ไปเที่ยว Van Gogh: The Immersive Experience ที่ Washington D.C. กันก่อนไป Van Gogh Alive ที่ ICONSIAM 31 มีนาคมนี้

ปีนี้ประเทศไทยคึกคักกับทุกกิจกรรมมากกกก ทั้งคอนเสิร์ตเอย อิเวนต์เอย รวมไปถึงงานอาร์ตและนิทรรศการต่าง ๆ ทั้งงานของศิลปินชาวไทย หรืองานใหญ่ ๆ ระดับโลก ก็ล้วนปล่อยของให้เราได้ออกจากบ้านไปเสพงานศิลป์เหมือนที่เคยทำมาก่อนโควิด ซึ่งอีกหนึ่งงานที่หลาย ๆ คนตั้งตารอในตอนนี้ก็คงเป็น Van Gogh Alive Bangkok ที่หยิบเอาผลงานหลายชิ้นของแวน โก๊ะ มานำเสนอในรูปแบบ Immersive ที่ทำให้เราเหมือนเข้าไปอยู่ในผลงานชิ้นนั้น ๆ ของเขาจริง ๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งก็รออีกไม่นาน เพราะมาแน่ในวันที่ 31 มีนาคม 2566 นี้ ที่ชั้น 6 ศูนย์การค้า ICONSIAM ข้าง ๆ โรงภาพยนตร์เลย


หากจำกันได้ บ้านเราเคยมีนิทรรศการมัลติมีเดียแบบนี้ของศิลปินเอกระดับโลกอย่าง Van Gogh (แวน โก๊ะ) มาก่อนแล้ว กับ Van Gogh Live And Art ที่ River City เมื่อเกือบ 3 ปีก่อน ในงานนั้นเราก็ได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมงานศิลปะของแวน โก๊ะ ในรูปแบบมัลติมีเดียคล้าย ๆ กัน โดยหยิบผลงานของแวน โก๊ะ มาทั้งหมด 300 ชิ้น และนำเสนอแบบฉายขึ้นกำแพงรอบตัว สร้างให้ภาพมีมูฟเมนต์เพิ่มเติม ความยาวกว่า 40 นาที ให้เรานั่งดูกันแบบอิ่ม ๆ ไปเลย

“จริง ๆ แล้วตอนนี้นอกจากงาน Van Gogh Alive แล้ว โลกของเรายังมีงานของแวน โก๊ะ แบบนี้อีกงานหนึ่งในชื่อ Van Gogh: The Immersive Experience ที่รูปแบบงานดูจะคล้ายกันเลย แถมยังมีใกล้ ๆ บ้านเราอย่างประเทศสิงคโปร์ในเวลานี้อีกด้วย”

routeen-van-gogh-immersive-washington-dc

ซึ่งงาน Van Gogh Alive Bangkok ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะไม่เหมือนกับงานครั้งก่อนที่เราเคยไปดูมาแน่ ๆ เพราะนี่คือการนำเสนอผลงานผ่านเทคโนโลยี Immersive หรือการผสานกันระหว่าง AR และ VR คือเราสามารถเข้าไปสู่โลกเสมือนจริงนั้นได้โดยที่ไม่ต้องสวมแว่น VR แต่จะทำการเปลี่ยนบรรยากาศและสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เราอยู่แทน! ซึ่งจริง ๆ แล้วตอนนี้นอกจากงาน Van Gogh Alive แล้ว โลกของเรายังมีงานของแวน โก๊ะ แบบนี้อีกงานหนึ่งในชื่อ Van Gogh: The Immersive Experience ที่รูปแบบงานดูจะคล้ายกันเลย แถมยังมีใกล้ ๆ บ้านเราอย่างประเทศสิงคโปร์ในเวลานี้อีกด้วย

 

แล้วทั้งงาน Van Gogh Alive Bangkok กับ Van Gogh: The Immersive Experience แตกต่างกันอย่างไรล่ะ? เรื่องนี้เราอาจจะตอบไม่ได้จนกว่าจะได้เห็นงานจริงของ Van Gogh Alive Bangkok แต่สิ่งที่เราบอกได้ตอนนี้คือ งาน Van Gogh: The Immersive Experience นั้นน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหน เพราะ Routeen. มีโอกาสไปเยี่ยมงานนี้ที่ Washington D.C. และไม่พลาดที่จะมาแชร์ให้ได้รู้กันด้วยล่ะ

routeen-van-gogh-immersive-washington-dc

งานนี้เขาจัดที่ Bryant Street บนโกดังขนาดใหญ่เบิ้มตั้งเด่นตรงหน้า เพ้นต์ลายสไตล์คุณปู่แวน โก๊ะ เอาไว้เล็ก ๆ กับชื่องานที่บอกตรงนี้ว่ามาไม่ผิดแน่นอน พอเข้าไปข้างในแล้ว สิ่งแรกที่เราเจอเลยก็คือ…โซนขายของที่ระลึก! (งงใจมากกกก ขายกันก่อนชมงานอี้กกก) ที่มีตั้งแต่ร่ม แก้ว จาน เสื้อ ไปจนถึงกระเป๋าสตางค์ลายผลงานแวน โก๊ะ แต่เอาจริง ๆ ก็มีข้อดี เพราะบางคนอาจจะอยากได้ของที่ระลึก แต่ไม่ได้อยากเข้าไปชมงานขนาดนั้น หรืออาจจะชมงานมาก่อนแล้ว เพิ่งนึกได้ว่าอยากได้ของสักชิ้น ก็สามารถซื้อของได้โดยไม่ต้องเสียค่าบัตรเข้าชมงานอีกรอบ

routeen-van-gogh-immersive-washington-dc

ผ่านโซนดักทรัพย์มาได้ เราก็จะเดินเข้างานกันแล้ว จุดนี้เราจะได้เจอตั้งแต่รูปปั้นจำลองส่วนศีรษะของแวน โก๊ะ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และภาพผลงานของแวน โก๊ะ ที่วาดตัวเองหลายเวอร์ชั่นให้เราได้ชมกัน ผ่านจุุดนี้ไปงานจะพาเราไปรู้จักแวน โก๊ะ มากขึ้น ผ่านประวัติของเขา ที่มีทั้งวิดีโอและเสียงบรรยายให้เราได้ฟัง

