Routeen. เชื่อว่า หนึ่งในสถานที่ที่หลายคนปักหมุดไว้ว่า หากไปโตเกียว จะต้องแวะไปที่นี่ให้ได้ นั่นคือ Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter ยิ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือและภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยแล้ว ยังไงก็ต้องไม่พลาดอยู่แล้วล่ะ

งานนี้เราขอแบ่งรีวิวแบบออนทัวร์เอาไว้อย่างละเอียดด้วยวิดีโอ (ที่เยอะจนต้องแบ่งเป็น 2 ตอนกันเลย!) ซึ่งคอนเฟิร์มตรงนี้เลยว่า วิดีโอเราสปอยล์เนื้อในของสตูดิโอนี้แน่นอน (ฮ่า) เราจึงขอทำเป็นโพสต์รวมภาพบรรยากาศภายในสตูดิโอนี้เอาไว้ด้วย และโพสต์นี้ก็เหมาะกับคนที่ไม่อยากถูกสปอยล์ อยากเข้าไปดูบรรยากาศข้างในกันด้วยตาตัวเองมากกว่านะ (หรือใครอยากเห็นทุกอย่างแบบครบ ๆ ก็รอดูวิดีโอเร็ว ๆ นี้ได้เลย)

แต่เราก็ไม่ได้นำภาพบรรยากาศมาฝากเพียงอย่างเดียว แต่ยังมี 7 ทริกเล็ก ๆ ก่อนจะตีตั๋วเข้าชมกันจริง ๆ พร้อมเล่าคร่าว ๆ ว่าจะได้เจออะไรข้างในด้วยนะ
จองตั๋วล่วงหน้า แนะนำให้อย่าจองเลยบ่ายสามโมงเย็น

ที่บอกไปอย่างนั้นเพราะว่าสตูดิโอใหญ่มาก ๆ และข้อมูลต่าง ๆ ภายในก็เยอะมาก ๆ จนเราใช้เวลาอย่างมากในการผ่านไปแต่ละโซน จากการลองเดินด้วยตัวเอง (แบบที่ไม่ได้ไล่อ่านข้อมูลไปทั้งหมด และข้าม ๆ ไปบ้างบางโซน) ยังต้องใช้เวลาอยู่ที่ 4-5 ชั่วโมง ดังนั้นหากเป็นมักเกิลที่รักในโลกเวทย์มนตร์จริง ๆ เราขอเตือนว่า ต้องเผื่อเวลาไว้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงได้เลย


และที่อยากให้ไม่จองเย็นจนเกินไป เพราะเมื่อถึงเวลาปิดสตูดิโอปุ๊บ เจ้าหน้าที่ของสตูดิโอจะเข้ามาประจำการ ยินเรียงเป็นจุด ๆ แล้วคอยต้อนให้เราออกจากสตูดิโอโดยทันที (แบบสุภาพ ๆ สไตล์ญี่ปุ่น) นั่นแปลว่านาฬิกาบอกเวลา 19:00 น. ปุ๊บ ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนของพื้นที่ี จะถูกต้อนออกทันทีแม้จะยังดูไม่จบนะ เพื่อความชัวร์ หาคิวที่ยังว่างช่วงเช้าไว้ดีกว่า จะได้เดินเที่ยวได้แบบไม่รีบ
ไปถึงสตูดิโอก่อนเวลาจองสัก 1-2 ชั่วโมง


แนะนำให้ไปถึงเวลาจองล่วงหน้าสักหน่อย เพราะจากสถานี Toshimaen จนถึงประตูทางเข้าสตูดิโอ มีอะไรให้เราแวะตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ที่สถานีที่ตกแต่งบรรยากาศให้เราแวะถ่ายรูปเล่นได้ ตู้โทรศัพท์ที่ลองยกหูดูแล้วจะมีข้อความอะไรให้เราฟัง สวนสาธารณะสวย ๆ ที่ถ่ายรูปเล่นได้ งานตกแต่งในสวนธีมแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็มี ไปจนถึงร้านขายของที่ระลึกที่ใหญ่มาก ๆ และใช้เวลาเดินไม่น้อยทีเดียว หากไปถึงตรงเวลา เราอาจเสียเวลาไปกับส่วนนี้ได้นะ


