ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์ สาขาใหม่ของ ช่างคั่ว ร้านกาแฟ Specialty ที่นำเสนอกาแฟไทยดี ๆ จากอมก๋อย เชียงใหม่สู่เมืองกรุงฯ

ไปเดินเล่นย่านท่าพระจันทร์ นอกจากเที่ยวชุมชนชนเก่าแก่ บรรยากาศคลาสสิกแบบกรุงเก่า และส่องพระแล้ว อยากชวนเลี้ยวไปจิบกาแฟดี ๆ ในร้านกาแฟ Specialty น้องใหม่ ย่านท่าพระจันทร์ คาเฟ่เปิดใหม่ ที่ประสบการณ์และฝีมือไม่ใหม่ เพราะนี่คือสาขาที่ 2 แถมยังเป็นโรงคั่วที่มีไร่กาแฟเป็นของตัวเองอีกด้วย ที่นี่คือ Changkua Tha Phra Chan Specialty Coffee ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์

รีวิว ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์ สาขาใหม่ของ ช่างคั่ว ร้านกาแฟ Specialty ที่นำเสนอกาแฟไทยดี ๆ จากอมก๋อย เชียงใหม่สู่เมืองกรุงฯ

อย่างที่บอกว่านี่คือสาขา 2 ของช่างคั่ว (จากสาขาแรกที่สุทธิสาร) ก่อนจะพาไปทัวร์สาขานี้ เราขอพาย้อนไปทำความรู้จักกับช่างคั่วกันสักนิด เสมือนไกด์พาทัวร์ท่านหนึ่ง ซึ่งจริง ๆ เราก็ถาม คุณไก่ หรือพี่ไก่ เจ้าของร้านช่างคั่วมาอีกทีเนี่ยแหละ

ช่างคั่ว เป็นร้านกาแฟเป็นร้านกาแฟของคนช่างคิด ช่างลอง อย่างพี่ไก่ ที่แรกเริ่มปลุกปั้นโรงคั่วกาแฟชื่อ This’s Coffee roasters ย่านเหม่งจ๋ายเมื่อ 10 ปีก่อน สู่การพัฒนากาแฟไทย ด้วยการพัฒนาไร่กาแฟร่วมกับคนท้องถิ่นทางภาคเหนือ

จุดเริ่มต้นที่เข้าวงการกาแฟ ส่วนหนึ่งมาจากความชอบส่วนตัว พี่ไก่บอกเราว่าเมื่อสมัยก่อนนู้น วงการกาแฟยังไม่ฮิตเหมือนทุกวันนี้ ความเข้าใจในกาแฟของคนทั่วไปเลยน้อยมาก ๆ พี่ไก่เองก็เริ่มจากความไม่รู้เหมือนกัน แต่ด้วยความชอบเลยลองเปิดร้านกาแฟก่อนในตอนแรก พอเริ่มเรียนรู้ก็เกิดความสงสัยว่าเราจะควบคุมคุณภาพของกาแฟได้ยังไง เลยไปหาต้นตอว่า Quality มันต้องเริ่มจากตอนไหน ก็ได้ได้คำตอบว่าเริ่มจากการคั่ว ก็เลยเริ่มเข้าวงการคั่วกาแฟเอง

 

พอได้คั่วกาแฟ ก็เริ่มสงสัยอีกว่า แล้วเราจะควบคุมคุณภาพในการคั่วได้ยังไง ก็พบว่าจะต้องควบคุมคุณภาพตั้งแต่วัตถุดิบ หรือแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟเลย ก็เลยตัดสินใจทำไร่กาแฟเองซะเลย พอได้เจอกาแฟที่ดี มีของที่มีคุณภาพในมือ เลยอยากจะส่งต่อให้คนอื่นให้กับคนที่ชื่นชอบกาแฟเหมือนกัน เลยแตกไลน์มาเป็นบาร์กาแฟแบบจริงจัง เพื่อนำเสนอกาแฟแบบพิเศษ ชื่อว่า ‘ช่างคั่ว’

