สาวกดิสนีย์เตรียมกรี๊ด! โซนใหม่ของ Tokyo DisneySea อย่าง Fantasy Springs กำลังจะเปิดให้บริการแล้วในฤดูใบไม้ผลิ พ.ศ. 2567 นี้

หนึ่งในหมุดหมายที่ใคร ๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็ต้องใส่สวนสนุกอย่าง Tokyo DisneySea (รวมถึง Tokyo DisneyLand ด้วยในบางครั้ง) เข้าไปด้วย นั่นเพราะนี่เป็นธีมพาร์กของ Disney ในนาม DisneySea เพียงหนึ่งเดียวของโลก และยังมีเครื่องเล่นพร้อมโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงที่ตั้งเองที่ค่อนข้างพิเศษ คือติดทะเล ทำให้ได้วิวทะเลและท้องฟ้าสวย ๆ มาด้วย ถึงอย่างนั้น Tokyo DisneySea ก็ไม่ได้มีการอัปเดตโซนใหม่มานาน จนถึงตอนนี้ที่กำลังจะมีโซนใหม่ล่าสุด แถมมาแบบอลังการมาก ๆ และจะเปิดให้เราได้เข้าไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี พ.ศ. 2567 นี้แล้วในชื่อ Fantasy Springs (แฟนตาซี สปริงส์)

Tokyo DisneySea Fantasy Springs
Tokyo DisneySea Fantasy Springs location

หากพูดแล้ว จริงๆ โซนใหม่นี้ตั้งใจจะเปิดตัวในปีนี้ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้งานก่อสร้างล่าช้า รวมถึงวัสดุที่ต้องใช้ในการก่อสร้างก็ขนส่งมาได้อย่างยากลำบากด้วย ทำให้แพลนต้องเลื่อนเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิในปีหน้าแทน (ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายน หรือไม่ก็ต้นเดือนพฤษภาคม) โดยโซนใหม่นี้จะตั้งอยู่บนพื้นที่ของลานจอดรถเก่าระหว่าง Tokyo DisneyLand และ Tokyo DisneySea และมีงบประมาณสูงถึง 320 พันล้านเยน ซึ่งบานปลายจากที่ตั้งไว้ที่ 250 พันล้านเยน เราคงต้องมาดูกันว่ามีอะไรที่ทำให้งบประมาณการก่อสร้างพุ่งสูงขนาดนี้ และใช้เม็ดเงินมากเป็นประวัติการณ์ในการก่อสร้างโซนใหม่ ๆ ของดิสนีย์ในญี่ปุ่นเลยด้วย

fantasy-springs-waterfall-entrance

โดยทางเข้าจะถูกสร้างขึ้นใหม่ ให้เป็นโลกสุดแฟนตาซีของเทพนิยายทั้ง 3 เรื่องที่บรรจุอยู่ภายในโซนนี้ ได้แก่ Frozen, Tangled และ Peter Pan โดยทางเข้าจะตั้งอยู่ระหว่าง Lost River Delta และ Arabian Coast นะ เขาว่าบริเวณทางเข้าจะถูกออกแบบโดยให้เป็นสวนหินและน้ำตก ที่ผาหินนั้นจะแอบซ่อนตัวละครของดิสนีย์ทั้ง 3 เรื่องนี้เอาไว้อย่างเนียน ๆ ด้วย

fantasy springs at night

และถ้าเกิดอยู่จนถึงช่วงค่ำ บริเวณน้ำตกนี้จะเรืองแสง คล้ายกับมีสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ มากมายที่เปล่งแสงออกมาได้ โดยได้บริษัท The Oriental Land มาช่วยดูแลเทคนิคนี้ และแม้ว่าตอนนี้เราจะยังไม่เห็นภาพจริง ๆ ว่าข้างในจะเป็นอย่างไร แต่ก็มี Concept Art ปล่อยออกมาให้ได้ดูกันแล้ว และคาดว่าของจริงก็น่าจะหนีไม่พ้นภาพร่างเหล่านี้ ถ้าอย่างนั้นเราออกไปลุยทั้ง 3 โซนเป็นน้ำจิ้มพร้อมกันเลยดีกว่า


Tokyo DisneySea : Fantasy Springs – Frozen Kingdom Zone

tokyo-disneysea-frozen-fantasy-springs

ธีมพาร์ก Frozen ของที่นี่จะถูกเซ็ตให้อยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2556 หลังจากที่เอลซ่าควบคุมพลังได้ และเมืองเอเรนเดลก็กลับคืนสู่ความสงบสุข เราจะได้เห็นภูเขาน้ำแข็งสูงตั้งตระหง่าน รวมถึงพระราชวังน้ำแข็งของเอลซ่า (ที่น่าจะอยู่ไกล ๆ ไม่สามารถเข้าไปได้) โซนนี้เครื่องเล่นจะมีความเกี่ยวข้องกับน้ำ รวมถึงมีร้านขายอาหารแทรก ๆ อยู่ด้วย

fantasy-springs-frozen

Anna and Elsa’s Frozen Journey คือเครื่องเล่นแรกที่เราจะได้เจอในโซนนี้ เป็นการล่องเรือผ่านเรื่องราวมหากาพย์และซาบซึ้งของสองพี่น้อง โดยมีความยาวถึง 6 นาทีครึ่ง ซึ่งจะเป็นเรื่องราวของ Frozen ในภาคแรก และแน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมเพลงดัง ๆ ในหนังอีกเยอะเลยล่ะ และบริเวณปราสาทเอเรนเดลนั้นจะเป็นร้านอาหาร Royal Banquet of Arendelle ซึ่งเป็นร้านในร่ม แต่ถ้าใครอยากนั่งชิลล์ ๆ รับลมก็มีอีกหนึ่งร้านที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าผา fjord นะ


