ต้องบอกว่า ตรอกสุกร ยังคงเป็นย่านที่รวบรวมอาหารอร่อยเอาไว้อย่างแน่น ๆ และหลาย ๆ ร้านก็เปิดขายกันมาอย่างช้านาน ทั้งอาหารจานเดียว อาหารตามสั่ง ของกินเล่น ไปจนถึงของหวานอย่างไอศกรีม แต่ถ้ามองแล้ว ตรอกสุกร ยังขาด ร้านกาแฟ ให้เราได้แวะจิบเครื่องดื่มดับกระหาย ก่อนออกตะลุยฝากท้องในย่านนี้อีกครั้ง และตอนนี้ การมาถึงของ Tap’s Everyday Coffee ก็เหมือนจะเติมเต็มในตรอกนี้สมบูรณ์มากขึ้น

แล้วที่ตั้งของร้านก็เตะตามาก ๆ เพราะถ้าเราเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนร้าน จะเห็นป้าย ไท้เซ่งง้วนแมชินเนอรี่ เพราะนี่คือ ร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่ในร้านจำหน่ายอะไหล่เครื่องสูบน้ำอีกทีหนึ่ง ทำให้เกิดบรรยากาศของร้านที่พิเศษและโดดเด่นกว่าใครมาก ๆ แม้ว่า คุณแท๊ป – ธนิศร อมรสุรเดช เจ้าของร้านและบาริสตาของ Tap’s Everyday Coffee จะง่วนอยู่หน้าบาร์แทบทั้งวัน แต่ก็ยังแวะมาคุยกับ Routeen. ได้เรื่อย ๆ ที่ว่าง


และเราเชื่อว่าชาวสยามก็อาจจะคุ้น ๆ คุณแท๊ปอยู่บ้าง เพราะก่อนหน้านี้คุณแท๊ปเคยเปิดร้านอาหารอยู่ในสยามสแควร์มาก่อน ที่เปิดมายาวนานกว่าทศวรรษแล้ว แต่ในช่วงเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ที่ต้องล็อกดาวน์ ทำให้ร้านอาหารจำเป็นต้องปิดให้บริการหน้าร้านไปด้วย

เมื่อร้านอาหารกลับมาเปิดอีกครั้ง ก็พบว่ายอดขายไม่กลับมาเป็นเหมือนก่อนเหตุการณ์การแพร่ระบาด จึงเริ่มไอเดียของการเปิดร้านกาแฟดริปเล็ก ๆ ภายในร้านอาหารนั้นขึ้น เนื่องด้วยคุณแท๊ปเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟ และดื่มทุกวันอยู่แล้ว และค่อยขยับขยายขึ้นมาเรื่อย ๆ จากกาแฟดริป สู่โรบอตเอสเพรสโซ เครื่องแฟลร์ ผ่านไปกว่า 3 ปี จึงเข้าสู่มุมกาแฟที่ใช้เครื่องแมชชีน เพื่อตอบโจทย์ความรวดเร็วของวิถีชีวิตชาวสยามสแควร์ด้วย

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทางจุฬาฯ ก็ต้องการขอพื้นที่คืน เพื้อนำพื้นที่ไปพัฒนาโครงการใหม่ โดยให้เวลาอีก 3 เดือนนับจากการแจ้งข้อมูลในวันนั้น พี่ชายของคุณแท๊ป (ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารในเวลานั้น) จึงตัดสินใจออกทันที จึงต้องปิดร้านลงกระทันหัน ในช่วงจังหวะที่ร้านกาแฟกำลังไปได้สวยพอดี คุณแท๊ปจึงต้องมองหาลู่ทางใหม่ ในวันที่ตัวเองเคว้งในตอนนั้น

