BANH 41-14 ร้านอาหารเวียดนาม ที่จะพาเปิดโลกความเป็น Vietnamese – French อีก Cuisine ที่อยากให้คนไทยได้ลิ้มลอง

พาไปชิมร้านอาหารใหม่ ย่านพระราม 9 ที่ ร้าน BANH 41-14 ร้านที่ถ้าไม่สังเกตป้ายดี ๆ คงนึกไม่ถึงว่านี่คือ ร้านอาหารเวียดนาม เพราะมู้ดร้านได้ฟีลคาเฟ่มาก ด้วยโทนสี ห้องกระจก และการตกแต่งที่ดูจัดจ้าน และที่ทำให้เราสนใจมากขึ้นไปอีก คือนี่ไม่ใช่อาหารเวียดนามในแบบที่เราคุ้นเคย แต่เค้าตั้งใจนำเสนออาหารแบบ Vietnamese – French โดยเฉพาะ

ต้องบอกว่า BANH 41-14 (บั๊ญ 41-14) นี่ไม่ใช่ร้านอาหารฝีมือใหม่ที่ไหน เพราะเป็นร้านอาหารเวียดนามแตกไลน์มาจาก Vie Ha Long (เวียฮาลอง) ร้านอาหารเวียดนามสไตล์ดั้งเดิมสุดคลาสสิค ที่อยู่คู่กับชาวสุขุมวิทมานานกว่า 30 ปี โดยปีนี้ คุณ โบว์ อิษยา เจ้าของร้านเวียฮาลอง ขอพาทุกคนไปสัมผัสรสชาติอาหารเวียดนามแบบใหม่ ๆ ในสไตล์เวียดนามใต้ ที่ผสมกรรมวัฒนธรรมฝรั่งเศสเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นบั๊ญ 41-14 ขึ้นมา

ถ้าถามว่าแล้วเวียดนามใต้ หรือสไตล์ Vietnamese – French คืออะไรล่ะ? คุณโบว์เล่าว่า จะให้เห็นภาพชัด ๆ ต้องนั่งย้อนประวัติศาสตร์ของเวียดนามกันก่อนสักนิด จะได้เข้าใจภาพของความเป็นอาหารเวียดนามที่เราเข้าใจ

วัฒนธรรมอาหารเวียดนามที่แพร่หลายไปทั่วโลก ส่วนใหญ่จะเป็นวัฒนธรรมของเวียดนามเหนือ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามที่มีการบุกโจมตีทางทะเล ในช่วงนั้นคนเวียดนามเหนือโดนโจมตีช้าที่สุดเลยมีเวลาที่จะอพยพเพื่อหนีสงคราม ทำให้วัฒนธรรมแหกกระจายออกไปทั้งทางลาว ไทย และไปทั่วโลก ในขณะเดียวกันฝั่งทางเวียดนามใต้ อพยพไปได้น้อยกว่า แต่กลับได้รับวัฒนธรรมมากเพราะว่าโดนเมืองขึ้นจากฝรั่งเศส

“หลาย ๆ เมนูที่คนจะมองแล้วว่ารู้สึกเหมือนเป็นอาหารฟิวชั่น แต่จริง ๆ ไม่ใช่ มันเป็นวัฒนธรรมที่มีองค์ประกอบหลากหลายอยู่แล้วตั้งแต่แรก ครอบครัวเราได้รับอิทธิพลมาจากเวียดนามใต้ทั้งการกินอยู่ รสชาติวัฒนธรรมอาหาร”

BANH 41-14 อาหารเวียดนามที่อยากให้มาลองด้วยตัวเอง

ร้านบั๊ญ 41-14 ตั้งอยู่ริมถนน ที่สร้างใหม่ในพื้นที่บ้านเดิม โดดเด่นด้วยพื้นผิวอาคารสีส้ม ที่ได้ Reference จากตึกต่าง ๆ ในเวียดนามที่มักจะมีสีส้ม เหลือง เขียว ชมพูกะปิเป็นเอกลักษณ์ และที่เลือกมาเปิดแบบสแตนด์อโลน จากที่เวียฮาลองอยู่ในศูนย์การค้ามาโดยตลอด เพราะอยากอยู่ในที่ของตัวเองบ้าง ที่สามารถทำอะไรก็ได้ และลูกค้าที่มาหา ก็เป็นคนที่ตั้งใจมาจริง ๆ ด้วย

