Cafe something about us จาก Selected Shop เล็ก ๆ ย่านบางลำพู สู่คาเฟ่เต็มรูปแบบอย่างที่ตั้งใจ ในชุมชน ย่านฝั่งธนฯ

ชาวธนบุเรี่ยนมีคาเฟ่ใหม่ให้ไปฮอปปิ้งกันอีกแล้ว ล่าสุดเราได้เจอกับคาเฟ่ไวบ์เกาหลีที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ ข้าง BTS กรุงธนบุรี ชื่อว่า Cafe Something about us ที่หลายคนอาจจะคุ้น ๆ ชื่อร้านกันบ้าง เพราะจริง ๆ แล้วเค้าเป็นเจ้าของเดียวกับร้าน Something about us ร้านเล็ก ๆ ที่ขายสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์แบบ Selected Shop ย่านบางลำพู บนถนนพระสุเมรุ

ใครที่เคยไปแวะเวียนร้าน Something about us น่าจะได้พบกับคุณ คิม จินยอง หญิงสาวชาวเกาหลี ที่มีรอยยิ้มหวาน ๆ และอารมณ์ดี ผู้เป็นเจ้าของร้านกันบ้าง เธอเป็นชาวเกาหลีที่มาเปิดร้านในไทยนานกว่า 5 ปีแล้ว เราเองก็ได้มีโอกาสพบเธอที่คาเฟ่แห่งใหม่นี้ ยังคงต้อนรับด้วยรอยยิ้มหวานเช่นเคย

ย้อนกลับไปก่อนจะเปิดร้าน Something about us คุณคิม จินยอง เป็นชาวเกาหลีที่ทำงานด้านแฟชั่นมาก่อน เธอย้ายมาปักหลักอยู่ไทยเพราะชอบในวิถีชีวิตของคนไทย และเธอแต่งงานกับคนไทยด้วย พอตัดสินใจมาอยู่ไทย ก็เลยเปิดร้านเสื้อผ้า และสินค้า Lifestlye แบบมินิมอลในปี 2018

ใช้ชื่อร้านว่า Something about us มีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ งานคราฟต์ สินค้าไลฟ์สไตล์ ทั้งนำเข้าจากเกาหลีและของ Local โดยเลือกโซนเมืองเก่าอย่างบางลำพู เพราะเป็นหนึ่งในที่ที่มีหลากหลายวัฒนธรรมรวมอยู่ นอกจากจะมีคนไทยแล้ว ยังใกล้กับถนนข้าวสาร ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น และชาวต่างชาติไม่น้อยเลย

และที่เลือกใช้ชื่อ Something about us เป็นเพราะเธอชอบฟังเพลง Daft Punk มาก ๆ ซึ่งหนึ่งในเพลงที่เธอชอบคือ Something about us ทั้งเนื้อเพลง ทำนอง และความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมา ความหลงใหลนี้ทำให้เธอเลือกที่จะใช้ชื่อเพลงจาก Daft Punk มาเป็นชื่อร้านของตัวเอง

จุดเริ่มต้นของคาเฟ่

คุณจินยองบอกเราว่า จริง ๆ แล้วเธออยากจะเปิดคาเฟ่ตั้งแต่แรก เป็นร้านที่รวมหลาย ๆ อย่าง มีทั้งแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรมกาแฟ หรือแม้กระทั่งมีกิจกรรมเวิร์กชอปรวมอยู่ด้วยกัน แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัดเลยยังไม่ได้เริ่มพาร์ทคาเฟ่ขึ้นมา บอกกับในช่วงปีแรกที่เปิดร้านค่อนข้างยุ่งมาก ๆ ด้วย แต่พอเริ่มลงตัวก็ดันเจอโควิดซะก่อน

พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ก็เริ่มเห็นว่าปัจจุบันมีคนนำเข้าของเกาหลีมากขึ้น และขายของสไตล์ที่คล้ายกันมากขึ้นด้วย เธอเลยพยายามหาอะไรใหม่ ๆ มาเติมเต็มให้กับร้าน เลยเกิดเป็นคาเฟ่ ที่มีทั้งเครื่องดื่ม ขนม Selected Shop และพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับเวิร์กชอปอย่างที่ตั้งใจ

ที่น่าสงสัยคือ ทำไมถึงมาอยู่ในซอยเล็ก ๆ ที่เป็นชุมชนอย่างวนาวรรณ 1 ที่รอบข้างแทบจะไม่มีร้านรวงให้เห็นเลย แถมยังต้องเดินลัดเลาะเข้ามาลึกไม่น้อย (แต่ยังอยู่ในระยะเดินได้จาก BTS นะ) 

