คาเฟ่ชาเริ่มมีมากขึ้น ไม่น้อยไปกว่าคาเฟ่กาแฟแบบ Specialty เลย ล่าสุดเราได้แวะเวียนไปนั่งชิลล์ ดื่มชา กินขนม กับบรันช์อร่อย ๆ ที่ Baker x Tea Bar ที่แฮงเอาต์ใหม่ย่านสาทร ที่มาเอนจอยได้ตั้งแต่เช้ายันดึก เพราะกลางวันเค้าเป็นคาเฟ่ชิค ๆ พอตกเย็นก็ทรานส์ฟอร์มเป็นบาร์ชิลล์ ๆ
เห็นชื่อแบบนี้ หลายคนคงคุ้น ๆ ว่าใช่ร้านเดียวกันกับคาเฟ่ที่พระราม 9 หรือเปล่านะ คำตอบก็คือถูกต้องเลยที่นี่เป็นร้านสาขาสองของ Baker x Florist ร้านขนมเค้กแสนอร่อยที่เปิดเข้าปีที่ 6 แล้ว ย่านพระราม 9 นั่นเอง ใครที่เคยไปลิ้มลองขนมที่ Baker x Florist จะเห็นว่า ที่นี่โดดเด่นในเรื่องของขนม และเค้กเป็นหลัก ซึ่งมีเซอร์วิชไปจนถึงเค้กปอนด์แบบสั่งทำ Custom ได้เลย
ความแตกต่างของสาขาพระราม 9 กับสาทร คือสาขาสาทร จะมาในธีมหลักเป็น Tea Bar คือเน้นที่ชาเป็นหลัก และมีบาร์เพิ่มขึ้นมา (ส่วนสาขาพระราม 9 ที่เป็นธีม Florist เพราะมาจากตอนแรกหุ้นส่วนท่านหนึ่งทำร้านดอกไม้ ก็เลยเป็น Baker x Florist มีขนมและดอกไม้จัดช่อ ต่อมาเซอร์วิชจัดช่อไม่ได้ทำต่อแล้ว ก็ปรับใส่ความดอกไม้ ๆ ในตัวเค้กแทน)
คุณ นัท – ณัฐชยา สุริย์ฉาย Co-owner ของทั้ง Baker x Tea Bar และ Baker x Florist เล่าให้ Routeen. ฟังว่า สาขาสาทรนี้มีหุ้นส่วนท่านใหม่เข้ามาร่วมมือเพิ่มเติมจากสาขาแรก ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้นี่เอง ซึ่งมีความ Specialist เกี่ยวกับชาประมาณหนึ่ง เป็นคนชอบดื่มชาอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าปัจจุบันชาที่เป็นคาเฟ่จ๋า ๆ มีขนมอร่อยให้กินคู่กันยังมีไม่เยอะมาก เลยรู้สึกอยากจะเปิดคาเฟ่ที่มีชาโดยเฉพาะขึ้นมา
“เราเองรู้สึกว่าชามันไปกับขนมของเราได้ดี เลยอยากทำร้านชาที่เข้าถึงง่าย ไม่ได้พิธีรีตองจ๋า หรือเจาะจงว่าเป็นสัญชาติไหน ทำชาให้เป็นเหมือนร้านกาแฟทั่วไป ที่มาทานกับขนมแล้วอร่อย ทานได้ง่ายขึ้น”
คุณนัทพาเราย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นในการขยายสาขา อย่างที่บอกว่า Baker x Florist เปิดมานานถึง 6 ปีแล้ว ซึ่งก็มีฐานลูกค้าประมาณหนึ่ง ก่อนหน้านี้ก็มีการไปออกบูธ อิเวนต์ เปิดป๊อบอัพต่าง ๆ บ้าง แล้วก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่จะต้องขยายร้านไปโซนใหม่ ๆ บ้าง ให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น
พอมีโปรเจกต์จะขยายสาขา 2 ก็มองไว้หลายที่ ความตั้งใจคืออยากให้อยู่คนละโซนกับที่พระราม 9 ไปเลย จะได้เป็นทางเลือกให้ลูกค้า ใกล้ตรงไหนก็ไปตรงนั้น พอมาเจอบ้านหลังนี้ในซอยสาทร 7 ก็รู้สึกว่า Venue ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่คิดไว้ คือยังอยากให้ร้านมีความเป็น Stand Alone อยู่ ขณะเดียวกันก็มีร้านอื่น ๆ อยู่ด้วย แต่ไม่ถึงกับเป็นคอมมูนิตี้มอลล์อะไรแบบนั้น
