ร้าน Buttery Cafe ร้านขนมระดับเลอกอดองเบอร์ จากศาลายา ขยับสาขามาพร้อมเสิร์ฟที่พญาไทแล้ว

Routeen. พาอัปเดตพิกัดคาเฟ่ขนม เอาใจสายหวานกันบ้าง ใครที่เป็นสายขนมหวาน อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากับ Buttery Cafe ร้านขนมหวานที่อยู่ย่านศาลายา เปิดมานานหลายปีและมีแวะเวียนไปตามห้างฯ ออกบูธให้ชาวเมืองได้ชิมกันจนติดอกติดใจ ล่าสุด ร้าน Buttery Cafe ได้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในเมืองตามคำเรียกร้อง เดินทางสะดวกกว่าเดิม (มาก ๆ) ติดกับ BTS พญาไท 

เรียกว่าเพิ่งย้ายมาได้สด ๆ ร้อน ๆ เพราะตรงนี้เพิ่งเปิดได้ 1 เดือนเท่านั้นเอง ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 4 ของร้าน Garden Salad แม้ว่าไซซ์ร้านจะเล็กกว่าตอนอยู่ศาลายามาก แต่จัดพื้นที่ออกมาได้อย่างน่ารัก เราได้เจอกับ คุณไอซ์ – สาวิตรี ชุนหชัย เจ้าของร้านที่รอต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง มานั่งพูดคุยถึงที่มาที่ไปของการย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมือง

ขอพาย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้นของ ร้าน Buttery Cafe กันสักนิด แรกเริ่มตัวร้านเกิดจากคุณไอซ์เองไปเรียนทำขนมจากเลอกอดองเบอร์ พอเรียนจบก็มองหาโลเคชันเปิดร้านจริงจัง เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรก จนมาได้พื้นที่ย่านศาลายา เปิดเรื่อยมาถึง 6 ปี และบังเอิญวว่าคุณแม่ชอบทำอาหารด้วย ที่ศาลายาเลยจะมีส่วนของเมนูอาหารเพิ่มเติมขึ้นมา ทำให้ร้านมีทั้งเครื่องดื่ม ขนม อาหารครบเลย

“ชื่อ Buttery เกิดขึ้นมาจาก อยากให้เข้าร้านมาแล้วรู้สึกหอมเนย เป็นขนมที่เต็มไปด้วยเนย ก็เลยเป็นชื่อที่มาของ ร้าน Buttery Cafe ขึ้นมา ส่วนโลโก้ก็มาจากลายเส้นของพี่สาวฝาแฝดชื่อคุณอีฟ เป็นหุ้นส่วนด้วย หลายคนอาจจะจำชื่อร้านไม่ได้ แต่จำโลโก้เด็กหัวตั้งชี้ ๆ นี้ได้”

จุดที่ทำให้ตัดสินใจย้ายจากศาลายาที่อยู่มานานถึง 6 ปี เข้ามาที่พญาไทในไซซ์ที่เล็กกว่าเดิม เริ่มมาจากช่วงโควิด เริ่มมีการเปิดรอบส่งขนมในเมือง มาออกบูธตามศูนย์การค้าบ้าง ก็เลยได้รู้ว่าลูกค้าที่เป็นแฟนคลับขนมจะอยู่ในเมืองหมดเลย พอลูกค้าถามว่าจะตามไปซื้อ หรือตามไปกินได้ที่ไหน พอบอกว่าอยู่ศาลายาลูกค้าก็ท้อเลย เพราะแอบไกลอยู่เหมือนกัน พอหมดสัญญาตรงนี้ ก็เลยเปิดโอกาสตัวเองมองหาทําเลในเมือง ให้ลูกค้าได้มาหาง่ายมากขึ้น 

ความโชคดีของโลเคชันนี้คือ จริง ๆ ร้านสลัดข้างล่างเป็นเพื่อนกัน ก่อนหน้านี้รอบส่งขนม ก็ใช้ตรงนี้เป็นจุดส่ง ซึ่งสะดวกมาก ๆ ลูกค้าจะมารับที่นี่เลยก็ได้ หรือส่งจากตรงนี้ไปให้ลูกค้าก็ได้ ค่าส่งไม่แพง จากที่เก็บข้อมูล ฐานลูกค้าก็อยู่ไม่ไกลจากละแวกนี้มากนัก แถมลูกค้าประจำที่ติดตามกันก็เข้าใจไปแล้วว่าตรงนี้เป็นสาขาสองของที่ร้านไปเรียบร้อย พอชั้นบนมีห้องว่างก็เลยเลือกมาเปิดที่นี่

