ใครเป็นทรัฟเฟิลเลิฟเวอร์ ยกมือขึ้น เราเองก็เป็นคอทรัฟเฟิลที่คลั่งไคล้ทรัฟเฟิลแบบสุด ๆ! แต่คราวนี้ทรัฟเฟิลที่เราคุ้นเคยไม่ได้อยู่ในอาหารอิตาเลียน แต่จะมาเป็นวัตถุดิบหลักในคอร์สโอมากาเสะแบบญี่ปุ่น ที่เสิร์ฟพรีเมียมทรัฟเฟิลให้แบบเน้น ๆ และปรุงเข้ากับอาหารญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ในร้านอาหารสุดพรีเมียมชื่อว่า Watanabe BKK

Watanabe BKK ซ่อนตัวอยู่ในย่านที่รายล้อมไปด้วยอาหารญี่ปุ่นอย่าง Nihonmura Mall (ทองหล่อ 13) ครั้งนี้เราได้พบกับคุณ โอปอล์ – เสาวลักษณ์ ย่อกลาง ผู้จัดการผู้ดูแล Watanabe BKK และยังรับบทเป็นผู้เล่าที่มาที่ไปของแต่ละเมนูด้วย

ต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ แล้ว Watanabe (วาตานาเบะ) เป็นร้านโอมากาเสะจากโอซาก้า ที่เสิร์ฟคอร์สทรัฟเฟิลโซบะโอมากาเสะ เจ้าแรกและที่เดียวในญี่ปุ่น โดยเชฟ นากะวะ คิโยตากะ โดดเด่นด้วยการนำแบล็กทรัฟเฟิลจากอิตาลีมาเป็นองค์ประกอบหลักในแทบจะทุกเมนู โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเลี่ยน และยังคงความโดดเด่นของวัตถุดิบอื่น ๆ อย่างเนื้อ หรือซุปในสไตล์ญี่ปุ่นได้ดีมาก ๆ
และเป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่าจองยากมาก ๆ มีคนมีชื่อเสียงจองกันเพียบ จองยากถึงขนาดที่ว่า ใครที่อยากลิ้มลองต้องให้คนญี่ปุ่นเป็นคนจองให้ เพราะโดยปกติร้านอาหารที่จองยากในญี่ปุ่น เขาจะเปิดขายให้กับคนท้องถิ่นก่อน


ซึ่ง Watanabe BKK เป็นการซื้อแบรนด์และลิขสิทธิ์มาเปิดในเมืองไทยเลย โดยคุณ พลอยนภัส ศรีสำราญโชค หรือที่รู้จักในนาม มาดามพัดซัง เธอเองมีเพื่อนไปชาวญี่ปุ่น เลยขอให้จอง Watanabe ที่โอซาก้าให้เมื่อ 7 ปีก่อน ติดใจในรสชาติ จนเป็นลูกค้าประจำเรื่อยมา และตามจีบขอซื้อลิขสิทธิ์มาตลอด 7 ปี คุณโอปอล์เล่าว่า จริง ๆ มาดามพัดซังขอซื้อลิขสิทธิ์ตั้งแต่ปีแรกที่ไปได้ไปกินแล้ว เพราะชอบมาก ๆ แต่เชฟนากะยังไม่ใจอ่อนสักที จนมาถึงปีนี้ที่เชฟตัดสินใจขายลิขสิทธิ์ให้กับเรา


ซึ่งในการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ ไม่เพียงได้สูตร หรือชื่อ Watanabe มาเท่านั้น แต่เรื่องของคุณภาพ ยังมีความเหมือนกับที่โอซาก้า หรือได้คุณภาพตามมาตรฐานของเชฟนากะเลย ซึ่งในช่วงแรกเชฟนากะ บินลัดฟ้ามาควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน เทรนเชฟ หรือทีมไทยทุกคนด้วยตัวเอง รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ตั้งแต่ซอส ไปจนถึงเนื้อ เชฟนากะจะเป็นคนกำหนดเองเพื่อให้ได้รสชาติที่เหมือนกับที่โอซาก้าได้มากที่สุด ความพิถีพิถันยังรวมไปถึงจานชามและตะเกียบ ที่ล้วนแล้วแต่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น
“วัตถุดิบทุกอย่างคุณนากะซังเป็นคนกำหนดเอง แม้แต่ซอสต่าง ๆ ก็กำหนดว่าต้องใช้ยี่ห้อนี้ จากที่นี่เท่านั้น หรือแม้แต่ตัวเนื้อเอง ก็จะมาเลือกชิม และกำหนดไว้เลยว่าเนื้อต้องมาจากที่นี่ ต้องเป็นส่วนนี้เท่านั้น”

