Charoen 43 Art & Eatery คอมมูนิตี้ไวบ์ดี ที่รวมเรื่องอี๊ท และงานอาร์ตไว้ในที่เดียวกัน ย่านเจริญกรุง

ชวนไปฮอปปิ้งที่ ‘เจริญกรุง’ ย่านสุดอาร์ต ที่รวมความฮิปไว้แน่นขนัด ทั้งคอมมูนิตี้ คาเฟ่ บาร์ อาร์แกลเลอรีหนึ่งในคอมมูนิตี้น่ารัก ๆ ที่เราอยากชวนมาฮอปด้วยกันวันนี้ คือ Charoen 43 Art & Eatery โปรเจกต์ที่พัฒนาตึกแถวเก่าให้เป็นคอมมูนิตี้สุดแนว มาใช้เวลาได้แบบเช้าจรดเย็น

ขอเล่าก่อนว่า Charoen 43 Art & Eatery เป็นคอมมูนิตี้ที่เปิดมาได้เกือบ 2 ปีแล้ว ตั้งอยู่ริมถนนเจริญกรุง ช่วงระหว่างเจริญกรุง 41 และ เจริญกรุง 43 เราได้พบกับคุณ ยิ้ม – กุลยา กาศสกุล Project Manager ของ Charoen 43 และเป็นหนึ่งในเจ้าของร้านที่ปักหลักอยู่ในคอมมูนี้ รับบทเป็นไกด์พาเราทัวร์ไปทุกซอกทุกมุมของร้าน Charoen 43

“ผู้เช่าที่นี่เป็นร้านที่มองเห็นภาพเดียวกันว่าเจริญกรุงเป็นยังไง ควรจะทำอะไรตรงนี้ ให้มี Movement ไปด้วยกัน เราก็พยายามเลือกร้านให้มี Main หลักไม่ทับไลน์กันด้วย ทุกร้านมีจุดเด่นแตกต่างกันไป”

BicycleBOYS Clubhouse คาเฟ่ อาหาร และจักรยาน

เริ่มกันที่ร้าน BicycleBOYS Clubhouse เป็นร้านของคนรักจักรยาน เรียกว่าเป็นคลับจักรยานเลยก็ว่าได้ โดยชั้น 1 จะเป็นโซนคาเฟ่ ที่มีกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหารกินง่าย ๆ แบบฮอตดอก แซนด์วิช ไปจนถึงเมนูจริงจังอย่างข้าวต่าง ๆ หรือ สเต็กเนื้อ ให้เลือกสั่ง และเมื่อขึ้นไปชั้น 2 จะพบกับคลังจักรยาน ที่มีบริการทั้งรับซ่อมและขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับจักรยานเพียบ

เราได้ลอง พิคานย่า (350 บาท) เนื้อไทย-เฟรนช์ ส่วนพิคานย่าย่างมาสุกกำลังดี ให้มาจุก ๆ 220 กรัม หั่นมาแบบชิ้นหนา พร้อมน้ำจิ้มแจ่วและผักย่าง อีกเมนูเป็น ฮอทด็อก (220 บาท) ไส้กรอกหมูชิ้นโต หุ้มด้วยบันที่สั่งพิเศษส่งตรงจากขอนแก่น และ ข้าวเบคอนคั่วพริก (135 บาท) เบคอนผัดสไตล์ไทย เสิร์ฟพร้อมไข่ออนเซน ตัวเชื่อมความเผ็ด นัว ให้รสกลมกล่อมยิ่งขึ้น

เครื่องดื่มเราเลือกเป็น Black Lemon (150 บาท) ซิกเนเจอร์ดริงก์ของทางร้าน เป็นกาแฟฮันนี่เลมอนที่ทางร้านเชื่อมเอง นำไปเชคกับโทนิค ทำให้มีความนุ่มเนียนดื่มง่าย 

Madi BKK กาแฟ ไวน์ และ Creator Hub

ข้างกันเป็น Madi BKK ร้านกาแฟ และ Creator Hub เรียกว่าเป็นร้านแรกของที่นี่เลย ชั้น 1 เป็นโซนคาเฟ่ มีกาแฟเป็นตัวชูโรง ที่นี่มีคอนเซปต์คือ Circle of Friend ทุกอย่างจะมาจากเพื่อน ๆ อย่างเมล็ดกาแฟก็มีเพื่อนคั่วให้ หรือหลาย ๆ เมนูเพื่อน ๆ ก็ครีเอตให้ 

