลือกที่จะไปบวชเรียนเพื่อศึกษาหาความรู้ เวลานั้นพอที่วัดมีงานประกวดวาดรูป ครูปานก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปร่วมการประกวดกับเขาด้วยเสมอ ๆ นานวันเข้า ครูปานก็เริ่มรู้ตัวเองแล้วว่า การวาดรูปนี่แหละ คือสิ่งที่ตัวเขารัก พอรู้อย่างนั้นจึงเริ่มฝึกฝนตัวเอง ทำให้การวาดรูปของครูปานชัดเจนขึ้น เริ่มศึกษางานกายวิภาค เข้า-ออกห้องสมุดเป็นว่าเล่น เพื่อหาหนังสือศิลปะมาศึกษาด้วยตัวเอง พอเรียนจบปริญญาตรี ครูปานก็เบนเข็มมาทำงานด้านศิลปะอย่างจริงจัง และมีโฮกาสเรียนศิลปะกับ ม.ล. จิราธร จิรประวัติ ที่โรงเรียนมหานาค และนั่นทำให้ครูปานกลายมาเป็นครูผู้ช่วยสอนศิลปะมาจนถึงทุกวันนี้
แล้วความน่ารักของเข้า Cocoon นี่มาจากไหนกันล่ะ? ครูปานบอกว่าคาแรกเตอร์ปากนิดจมูกหน่อยสุดตั้ลลั้คนี้ได้แรงบันดาลใจจากลูกศิษย์วัย 5 ขวบของเขา ที่วันนั้นใส่ชุดลายดอกไม้วิ่งเข้ามาในโรงเรียนท่ามกลางลมหนาว เลยเริ่มดีไซน์คาแรกเตอร์นี้ขึ้นมาแบบหัวโต ๆ หน่อย ตากลมโต แบ๊ว ๆ และตัวอวบ ๆ แวบนั้นก็ทำให้ครูปานนึกถึงช่วงเวลาที่เคยเลี้ยงดักแด้ตอนเด็ก ก็เหมือนเด็กคนนี้ที่มีใยแห่งการปกป้องห่อหุ้มไม่ต่างกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ Cocoon หนูน้อยจากต่างดาวที่มแองหาความสุขบนโลกใบนี้นั่นเอง
ในงานนี้ ครูปานเลยขอใช้เจ้า Cocoon มาเป็นกระบอกเสียงในการพูดถึงความสุขของเราทุกคนที่เราอาจเคยทำหล่นหาย และสามารถค้นหาได้กันอีกครั้งที่นี่ ทันทีที่ก้าวเข้ามาในพื้นที่ เราจะได้เจอเรื่องราวของครูปาน และเจ้า Cocoon ให้เราได้ทำความรู้จักไปพร้อมกันก่อน ถัดมาจะเจอกับโซนงาน Painting ที่มีน้อง Cocoon อยู่เต็มไปหมด และมีความหมายซ่อนอยู่มากมาย อย่างภาพ Cocoon Bonsai ที่เราจะเห็นน้อง Cocoon ตัวจิ๋วยืนมองต้นบอนไซใหญ่อยู่ ทั้งที่จริงแล้วต้นบอนไซในความจริงนั้นก็เล็ก นิดเดียว ก็เปรียบกับชีวิตของเราที่เล็กนิดเดียว ไม่มีความสุขหรือความทุกข์ใดหรอกนะที่มันใหญ่จนเกินไป
อีกฝั่งหนึ่งคือไฮไลต์ของงานที่เราอยากหยิบกลับบ้านสักตัวสองตัว (ตีมือ) อย่างโซน Forest of Love ครูปานจะพาเราเข้าไปในป่าที่ครูปานเคยอยู่ตอนเด็ก ๆ ที่ครูปานกับคุณแม่เคยทำตุ๊กตาเก็บไว้เป็นความทรงจำ (ซึ่งแอบเอามาโชว์ในงานด้วยนะ ลองมองไปที่ผนังของงานดี ๆ) จากไอเดียตอนนั้นกลายมาเป็นตุ๊กตาไม้ 3 มิติในงานนี้ที่ใช้เวลาสร้างถึง 8 ปี วางเรียงอวดโฉมความน่ารักให้เราดู แบ็กกราวน์เป็นภาพป่าไม้ที่ครูปานวาดขึ้นมาจากความทรงจำ
แวะมาที่ห้อง Cocoon Surprise เป็นห้องที่บรรจุคนน่ารักเอาไว้เต็มไปหมด ความน่ารักที่ว่าก็คือตัวเรานี่เอง เพราะห้องนี้ถูกกรุด้วยกระจกเงารอบห้อง มาพร้อมน้อง Cocoon ที่ถือดอกไม้ซ่อนอยู่ข้างหลัง เหมือนให้ดอกไม้ตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง มาพร้อมกับเพลงในห้องที่ได้ ปั๊บ โปเตโต้ มาทำให้ด้วยนะ ยืนมองหน้าตัวเองไป ฟังเพลงไป อยู่ ๆ เราก็น่ารักขึ้นเฉยเลย!
ถัดไปกับห้อง My Favourite Corner ที่มุมหนึ่งจำลองห้องทำงานของครูปานให้ดู ยกโต๊ะทำงานจริง ๆ มาวางไว้ พร้อมกำแพงห้องที่เต็มไปด้วยภาพน้อง Cocoon ในอิริยาบทต่าง ๆ เชื่อมต่อกับห้อง Baby Blue ที่นอกจากมาดูภาพน้อง Cocoon แล้ว เราอยากให้ทุกคนยืนอ่านเนื้อหาประกอบภาพด้วย ขอบอกเลยว่าบางภาพก็ทำให้เรายิ้มได้ บางภาพก็ทำให้เราน้ำตาคลอได้เลยเหมือนกันนะ
ห้องสุดท้ายคือ Mapping Memory ห้องมืดที่เราจะเจอหุ่นน้อง Cocoon ยืนโดนภาพงานชิ้นต่าง ๆ ของครูปานฉายทับลงไปบนตัวอยู่ นั่งดูไปเรื่อย ๆ ก็เพลินไม่หยอก จุดนี้ต้องบอกจริง ๆ ว่าน้อง Cocoon และครูปาน ก็พาเราไปเจอกับความสุขที่เราเคยมีอย่างง่าย ๆ เมื่อครั้งยังเด็ก หรือสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้เรายิ้มได้ แต่ทุกวันนี้กลับลืมไปแล้วได้อีกครั้ง นี่เป็นอีกหนึ่งงานศิลปะที่เราน่าจะแวะเวียนไปดูได้บ่อยครั้ง เพราะความสุขมันเติมในใจของเราได้เรื่อย ๆ เนอะ
Cocoon: Lost and Found
เข้าชมฟรี
12 มีนาคม – 23 เมษายน 2566
RGB Galleria 4 ชั้น 2 ศูนย์การค้า River City
BTS สะพานตากสิน แล้วต่อพี่วิน หรือ BTS ราชเทวี แล้วต่อรถเมล์สาย 36
google maps