และที่เลือกออกมานำเสนอรสชาติแบบ Vietnamese – French ในร้านใหม่ แทนที่จะเพิ่มเมนูเข้าไปในร้านเดิมที่มีอยู่ คุณโบว์บอกเราว่าสาเหตุส่วนหนึ่ง เป็นเพราะเวียฮาลองเกิดมา 30 ปีแล้ว เป็น Authentic เวียดนามที่มีเมนูแบบที่คนไทยคุ้นเคยมาก ๆ อย่าง ปากหม้อ ขนมเบื้อง หมูย่าง แหนมเนือง กุ้งพันอ้อย อะไรแบบนั้น ซึ่งจะมีลูกค้าประจำที่ยึดติดรสชาติเมนูแบบนี้อยู่ ถ้าจะเพิ่มเมนูแบบเวียดนามใต้ที่หลายคนไม่คุ้นเคย อาจจะสื่อสารสักหน่อย เลยเลือกที่จะใช้แบรนด์ใหม่ไปเลยดีกว่า

อีกหนึ่งความตั้งใจของคุณโบว์คือ ไม่อยากจะตะโกนออกไปให้รู้ว่า BANH 41-14 คือร้านอาหารเวียดนามนะ ถ้ามองจากข้างนอกแทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือร้านอะไร มีแค่ป้ายเล็ก ๆ ที่เขียนว่า  Vietnamese – French เพราะไม่อยากสร้างความคาดหวังว่าพอเป็นร้านอาหารเวียดนามจะเป็นผัก เป็นแป้ง หรือมีเมนูแบบที่คุ้นเคยอยู่ อยากให้ลูกค้าได้มาลองสัมผัสด้วยตัวเองก่อนตัดสินว่าชอบหรือไม่ชอบ

“เราอยากให้เข้ามาแล้วเค้าได้สัมผัสด้วยตัวเอง เพราะเราไม่อยากสร้างความคาดหวัง ว่า อ๋อ อาหารเวียดนาม ต้องมีเมนู 1 2 3 4 แน่เลย แต่ถ้าลูกค้าเข้ามาด้วยความไม่รู้ แล้วรู้สึกว่านี่คือร้านอาหารที่สะอาด บริการเรียบร้อย อาหารอร่อย เท่านั้นสำหรับเราก็คือแฮปปี้แล้ว”

ส่วนชื่อร้าน BANH 41-14 ที่มาก็เวียดนามสไตล์สุด ๆ เพราะเลข 41 – 14 คือชื่อซอย พระราม 9 ซอย 41 แยก 14 นี่เอง คุณโบว์บอกเราว่าที่เวียดนามจะไม่มีชื่อร้าน เขาจะใช้ ชื่ออาหารบวกกับชื่อซอย ก็เลยเอาตัวเลขที่อยู่ร้านนี้มาตั้งเลยง่าย ๆ

Vietnamese – French รวมเมนูเวียดนามที่หลุดจาก Perception คนไทย

เมนูที่นี่จะมีความผสมผสานความเป็นออริจินอล เข้ากับจะความฝรั่งเศสเข้ามา 30% ไม่ว่าจะวัตถุดิบหรือกรรมวิธีการปรุง แต่หลัก ๆ จะตั้งใจถ่ายทอดรสชาติจากความทรงจำ พารสมือคุณยาย ที่ทำอาหารให้กินตั้งแต่เด็กกลับมาอีกครั้ง มีหลายเมนูที่เรารู้สึกว่าแปลกใหม่ และอร่อยมาก! ที่สำคัญทำอาหารจานต่อจาน

เราเรียกน้ำย่อยด้วย บาแก็ต หอยลายผัดเนยกระเทียม (240 บาท) ขนมปังฝรั่งเศสที่ทางร้านอบเอง ปรับสูตรให้เนื้อไม่แข็งมาก อบเนยกระเทียมฉ่ำ ๆ แล้วเสิร์ฟคู่กับหอยลายผัดเนยกระเทียม และเพิ่มรสด้วยผงกะหรี่นิด ๆ กินเพลิน