“ถ้าย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นเลยจริง ๆ เริ่มจากความชอบกาแฟ เมื่อสมัยก่อนเป็นกาแฟที่มันไม่ใช่กาแฟแบบนี้ เราก็ไม่ได้มีความรู้มาก แต่มันเริ่มจากความชอบเพราะชอบแล้วก็เกิดความสงสัย จนเราก็ได้พัฒนาตัวเอง เราก็เรียนรู้มาเรื่อย ๆ จนสุดทาง”

สำหรับไร่กาแฟที่พี่ไก่พูดถึง มาจาก ไร่ขุนตื่นน้อย แหล่งปลูกทางภาคเหนือ ที่เป็นพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัด คือตากและเชียงใหม่ เกิดขึ้นจากการที่พี่ไก่อยากพัฒนากาแฟไทย เลยเริ่มจากการหาสายพันธุ์มาปลูก ซึ่งเลือกพื้นที่ปลูกคือ บ้านขุนตื่นน้อย ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาร่วมกับคนในพื้นที่ อย่างโลโก้รูปผู้หญิงที่เราเห็น ก็คือคนบนดอยแรกเริ่มที่มาร่วมกันพัฒนากาแฟไทยด้วยกัน

ที่เลือกเป็นไร่ขุนตื่นน้อย เพราะมีปัจจัยที่ดีต่อการปลูกกาแฟ ทั้งความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 1,300 เมตรกว่า ๆ ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติอยู่มาก รวมทั้งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นน้ำ ทำให้ไม่มีเคมีปะปน ปลูกกาแฟคู่กับป่า ทำให้กาแฟมีแร่ธาตุสารอาหารเยอะ อีกทั้งยังมีความชื้นในอากาศหนาแน่นตลอดทั้งปี กาแฟที่ได้จะมีความหอมหวานเหมือนผลไม้สุก และมีความหอมเหมือนดอกไม้สีขาวอ่อนๆ มีความเปรี้ยวคล้าย ๆ ผลไม้เปลือกสีเหลือง ให้ความหนักแน่นที่สมดุล

“ช่างคั่วเลยจะเน้นเมล็ดไทยยืนพื้น คือ ขุนตื่นน้อย ในขณะเดียวกันก็ยังคงนำเสนอกาแฟนอกรสชาติดีให้เลือกชิมกัน ซึ่งส่วนใหญ่กาแฟที่นำเข้ามา จะคัดกาแฟซีรีส์หายาก หรือกาแฟสายประกวดน่าลอง”

สำหรับ ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์ ตั้งอยู่บนถนนพระจันทร์เลย (ถนนเล็ก ๆ ข้าง ๆ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์) มาในรูปแบบตึกแถวเก่า กลมกลืนไปกับย่านนี้ มีพื้นที่ไม่เยอะมากนัก ทางร้านตั้งใจรีโนเวทใหม่ โดยที่ยังมีคงความเดิมของตึกไว้ มีทั้งไม้และปูน ดูคลาสสิคแบบโมเดิร์น ซึ่งจะต่างจากที่สาขาสุทธิสารพอสมควรเพราะสาขาโน้นจะออกแนว Pink Gold โมเดิร์นจ๋า ๆ เลย

รีวิว ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์ สาขาใหม่ของ ช่างคั่ว ร้านกาแฟ Specialty ที่นำเสนอกาแฟไทยดี ๆ จากอมก๋อย เชียงใหม่สู่เมืองกรุงฯ

ด้านในของร้าน ดีไซน์ให้มีการยกชั้นลอยขึ้นมาเพื่อเพิ่มพื้นที่นั่ง และดูโปร่ง ไม่อึดอัด ส่วนด้านล่างตั้งใจทำที่นั่งให้เป็นแบบมานอนเอนหลังได้ ให้ลูกค้าได้มา Relax ผ่อนคลาย แอบแซมไวบ์ให้เหมือนอยู่ทางภาคเหนือนิด ๆ สมกับแหล่งปลูกกาแฟ