เราลอง Madi Culture Coffee (120 บาท) เป็น mixed milk สูตรพิเศษของทางร้าน เข้ากับกาแฟได้พอดี ไม่หวานมาก Black Peach by Paew (140 บาท) ชาพีช ที่ใส่มะนาวนิด ๆ ให้ความเปรี้ยวหวาน ท็อปด้วยกาแฟคั่วกลาง เป็นกาแฟพีชหอม ๆ ลงตัว และ Yuzu Americano by Mr.B (150 บาท) กาแฟยูซุโทนิก

ที่ร้านยังมีเมนูเบเกอรี่ ที่เป็นฝีมือของเพื่อน ๆ ใน Circle เช่นเดียวกัน เราเลือก Truffle Mushroom (135 บาท) เห็ดเน้น ๆ หอมทรัฟเฟิลชัดเจนดี แป้งพายกรอบเข้ากัน ยกให้เป็นเมนูประจำที่กินได้ไม่เบื่อ

ส่วนชั้น 2 หรือชั้นลอย จะเป็น Art Space พื้นที่โล่ง ๆ ที่สามารถใช้จัดนิทรรศการหรือ Workshop ได้ ซึ่งจะหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเย็น Madi Café จะดิมไฟลง คลอเพลงเบา ๆ ทรานส์ฟอร์มเป็น Madi Wine Bar ไวน์บาร์สุดชิลล์

REN – Cafe & Goods ร้านของมัทฉะ และโฮจิฉะ

ถัดมาจะเจอกับคาเฟ่น้องใหม่ล่าสุดในคอมมูนิตี้ชื่อว่า REN – Cafe & Goods คาเฟ่ชาเขียว ที่คัดมัทฉะจากญี่ปุ่นมาให้ลิ้มลอง พร้อมเมนูซิกเนเจอร์น่าสนใจเพียบ มีโฮจิฉะด้วยนะ ตัวร้านจะแบ่งครึ่งกับ Flower Shop (Cannabis) เป็นพี่น้องกับร้าน REN ซึ่งเค้าแบ่งโซนกันอย่างชัดเจนนะ เข้าออกคนละทางได้เลย ส่วนชั้น 2 เป็นที่นั่งของ REN ล้วน ๆ

ตัวมัทฉะทางร้านคัดเลือกมาให้ถึง 3 ตัว คือ REN, Mizumi และ Yama ที่ให้คาแรกเตอร์ และรสชาติแตกต่างกัน เลือกได้ตามชอบ (เดี๋ยวร้าน Ren เราจะพาไปทำความรู้จักกันเต็ม ๆ อีกครั้งในบทความหน้านะ รอได้เลย!)

ขนมมีเชฟมาครีเอตสูตรให้โดยเฉพาะ มี Basque Cheescake ชีสเค้กหน้าทที่ใส่มัทฉะบราวนี่ในเลเยอร์ล่างสุด เพิ่มเทกเจอร์ อีกเมนูเป็น Brownie เป็นตัวเดียวกันกับที่อยู่ตรงฐานของชีสเค้ก แต่ยราวนี่จะเสิร์ฟมาแบบร้อน จะมีความนุ่มนวล และให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน

Chutie is Baking ห้องขนมของแม่มด

เข้ามาด้านในของคอมมูนิตี้ ด้านในสุดจะเจอกับ Chutie is Baking ร้านขนมเจ้าของเดียวกับ Sweet Pista ที่เนรมิตคาเฟ่มาในธีมบ้านของแม่มด ตกแต่งให้ฟีลเหมือนมีแม่มดที่มีเวทมนต์ มาปรุงยา อบขนมกันที่นี่ ซึ่งด้านในจะมีห้องทำขนม ที่อบกันสด ๆ ที่นี่ และยังเป็นครัวกลางที่ส่งไปที่ Sweet Pista ด้วย

Humming Bird (165 บาท) เค้กเนื้อแน่นที่มีทั้งสับปะรด กล้วย ถั่ว ท็อปด้วยถั่วเฮเซลนัทกับวอลนัทเคลือบคาราเมล กินเพลิน ๆ อีกเมนูเป็น Lemon Posset x Shortbred (165 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นมูสเลมอนกินคู่กับแท่งขนมปัง รสชาติเปรี้ยวหวาน Earl Grey Potion เป็นชาเอิร์ลเกรย์ที่เอาไปเคี่ยวกับไซรัปเข้มข้น เทใส่น้ำโซดาได้ฟีลแม่มดปรุงยา มีความสดชื่นของโซดา และหอมชากำลังดี ไม่หวานมาก

ร้านเปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 09:30 – 18:30 น.