เธอบอกเราว่า ได้แรงบันดาลใจมาจากร้าน Piccolo Vicolo ที่อยู่ในโครงการ Galileoasis เป็นร้านที่ต้องเดินเข้าไปตามซอยเล็ก ๆ ที่ระหว่างทางก็จะได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน ซึ่งโครงการนั้นเป็นการรีโนเวทตึกเก่าและอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างกลมกลืน

“ฉันเคยไป Piccolo Vicolo พวกเขาอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ แบบนี้ เขาเป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยยกระดับชุมชน สร้างคอมมูนิตี้ขึ้นมา เลยได้แรงบันดาลใจจากตรงนั้นมา อยากจะเริ่มต้นด้วยสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนั้น เลยต้องเลือกพื้นที่ตรงนี้”

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือกตึกแถวเก่าในซอยเล็ก ๆ เกิดจาก Pain Point ตั้งแต่แรกร้านที่ย่านบางลำพู ที่เดินทางค่อนข้างลำบาก ไกลจากรถไฟฟ้า และจอดรถได้ลำบาก พอมองหาที่ใหม่ เลยมาร์คไว้เลยว่า ต้องใกล้รถไฟฟ้า และมีที่จอดรถ ซึ่งตรงนี้ตรงกับเช็คลิสต์แบบพอดิบพอดี

Cafe Something about us มีทั้งหมด 3 ชั้น สไตล์การตกแต่งคาเฟ่ ดูจะแตกต่างจากร้านที่บางลำพูอยู่สักหน่อย เพราะเดิมทีร้านแรกจะมีความมินิมอลคุมโทนสีขาวกับสีไม้อ่อน ๆ แต่ที่นี่มีเติมสีสันเข้ามาบ้างแล้ว ตัวร้านที่เราเห็น เดิมเป็นตึกแถวเก่า (มาก) ที่รีโนเวทจนลืมเค้าเดิม ด้วยความเรียนแฟชั่นเธอเลยชอบเรื่องของดีไซน์ จึงหยิบเอาความเป็น Bauhaus (โรงเรียนสอนศิลปะในเยอรมัน ที่รากฐานการออกแบบสมัยใหม่มาจนถึงทุกวันนี้) มาเป็นไอเดียหลัก

พื้นที่ชั้น 1 จะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ พื้นที่ชงเครื่องดื่มและกาแฟ ข้างกันมีตู้ใส่ขนมวางอยู่ และมีครัวกระจกใสให้เห็นตอนทำขนมในบางขั้นตอน ส่วนชั้น 2 จะเป็น Selected Shop วางของกระจุ๊กกระจิ๊ก เสื้อผ้าต่าง ๆ ให้เลือกช้อปกัน

ส่วนชั้น 3 จะเป็นที่นั่งล้วน ๆ เลย ซึ่งเดิมทีชั้นนี้จะเป็นระเบียงของตึก แต่เพื่อให้มีที่นั่งได้เยอะขึ้น เลยก่อเป็นห้องขึ้นมา และเลือกใช้อิฐบล็อกแก้วเพื่อรับแสงธรรมชาติ และชั้นนี้มีห้องน้ำในตัว (แอบส่องห้องน้ำ ใหญ่จนตกใจ และตกแต่งได้สวยมาก ๆ)

เครื่องดื่มและเบเกอรี่ ที่หยิบเอาเทรนด์เกาหลี และความชอบมาครีเอตเป็นเมนู 

ที่นี่มีทั้งเบเกอรี ขนมเค้ก และเครื่องดื่ม คุณจินยองบอกเราว่า อยากให้ร้านมีเมนูที่หลากหลาย ทั้งขนมและกาแฟ เพราะเธอเองเวลาไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ จะเจอกับเค้กที่วาไรตี้มาก ๆ แต่ในไทยมักจะเจอไม่มีชนิด อย่างชีสเค้ก ทีรามิสุ หรือครัวซองต์ เพราะคาเฟ่ส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับกาแฟมากกว่า เธอเลยอยากให้ที่นี่มีความบาลานซ์ และด้วยความเป็นคนเกาหลี หลาย ๆ เมนูเลยได้แรงบันดาลใจมาจากเทรนด์เกาหลีด้วย