และที่สะดุดตาไม่แพ้กับหมอนอิงสามเหลี่ยม (ที่นาน ๆ ทีจะเห็นในร้านกาแฟ) ก็คือผนังที่มีลวดลายของท่าน้ำอยู่ ตรงนี้เป็นภาพวาดที่พี่ไก่ให้เพื่อนมาดีไซน์ให้ โดยให้โจทย์ไปว่า อยากได้ความเป็นท่าพระจันทร์ เลยออกมาเป็นรูปตึกรามบ้านช่องริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมีท่าเรือท่าพระจันทร์ ให้สื่อถึงว่า ‘นี่แหละคือเสน่ห์ของท่าพระจันทร์’

คุยไปคุยมาชักคอแห้ง ถึงเวลาชิมกาแฟดี ๆ กันบ้างแล้ว เบสกาแฟในร้าน จะมีให้เลือก 3 ตัว คือ Moon Blend Bangkok (House Blend ของทางร้าน ที่เบลนด์จากกาแฟ 3 ชนิดคือ เอธิโปเปีย – ขุนตื่นน้อย – บราซิล) ขุนตื่นน้อย และ กาแฟนำเข้า ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีคาแรกเตอร์แตกต่างกันไป ตั้งใจให้เสิร์ฟให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ได้เลือกว่าชอบกาแฟแบบที่ชอบ

เราเลือกลองเมนูดริปฟิลเตอร์ก่อนเลย เพราะมีเมล็ดสายพันธุ์เกอิชาตัวโหดอย่าง Costa Rica Don Danilo COE rank11 – Naural Process (เริ่มต้น 150 บาท) ให้รสหวานปลาย ๆ ออกโทนส้มนิด ๆ After Taste ให้โทนดอกไม้ รสชาติชัดเจนดีมาก ๆ

รีวิว ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์ เมนู Pumpkin Pie Latte

นอกจากเมนูกาแฟคลาสสิค ยังมีเมนูพิเศษให้ได้ลอง อย่าง Pumpkin Pie Latte (140 บาท) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Pumpkin Pie Latte ที่นิวยอร์ก ที่ปกติจะเป็นเมนูร้อนประจำช่วงหน้าหนาว ซึ่งบาริสต้าได้เอามาครีเอตใหม่ให้มีรสชาติดื่มง่าย คล้าย ๆ ขนม โดยใช้เบสกาแฟเป็น Moon Blend ผสมกับซอสฟักทองโฮมเมด ท็อปด้วยโฟมนมบาง ๆ แล้วโรยด้วยผงครัมเบิ้ล และเมล็ดฟักทอง พร้อมผงพัมกิ้นสไปซ์ ให้รสชาตินุ่ม ๆ มีกลิ่นฟักทอง และเครื่องเทศนิด ๆ

รีวิว ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์ เมนู O-Ra-Wan Coffee Latte

อีกเมนูเป็น O-Ra-Wan Coffee Latte (140 บาท) เมนูจากไอเดียของบาริสต้าอีกคน ที่ลองผสมผสานเมนูพีชที่ชอบเข้ากับกาแฟลาเต้ ให้เป็นกาแฟนมที่ดื่มง่าย มีความหอมของพีช มีความเปรี้ยวนิด ๆ โดยใช้เบสกาแฟเป็น Moon Blend ที่มีบอดี้ครีมมี่ และมีความคอมเพลกซ์ในรสชาติ ให้โทนรสชาติ Tropical Fruit เพิ่มเทกเจอร์ด้วยพีชบดละเอียด หอมหวานกำลังดี

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟดี ๆ ที่คอกาแฟต้องจดไว้ในลิสต์ได้เลยล่ะ ใครอยากดื่มกาแฟดี ๆ สบาย ๆ ลองแวะมาย่านท่าพระจันทร์กัน!

ช่างคั่ว ท่าพระจันทร์
เปิดทุกวัน 08:00 – 16:00 น.
ถนน พระจันทร์ ข้าง ๆ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
เรือด่วนธงฟ้า ท่ามหาราช |จอดรถได้ที่ วัดมหาธาตุ (มีค่าจอด)
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article