รวยมิตร เอกมัย สาขาใหม่ ที่เป็นตัวเองได้เต็มที่ พร้อมเชื้อเชิญให้เราลองจิบค็อกเทลในร้านข้าวต้มกุ๊ย

เมื่อร้านข้าวต้มกุ๊ย มาทำบาร์ค็อกเทล ให้เราได้กินเมนูข้าวต้ม เคล้าค็อกเทลแก้วสวย แล้วมันจะเข้ากันได้จริงหรอ? คำตอบคือ ได้! เพราะร้าน ข้าวต้มกุ๊ย รวยมิตร เอกมัย พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วในบ้านสาขาใหม่ ในซอยสุขุมวิท 61

ใครเคยไป ‘รวยมิตร’ ร้านข้าวต้มกุ๊ยสุดจัดจ้านบนชั้น 3 ของห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ย่านสาทร คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า นี่คือร้านข้าวต้มที่ทั้งชิค สนุก และตั้งใจสร้างบรรยากาศที่ดี ให้เหมาะกับการกินดื่ม ในขณะเดียวกัน ยังทำรสชาติได้จัดจ้าน เป็นรสที่ ‘ใช่’ ในแบบร้านข้าวต้มกุ๊ยไม่มีผิดเพี้ยน

และยังมาพร้อม Tagline ที่ชัดเจนอย่าง ข้าวต้มกุ๊ย เบียร์วุ้น & มิวสิค ซึ่งเกิดมาจากไอเดียของคุณ ธัช-ธัชชัย นาคพันธุ์ CEO เครือสุพรรณิการ์ กรุ๊ป ที่ชอบไปร้านข้าวต้มกุ๊ย และสังเกตว่าร้านข้าวต้มเนี่ย นอกจากคนจะมากินข้าวกัน ยังมากินดื่มและพูดคุยกันด้วย

มีลูกค้าที่เอาไวน์มาเอง เอาเหล้ามาเอง มากินในร้านข้าวต้มกุ๊ยนี่แหละ แต่ด้วยความเป็นร้านข้าวต้มเลยไม่ได้มีแก้วไวน์ให้ เค้าก็กินกันในแก้วน้ำปกติเลย เลยเกิดความรู้สึกว่า จริง ๆ ข้าวต้มกุ๊ยก็กินกับเหล้า กับไวน์ได้นี่ เลยคิดว่า อย่างงั้นลองมาทำเป็นร้านข้าวต้มกุ๊ยที่มีบรรยากาศ เหมาะกับการกินดื่ม มีภาชนะที่ถูกต้องดีไหม เลยเกิดเป็นคอนเซปต์ของข้าวต้มรวยมิตรขึ้นมา

จุดเริ่มต้นรวยมิตร (ฉบับกระชับ) : รวยมิตรเป็นแบรนด์ที่เริ่มเกิดขึ้นตอนปลายโควิด ประมาณปี 2021 เดิมทีทางแบรนด์สุพรรณิการ์กรุ๊ป มีร้านอาหารอยู่ 2 แบรนด์ คือ ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ กับ ส้มตำเด้อ ซึ่งจริง ๆ เป็นแบรนด์ที่ตั้งใจขายคนไทย แต่ดันติดตลาดต่างชาติ มีลูกค้าต่างชาติมากินเยอะ และส้มตำเด้อเองก็มีสาขาในต่างประเทศด้วย

แม้จะขายดี แต่เมื่อเจอสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกค้าต่างชาติหายไปเยอะ ทางแบรนด์เลยคิดว่า งั้นก็ควรมีแบรนด์อีกแบรนด์หนึ่ง ที่ทำมาเพื่อคนไทยจริง ๆ เพราะก็ไม่รู้ว่าโควิดจะหมดเมื่อไหร่ เลยมานั่งคิดดูว่าแล้วมันมีอาหารอะไรที่ส่วนตัวกินได้บ่อย ๆ กินได้ทุกวัน แล้วเป็นอะไรที่คนไทยเข้าใจง่าย ก็เลยนึกถึงข้าวต้มกุ๊ย จนเกิดเป็นรวยมิตรขึ้นมา