และส่วนตัวก็ชอบดื่มค็อกเทล เลยมองหาเมนูที่มีความสดชื่น และกาแฟที่ให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เลยลองทำเมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากค็อกเทลอย่าง Modori sour เป็นค็อกเทลที่พบได้ทั่วไปในเกาหลี ซึ่งตัวกาแฟ ถึงจะไม่ใช่ Specialty แต่ก็จริงจังใช้ได้ มีเบลนด์ลาว-บราซิล จากเชียงใหม่ เป็นโทนคั่วกลางที่ทำอร่อยทั้งกาแฟดำและกาแฟนมเลย 

“แต่เราก็ไม่ถึงกับตามกระแส 100% อยากโฟกัสว่าเราจะดึงตัวตนของเราออกมาได้ยังไง อยากทำเมนูพิเศษมากขึ้น ให้ดูยูนีค แตกต่างจากร้านทั่ว ๆ ไป”

เราได้ลอง Cream Latte (100 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นลาเต้ที่นอกจากจะมีนมสดและกาแฟ ยังท็อปด้วยครีมสดเนื้อเนียนที่ทางร้านตีเอง ตอนกินให้ลองชิมครีมสดก่อนจะได้รสชาติหวานมันเหมือนกินขนม จากนั้นลองคนให้เข้ากันดู ตัวจะได้ทั้งความหวานจากครีม ความมันจากนมสด และกาแฟเข้ม ๆ ที่สู้กันได้ดี

อีกแก้วเป็น Midori Americano (100 บาท) เมนูกาแฟที่ได้แรงบันดาลใจมาจากค็อกเทล Midori Sour มีรสชาติเปรี้ยวหวานฝาดนิด ๆ จากผลไม้หลายชนิด ทั้งเมลอน กล้วย มะพร้าว เลมอนและอีกหลายตัว เป็นเมนูที่สดชื่นมาก ๆ ใครที่เบื่ออเมริกาโนแบบเดิม ๆ มาลองกันได้

เมนู non-coffee เราลอง Mojito Fizz (90 บาท) เมนูที่เห็นครั้งแรกก็อดสงสัยไม่ได้ว่านี่คือโมฮิโตจริงหรอเนี่ย เพราะไม่มีใบสะระแหน่เขียว ๆ แต่ใส่เป็นมะนาวมาแทน พอได้ชิมก็เข้าใจเพราะรสมินท์ชัดและหอมมาก ๆ 

ทางร้านบอกเราว่า ใส่ใบสะระแหน่ดูไม่ค่อยเข้ากับร้าน เลยเปลี่ยนบิดให้กลายเป็นกลิ่นแทน ส่วนมะนาวที่เห็นเป็นมะนาวโฮมเมดที่ทางร้านทำเองด้วยนะ ให้ความเปรี้ยวหวานสดชื่นกำลังดี

เมนูขนมที่พลาดไม่ได้เลย เรายกให้ Spring onion scone (80 บาท) สโคนที่ใส่ต้นหอม ท็อปด้วยครีมชีสเนื้อแน่น คุณจินยองบอกว่าที่เกาหลีมีสโคนใส่ผักเยอะมาก ๆ ไปที่ไหนก็เจอ แต่ที่ไทยยังไม่ค่อยมีเลยอยากทำให้ลอง รสชาติจะออกเป็นกึ่งหวานกึ่งคาว ตัวผักจะช่วยเพิ่มความหอม เข้ากับแป้งเนื้อนุ่ม อร่อยมาก ๆ

ใครสายหวานอยากได้ครีมเน้น ๆ ต้องลอง Banoffee (160 บาท) เค้กบานอฟฟี่ชิ้นใหญ่ ที่ให้กล้วยมาแบบไม่หวง ตัวครัมเบิ้ลมีความละเอียด texture นุ่ม ๆ ไม่กรอบมาก เห็นครีมแน่น ๆ แบบนี้แต่จริง ๆ รสชาติไม่หวานมาก ตัดด้วยคาราเมลและช็อกโกแลตเข้ม ๆ กำลังดี

อย่างที่บอกว่าเค้าเปิดพื้นที่พร้อมให้มี Workshop ที่นี่ได้ จะมีงานอะไรน่าสนใจ หรือเมนูขนมอะไรใหม่ ๆ ลองติดตามกันได้เลย

Cafe something about us
เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) 08:00 – 17:00 น.
ซอยวนาวรรณ 1
BTS กรุงธนบุรี | ไม่มีที่จอดรถ (ใครเอารถมาแวะไปที่ ที่จอดรถ BTS กรุงธนบุรี ก็ได้นะ)
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article