บ้านหลังนี้มีชื่อว่า “บ้าน 139” เป็นบ้านเก่าที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณย่า ตกมาสู่มือรุ่นหลาน เจ้าของบ้านเองตั้งใจทำการรีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ และร่วมหุ้นกับร้านรวงต่าง ๆ ทั้งคาเฟ่ และซูชิบาร์ จับมาอยู่ในบ้านหลังนี้ ให้บ้านนี้กลับมาคึกคักและรวมผู้คนอีกครั้ง
(ร้านซูชิบาร์ที่ว่า คือร้าน CUTTS ซูชิบาร์ และโอมากาเสะที่มีชื่อเสียง ซึ่งมาเปิดสาขาใหม่ และมาตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้านหลังนี้ ตามไปชิมโอมากาเสะคอร์สพิเศษที่เราได้ลองชิมแล้ว พร้อมกับทำความรู้จัก บ้าน 139 กันมากขึ้น ที่นี่เลย CUTTS Sathorn)
คุณนัทเล่าว่าจริง ๆ ตัวบ้านค่อนข้างสวยอยู่แล้ว แต่มีการเพิ่มช่องแสงต่าง ๆ ให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากขึ้น รวมถึงต่อเติมห้องออกไปด้านหน้า ดูมีความเป็น Glass House หน่อย ๆ ด้านการตกแต่งก็ยังมีกลิ่นอายของ Baker x Florist อยู่บ้าง คือมีความเป็นโมร็อกโกหน่อย ๆ แต่ลดทอนให้คลีนมากขึ้น สบายตาขึ้น
“ตั้งแต่อยู่ที่พระราม 9 ตอนเปิดใหม่ ๆ คนก็จำได้ว่าเป็นคาเฟ่สไตล์โมร็อกโก เป็นภาพจำไปแล้ว ที่นี่ก็เลยเอาดีไซน์นั้นมา แต่จะมีความลดทอน ให้มันคลีนมากขึ้น หยิบมาแค่ element บางอย่าง อยากให้เข้ามาแล้วได้รู้สึกว่าได้พักผ่อน”
Baker x Tea Bar หยิบความเป็นชา บาร์มารวมเข้าด้วยกัน และมีบรันช์มาเสริม
ความแตกต่างระหว่าง Tea Bar และ Florist คือที่นี่จะเพิ่มส่วนของชา และบาร์เข้ามา เปิดทั้งกลางวันและกลางคืนเลยในส่วนของชา ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นบาร์ชาจีนโดยเฉพาะ แต่ทางร้านจะคัดเลือกชาดี ๆ จากหลากหลายแหล่งมาให้ลิ้มลอง ทั้งชาอู่หลง มัทฉะ เก๊กฮวย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย มีรสชาติ Taste Note ที่หลากหลาย รวมทั้งชาแบบมีคาเฟอีน-ไม่มีคาเฟอีน ก็มีให้เลือก
ความสนุกนอกจากจะมีชาหลายตัวให้มาดื่มด่ำ ทางร้านยังนำชามาครีเอตเป็นม็อกเทลอีกด้วย เป็น Tea Mocktail Selection หรือเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเลย มีถึง 9 เมนู เบสชาแตกต่างกัน อย่างเช่น เก๊กฮวย มัทฉะ อู่หลง ชามะลิ เป็นต้น ส่วนใครสายกาแฟ ที่นี่ก็ยังมีเมนูกาแฟให้สั่งนะ อาจจะไม่ได้หวือหวา มีเมล็ดให้เลือก แต่ก็คัดมาแล้วว่าเป็นรสชาติที่อร่อย
ส่วนบาร์กลางคืนจะเป็นบาร์ชิลล์ ๆ ไวบ์แบบ Speakeasy หน่อย ๆ มานั่งฟังเพลง คุยกันได้ ไม่ได้เสียงดังมากมาย ความพิเศษคือวันศุกร์-เสาร์ จะมี DJ มาช่วยทำให้บรรยากาศสนุกขึ้นหน่อย (แต่ก็ไม่ถึงขั้น EDM ขนาดนั้นนะ) และทางบาร์ก็มีซิกเนเจอร์ค็อกเทล ที่ใช้เบสชาเช่นเดียวกัน
ฝั่งขนม ก็มีให้เลือกหลายเมนู ไม่แพ้สาขา Florist เลย แต่ขนมต่าง ๆ จะถูกส่งมาจากสาขาพระราม 9 นะ ไม่ได้อบที่นี่ ใครอยากสั่งเค้กปอนด์แบบพิเศษ ก็แนะนำว่าไปสาขาพระราม 9 ดีกว่า ส่วนใครอยากมากินเค้กชิลล์ ๆ ในคาเฟ่สบาย ๆ มาที่นี่ได้เลย