ด้วยความเปิดตอนช่วงโควิด ข้าวต้มรวยมิตรเลยแชร์พื้นที่กับห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สาทร 10 โดยแบ่งพื้นที่ชั้น 3 มาทำเป็นร้านข้าวต้ม ซึ่งในตอนนั้น บาร์หรือครัว ยังแบ่งกับห้องทานข้าวสุพรรณิการ์อยู่ ทำให้เมนูอาหารหรือเครื่องดื่มยังไม่เต็มที่มากนัก ฝั่งแอลกอฮอล์เลยเลือกชูเบียร์วุ้นเป็นหลักก่อน เพราะเชื่อว่ามันเข้ากับข้าวต้มและอาหารได้ดี

อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่รวยมิตรให้ความสำคัญก็คือ เพลง เพราะอยากให้บรรยากาศทุกอย่างไปด้วยกัน เพลงที่เปิดจึงถูก Currate มาอย่างดี เป็น Playlist ที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา และยังมีดีเจด้วย เรียกว่าเป็นข้าวต้มกุ๊ยที่แรกที่มีดีเจเลยก็ว่าได้

ข้าวต้มกุ๊ย รวยมิตร เอกมัย บ้านหลังใหม่ ที่เป็นตัวเองได้เต็มที่

หลังจากเป็นเด็กซน ๆ ที่แอบอยู่ในบ้านคุณยายมานาน รวยมิตรมองว่าต้องหาพื้นทีที่เป็นของตัวเองจริง ๆ บ้างแล้ว และในปีนี้รวยมิตรพร้อมแล้วที่จะมีบ้านเดี่ยวของตัวเอง เกิดเป็นสาขาใหม่ ในซอยสุขุมวิท 61

รวยมิตร สาขา เอกมัย ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 มีพื้นที่ถึง 3 ชั้น เรียกว่าเป็นบ้านที่สามารถ Express ตัวตนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งที่เพิ่มขึ้นมา และชัดเจนที่สุด คือบาร์ค็อกเทล และแอลกอฮอล์ลิสต์ที่แน่นกว่าเดิม (มากกกก) สาขานี้เลยมี Tagline เป็น ข้าวต้มกุ๊ย ค็อกเทล เบียร์วุ้น & มิวสิค

การตกแต่งยังคงได้คุณ ศรัณย์ เย็นปัญญา นักออกแบบฝีมือเฟี้ยวที่ฝากฝีมือตั้งแต่สาขาแรก มาออกแบบให้เหมือนเดิม จัดเต็มทั้งสีสันที่จัดจ้าน วัสดุที่หลากหลาย รวมถึงไวบ์ทั้ง 3 ชั้นที่ไม่ซ้ำกันเลย

“การดีไซน์จะดูโตขึ้น เหมือนกับเราเติบโตจนมีบ้านของตัวเองแล้ว กลายเป็นเจ้าของบ้านที่เราจะชวนเพื่อน ๆ มาเยือนบ้านเรา คาแรกเตอร์ที่นี่เลยจะมีความชัดขึ้น คือเป็นเหมือนกับบ้านของคนที่ชอบสะสมของต่าง ๆ ชอบถ่ายรูป ชอบต้นไม้ ชอบทำอาหาร และชอบฟังเพลง”

ชั้น 1 จะมีไฮไลท์ คือตู้โชว์ของ เหมือนกับร้านข้าวต้มทั่ว ๆ ไป ที่ชอบโชว์วัตถุดิบต่าง ๆ เลยหยิบเอาสิ่งนี้เอามาทำเป็นเหมือน Art Installation ขนาดใหญ่ เป็นเสน่ห์ของร้านข้าวต้มกุ๊ย

และโซนบาร์ก็จะอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย เป็นบาร์ขนาดใหญ่ พร้อมเพดานแบบดับเบิ้ลเลเยอร์ ให้ความโปร่ง โล่ง พร้อมขวดแอลกอฮอล์ที่ตั้งเรียงราย ให้ไวบ์ค็อกเทลบาร์จริง ๆ สายดื่มมานั่งหน้าบาร์ได้เลย