ส่วน Mood and Tone ที่สาขากรุงเทพฯ จะตกแต่งเหมือนกับที่โอซาก้าเลย โดยเฉพาะตรงเคาน์เตอร์ที่มีความเป๊ะสุด ๆ แต่ที่โอซาก้าจะมีแค่ 8 ที่นั่ง ที่นี่มี 10 ที่นั่ง และมีห้อง VIP ไว้รับรองลูกค้าเมมเบอร์ ที่มานั่งดื่มก่อนจะถึงเวลาคอร์สโอมากาเสะ หรือดื่มต่อหลังจากจบคอร์สก็สามารถมานั่งที่ห้องนี้ได้เช่นกัน


สังเกตว่าจะมีตู้สติกเกอร์ตั้งอยู่ในร้านอย่างแนบเนียน ตรงนี้เป็นไอเดียของคุณพัด ที่อยากหากิจกรรมสนุก ๆ ให้กับลูกค้าระหว่างรอ ซึ่งอาจจะมีลูกค้าหนาแน่นบ้างในช่วงเย็นเพราะรอบใกล้เคียงกัน ซึ่งทางร้านก็ได้ทำทางเดินเข้า-ออกแยกกันด้วย เพื่อไม่ให้ลูกค้าสวนกันไปมา เบียดกันเกินไป ให้ความรู้สึกพรีเมียม และเป็นส่วนตัวอยู่ไม่น้อย
Watanabe BKK กับทรัฟเฟิลโซบะโอมากาเสะสุดพรีเมียมจากญี่ปุ่น
Watanabe เป็นร้านโอมากาเสะที่มีความแปลกใหม่คือเสิร์ฟไม่เหมือนกับโอมากาเสะแบบที่เราคุ้นตา ที่ปกติมักจะเป็นคอร์สมากิ ปั้นซูชิเป็นคำ ๆ หรือเน้นนำเสนอปลาดิบ แต่ที่นี่จะเสิร์ฟเป็นโอมากาเสะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (โอมากาเสะแท้จริงแล้วก็คือเมนูตามใจเชฟนั่นแหละ) ซึ่งเชฟนากะเลือกหยิบตัวทรัฟเฟิลมามาจัดเป็นคอร์ส แบ่งเป็น 4 คอร์ส คือ Standard, Gold, Diamond และ Oden (โอเด้ง)


ก่อนจะเริ่มคอร์ส เราได้ Complimentary เป็นสาเกญี่ปุ่น ให้จิบเรียกน้ำย่อยกันก่อนจะเริ่ม ส่วนใครที่อยากจัดสาเกมา Pairing กับอาหารแบบจริงจัง สามารถสั่งเพิ่มเติมได้ (นอกเหนือจากคอร์สนะ) นอกเหนือจากสาเกก็จะมีชาเขียว ซอฟต์ดริงก์ ไปจนถึงไวน์ธรรมชาติเลย


ที่นี่มีสาเกคุณภาพสูง ตั้งแต่ Dassai 45 (7,000 บาท++), Dassai 39 (9,000 บาท++), Dassai 23 (12,000 บาท++) ไปจนถึง Born Chogin, junmai Daiginjo (17,000 บาท++) สาเกพรีเมียมที่ใช้เสิร์ฟระดับจักรพรรดิ


ครั้งนี้เราได้ลองคอร์ส Diamond เสิร์ฟทั้งหมด 5 เมนู เริ่มด้วยเมนู Appetizer อย่าง Nama Yuba ฟองเต้าหู้เย็นโฮมเมดท็อปด้วยอิคุระ เสิร์ฟกับน้ำซอสโซบะดาชิ มีลูกเล่นคือให้ลองชิมเต้าหู้เย็นก่อน แล้วค่อยเทน้ำซอสลงไปจะได้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยให้ความสดชื่นได้ดี



ถัดมาเป็น Toryfu to Hotate no Aburi โฮตาเตะฮอกไกโดชิ้นหนา ที่เชฟจะนำไปเบิร์นไฟก่อนเล็กน้อย และหั่นออกเป็น 3 ส่วนแบบพอดี ท็อปด้วยหอมแดงหอมใหญ่และต้นอ่อนหัวไชเท้า ราดซอสไวน์แดงกับยูซุพอนสึ และทรัฟเฟิลสไลด์สด ๆ เมนูนี้ได้ทั้งความนุ่ม หวาน หอมทรัฟเฟิล และรสยูซุนิด ๆ เข้ากันได้ดี