อ้อ ร้านอาหาร The Food Hall ที่ตกแต่งเหมือนห้องโถงใหญ่ในฮอกวอตต์ (ที่มีเทียนไขลอยอยู่บนเพดาน ที่ใคร ๆ ก็จำได้) ก็อยู่ในโซนข้างนอกก่อนผ่านประตูเข้าไปนะ ดังนั้นถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศกินอาหารในโถงนี้ ก็ต้องมาล่วงหน้าเช่นกัน
ได้ยินมาว่าต้องชอปก่อนค่อยเดินเที่ยว เพราะออกมาแล้วจะไม่เจอร้านขายของที่ระลึกแล้ว เรื่องจริงหรือไม่?

หลายคนได้ยินข้อมูลมาแบบนี้ (เราเองก็เช่นกัน) จุดนี้ต้องขอบอกเลยว่า “ไม่จริง” แม้ว่าจากผังแล้ว โซนร้านขายของที่ระลึกจะอยู่ฝั่งซ้าย และประตูทางเข้าจะอยู่ตรงกลาง ส่วนประตูทางออกจะอยู่ฝั่งขวาก็ตาม แต่พอเราเดินจนจบรูทแล้ว ทางออกจะออกมาบริเวณตรงกลางของร้านขายของที่ระลึกนั้นพอดี ดังนั้นหากใครที่อยากเก็บของชิ้นใหญ่ ๆ หรือตั้งใจจะซื้อของกลับไปเป็นที่ระลึกเฉย ๆ ไม่ได้ซื้อเข้าไปเพื่อใส่ประดับเวลาถ่ายรูป ก็ยังเก็บเอาไว้มาซื้อก่อนกลับบ้านได้นะ จะได้ไม่ต้องแบกไปตลอดทางยังไงล่ะ

แต่ก็อย่างที่บอก เมื่อถึงเวลาปิดทำการแล้ว ทุกอย่างก็จะปิดหมด ดังนั้นหากตั้งใจจะซื้อของกลับบ้านทีหลัง ก็เผื่อเวลาเดินออกมาก่อนสตูดิโอปิดด้วยล่ะ ส่วนใครยังไม่มีเสื้อผ้าหน้าผมต่าง ๆ แม้ว่าข้างนอกก็มีขาย (เช่น Don Don Donki หรือ Kiddy Land) แต่เราแนะนำให้มาซื้อข้างในนี้เลย เพราะราคาต่างกันไม่กี่เยน แต่คุณภาพดูดีมาก ๆ เลยล่ะ ไปจนถึงถ้าใครมีแพลนว่าจะไป Universal Studio Japan ที่โอซาก้า จะบอกว่า ชุดพ่อมดที่นี่ราคาถูกกว่า (นิดนึง) ด้วยนะ
ถึงโซนเอาต์ดอร์แล้ว อย่าเพิ่งคิดว่าจบ เพราะนั่นยังแค่ครึ่งทาง

แต่ละโซนที่อยู่ข้างในนั้นตื่นตาไม่น้อย และแม้จะใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงในการเดินดูแต่ละส่วนของสตูดิโอ ที่โชว์งานเบื้องหลัง และความอลังการต่าง ๆ ที่ยกมาให้เห็นจริง ๆ เช่น โถงกลางของฮอกวอตต์ (ที่เท่ตรงด้านหลังก็ยังโชว์ว่า เวลาสร้างในสตูดิโอจริง ๆ แล้ว โครงไม้ก่อกันอย่างไร) บันไดวน หรือสนามควิซดิช


พอเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงส่วนของบ้านแฮกริด รถเมล์สองชั้นอังกฤษ บ้าน Privet Drive หรือ Hogwarts Bridge ที่อยู่โซนด้านนอก และมีร้านอาหาร กับร้านบัตเตอร์เบียร์ให้บริการอยู่