ส่วนชั้น 2 จะมีทั้งโซนด้านใน ที่ตกแต่งให้เหมือนกับ Pantry มานั่งกินข้าวบ้านเพื่อน และโซนที่เป็น Glass House เป็นการใช้ระเบียงเดิมของบ้านมาทำ เป็นโซนอินดอร์เย็น ๆ ที่สามารถรับแสงธรรมชาติโปร่ง ๆ ได้ในตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนจะได้ไวบ์เห็นแสงสีจากตึกด้านนอก

และชั้น 3 ตั้งใจทำเป็นโซน Private โดยเฉพาะ มีโฮมบาร์ในตัว สามารถให้บาร์เทนเดอร์ขึ้นมามิกซ์เครื่องดื่มได้ และมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถสูบบุหรี่ได้ หรือจุคนเพิ่มได้อีก

ข้าวต้มกุ๊ยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ Pairing กับ Cocktail ได้

ฝั่งเมนูอาหาร ที่รวยมิตร สาขาเอกมัย จะมีเมนูที่มากขึ้น และมีเมนูที่มีเฉพาะสาขานี้ด้วย ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นรวยมิตร คือเป็นข้าวต้มกุ๊ยที่เข้าใจง่าย รสชาติจัดจ้านเหมือนร้านสตรีตฟู้ด แต่เพิ่มเติมคือการเล่นสนุกกับวัตถุดิบ การใส่ความครีเอทีฟในกระบวนการทำ และมีรวมหลายวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่แนวไทย-จีน และที่สำคัญคือต้องเข้ากับเครื่องดื่มได้ดี

ฝั่งค็อกเทล มีซิกเนเจอร์ดริงก์ถึง 12 ตัว ครีเอตโดยคุณ ปาล์ม – ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ บาร์เทนเดอร์มือรางวัลผู้คร่ำหวอดในวงการกว่า 20 ปี ทำให้ค็อกเทลที่นี่มีความจริงจังไม่แพ้อาหาร และมีมาตรฐานระดับค็อกเทลบาร์ได้เลย

เราแอบถามด้วยความสงสัยว่า ข้าวต้มกับเบียร์หรือเหล้า ก็ดูเข้าใจง่าย แต่ข้าวต้มกับค็อกเทลดูเป็นภาพที่เราก็แอบจินตนาการไม่ออกเหมือนกันนะ ทำไมถึงเลือกทำบาร์ค็อกเทลจริงจังในร้านข้าวต้มกุ๊ยล่ะ? คุณธัชตอบในทันทีว่า คนอาจจะมองว่าค็อกเทลต้องกินกับอาหารฝรั่ง แต่จริง ๆ ยุคนี้มันเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว ไม่ได้ Specific ว่า สิ่งนี้ต้องกินกับสิ่งนั้น และจริง ๆ อาหารไทยมันกินได้กับหลาย ๆ อย่าง มองเป็นความเอนจอยในการมากินดื่มมากกว่า

“เรามองว่ามันมีร้านค็อกเทลบาร์เยอะแยะเลย แค่คนนึกไม่ออกว่ามันจะเข้ากับข้าวต้มได้ยังไง ซึ่งจริง ๆ มันเข้ากันได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ที่รวยมิตร”

ค็อกเทลทั้ง 12 ตัวจะค่อย ๆ ไล่เรียงความเบาไปจนถึงหนัก อย่างตัวที่แรงที่สุด ยกให้ Hong Kong Old-Fashioned (490 บาท) แก้วนี้เป็น Spirit-Forward ที่เบสเป็นวิสกี้ 2 ตัว แอบใส่ความเป็นร้านข้าวต้มในแก้วด้วยการดรอปน้ำมันงา เพิ่มความ Savory ให้กับเครื่องดื่มได้ดี