อีกจานเป็น เนื้อปลากะพงคลุกขมิ้นทอด (320 บาท) เมนูยอดฮิตที่จะเห็นได้บ่อย ๆ ในเวียดนาม เป็นปลากะพงผัดกับขมิ้น ถั่วลิสง ต้นหอม พริกชี้ฟ้า และผักชีลาว เนื้อปลาชุ่มฉ่ำดีมาก และจะไม่เผ็ดมากเพราะพริกชี้ฟ้าที่ใช้ กรีดเมล็ดด้านในออกแล้วใช้แค่เปลือกเพื่อเอากลิ่นหอม จานเสิร์ฟมากับขนมจีนเส้นสด และน้ำจิ้มแบบเวียดนาม ทั้งน้ำปลาปรุงรส และอีกถ้วยเป็นกะปิเวียดนาม ที่มีรสจะค่อนข้างเฉพาะ (ที่ใครชอบคือชอบเลย) ช่วยตัดรสได้ดี

อีกถ้วยเป็น ขนมจีนหน้าเนื้อตุ๋น เมืองเว้ (240 บาท) หรือที่เรียกว่า ‘บุ๋น บ่อ’ ใช้น้ำซุปแบบเดียวกับเฝอ แต่เพิ่มพริกแกงตัวนึงเข้าที่ทำจากน้ำมันคำแสด เป็นผลที่มีหน้าตาเหมือนเงาะซึ่งในประเทศไทยหายากมาก รสชาติไม่เผ็ดมาก ให้ความกลมกล่อมสดชื่นดีมาก ๆ กินกับเส้นขนมจีน และเนื้อน่องลายชิ้นโต

แต่ก็ยังไม่ทิ้งความ Authentic เพราะยังมีเมนูที่เราคุ้นเคยอย่าง แนมเนื้อง (320 บาท) ที่เสิร์ฟแบบเวียดนามออริจินัล คือเป็นเนื้อหมูเน้น ๆ เนื้อแน่น ย่างเตาถ่านหอม ๆ กินคู่กับผักสดนานาชนิด น้ำจิ้มสูตรเต้าเจี้ยว ที่ชอบคือเค้ามีมะเฟืองด้วย เรียกว่าผลไม้จัดได้ถูกต้องมาก

เมนูที่อยากให้ลอง ขนมถ้วยเวียดนาม หน้ากุ้ง (220 บาท) หรือที่เรียกว่า ‘บั๋น แบ่ว’ ขนมถ้วยสไตล์เวียดนาม ที่ทางร้านปรับสูตรเพิ่มความพิถีพิถัน (สุด ๆ) ที่เห็นสีขาวไม่ใช่กะทิแบบขนมถ้วยบ้านเรา แต่เป็นแป้งที่เอาไปนึ่ง ท็อปด้วยถั่วบดเนื้อเนียน 

เพิ่มความกรอบด้วยหอมเจียว และกุ้งแห้งที่ผ่านกระบวนการแช่น้ำให้นิ่ม ซับให้แห้ง เอาไปตำให้ฟู แล้วเอาไปคั่วกระทะให้กรอบอีกที หลายขั้นตอนสุด ๆ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มหวาน ๆ กินรวมกัรจะให้ความรู้สึกเหมือนกึ่งคาวกึ่งหวาน ถั่วกวนช่วยเชื่อมทุกอย่างเข้ากันดีมาก

ฝั่งเครื่องดื่มมี กาแฟเวียดนามมะพร้าว (195 บาท) ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับ ‘ฟิน’ อุปกรณ์ดริปกาแฟสไตล์เวียดนาม โดยทางร้านใช้กาแฟจากเวียดนามถึง 4 สายพันธุ์ เป็นแก้วที่ให้ความรู้สึกเหมือนกิน Affrogato แต่จะมีความเบาและนุ่มกว่ามาก

จบมื้อด้วย ทาร์ตช็อกโกแลต (240 บาท) ที่ใช้ช็อกโกแลตยี่ห้อดังจากเวียดนาม มาในรูปแบบทาร์ต ใช้ดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้น มีส่วนผสม Coconut milk & 55% Vietnam single origin chocolate ทำให้มีรสเปรี้ยวนิด ๆ อาฟเตอร์เทสจะมีรสมะพร้าวเบา ๆ อร่อยมาก

BANH 41-14
เปิดทุกวัน พฤหัส – จันทร์ (ปิดอังคารพุธ) เวลา 12:00 – 21:00 น.
พระราม 9 ซอย 41 แยก 14
จอดรถได้ริมถนน
Google Maps

Articles You Might Like

Share This Article