หลังจากที่ Routeen. พาตะลุยโตเกียวกันมายาวนานกว่าครึ่งเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาจับชินคันเซน ย้ายมาเที่ยวในภูมิภาคคันไซกันบ้าง และเมืองหลักของภูมิภาคนี้คงหนีไม่พ้น โอซากา แน่ ๆ เมื่อคิดถึงโอซากา กลิ่นของทาโกยากิหอม ๆ ก็ลอยเข้ามาในความทรงจำ และนี่คือร้านที่ขายทั้งทาโกยากิ และโอโคโนมิยากิ (พิซซาญี่ปุ่น) มาแนะนำ ที่สำคัญร้านนี้ได้ Michelin Guide มา 5 ปีติด! กับ Takotubo
たこつぼ (Takotubo – หรือหากค้นหาในโลกออนไลน์ อาจเจอที่เขียนว่า Takotsubo คือร้านเดียวกันนะ) ร้านเล็ก ๆ ที่ใมีชื่อเสียงในกลุ่มชาวโอซากามาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ภาพจำของชาวโอซากาคือร้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Abeno Gymnasium (ในยุคที่ยังขายทาโกยากิ 8 ลูก ราคา 50 เยน หรือ 12 บาทอยู่เลย) แต่ปัจจุบัน ตัวร้านขยับมาตั้งอยู่ในซอยตรงข้ามห้างสรรพสินค้า Abeno Q’s Mall ที่มองหาไม่ยาก นำทัพโดยทายาทรุ่นที่ 3 ของร้าน ที่ดูแลมายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว
ความอร่อยส่งต่อมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยรสชาติแบบโฮมคุ้กสไตล์รสมือแม่ ตัวร้านขนาดกะทัดรัด เน้นการใช้วัสดุไม้สีเข้มตกแต่งเป็นหลัก และโต๊ะทุกตัวจะมีกระทะร้อนอยู่กลางโต๊ะ อาหารที่สั่งจะถูกเสิร์ฟลงบนกระทะร้อนเพื่อให้อาหารยังร้อนตลอดเวลา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้านโอโคโนมิยากิ และยากิโซบะของที่นี่
แม้จะพูดว่าที่นี่มีทาโกยากิที่เป็นตัวชูโรงจนทำให้ได้รับ Michelin Guide มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2563 แต่จริง ๆ แล้วทางร้านมีเสิร์ฟเฉพาะเมนูอะกะชิยากิ (Akashiyaki) เท่านั้น ซึ่งถือเป็นเมนูเริ่มต้นก่อนพัฒนามาเป็นทาโกยากิในปัจจุบัน
อะกะชิยากิ คือการนำไข่มาผสมกับแป้ง ใส่ไส้ด้วยปลาหมึก หยอดลงบนแผ่นเหล็กที่ทำเป็นหลุมตื้น ๆ เวลากินจะจุ่มกับซุปอะกะชิยากิ ซุปขึ้นชื่อจากเมืองอะกะชิ ในจังหวัดเฮียวโงะ ที่อยู่ไม่ไกลโอซากานั่นเอง
รู้แบบนี้เราจึงต้องลองอะกะชิยากิดูบ้าง ทางร้านจะเสิร์ฟมาบนถาดไม้ลาดเอียงจำนวน 8 ลูก ย่างมาสีเหลืองทองกำลังดี ไม่ถึงกับกรอบนอกเหมือนทาโกยากิ ยังคงเป็นแป้งนุ่ม ๆ อยู่ ตัวซุปใส่มาในกาให้เพื่อเก็บความร้อน เป็นซถปใส หอมดาชิอ่อน ๆ รสเค็มน้อย ๆ ค่อนข้างกลมกล่อมและซดได้ เวลากินให้คีบอะกะชิยากิแช่ไว้ในซุปสักครู่ (อย่าแช่นานไม่อยากนั้นตัวแป้งอาจแตกและคีบไม่ได้) คีบกินพร้อมซดซุปตามไปด้วย เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่อร่อย และคล่องคอดีมาก ๆ
เรายังคงลองสั่งเมนูอื่น ๆ ในกลุ่มเทปันยากิ ทั้งโอโคโนมิยากิ ทางร้านจะมีเฉพาะเนื้อหมู โดยสามารถสั่งท็อปปิงอื่นเพื่มเติมได้ เวลาเสิร์ฟ ทางร้านจะนำโอโคโนมิยากิที่ทาซอสและมายองเนสแล้วมาวางไว้ ส่วนสาหร่ายและปลาโอแห้ง เราสามารถเติมได้ตามใจชอบ ทั้งผัก แป้ง และโปรตีนสัดส่วนลงตัว แต่ตัวซอสรสชาติค่อนข้างเข้มข้นมากผากกินหลายชิ้นก็จะเค็มเกินไปนิดหน่อย
สำหรับใครที่ติดใจอะกะชิยากิ ก็สามารถซื้อแบบสำเร็จรูปกลับบ้านได้เช่นกัน โดยหน้าร้านจะมีตู้อัตโนมัติพร้อมไว้จำหน่ายด้วยนะ (แอบเห็นคนญี่ปุ่นเดินมากดเรื่อย ๆ เลยล่ะ)
เนื่องด้วยที่นั่งในร้านมีเพียงไม่เกิน 30 ที่นั่งเท่านั้น ทำให้หากต้องการลองชิม จำเป็นต้องจองที่นั่งไว้ล่วงหน้า สามารถโทรจองได้ที่ 06-6623-6620 หรือจองออนไลน์ที่ https://takotubo-abeno.com/ นะ