“ก่อนหน้านี้ตรงนี้เหมือนเป็นที่สอนพิเศษ พอมีห้องว่างก็ขอขึ้นมาดู แล้วเราก็เห็นว่า แสงเข้าค่อนข้างดีนะ แล้วอยู่ชั้นบนที่เห็นวิวรถไฟฟ้าด้วย”

ใครที่ตาม Buttery Cafe จะเห็นว่า Mood & Tone ของที่พญาไท กับศาลายาค่อนข้างต่างกัน คุณอีฟบอกเราว่า ตรงศาลายาด้วยความที่เปิดมานานแล้ว ช่วงทำร้านแรก ๆ เทรนด์สไตล์ลอฟต์กำลังมา บวกกับพื้นที่ค่อนข้างเยอะ มีเสิร์ฟอาหาร กลุ่มลูกค้าเป็นแนวครอบครัว หรือมาเป็นกลุ่ม ๆ ก็เลยออกมาในมู้ดนั้น

แต่ที่พญาไท อยากให้เป็นแนวที่ตัวเองชอบในตอนนี้ มู้ด ๆ เกาหลีสบายตา จะเห็นว่ามีการเลือกใช้ไม้ทั้งส่วนของเคาน์เตอร์ ชั้นวางของ ผนัง มู่ลี่ ตั้งใจทำให้ Relate กับพื้นไม้ปาร์เก้ เป็นพื้นเดิมของที่นี่ที่ตั้งใจเก็บไว้ รวมถึงไฟติดเพดานก็เป็นของเดิม มีเติมไฟใหม่นิด ๆ ให้มีความวอร์ม ๆ อบอุ่นเข้ากับพื้นที่ มีความวินเทจนิด ๆ 

Buttery Cafe กับความแตกต่างระหว่างศาลายา และ พญาไท

พอย้ายมาอยู่ที่พญาไท แม้ว่าพื้นที่จะเล็กลง แต่เมนูขนมยังจัดเต็มเหมือนเดิม เมนูอะไรที่เคยมีที่ศาลายาก็มีที่นี่หมดเลย ยกเว้นเมนูที่ต้องทำเดี๋ยวนั้นอย่างโรตี หรือวาฟเฟิลยังไม่เอาเข้ามา (แต่เร็ว ๆ นี้จะเอากลับมาเหมือนเดิมนะ) แล้วก็จะมีขนมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่สิ่งที่แตกต่างจากศาลายาแน่ ๆ คือ การลดเมนูปั่นเพราะไม่ตอบโจทย์คนแถวนี้เท่าไหร่ และลด Portion ของขนมให้เล็กลง ด้วยลูกค้าละแวกนี้มักจะเป็นกลุ่มออฟฟิศ ที่มาร้านขนมเพื่อหาขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังกินข้าวกันเสร็จ เลยปรับให้เล็กลง ลูกค้ามาไม่ต้องกลัวว่าจะกินไม่หมด

“อีกหนึ่งข้อแตกต่างคือที่ศาลายามีอาหาร แต่ที่นี่ตัดอาหารออก ด้วยความที่พื้นที่ครัวไม่เหมาะกับทำการทำอาหารจริงจัง บวกกับพอเปิดมาเรื่อย ๆ ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็บอกเราว่า ขนมของเรานี่แหละที่เป็นจุดเด่น”

แน่นอนว่าสูตรขนมต่าง ๆ คุณไอซ์ เป็นคนครีเอตขึ้นมา วัตถุดิบส่วนใหญ่นำเข้าจากฝรั่งเศสเลย คัดเลือกวัตถุดิบที่ให้ความหอม ความอร่อยที่สุด เมนูขนมต่าง ๆ นอกจากสไตล์ฝรั่งเศสจากที่เรียนเลอกอดองเบอร์ ยังมีขนมที่มาจากประสบการณ์ เคยชิมขนมที่ไหน รสชาติแบบไหนก็หยิบมาลองทำนำเสนอให้กับลูกค้าดู

