2463 Speakeasy ค็อกเทลบาร์ลับ ๆ กลิ่นอาย 1920s ยุคที่บาร์ลับ = ลับจริง ๆ

เมื่อพูดถึงบาร์ลับ ในยุคที่ที่ไหน ๆ ก็เป็นบาร์ลับได้ทั้งนั้น เรามักจะคิดว่าแล้วต้องลับแค่ไหนถึงเรียกว่าบาร์ลับจริง ๆ กันนะ? จนได้มาเจอกัน 2463 Speakeasy ค็อกเทลบาร์ในย่านเอกมัยที่หยิบเอาความเป็นบาร์ลับจริง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในยุค 1920s มาเป็นคอนเซปต์ของร้าน ซึ่งทำได้น่าสนใจมาก ๆ

ความเป็นบาร์ลับของที่นี่ เริ่มตั้งแต่การหาทางเข้า เรารู้ว่าบาร์ตั้งอยู่พิกัดโรงแรม Civic Horizon เอกมัย แต่พอมาถึงก็เดินหาทางเข้าอยู่นาน จนต้องถามเจ้าหน้าที่รปภ. ว่าบาร์ไปทางไหน ซึ่งทางเข้าอยู่ด้านหลังของโรงแรมเลย มีบันไดให้ขึ้นไปเล็กน้อย ก่อนจะเจอประตูทึบสีดำที่ดูไม่ออกเลยว่าข้างในจะมีค็อกเทลบาร์ไวบ์ดีซ่อนอยู่

“speakeasy original จะอยู่ใต้ดินหรือหลังโรงแรม ซึ่งที่ตรงนี้ตรงโจทย์ เลยขอใช้ประตูด้านหลังทำให้ดูเป็นบาร์ลับมากขึ้น และด้วยความให้ดูลับนิด ๆ เลยไม่ทำป้ายร้าน แต่ยังมีหมุดใน Google Maps ให้ตามเจอ”

เราได้คุยกับหนึ่งในเจ้าของค็อกเทลบาร์แห่งนี้ จึงได้รู้ว่าที่นี่มีหุ้นส่วนถึง 5 คน เป็นกลุ่มเพื่อนที่แฮงเอาต์ด้วยกัน ชอบดื่มเหมือนกัน จากไปร้านเหล้าทั่ว ๆ ไป ก็ได้ลองค็อกเทลบาร์ และมองว่าเป็นมีความน่าสนใจและมีเสน่ห์ เลยเกิดไอเดียอยากเปิดค็อกเทลบาร์ ให้คนที่อาจมีประสบการณ์แบบเดียวกันคือดื่มเหล้าเบื่อแล้วลองมาค็อกเทลบาร์ดูบ้าง

“มองว่าค็อกเทลบาร์ มีศิลปะ เหมือนการทำอาหาร หยิบโจทย์มาว่าลูกค้าชอบแบบไหน รสไหน เบสแบบไหน เสาะหาใช้วัตถุดิบ ลูกค้าเหมือนได้ซื้อประสบการณ์ในการดื่มคล้าย ๆ โอมากาเสะ ที่แต่ละแก้วก็จะมีสตอรี่จากบาร์เทนเดอร์”

2463 Speakeasy ค็อกเทลบาร์ลับ ๆ ในเอกมัย ที่มาจากคอนเซปต์บาร์ลับจริง ๆ

ด้วยจุดเริ่มต้นมาจากร้านเหล้าแบบแมส ๆ ค็อกเทลบาร์ที่นี่เลยเป็นบาร์ที่ไม่ซีเรียสมาก ยังคงมีไวบ์สนุก ๆ ที่แตกต่างคือเก้าอี้หน้าบาร์ที่นี่ใหญ่ เพื่อให้นั่งสบายและไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป ภายในร้านยังมีหลายโซนให้เลือก อย่างโต๊ะหน้าเวทีจะมีความใกล้ชิดกัน ฟีลสนุก ๆ ด้านในมีโซนโซฟาโค้ง นั่งสบาย พูดคุยกันได้ยาว ๆ หรือใครอยากได้เงียบ ๆ หน่อย ด้านหลังบาร์จะมีโต๊ะซ่อนอยู่ และมีห้อง VIP ที่ชั้นลอยด้วย

สไตล์เพลงของที่นี่จะไม่ใช่บาร์แจ๊สจ๋า เพราะมีหุ้นส่วนเป็นชาวเกาหลีที่เป็นดีเจด้วย เข้ามาดูแลเรื่องเพลงและมู้ดของร้าน จากเดิมจะเป็นแจ๊สจ๋า ๆ ก็เลยเป็นเพลงแจ๊สโมเดิร์นและสนุกขึ้น  และในวัน พฤ.-ส. ก็จะมี Live band เป็นวง Trio ร้องเพลงสากลเบา ๆ ด้วย

บาร์แห่งนี้เลือกนำคอนเซปต์ของความเป็นยุค Prohibition ของอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่แอลกอฮอล์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ห้ามขายแอลกอฮอล์เด็ดขาด จนเกิดคำว่า Speakeasy Bar ขึ้นมา หรือบาร์ที่แอบขายเหล้าแบบเงียบ ๆ ใครจะเข้ามาต้องมีโค้ดลับ ซึ่งเหตุผลที่นำความเป็นบาร์ลับในยุคนั้นมาเล่น ก็เกิดจากการหาข้อมูลของค็อกเทลบาร์จนกระทั่งรู้ว่าค็อกเทลบาร์เกิดขึ้นในยุคนั้นนั่นเอง