Tokyo DisneySea : Fantasy Springs – Rapunzel’s Forest

Tokyo-DisneySea-Fantasy-Springs-Rapunzel’s Forest

มากันที่อีกโซนของแอนิเมชั่นที่หลายคนชื่นชอบอย่าง Tangled แน่นอนว่าจะขาด “หอคอยราพันเซล” ในหุบเขากลางป่าใหญ่ไปไม่ได้ ติดตั้งโคมไฟเรียงรายตามทางเดิน หน้าต่างโรงเรือ มาพร้อมเครื่องเล่น 1 เครื่อง และร้านอาหารอีก 1 ร้าน

overall-rapunzel-zone-routeen

Rapunzel’s Lantern Festival น่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่แสนจะโรแมนติกที่สุดของธีมพาร์กนี้ก็ว่าได้ กับการล่องเรือแสนโรแมนติกไปยังเทศกาลโคมไฟประจำปี และสถานที่อื่นๆ ที่ปรากฏในภาพยนตร์ โดยเครื่องเล่นจะมีความยาวทั้งสิ้น 5 นาที และว่ากันว่าเครื่องเล่นจะพาเราไปอยู่ในเหตุการณ์ที่ ราพันเซล กำลังตกหลุมรัก ฟลินน์ไรเดอร์ อีกด้วย

tangled-rapunzel

ส่วนห้องอาหารจะมาในธีม The Snuggly Duckling หรือ “ลูกเป็ดขี้เหร่” ซึ่งเป็นร้านอาหารแบบเคาน์เตอร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโรงเตี๊ยม ซึ่งก็มีอาหารหลากหลายแนวให้เลือกชิมกันมากมาย


Tokyo DisneySea : Fantasy Springs – Peter Pan’s NeverLand

Peter-Pan-NeverLand

หนึ่งในแอนิเมชั่นสุดคลาสสิกของวอลต์ ดิสนีย์ ที่จะให้เราสวมบทบาทเป็นสมาชิกของ Lost Boys และออกไปสำรวจเรือโจรสลัดด้วยกัน แวะฝากท้องในที่ซ่อนลับของพวกเรา และ Pixie Hallow ที่ทิงเกอร์เบลล์อาศัยอยู่ โซนนี้จะมีเครื่องเล่นอยู่ทั้งหมด 2 เครื่อง แน่นอนว่าต้องมีรานอาหารด้วย

routeen-peterpan-neverland-zone

เครื่องเล่นแรกกับ Peter Pan’s Never Land Adventure ที่จะพาเราออกไปผจญภัยพร้อมปีเตอร์แพน และทิงเกอร์เบลล์ เพื่อช่วยเหลือ “จอห์น” น้องชายของเวนดี้จากกัปตันฮุก และเหล่าสมุนของเขา เครื่องเล่นจะต้องใส่แว่นสามมิติ และต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 100 เซนติเมตรถึงจะร่วมสนุกได้ (น่าจะเป็นเครื่องเล่นที่ตื่นเต้นไม่น้อย) อีกเครื่องเล่นคือ Fairy Tinker Bell’s Busy Buggies เครื่องนี้จะเหมาะสำหรับเด็ก ๆ มากขึ้น กับการพาเราไปช่วยทิงเกอร์เบลล์จัดส่งของใน Pixie Hallow พร้อมกับไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ที่ทิงเกอร์เบลล์ต้องไปส่งสินค้าให้กับเหล่านางฟ้า เครื่องเล่นนี้จะสั้น ๆ เพียงสองนาทีเท่านั้น


Tokyo DisneySea Fantasy Springs Hotel

Fantasy-Springs-resort

เปิดโซนใหม่ใหญ่เบิ้มทั้งที ก็ต้องมีโซนรีสอร์ตใหม่ด้วย โดยจะเป็นโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่ของสวนสนุก โดยมีสวนเชื่อมต่อกัน มีจำนวน 475 ห้อง พร้อมห้องอาหาร 2 ห้อง เล้าจน์ และร้านขายของที่ระลึก ตัวโรงแรมจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ได้แก่ Fantasy Chateau และ The Grand Chateau โดยห้องดีลักซ์ทั้งหมดจะอยู่ในอาคาร Fantasy Chateau ส่วนห้องที่อัปเกรดกว่าจะอยู่ใน The Grand Chateau ซึ่งไทป์ห้องก็สามารถเลือกได้ทั้งวิวสวน และวิวอีกฝั่ง (ที่ยังไม่รู้ว่าจะเห็นอะไรเหมือนกัน)

routeen-Tokyo DisneySea

งานนี้ถือว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ดิสนีย์ได้เป็นอย่างมาก และเรียกว่าดิสนีย์แลนด์ในเอเชียบ้านเราก็อัปเดตต่าง ๆ กันอย่างรัว ๆ โดยโซนใหม่ของ Tokyo DisneySea นี้จะกว้างถึง 140,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าทุกโซนที่เคยมีมาในดิสนีย์ซี เรียกว่างานนี้ต้องวอร์มขากันให้ดี เผลอ ๆ เก็บให้หมดทั้งธีมพาร์ก วันเดียวอาจไม่พอแล้วล่ะ!