เข้าสู่เมนูหลักด้วย Toryfu Wagyu Sukiyaki เซตสุกี้ยากี้ ที่ใช้เนื้อวากิวเกรด A5 ส่วน Top Round เป็นส่วนที่มีไขมันแทรกกำลังดี ไม่เลี่ยนเกินไป ท็อปด้วยทรัฟเฟิลสไลด์ พร้อมน้ำซุปสูตรเฉพาะของเชฟนากะ ที่มีความเข้มข้นมาก และซอสไข่แดงที่มีทรัฟเฟิลอีกที เมนูนี้ให้ลองคีบเนื้อแบบห่อทรัฟเฟิล แล้วนำไปแกว่างกับซุปเพียง 5 วินาที แล้วจิ้มน้ำจิ้มซอสไข่แดง จะได้ความหวานหอมของเนื้อ ซุป และทรัฟเฟิลอบอวลในปาก



เมนูไฮไลต์เป็น Toryfu Soba โซบะทรัฟเฟิล เป็นเมนูของเชฟนากะที่คิดค้นตั้งแต่ 10 ปี ได้รับการจดสิทธิบัตรที่ญี่ปุ่น ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ โดยที่สาขากรุงเทพฯ จะนำเข้าแป้งจากญี่ปุ่น และนำมาทำเส้นสด ๆ ที่นี่ เพื่อได้รสชาติที่ดีที่สุด เชฟจะค่อย ๆ บรรจงลวกเส้น แล้วเสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปโซบะดาชิ และเนย มีวิธีการกินถึง 3 แบบ ให้ความรู้สึกและรสชาติที่หลากหลาย


ปิดท้ายด้วย Toryfu to Kesen’numa – san fukahire gohan ข้าวอบหูฉลาม (เป็นหูฉลามญี่ปุ่นจากจังหวัดมิยากิ แหล่งจับปลาที่มีมายาวนาน และไม่มีการ Animal Abuse) เมนูนี้จะใช้ข้าวญี่ปุ่นที่ใช้แช่เก็บทรัฟเฟิลมาหุง ตัวข้าวก็จะมีความหอมทรัฟเฟิลในตัว เสิร์ฟมาในหม้อดินร้อน ๆ โดยเชฟจะคลุกเคล้าข้าวให้เข้ากัน ก่อนจะแบ่งเสิร์ฟเป็นถ้วย ๆ ให้เราลองกินข้าวอบแบบแห้งกันก่อน จากนั้นจะเติมน้ำซุปโอเด้งลงในชาม กลายเป็นซุปข้าวอบหูฉลามรสกลมกล่อมหอมเครื่องเทศ


นอกจากคอร์สโอมากาเสะ ที่นี่ยังมี Oden Menu สูตรพิเศษของเชฟนากะ เป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นชอบกินคู่กับเครื่องดื่มจะทำให้รู้สึกสดชื่น คุณนากะเลยหยิบเอาโอเด้งมาทำให้พรีเมียมขึ้น โดยการปรุงสูตรน้ำซุปและเลือกวัตถุดิบเอง ซึ่งเมนูโอเด้งมีให้เลือกสั่งแบบ A la carte ถึง 17 เมนู (เริ่มต้น 120 บาท)
ซึ่งแต่ละเมนูก็จะมีรสชาติของน้ำซุปที่ต่างกันด้วยนะ เราได้ลองหลากหลายเมนูทั้ง Ebiten, Mochi to iwanori, Chunai และ Gyu Suji (เมนูเอ็นเนื้อตุ๋น เป็นเมนูเดียวของโอเด้งที่มีทรัฟเฟิลสไลด์สด) เสิร์ฟมาในขนาดกำลังดี ตัวซุปให้ความสดชื่นดีมาก ๆ
สำหรับรอบการจองของ Watanabe BKK จะมีทั้งหมด 3 รอบต่อวัน คือ 12:00 , 18:00 และ 19:00 น.ระยะเวลาต่อรอบอยู่ที่ 40 นาที ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ใครที่สนใจอยากลิ้มลองพรีเมียมทรัฟเฟิลโอมากาเสะ สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ Line@ : @watanabe_bkk หรือ Instagram : @watanabe_bkk ได้เลย
Watanabe BKK
เปิดทุกวัน 3 รอบ 12:00 / 18:00 / 19:00 น.
Nihonmura Mall ทองหล่อ 13
BTS ทองหล่อ | มีที่จอดรถ (แสตมป์บัตรจอดรถที่ร้าน เหลือชั่วโมงละ 20 บาท)
Google Maps