จนพี่ของคุณแท๊ป ที่เป็นเจ้าของร้านขายอะไหล่เครื่องสูบน้ำแห่งนี้ มาชวนให้เปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ หน้าร้านชั่วคราวไปก่อน โดยเสนอให้ทำร้านเป็นเพียงซุ้มเล็ก ๆ หน้าร้านเท่านั้น แต่คุณแท๊ปมองว่า หากตัวเองจะทำ จะต้องเปิดเป็น ร้านกาแฟ จริง ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงซุ้มหรือโต๊ะ
“คุณแท๊ปมองว่า หากตัวเองจะทำ จะต้องเปิดเป็น ร้านกาแฟ จริง ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงซุ้มหรือโต๊ะ จึงเปลี่ยนพื้นที่เก็บอะไหล่ในคูหาฝั่งซ้ายสุดของร้าน ให้เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ”
จึงเปลี่ยนพื้นที่เก็บอะไหล่ในคูหาฝั่งซ้ายสุดของร้าน ให้เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่เกือบจะเป็น Standing Coffee แต่มีเก้าอี้ ม้านั่ง และโต๊ะเล็ก ๆ ให้นั่งอยู่เล็กน้อย ให้เราได้จิบกาแฟท่ามกลางตู้เก็บอะไหล่ในร้านธุรกิจเก่าของย่าน ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หาได้เฉพาะ Tap’s Everyday Coffee เท่านั้น


ส่วนที่เลือกใช้ชื่อร้านตามชื่อของตัวเอง นั่นเพราะอยากให้ชื่อร้านดูโอเวอร์จนเกินไป และคล้ายกับเวลาเพื่อน ๆ ถามว่าจะไปไหน ก็บอกว่า “ไปร้านแท๊ป” พอพูดถึงร้านด้วยการแทนชื่อตัวเองเข้าไป ก็ดูเป็นกันเองและจำง่ายดี จึงใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อร้านเสียเลย แล้วเติม Apostrophe S เข้าไป เพื่อยืนยันว่า ร้านกาแฟ นี้เป็นของเขาจริง ๆ และอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นด้วยว่า เขาก็สามารถทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้นะ


แม้จะเป็น ร้านกาแฟ เล็ก ๆ แต่ก็มีเมล็ดเฮาส์เบลนด์ให้เลือกถึง 2 ตัวด้วยกัน เริ่มที่ Brazil Santos กาแฟคั่วกลางค่อนเข้ม ที่ให้ Taste Notes ออกนัตตี้และช็อกโกแลต กับ Thai – Ethiopia กาแฟคั่วกลางค่อนอ่อน ที่เน้นไปในทางฟลอรัลและฟรุตตี้ ส่วนสาย Cold Drip ก็มี Kenya-Ethiopia ได้ความเบอร์รี่และซิตรัส กับ Ethiopia – Columbia ที่ให้เทสต์ลิ้นจี่ กุหลาบ และฟลอรัล ให้ลองเลือกชิมอีกด้วย

เราลองสั่ง Americano (75 บาท) เลือกเป็นเมล็ด Thai – Ethiopia ที่ติดเปรี้ยวหน่อย ๆ แต่ได้ความสดชื่นและ Scents ของกลิ่นที่ดี อีกแก้วน่าจะถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ได้

กับ Black Sesame Latte (90 บาท) ที่เลือกเป็นเมล็ด Brazil Santos ใส่งาดำคั่วลงไปในลาเต้ ได้ความหอมของงาเข้ามาเพิ่ม และสร้างมิติใหักับเครื่องดื่มแก้วนี้ทั้งกลิ่นและรสสัมผัสได้มากขึ้น

ฝั่งขนมเองก็ต้องบอกว่าแม้ร้านเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ขนมทุกชิ้นก็ทำเองนะ เราลอง Banoffee (95 บาท) ที่เตะตามาก ๆ แนะนำให้ใช้ช้อนตักลงไปให้ได้ทุกเลเยอร์ในคำเดียว จะได้ครบรสมาก และบานอฟฟี่ที่นี่หวานน้อยด้วย


Blueberry Cheese Pie (85 บาท) ที่มาในเสิร์ฟกำลังดี เนื้อแน่นและรสชาติไม่เข้มข้นจนเกินไป และ Brownie (ชิ้นละ 39 บาท) ที่มีให้เลือกหลายหน้า ส่วนตัวรู้สึกว่าบราวนีกินคู่กับกาแฟดำรสเข้มจะเข้ากันมาก ๆ เลยล่ะ
Tap’s Everyday Coffee
เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 16:00 น.
ซอยสุกร 1 ตลาดน้อย
MRT หัวลำโพง แล้วเดิน | จอดรถได้ที่ The Quarter Hua Lamphong by UHG (มีค่าจอด)