2463 Speakeasy นำคอนเซปต์ของ Speakeasy Bar มาใช้ในทุกองค์ประกอบของร้าน ตั้งแต่ชื่อร้าน 2463 ที่แปลง ค.ศ. 1920 เป็น พ.ศ. 2463 สไตล์การตกแต่งของร้านออกแบบโดยหนึ่งในเจ้าของเองเลย โดยเลือกตกแต่งเป็นแนว Classic-Luxury มีความย้อนยุคแต่หรูหรา และใช้สีเขียวเป็นหลัก ซึ่งเป็น Symbolic ของ Speakeasy ด้วย

และถ้าเราสังเกตโลโก้ของร้าน หรือแผ่นเมนูจะเห็นว่ามีลูกกุญแจซ่อนอยู่ มาจากไอเดียแรกของร้านที่อยากใช้คอนเซปต์บาร์ที่เก็บความลับของคุณ แม้ว่าไอเดียนั้นจะตกไป แต่ก็ยังเก็บมาใช้เป็น Hidden Meaning ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งก็เข้ากับความเป็นบาร์ลับด้วย

ความเป็น Speakeasy รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์ ที่จะนำบุคคลสำคัญหรือช่วงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดในช่วงปี 1920s นำเอาคาแรกเตอร์หรือ element ต่าง ๆ มาสร้างสรรค์เป็นค็อกเทลสูตรพิเศษ  อย่างเช่น เมนู Charlie Chaplin นักแสดงที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ทำเป็นเครื่องดื่มที่มีโฟมหนา ๆ จิบแล้วมีฟองติดริมฝีปากเหมือนหนวด แต่ละเมนูมาจากบาร์เทนเดอร์สายคราฟต์ฝีมือดีที่อยู่ในวงการมากกว่า 11 ปี

เมนูค็อกเทล Signature สำหรับ Volume แรก มีถึง 8 เมนู โดยวางไว้ 3 รูปแบบ ให้เลือกดื่มได้ตามความชอบ Refreshing , Sweet & Sound และ Speak Forward อยากได้แบบสดชื่น มีรสเปรี้ยวหวานดื่มง่าย หรือขอแรง ๆ ก็ได้เลย

เครื่องดื่มที่เราได้ลอง เริ่มด้วย Twenty-First Amendment (400 บาท) สาย Refreshing เป็นโฮมเมด Sparkling Wine กับ Lillet Blanc ที่มีความหอมดอกไม้ มีรสฟรุตตี้นิด ๆ สดชื่น ดื่มง่าย เป็นเมนูที่เปรียบเหมือนการเฉลิมฉลอง ในช่วงที่ปลดล็อกกฎหมายห้ามดื่มแอลกอฮอล์ 

ใครที่อยากลองค็อกเทลดื่มง่าย ๆ และมีมิติลูกเล่นว้าว ๆ แนะนำเป็นเมนู Thaification (400 บาท) ตัวนี้จะเป็นแนว Sweet & Sound ได้แรงบันดาลใจมาจากแตงโมปลาแห้ง แต่เปลี่ยนจากแตงโมเป็นน้ำมังคุดแทน มีน้ำกุ้ง ดาชิ และน้ำช่อมะพร้าว สเปรย์ผิวด้วยส้มซ่า ทาขอบแก้วด้วยผงบ๊วย ท็อปด้วยหมูแผ่น ตอนดื่มให้เริ่มจากดื่มแรกแบบไม่มีผงบ๊วย จากนั้นดื่มฝั่งที่มีผงบ๊วย สุดท้ายดื่มแล้วกินหมูแผ่นตามไป จะได้รสชาติที่แตกต่างกันทั้ง 3 ครั้งเลย

อีกเมนูที่น่าสนใจ Modern Siam (380 บาท) เป็นเมนูที่ถอดองค์ประกอบมาจากขนมช่อม่วงทั้งหมด เช่น หมูสับ ใช้ Pork fat ไปอินฟิวส์กับ Thai spirit นำน้ำฟักกับพีนัทเตอร์มาทำเป็นโฟมด้านบน มีความเผ็ดนิด ๆ ให้รสเหมือนขนมจริง ๆ

ปิดท้ายด้วยตัวแรงของ Speak Forward อย่าง Flapper (440 บาท) มาจากนิยามของผู้หญิงในยุค 1920s ที่ใส่กระโปรง มีผมบ๊อบ สูบบุหรี่ และดื่มวิสกี้ แก้วนี้จึงเป็นการนำเอาคาแรกเตอร์ของผู้หญิงในยุคนั้นมาครีเอต โดยนำ Iris lrish Whiskey มาอินฟิวส์กับซิก้า และ Dry Vermouth อินฟิวส์กับกาแฟ มีใบเนียมซึ่งเป็นพืชโบราณที่มีความหอมมากว่าใบเตบถึง 10 เท่า สื่อถึงความอ่อนนุ่มที่มีความเป็นผู้หญิง แก้วนี้มีความหอมหวานแต่เข้มมาก ๆ

ใครอยากได้ไวบ์บาร์ลับแบบจริง ๆ ลองไปนั่งค็อกเทลบาร์ที่นี่กันได้ แต่ถ้าอยากได้ที่นั่งหน้าบาร์จะอาจจะต้องจองกันหน่อย เพราะหน้าบาร์นอกจากจะได้คุยกับบาร์เทนเดอร์ ดูลีลาการชงแล้ว เก้าอี้หน้าบาร์ยังนั่งสบายด้วย คนน่าจะชอบตรงนี้กันมาก ๆ

2463 Speakeasy
เปิดทุกวัน 19:00-02:00 น.
หลังโรงแรม Civic Horizon เอกมัย
BTS เอกมัย | มีที่จอดรถ
Googole Maps

Articles You Might Like

Share This Article