ส่วนเมนูที่เราได้ลองครั้งนี้มีทั้ง หมูกรอบอบวุ้นเส้นต้มยำ (350 บาท) เป็นเมนูเฉพาะสาขานี้ เกิดจากการผสมผสานระหว่าง 3 เมนู คือหมูกรอบ เมนูอร่อยประจำร้าน วุ้นเส้นอบ และต้มยำ มาทำเป็นเหมือนอบวุ้นเส้นแบบต้มยำแห้ง ราดด้วยไข่กึ่งสุกกึ่งดิบ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด รสแซ่บยิ่งกิน ยิ่งเพลิน

มาม่าหม้อไฟรวยมิตร (390 บาท) เมนูหน้าตาเก๋และอร่อย เป็นต้มยำที่ใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หมูกรอบ กุนเชียง หมูเด้ง แล้วตีราดเคลือบผิว ให้มีความครีมมี่หน่อย ๆ ยิ่งกินยิ่งเพลิน

ที่ไม่อยากให้พลาด เนื้อทอดเผิงโหย่ว (490 บาท) เนื้อเทนเดอร์ลอยที่เอาไปสะดุ้งกับน้ำมันร้อน ๆ ให้สุกแค่ระดับมีเดียม แล้วราดด้วยซอสร้อน ๆ ซึ่งตัวซอสจะเป็นซอสผสมระหว่างญี่ปุ่นกับจีน เพิ่มมิติรสให้กับเมนูได้ดีมาก ๆ

เมนูกับแกล้มที่ขอบมาก ๆ กุยช่ายกรอบตลาดพลู (160 บาท) กุ้ยช่ายบาง ๆ ทอดมากรอบนอก แต่นุ่มใน เป็นกุ้ยช่ายที่มาจากตลาดพูจริง ๆ ซี่โครงหมูแดงทอด (240 บาท) ที่มีความพิเศษคือ ใช้วิธีหมักแบบหมูแดงเลย แล้วเอาไปนึ่งก่อนทอด ทำให้เนื้อร่อน แกะได้ง่ายกว่า กินไปจะได้รสชาติเหมือนกินหมูแดงจริง ๆ

และ กุ้งแช่น้ำปลาอูรักลาโว้ย (260 บาท) กุ้งเนื้อเด้งแน่น ที่แช่น้ำปลาจนเข้าเนื้อ ราดด้วยน้ำซีฟู้ดรสแซ่บ ซึ่งอูรักลาโว้ย เป็นชื่อชาวเลที่เกาะลันตา กระบี่ เป็นชาวเลที่จับสัตว์ทะเลด้วยวิธีที่ยั่งยืน คือใช้เรือเล็กที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังแช่กุ้งในน้ำเกลือ ไม่สัมผัสน้ำจืด หรือดองน้ำแข็งอะไรมาเลย ทำให้ได้รสชาติที่สดมาก ๆ

แล้วยังทีเมนูของหวานให้กินปิดท้าย อย่าง มองบลังค์อัลมอนด์พุดดิ้ง (160 บาท) เป็นการผสมผสานเมนูขนมมองบลังค์แบบญี่ปุ่น โดยใช้เกาลัดเพสมาท็อปหน้าพุดดิ้งรสอัลมอนด์ ซ่อนด้วยเกาลัดเม็ดโต และ วุ้นเก๊กฮวยไต้หวัน (120 บาท) วุ้นนุ่มลิ้นกินกับเก๋ากี้และลิ้นจี่ ให้ความสดชื่น

และอย่างที่บอกว่ารวยมิตรเน้นเรื่องเพลงด้วย นอกจาก Playlist ที่วางมาอย่างดี ยังมีดีเจมาสร้างไวบ์สนุก ๆ ทุกวัน ศุกร์ – เสาร์ เวลา 20:00 – 23:00 น. อีกด้วยนะ

ข้าวต้มกุ๊ยรวยมิตร สาขา เอกมัย
เปิดทุกวัน 17:00 – 00:00 น. (ส.-อา. เปิด 11:00 น.)
*หลังจาก 1 สิงหาคม 2567 ร้านจะเปิดทุกวัน 11:00 – 00:00 น.
สุขุมวิท 61
BTS เอกมัย
Google Maps