หลายคนอาจคิดว่าจบแล้ว (เพราะถูกส่งออกมาพื้นที่เอาต์ดอร์แล้วไงล่ะ) จึงใช้เวลาในพื้นที่นี้นานหน่อย อาจเดินเล่นชิลล์ ๆ ต่อแถวถ่ายภาพ หรือนั่งกินข้าวกัน แต่ขอบอกว่าอย่าชะล่าใจ เพราะหลังจากนี้จะมีอีกหลายโซนรอเราอยู่ และพื้นที่เอาต์ดอร์ตรงนี้บอกกับเราว่า คุณเที่ยวมาแล้วเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นนะ ดังนั้นหากใช้เวลาในครึ่งแรกนี้ไปเท่าไหร่ ให้คิดเลยว่าเราจะต้องใช้เวลาเท่ากันในส่วนที่เหลือแน่นอน
เตรียมสมองไว้โล่ง ๆ และเมมกล้องให้พร้อม

สำหรับสาวกภาพยนตร์ชุดนี้ ที่อยากรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของงานสร้างอย่างละเอียด ที่นี่น่าจะเป็นสวรรค์มาก ๆ เพราะนอกจากเซ็ตติง ตัวละคร งานออกแบบ แล้ว ยังลงลึกไปถึงงานแสง งานเสียง งานตัดต่อ การทำโฟเลต์ หรืองานออกแบบหุ่นยนต์ในภาพยนตร์ (เหมาะกับสายนิเทศศาสตร์มาก ๆ) ที่จะต้องใช้เวลาอย่างมากในการอ่านข้อมูลต่าง ๆ แน่นอน ดังนั้นทำหัวให้โล่ง ๆ ไว้นะ
หากไม่ต้องการถ่ายภาพที่จุดไหน สามารถเดินผ่านไปได้เลย

แต่ละโซนเอง นอกจาการจัดพื้นที่ที่น่าถ่ายรูปไปเสียทุกโซนแล้ว ยังมีกิจกรรมถ่ายภาพต่าง ๆ ที่ให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมได้ และสามารถดาวน์โหลดภาพต่าง ๆ เก็บเอาไว้ในมือถือของเราได้ด้วย ถึงอย่างนั้น บางจุดของการถ่ายภาพก็อาจจะมีคิวที่ต้องต่อแถว และบางจุดเองก็มีค่าใช้จ่ายในการถ่ายภาพเพิ่มเติม (เช่น จุดขี่ไม้กวาด และการถ่ายภาพโปสเตอร์ประกาศจับแบบ ซีเรียส แบล็ก ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ)

ซึ่งหากใครต้องการทำเวลา หรือไม่ต้องการจ่ายเงินแพิ่ม ก็สามารถข้ามกิจกรรมได้เลย แต่ไหน ๆ ก็มาแล้ว เราก้อยากให้ลองร่วมสนุกให้ครบทุกจุดไปเลยดีกว่าน้า
ได้รูปแล้ว อย่าลืมดาวน์โหลดเก็บไว้นะ

แต่ละกิจกรรมถ่ายภาพ (และวิดีโอ) เราจะต้องล็อกอินผ่าน QR Code ที่มีไว้ จากนั้นใช้ QR Code ที่เราเจนเอาไว้ในเว็บไซต์นั้นไปสแกนทีละจุดกิจกรรม ภาพจากการร่วมกิจกรรมของเราทั้งหมด จะถูกรวบรวมเอาไว้ในนั้น ดังนั้น ทุกครั้งที่เข้าไปร่วมกิจกรรมในแต่ละจุด ต้องไม่ลืมแสกน QR Code ก่อนด้วยนะ ไม่อย่างนั้นอดได้รูปไม่รู้ด้วย
อีกอย่าง ภาพทั้งหมดนี้จะอยู่ในระบบเพียง 30 วันเท่านั้น อย่าลืมดาวน์โหลดออกมากันล่ะ
นี่เป็นเพียงคำแนะนำส่วนหนึ่งส่วนหนึ่งในการเตรียมตัวไปสนุกกับ Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter เท่านั้น ใครเคยไปแล้ว แล้วมีคำแนะนำอะไรให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะไปบ้าง ก็อย่าลืมมาแชร์กันไว้ได้นะ