 

กิมมิกหนึ่งที่เราชอบ และทำให้เข้าใจตัวของแวน โก๊ะ มากขึ้น ก็คือการพาเราไปทำความเข้าใจความพิเศษของเขาในเรื่องของ “สี” ที่มองเห็นไม่เหมือนกับคนทั่วไป น้ำเงินเฉดที่เราเห็น จะไม่ใช่เฉดเดียวกับที่แวน โก๊ะ เห็น นั่นทำให้ชิ้นงานของเขาฟีลสเปเชียลกว่านั่นเอง

 

หลังจากนั้นเราจะผ่านโซนชิ้นงานคอลเลคชันเหล่าดอกไม้ของแวน โก๊ะ (เป็นภาพจำลองติดผนัง) ให้เราได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของเหล่าดอกทานตะวัน และดอกไม้อื่น ๆ ของเขา กับอีกหนึ่งไฮไลต์ (ที่เหมือนว่าไม่ว่าจะงานไหนของแวน โก๊ะ ก็ต้องมี) คือการจำลองห้องนอนของแวน โก๊ะ จากภาพดังอย่าง Bedroom in Arles มาให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปเล่นกันด้วย

routeen-van-gogh-immersive-washington-dc
routeen-van-gogh-immersive-washington-dc

จบจากโซนนี้ เราจะเข้าสู่ไฮไลต์ที่พวกเราตีตั๋วเข้ามาดูกัน คือการดูงานของแวน โก๊ะ ในรูปแบบ Immersive ที่นี่เขาตีห้องสี่เหลี่ยมเปล่า ๆ ขนาดใหญ่ กรุด้วยผนังสีขาวทั้งสี่ด้านเพื่อรองรับการฉายภาพ รวมถึงบนพื้นที่เรานั่ง ๆ ยืน ๆ กันอยู่นี้ด้วย โถงกว้างนี้จะมีเก้าอี้หลากหลายรูปแบบกระจายให้เราได้เอนตัวชมผลงานตามสะดวก จะเป็นเก้าอี้ชายหาด หรือบีนแบ็กก็มี แต่เราชอบที่จะลงไปเกลือกกลิ้งบนพื้น แล้วนอนดูภาพเหล่านั้นที่สาดลงมาทั้งบนพื้นและรอบตัวเรามากกว่า ได้อารมณ์และชิลล์กว่าเยอะ ด้วยภาพที่สวยอยู่แล้ว บวกกับดนตรีที่เข้ากับมู้ดของภาพ และเทคโนโลยีที่ทำให้ภาพมีเรื่องราวและชีวิตมากขึ้น ทำให้เราใช้เวลาอยู่ในห้องนี้เป็นชั่วโมงโดยไม่เบื่อเลย

routeen-van-gogh-immersive-washington-dc

คราวนี้เราคงต้องมาดูกันว่า Van Gogh Alive Bangkok จะมีอะไรน่าสนใจและพิเศษบ้าง ถึงอย่างนั้นงานนี้ก็ถูกจัดมาแล้วกว่า 80 เมือง อาทิ ปักกิ่ง ประเทศจีน, เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี, เดนเวอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา, ลอนดอน ที่สหราชอาณาจักร, มาดริด ประเทศสเปน, มอสโก ประเทศรัสเซีย, โรม ประเทศอิตาลี และซิดนีย์ ออสเตรเลีย และได้ยินมาว่า เราจะได้ดูงานของแวน โก๊ะ กันมากถึงกว่า 3,000 ภาพเลยนะ

routeen-van-gogh-immersive-washington-dc

เราแอบไปส่องหน้างานมาแล้ว พบว่าผู้จัดกำลังเตรียมตัวอย่างจริงจังและเร่งมือกันสุด ๆ เพื่อให้ทันการเปิดตัวในวันที่ 31 มีนาคม 2566 นี้ ซึ่งวันเปิดงานก็ใกล้กับวันเกิดจริงของแวน โก๊ะ และวันสิ้นสุดงานใน 31 กรกฏาคม 2566 ก็ใกล้กับวันเสียชีวิตของของแวน โก๊ะ ในชีวิตจริงเช่นกัน

Van Gogh Alive Bangkok
31 มี.ค. 2566 – 31 ก.ค. 2566 เวลา 10:30 – 21:00 น.
บัตร Early Bird (เข้างานได้ถึงวันที่ 30 เม.ย. 66) ราคา 690 บาท
บัตรนักเรียน นักศึกษา (ไม่เกินปริญญาตรี) ราคา 480 บาท, วีไอพี 1,490 บาท, บุคคลทั่วไป 990 บาท
ชั้น 6 ศูนย์การค้า ICONSIAM 
รถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร / เรือข้ามฟากจากท่าเรือสี่พระยา หรือท่าเรือสาทร

google maps