ส่วนเมนูของคาว ที่สาขาสาทรจะมีบรันช์เพิ่มขึ้นมาหลากหลายเมนูมากขึ้น เพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนสาทรที่เป็นแหล่งออฟฟิศ สามารถแวะมาทานเมนูบรันช์ง่าย ๆ ตอนกลางวันได้ (สามารถสั่ง A la carte จาก CUTSS omakase ได้ด้วยนะ)
เมนูต้องลอง ที่ Baker x Tea Bar
เรามาช่วงกลางวัน เลยขอเน้นเมนูชา ขนมและบรันช์เป็นหลักนะ มาทั้งทีต้องลอง Red Velvet Cake (190 บาท) เมนูขายดีของทางร้าน ความพิเศษคือตัวช็อกโกแลตที่เคลือบอยู่ใช้วาลโรห์น่า แบรนด์ช็อกโกแลตพรีเมียมจากฝรั่งเศส รสชาติไม่หวานมากกำลังดี ในเนื้อเค้กยังมีครัมเบิ้ลช็อกโกแลตข้างใน เพิ่มเทกเจอร์กรอบ ๆ เนื้อแป้งนุ่มไม่กระด้าง อร่อยมาก ๆ
อีกเมนูเป็น Yogurt Sorbet with Berries (220 บาท) เมนูนี้เป็น Healthy Choice ด้วยนะ ตัวซอร์เบต์โฮมเมดเป็นรสโยเกิร์ตธรรมชาติ เสิร์ฟคู่กับเมอร์แรงก์กรอบ ๆ พร้อมทั้งผลไม้ที่มีความเปรี้ยว บอกเลยว่าเมนูนี้สดชื่นมาก ๆ
และ Berry Pancake (S 130 บาท/ L 2260 บาท) เมนูแพนเค้กโฮมเมดแป้งนุ่มที่ทางร้านทำเองเลย ท็อปด้วยกราโนล่าที่มีความหวานนิด ๆ ตัดกับผลไม้รสเปรี้ยว วิปครีมรสมัน และดอกไม้กินได้ ทั้งสวยทั้งอร่อย ตัวแป้งนุ่มดีมาก
กินขนมก็ต้องคู่กับชาร้อน เราเลือก Tea pot เป็น Chrysanthemum (200 บาท) ชาดอกเก๊กฮวยจักรพรรดิ ผสมผสานพลู และชาหอมหมื่นลี้ มาแบบกาใหญ่ ดอกเก๊กฮวยแน่น ๆ น้ำชาจะมีความไลต์ ๆ เบา ๆ หอมกลิ่นเก๊กฮวยดี
และม็อกเทลซิกเนเจอร์เราเลือกเป็น Elderflower (240 บาท) เป็นชามะลิผสมลิ้นจี่ ไซรัปดอกเอลเดอฟลาวเวอร์ และท็อปด้วยองุ่นสดตามฤดูกาลลูกโต ๆ เนื้อแน่น รสหวานฉ่ำ แก้วนี้หอมชาชัดดีมาก และมีรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี รู้สึกสดชื่น
ฝั่งบรันช์เป็นเมนู Shakshuka (280 บาท) เมนูอาหารเช้าสไตล์อิสราเอล เป็นไข่ดาวที่ทำให้สุกในสตูว์มะเขือเทศหอม ๆ รสจัดจ้านแบบเข้มข้น กินคู่กับขนมปังซาวโดวจ์กรอบ ๆ ช่วยตัดรสเปรี้ยวของมะเขือเทศได้ดี
อีกจานเป็น Egg Florentine (220 บาท) เมนูหน้าตาคล้าย Egg Benedict แต่เป็นไข่ดาวน้ำเสิร์ฟกับผักโขม และมีหอมแดงหวาน ๆ อยู่ด้วย บนขนมปังอิงลิงมัฟฟินเนื้อนุ่มละมุน ราดซอสฮอลแลนเดซรสนุ่มนวล มาแบบจานใหญ่ ฟินมาก!
ในอนาคตคุณนัทแย้มให้เราฟังว่า มีแพลนว่าอยากให้มี Activities ในร้าน พยายามหา Collorboration อะไรใหม่ ๆ ที่ทำให้ร้านสนุกมากขึ้น อยากสร้างคอมมูนิตี้ร่วมกัน มีกิจกรรมให้คนที่สาทร มีขนมอร่อย ๆ มีชาไปคู่กันเพราะบรรยากาศบ้านก็ค่อนข้างโฮมมี่อบอุ่น
Baker x Tea Bar
คาเฟ่ เปิดทุกวัน 09:00 – 20:00 น. | บาร์ (ปิดวันจันทร์) 17:00 – 23:00 น.
สาทร 7
BTS ช่องนนทรี | มีที่จอดรถ
Google Maps