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ ตัวเครื่องดื่ม ที่เริ่มแรกตั้งใจหยิบเอาวัตถุดิบของขนมมาลองทำ มองว่ามีอะไรของขนมที่คู่กับเครื่องดื่มได้บ้าง ให้เป็นคาเฟ่ที่มีขนมกับเครื่องดื่มที่ไปด้วยกัน อย่างเช่นเอาครีมของฝั่งเบเกอรี่ลองมากินกับเครื่องดื่มดู 

ในฝั่งของกาแฟ ก็ให้ความสำคัญไม่น้อยหน้ากัน เลือกใช้เครื่องบดหรือเครื่องสกัดกาแฟตัวที่สามารถสกัดกาแฟออกมาได้อย่างมีรสชาติและมีประสิทธิภาพ ส่วนเมล็ดกาแฟตอนนี้จะมีตัวเดียวเลย เป็นเมล็ดกาแฟของไทยทางภาคเหนือที่มีความ Medium Dark แล้วราคาของเราก็จะคุมให้สามารถมาดื่มได้ทุกวัน

ถึงเวลาชิม!

เราได้ลอง Beans & Cream (135 บาท) เมนูกาแฟซิกเนเจอร์หน้าตาเก๋ เป็นกาแฟลาเต้ที่โปะด้วยครีมวานิลลานวล ๆ ปรับสูตรมาขนมโดยเอา Vanilla Bean มาทำเป็นไซรัป มีความหวาน ๆ มัน ๆ ตัวกาแฟข้างล่างไม่มีความหวานเลยดื่มรวมกันแล้วมีความกลมกล่อมดีมาก

อีกแก้วเป็น Milo Choco Latte (110 บาท) เมนูซิกเนเจอร์อีกตัวที่เอาใจคนไม่ดื่มกาแฟ เป็นนมไมโลช็อกโกแลตเข้มข้นท็อปด้วยครีมไมโลเนื้อละมุน มีผงไมโลเพิ่มเทกเจอร์ 

เมนูขนมต้องลอง Basque Burnt Cheesecake (150 บาท) ชีสเค้กหน้าไหม้ตัวดังของทางร้าน มีกลิ่นหอมของคาราเมลไหม้นิด ๆ ตอนกินก็จะตัดกับตัวชีสเค้กที่ไม่หวานมาก เนื้อเนียนปาก ทีเด็ดคือเนื้อจะมีความฉ่ำ ไม่แห้งกระด้าง กินแต่ละคำฟินมาก

“ชีสเค้กหน้าไหม้ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนไปญี่ปุ่น มีร้านนึงที่ตั้งใจเดินทางฝ่าฝนไปชิมแล้วรู้สึกประทับใจกลับมาก็เลยพยายามคิดค้น ฝึกทำขึ้นมา ขายในช่วงที่ชีสเค้กหน้าไหม้กำลังเป็นกระแสพอดี ทำให้คนเริ่มรู้จักร้านเราจากตัวชีสเค้กนี้เลย”

อีกตัวเป็น Caramel Custard (135 บาท) คัสตาร์ดเนื้อเนียน เทกเจอร์เหมือนเนื้อไข่ ไม่เด้งเกิน ราดด้วยซอสคาราเมลที่มีความขมนิด ๆ ไม่หวานมากตัดกับเนื้อคัสตาร์ดได้ดี

สุดท้ายเป็น Financier รสออริจินอล (75 บาท) เฮเซลนัท และช็อกโกแลต (85 บาท) ขนมฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม ที่ส่วนผสมหลักเป็นอัลมอนด์ และเนื้อมีความหนึบ ๆ ไม่แห้งและแข็งไป ทางร้านปรับสูตรออกมาเป็นแท่งยาว 3 รส เพิ่มความพิเศษ แต่ละรสเนื้อข้างในก็จะต่างกันด้วย อย่างเฮเซลนัท จะมีเฮลเซลนัทเพสผสมอยู่ทำให้มีความหอมถั่ว กินคู่กับเครื่องดื่มกำลังดีเลย

ใครเป็นแฟน Buttery หรือชอบกินของหวาน แวะไปร้านใหม่กันได้เลย เดินทางง่ายกว่าเดิมมาก ๆ ด้วย

Buttery Cafe
เปิดทุกวัน 09:00 – 18:00 น (เสาร์อาทิตย์เปิด 10:00 น.)
ชั้น 4 ร้าน Garden Salad พญาไท
BTS พญาไท | จอดรถได้ที่ปทุมวันรีสอร์ท (มีค่าจอดนะ)
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article