อย่างที่เรารู้กันว่าถนนอุดมสุข หรือสุขุมวิท 103 มีร้านอาหารมากมายเต็มไปหมด แต่ถ้าเราลองเลี้ยวไปในซอยอุดมสุข 24 และสังเกตขวามือ จะเจอกับคาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน การตกแต่งไม่เหมือนคาเฟ่ทั่วไปแน่ ๆ และเครื่องกาแฟยังใช้แบบ Manaul หรือคันโยกด้วย ชื่อว่า ร้าน 80 hand brew bar
ความแปลกตาคือร้านจะเน้นสีไม้เป็นหลัก ตัดกับสีน้ำเงินจนดูมีเสน่ห์แบบสุด ๆ ต้องเล่าย้อนกลับไปว่าจริง ๆ แล้วร้านนี้เคยอยู่ที่สุขุมวิท ใต้โรงแรม wander wonder ในซอยสุขุมวิท 101/2 มาก่อน เปิดมาตั้งแต่ปี 2021 เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีไม่กี่โต๊ะใต้ แต่ด้วยพิษโควิด เลยทำให้โรงแรมต้องพัก Project ไป แต่ร้านกาแฟยังคงอยู่และโยกย้ายมาเปิดที่ซอยอุดมสุข 24 ที่ตรงนี้แทน
เราได้คุยกับ คุณมอส – ปวิตรา จันทร์สุหร่าย ถึงการกลับมาของร้านกาแฟใต้โรงแรมสู่พื้นที่ใหม่ ทำให้รู้ว่า จริง ๆ คุณมอสนี่แหละ คือเจ้าของร้าน PANI – sandwich and bagel ร้านแรก ๆ ที่ปลุกกระแสฮอตฮิตของเบเกิล เล่าย้อนกลับไปอีก ถึงที่มาที่ไปของการทำเบเกิล เลยได้รู้มาว่า จริง ๆ แล้ว จุดเริ่มต้นของทั้งหมดทั้งมวล มาจากการเริ่มทำโรงแรม wander wonder เมื่อต้นปี 2020 เป็นช่วงจังหวะโควิดกำลังรุนแรงพอดี
เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยว และสถานการณ์ยังแย่ เลยเริ่มทำแซนด์วิชเพื่อเข้ามาช่วยเสริมทัพ ทำไปทำมาบังเอิญมีคนชวนไปจัด Pop-up ที่งานดนตรีงานหนึ่ง เลยลองหาอะไรใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับไวบ์ของคนที่ไปงานนี้ เลยออกมาเป็นเบเกิล ซึ่งสูตรก็มาจากแบบที่ตัวเองกินแล้วชอบ แต่สุดท้ายแล้วงานเฟสฯ ถูกยกเลิก สต๊อกของที่เตรียมไว้เลยต้องระบายออก ด้วยการขายทางออนไลน์แทน
หลังจากลุยทำเองทั้งคิดสูตรเบเกิล ถ่ายรูป ทำคอนเทนต์ เปิดขายเบเกิลทางออนไลน์แบบไม่มีหน้าร้าน จังหวะคนมันจะปัง เบเกิลที่ร้านดันเป็นกระแสถูกพูดถึงใน Social ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ออเดอร์ทะลักทะล้น ในที่สุดก็ตัดสินใจมีหน้าร้าน ด้วยการเปิดร้านกาแฟชื่อ 80 hand brew bar ในพื้นที่เล็ก ๆ ใต้โรงแรม wander wonder และให้ลูกค้ามารับเบเกิลได้ที่นี่
แปลกใจใช่มั้ยที่ทำเบเกิลอยู่ดี ๆ มีร้านกาแฟงอกขึ้นมาซะอย่างงั้น คุณมอสบอกเราว่าเพราะอยากให้มีไวบ์ของการมาเจอกัน พูดคุยกันระหว่างร้านและลูกค้า แต่ด้วยเบเกิลก็มีระยะเวลาทำนาน รวมถึงลูกค้าก็มักจะมองหากาแฟควบคู่ เลยเปิดซะเลยซึ่งในตอนนั้นละแวกนั้นก็ใกล้กับออฟฟิศด้วย
ชื่อร้าน ร้าน 80 hand brew bar ก็มาจากเลขที่อยู่ของโรงแรม และ hand brew ก็คือคาแรกเตอร์ที่ร้านเลือกใช้เครื่องกาแฟแบบเครื่อง Flair หรือ Manual ที่ต้องใช้แรงกด ส่วนชื่อร้านเบเกิลยังคงชื่อ PANI – sandwich and bagel เช่นเดิม มี Funfact น่ารัก ๆ คือ คุณมอสเรียนเอกภาษาอิตาเลียน ชื่อร้าน PANI เลยมาจากคำว่า Panini (พานินี่) ซึ่งเป็นแซนด์วิชสไตล์อิตาเลียนนั่นเอง
แต่ด้วยสถานการณ์โควิดที่ไม่มีทีท่าจะดีขึ้นในตอนนั้น ทำให้ต้องตัดสินใจสละโรงแรมไป และโยกย้ายมาใช้พื้นที่บ้านในซอยอุดมสุข 24 แทน ซึ่งในช่วงแรกเป็นแค่พื้นที่เล็ก ๆ ก่อนจะทำการรีโนเวทและต่อเติมบ้านเป็นคาเฟ่เต็มรูปแบบ ที่มีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิมมาก ๆ มีมู้ดโฮมมี่และมีความเท่ในตัว ทั้งการเลือกใช้สี และช่องแสงต่าง ๆ