C43 : Fashion and Inspiration Space ห้องเสื้อกุลยา

ข้างกันกับร้าน Chutie จะพบกับร้านเสื้อผ้าหนึ่งเดียวในคอมมูนิตี้คือชื่อว่า C43 : Fashion and Inspiration Space หรือที่เรียกติดปากว่าห้องเสื้อกุลยา ซึ่งมีคุณยิ้มเป็นเจ้าของนั่นเอง โดยคุณยิ้มจะคัดเสื้อผ้าจากไทยดีไซเนอร์หลาย ๆ แบรนด์มารวมกัน อย่าง SARRAN, Ek Thongprasert, มารศรี, Good Mixer รวมถึงเสื้อผ้าวินเทจหลายสไตล์ และมีแบรนด์ของตัวเองด้วย ชื่อว่า GAS มีทั้งของสะสมที่เอาปล่อยต่อ และงานตัดใหม่ในสไตล์วินเทจ ยุค 50s – 60s

และชั้น 2 ยังมี space สำหรับทำ Workshop ด้วย ตอนนี้มีงาน อะคริลิคเพนท์ให้มาจอยกันได้ และในช่วง Bangkok Design Week นิทรรศการต่าง ๆ ในคอมมูนิตี้ก็จะเปลี่ยนไปตามงานนี้ด้วยนะ

ร้านเปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 12:00 – 20:00 น.

Entertainment project ที่เอนเตอร์เทนทั้งกลางวันและกลางคืน

ตกเย็นแวะมาเลือกแผ่นเสียงที่ HAVE YOU HEARD? Records Entertainment project 📀 ร้านขายแผ่นเสียง คอมบูชา และมินิบาร์เล็ก ๆ (แต่สนุก) ของคุณ แป๋ง – พิมพ์พร เมธชนัน นักร้องนำวง Yellow Fang

เป็นร้านแผ่นเสียง ตกกลางคืนจะเป็นบาร์สนุก ๆ มีเครื่องดื่มชูโรงเป็นคอมบูชา ที่ทางร้านหมักเอง ซีนกลางวันสามารถมานั่งดื่มคอมบูชารสต่าง ๆ ฟังเพลงชิลล์ ๆ ได้ ฝั่งแผ่นเสียงจะมีหลาย ๆ แผ่นที่ไม่ได้ซีลไว้ ก็สามารถขอฟังได้เลย 

ส่วนซีนกลางคืนจะมีดีเจทุกวันศุกร์-เสาร์ 21:00 – 00:00 แนวเพลงไม่จำกัด มาเล่นกันสนุก ๆ บางคืนเป็นปาร์ตี้ เมนูค็อกเทลก็พยายามเอาคอมบูชาโฮมเมดของทางร้านมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบ อย่างเมนูที่เราได้ลองเป็น Passion Fruit Underground Kombucha Moscow Mules (280 บาท) เบสเป็นวอดก้า ผสมกับคอมบูชารสโฮมเมดเสาวรสของทางร้าน

ร้านเปิดพุธ – ศุกร์ เวลา12:00-20:00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 12:00-00:00 น.

Bangkok Mojo Bar บาร์ดนตรีสายลึก

ร้านสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ใครเป็นคอดนตรี Live Band สายลึก ต้องเปิดประตูมาที่ Bangkok Mojo Bar บาร์ดนตรีค็อกเทล ที่ชูเรื่องดนตรีเป็นหลัก มีทั้ง Jazz, Blues, Rockabilly และอีกหลากหลายแนว รวม Band ที่พบเจอไม่บ่อย หรือวงเฉพาะทางที่อาจจะไม่มีพื้นที่ให้ปล่อยของมากนัก มาปลดปล่อยจิตวิญญาณในเสียงเพลงกันได้ที่นี่ เรียกว่าเป็น Music Bar ที่ให้ความจริงจังกับเพลง พร้อมกับบาร์เครื่องดื่มค็อกเทลที่จริงจังไม่แพ้กัน 

เราได้ลอง Cosmonaut (ประมาณ 300 บาท) เบสเป็น Gin มีราสเบอร์รี่พรีเซิร์ฟ ที่ให้ความหวานนิด ๆ ไม่เข้มมาก ดื่มง่าย อีกแก้วเป็น Peach Margarita (330 บาท) เบสเป็น Taqueria, Triple sec พีช และมะนาว หอมพีชดื่มง่าย และ Suffering Bastard (280 บาท) เบสเป็น Bourbon, Gin มี Bitter มะนาว และ ขิง

ร้านเปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 19:00 น. – 00:00 น. (วงดนตรีเริ่ม 20:00 เป็นต้นไป)

ใครที่แวะเวียนมาย่านเจริญกรุง Charoen 43 จะเป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้ที่ห้ามพลาดเลยล่ะ

Charoen 43 Art & Eatery
เจริญกรุง 43
BTS สะพานตากสิน แล้วต่อพี่วิน | จอดรถได้ที่ ตึก CAT หรือ ไปรษณีย์กลางบางรัก (มีค่าจอดนะ)
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article