“สไตล์ของร้านไอเดียมาจากเราเป็นมนุษย์ instagram 100% ดูเรฟไอเดีย วาดมือแล้วไปบอกช่าง พาเลทสีดูเอง วัสดุต่างๆ เลือกกันเอง ส่วนตัวชอบความ Contrast ของสีจัดจ้านแต่ตุ่น ๆ แบบสไตล์เรโทร ผสมผสานความ Japandi”
แม้จะย้ายมาที่ใหม่ แต่ยังคงคอนเซปต์ Hand Brew คือการใช้เครื่อง Flair เครื่องชงกาแฟแบบคันโยก เป็นการสกัดช็อต Espresso ด้วยมือ ซึ่งแต่ละช็อตจะต้องควบคุมอัตราความเร็วของกาแฟในการสกัด ทั้งความดัน ความร้อน และชนิดกาแฟ ทำให้เป็นร้านกาแฟชิลล์ ๆ สำหรับคนที่ไม่เร่งรีบ (แต่อาจจะเร็วขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะตอนนี้มี La pavoni : Esperto Abile เพิ่มมาอีก 1 เครื่องแล้ว)
ถึงจะออกตัวว่าไม่ใช่ร้านกาแฟแบบ Specialty จัด ๆ แต่ด้วยความชอบกาแฟของคุณมอส และคุณซี บาริสต้าประจำร้าน ที่ทั้งชงเอง ชิมเองและได้เข้าไปศึกษาโลกของกาแฟมาบ้าง ทำให้ที่นี่จัดเป็นร้านกาแฟที่ดีเลย มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลายตัว ส่วนเมล็ดหลักของที่ร้านจะเป็น House Blend บราซิล-เชียงใหม่ คั่วกลางดื่มง่าย
ถึงเวลาชิมกาแฟตัวเด็ดของ ร้าน 80 hand brew bar
แก้วแรกที่เราลองคือ Bloom (120 บาท) เรียกได้ว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเลย เป็นการนำช็อตกาแฟไป infused กับสตรอว์เบอร์รีหนึ่งคืนเต็ม ๆ แล้วนำมาผสมกับไซรัป house vanilla และนมในสไตล์ลาเต้ ท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีสด รสกาแฟมีความนุ่มนวลหอมสตรอว์เบอร์รีอ่อน ๆ ไม่หวานและไม่เข้มเกินไป
อีก 2 แก้วเราเลือกเป็นเมนูกาแฟดำ อเมริกาโนเย็น (75 บาท) และ Espresso Spark (100 บาท) เอสเปรสโซโทนิคสดชื่น จะได้ลองชิม house blend แบบเน้น ๆ กาแฟที่นี่จะมีความเบา นุ่มนวล ดื่มง่าย Taste note เป็นช็อกโกแลตและถั่ว ถูกใจคอกาแฟที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวมาก
แน่นอนว่าเราไม่พลาดชิมเบเกิลจาก PANI ซึ่งมีรสชาติอร่อยจนแฟนคลับเบเกิลยกให้เป็นหนึ่งในร้านเบเกิลที่ต้องมาลอง ที่นี่มีเบสเบเกิลหลายรสชาติให้เลือก ทั้ง Plain / Cheddar / Charcoal / Everything / Jalapeno Cheddar / Red Velvet และ Dolce ตัวซอสจะมีการออกแบบให้เข้ากับวัตถุดิบที่มีความเอเชีย ไม่ฝรั่งจ๋า
ส่วนใส้ของเบเกิลก็มีให้เลือกหลายเมนูเลย เมนูแรกที่เราได้ลอง คือ Begel Bomb (205 บาท) เป็นเพลนเบเกิล เสิร์ฟพร้อมเบอคอน ชีส แฮม ราดซอสดิลซอสสูตรเฉพาะของ P A N I เพิ่มรสและความหอม และท็อปด้วยอิกุระตัดรสเค็มนวล ๆ กินพร้อมกันฟินสุด ๆ หอมผักดิลมาก ๆ คนชอบซอสดิลแบบเราโดนตกไปเต็ม ๆ
อีกเมนูเป็น Vouge หรือ Akami Twist (305 บาท) เมนูที่ครีเอตพิเศษสำหรับ Vouge Thailand เป็นชาโคลเบเกิลเสิร์ฟพร้อมทูน่าที่นำไปแช่ในซอสญี่ปุ่นด้วยเทคนิคพิเศษ จากนั้นเอาไปเบิร์นไฟนิด ๆ ราดซอส Asian Sesame Sauce คล้าย ๆ ซอสงา มีเฟรชแรดิชและพริกชิมิจิ ท็อปด้วยไข่กุ้ง Tobiko เพิ่ม texture กรุบ ๆ เป็นรสชาติที่หนักแน่นมีความเอเชียแบบสุด ๆ
ใครที่เป็นคอกาแฟร้านนี้เค้าตั้งใจให้เป็นพื้นที่มานั่งพูดคุยเรื่องกาแฟกันได้ด้วยนะ ส่วนใครที่เป็นแฟนเบเกิล บอกเลยว่าร้านนี้คือต้องมาให้ได้ เราเองก็ยื่นใบสมัครเป็น FC เป็นที่เรียบร้อย
ร้าน 80 hand brew bar x PANI – sandwich and bagel
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์)
อ.-ศ. 08:30 – 16:30 น. | ส.-อา. 09:00 – 17:00 น.
ซอยอุดมสุข 24
BTS อุดมสุข แล้วต่อพี่วิน | มีที่จอดรถ
Google Maps
